เที่ยวจางเจียเจี้ย พิชิตเขาวงกตแห่งธรรมชาติ

เที่ยวจางเจียเจี้ย พิชิตเขาวงกตแห่งธรรมชาติ

จางเจียเจี้ย (Zhangjiajie) คือ อีกหนึ่งจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของประเทศจีน เป็นเมืองที่อยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลหูหนาน ตอนกลางค่อนมาทางใต้ของจีน ตั้งแต่ทศวรรษ 1950 ของศตวรรษก่อน หน่วยงานรัฐบาลท้องถิ่นได้ตกลงสร้างสวนป่าไม้และดำเนินโครงการปลูกป่าอย่างขนานใหญ่ ทำให้รอบๆ เมืองจางเจียเจี้ยมีต้นไม้เขียวขจีมากขึ้นเรื่อยๆ จนครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 264 ตารางกิโลเมตร จางเจียเจี้ย ถึงปี 1970 มีผู้คนพบเห็นยอดเขาหินทรายควอตซ์ในเขตพื้นที่บริเวณรอบสวนป่าไม้ ซึ่งภูมิทัศน์โดยรอบเป็นยอดเขาอัศจรรย์ที่พบเห็นได้น้อยมากและมีทัศนียภาพที่งดงาม หลังจากนั้น หน่วยงานการท่องเที่ยวท้องถิ่นเริ่มลงทุนและเร่งพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวชมทัศนีย์ภาพทางขุนเขาอย่างเป็นทางการ จนถึงปี 1982 สำนักงานวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้ประกาศให้เขตสวนป่าไม้เป็นอุทยานแห่งชาติ นับว่าเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของจีน ต่อมา เมืองจางเจียเจี้ยได้พัฒนาเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญเเห่งหนึ่งของจีน ถึงปี 1992 เขตท่องเที่ยวจางเจียเจี้ยได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติโดยองค์การยูเนสโก วนอุทยานแห่งชาติหุบเขาโส่ซียี่ เขตท่องเที่ยวจางเจียเจี้ยมีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์โดยประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ วนอุทยานแห่งชาติหุบเขาโส่ซียี่ และภูเขาเทียนจื่อซัน ความโดดเด่นของที่นี่คือ ยอดเขาและเสาหินทรายที่ตั้งตระหง่านพุ่งทยานเสียดฟ้ากว่า 3,000 ยอด และลำธารกว่า 800 สาย นอกจากนี้ยังมีช่องแคบ สระน้ำ และน้ำตกน้ำพุอีกมากมาย รวมทั้งมีถ้ำใหญ่น้อยกว่า 40 ถ้ำ ซึ่งทำให้สถานที่แห่งนี้น่าเที่ยวมาก ภูมิทัศน์ในเขตเขาดังกล่าวมีลักษณะพิเศษที่ไม่เหมือนที่อื่น ยอดเขาสูงต่ำลดหลั่นกันกว่า 3,000 ยอด ที่สูงสุดอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 1,890.4 เมตร ที่ต่ำสุด 75 เมตร ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการนานาชาติยกย่องเขตท่องเที่ยวจางเจียเจี้ยเป็นเขาวงกตแห่งธรรมชาติและเป็นอนุสรณ์ความน่าอัศจรรย์ของโลก ภูเขาเทียนจื่อซัน ดิฉันได้อ่านข้อมูลมาว่า ปัจจุบัน ผู้ที่นิยมท่องเที่ยวภูเขาต้องไปจางเจียเจี้ย ผู้ที่ชอบชมความสวยงามของน้ำ จะต้องไปเที่ยวจิ่วจ้ายโกว ในงานเวิลด์เอกซ์โปเซี่ยงไฮ้ เมื่อปี 2010 ได้กำหนดวันที่ 26 กรกฎาคมให้เป็น "วันเมืองจางเจียเจี้ย" ผู้ว่าเมืองจางเจียงเจี้ยได้เสนอจุดเด่นด้านการท่องเที่ยวแก่นักท่องเที่ยวทั้งในจีนและต่างประเทศ ซึ่งก็คือ "อากาศบริสุทธิ์" เพราะว่า ในเขตท่องเที่ยวจางเจียเจี้ย 98% ของพื้นที่เป็นป่าไม้ อากาศจึงสดชื่นบริสุทธิ์ จากตัวเลขที่ตรวจวัดมาพบว่า อากาศในจางเจียเจี้ยมีไอออนประจุลบหรือวิตามินอากาศกว่า 1 เเสนประจุต่อลูกบาศก์เซนติเมตร มากเป็นสิบๆ เท่าหรือ 100 เท่าของอากาศในเมืองอื่นๆ จากการวิจัยพบว่า อากาศบริสุทธิ์ที่มีคุณภาพเช่นนี้ไม่เพียงเเต่สามารถช่วยปรับสภาพการไหลเวียนของโลหิตภายในร่างกาย ยังเป็นผลดีต่อการรักษาโรคบางอย่างให้หายเร็วได้ เมืองจางเจียเจี้ยจึงได้รับสมญานามว่า เมืองที่มีอากาศบริสุทธิ์ เทียนเหมินซาน หรือ ประตูสวรรค์ จากข้อมูลที่อ่านมา สถานที่ท่องเที่ยวในจางเจียเจี้ยที่ต้องไปให้ได้มีหลายแห่ง เช่น เทียนเหมินซาน หรือ ประตูสวรรค์ เหตุที่เรียกว่าประตูสวรรค์เพราะภูเขาเกิดปริแตกจนกลายเป็นช่องประตูขึ้นเองโดยธรรมชาติ ช่องประตูนี้สูง 131.5 เมตร กว้าง 57 เมตร ลึก 60 เมตร ผู้ที่ตั้งใจขึ้นไปถึงยอดเขาสามารถนั่งกระเช้าขึ้น-ลงได้ กระเช้ามีความยาวถึง 7.5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ขณะนั่งกระเช้าสามารถสัมผัสชมความงดงามของภูเขานับร้อยยอดที่สูงเสียดฟ้า และชมเส้นทางขึ้นเขาที่มีโค้งถึง 99 โค้ง และได้เห็นช่องเขาประตูสวรรค์และวิวทิวทัศน์ที่สวยดั่งสวรรค์จากช่องเขานี้ ทำให้บรรดานักท่องเที่ยวทั้งหลายล้วนต้องยกกล้องเก็บภาพประทับใจ ถ้ำหวงหลงต้ง หรือถ้ำมังกรเหลือง แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญยังมี ถ้ำหวงหลงต้ง หรือถ้ำมังกรเหลือง ซึ่งเป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ มีความสูงถึง 160 เมตร ลึก 1,500 เมตร แบ่งออกเป็น 4 ชั้นด้วยกัน ภายในถ้ำมีการประดับไฟสีต่างๆอย่างงดงาม เพื่อให้นักท่องเที่ยวเกิดจินตนาการตามรูปทรงของหิน นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือไปตามลำน้ำใต้ดินซึ่งไหลผ่านกลางถ้ำ ชมน้ำตกเทวดาสวรรค์ ลัดเลาะไปตามอุโมงค์ภายในถ้ำ รับรองว่า ผู้ที่มาเที่ยวชมจะตื่นตาตื่นใจกับหินงอก หินย้อยที่มีรูปลักษณะงดงามตระการตาแปลกพิสดารมากมาย เช่น คลองนาหิน ป่าหิน วังมังกร วังคริสตัล สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญยังมี สือหลี่ฮว่าหลาง หรือภาพเขียน 10 ลี้ เป็นเขตช่องแคบที่มีทัศนียภาพงดงามแห่งหนึ่ง มียอดเขาแปลกพิสดาร และหินยักษ์ที่มีรูปร่างลักษณะต่างๆมากมาย ซึ่งแต่ละก้าวล้วนมีทิวทัศน์สวยงามเจริญตาตลอดทาง โดยมีรถรางขนาดเล็กคอยให้บริการ แต่จากประสบการณ์เราเอง ถ้าเดินไหว ขาไปเดินไปชมไป ก็จะได้บรรยากาศ เสมือนหนึ่งเดินอยู่ในภาพวาดจริงๆ ขากลับค่อยนั่งรถรางจะดีกว่า จินเปียนซี หรือ ธารแส้ทองคำ นอกจากนี้ ยังมี จินเปียนซี หรือ ธารแส้ทองคำ เป็นลำธารที่ไหลวนมาตามช่องเขาและชะง่อนผา น้ำในลำธารมีสีเขียวใสปราศจากมลพิษ สองฟากฝั่งจะมีหินแปลกประหลาดตั้งตระหง่านเรียงรายกันอยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีต้นไม้เขียวชะอุ่มประดับประดาอยู่ บางที่มีหมอกบางๆปกคลุมอยู่ เสมือนหนึ่งกำลังท่องเที่ยวอยู่ในวิมานแห่งเทพนิยาย เขตท่องเที่ยวจางเจียเจี้ยยังมีชนกลุ่มน้อยอาศัยอยู่มากมาย จึงมีวัฒนธรรมพื้นเมืองอันหลากหลาย โดยเฉพาะที่เมืองโบราณฟ่งหวง มีโบราณสถานและโบราณวัตถุอันล้ำค่าที่ตกทอดมาจากสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง มีถนนที่ปูด้วยหินธรรมชาติกว่า 20 สาย สิ่งก่อสร้าง 70 แห่ง วัตถุโบราณ 118 ชิ้น เมื่อถึงตอนค่ำนักท่องเที่ยวสามารถไปชมการแสดงร้องรำทำเพลงของชนกลุ่มน้อยที่เต็มไปด้วยกลิ่นไอวัฒนธรรมพื้นเมือง มีคนเคยเล่าให้ฟังว่า ในเมืองโบราณฟ่งหวง มีศิลปหัตถกรรม ของที่ระลึกแบบพื้นเมืองขายมากมาย เช่น ผ้าบาติกและผ้าปักลายฝีมือชนเผ่าแม้ว เครื่องเงิน และอาหารกินเล่นหลากหลาย ไม่ซื้อไปเดินดูไปสัมผัสบรรยากาศก็สนุกมาก ภูเขาหนันเทียนอีจู้ หรือ เสาหินแห่งฟ้าแดนใต้ ไปแล้วก็อดไม่ได้ที่ต้องซื้อค่ะ น่าซื้อทีเดียว นักท่องเที่ยวที่ไปต่างซื้อกันอย่างสนุกสนาน เพราะซื้อกับชาวบ้านต่อราคาได้และได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวท้องถิ่น แหล่งที่พลาดไม่ได้ยังมี ภูเขาหนันเทียนอีจู้ หรือ เสาหินแห่งฟ้าแดนใต้ ภูเขาลูกนี้ มีรูปโฉมเหมือนเสาขนาดมหึมาที่สูงตระง่านเหนือระดับน้ำทะเล 1,074 เมตร ยอดเขาปกคลุมด้วยต้นไม้ใบหญ้าที่เขียวขจี เมื่อเดือนธันวาคมปี 2008 ช่างภาพ ฮอลลี้วูดเดินทางมาถ่ายทิวทัศน์สวยประหลาดที่บริเวณภูเขาที่มีรูปทรงอัศจรรย์นี้เป็นเวลา 4 วัน ซึ่งปรากฏเป็นฉากในภาพยนตร์อวตาร โดยภาพภูเขาหนันเทียนอีจู้กลายเป็นภูเขาฮาเลลูยาห์ในภาพยนตร์อวตาร ภาพยนตร์อวตารได้รับความนิยมอย่างมากในหลายประเทศทั่วโลกและสร้างรายได้มหาศาลถึง 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งจีนและต่างชาติจำนวนมากพากันไปเที่ยวชมที่เขตทัศนียภาพจางเจียเจี้ย เมื่อวันที่ 25 มกราคมปี 2010 มีการประกาศเปลี่ยนชื่อภูเขาหนันเทียนอีจู้เป็น "ฮาเลลูยาห์" ตามชื่อภูเขาในภาพยนตร์อวตาร เรื่องนี้ ทำให้เกิดการถกเถียงกัน ซึ่งมีผู้คนจำนวนไม่น้อยวิจารณ์ว่าไม่น่าเปลี่ยนชื่อตามหนังฝรั่ง แต่ก็เข้าใจได้ การเปลี่ยนชื่อคงเพื่อผลักดันการท่องเที่ยวในเขตจางเจียเจี้ย และเพื่อเผยแพร่ชื่อเสียงของจางเจียเจี้ยให้มากยิ่งขึ้น ตัวเลขล่าสุดพบว่า ปี 2011ที่ผ่านมา ในช่วง 10 เดือนแรกตั้งแต่เดือนมกราคมถึงตุลาคม จางเจียเจี้ยได้รับรองนักท่องเที่ยวทั้งจีนและต่างประเทศกว่า 20 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.4 เมื่อเทียบกับปี 2010 แสดงว่า การโฆษณาได้ผลเด่นชัด สถานที่ท่องเที่ยวในจางเจียเจี้ยยังมีอีกมากมาย แต่ต้องไปเที่ยวเองไปสัมผัสเอง ส่วนอากาศและอุณหภูมิของจางเจียเจี้ยในช่วงสงกรานต์กลางเดือนเมษายน ประมาณ 12-22 องศาเซลเซียส จะไม่หนาวแล้วค่ะ สำหรับคนไทยกำลังเย็นสบายค่ะ | ท่องเที่ยว | ท่องเที่ยวไทย | การท่องเที่ยว | ข้อมูลท่องเที่ยว | สถานที่ท่องเที่ยว | แหล่งท่องเที่ยว | ท่องเที่ยวทั่วไทย | เว็บท่องเที่ยว | ค้นหาข้อมูลท่องเที่ยว | travel |

Create Date : 17 เมษายน 2555		0 comments
Last Update : 17 เมษายน 2555 4:05:31 น.
Counter : 9018 Pageviews.
Share Tweet