ตอนรู้ว่าบริษัทจัด เลยรีบจองที่เลย ไปคนเดียวครับงานนี้ โดยร่วมกับเพื่อนๆ ในบริษัท ๓๘ ชีวิต
ก่อนมาสอบถามข้อมูลใน Pantip ได้ข้อมูลมาว่าห้ามก่อไฟ และมีของขายมากมาย เตรียมแต่เงินไปก็พอ
พี่ที่เคยไปบอกว่าที่นี่เท่าเทียมกันหมด ยากดีมีจนอย่างไรก็ต้องเดินขึ้นไปทุกคน
ทุกคนที่มาตั้งใจมาเที่ยว เลยอารมณ์เปิด ทุกคนเลยรู้จักกันหมด แถมเดินสวนกันทักทายกันหมด
แกบอกให้เอากระปุกข้าวและช้อนไปด้วย
สอบถามเจ้าหน้าที่ที่จัดบอกไม่ต้องเอามา เลยไม่ได้เอาไป
จัดกระเป๋าหนักไปทางเครื่องกันหนาว เห็นว่าฝนตกที่บนภู
ส่วนเรื่องรองเท้าพี่อีกคนบอกว่าใส่นันยางไปก็ดี เลยใช้นันยางครับในการลุยครั้งนี้

๒๖ ม.ค. ๕๑
รถออกจากสระบุรีเที่ยงคืน
ตีห้าถึงร้านเจ๊กิม บ้านผานกเค้า เป็นที่ขึ้นรถทัวร์ ต่อรถสองแถว ไปตีนภู
มีผ้าพันคอ และหมวกไหมพรมขาย ยังไม่ซื้อ ขอขึ้นก่อน
๕.๕๕ น. เดินทางไปภูกระดึง
เก็บค่ายานพาหนะคันละ ๓๐ บาท ให้อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
รถถึงที่หมายประมาณหกโมงเช้า
เจ้าหน้าที่มา ๖.๓๐ น.
รอบัตรคิวเพื่อจ้างลูกหาบ
ชั่ฝกระเป๋าหนัก ๙ กิโลกรัม ลูกหาบคิดกิโลกรัมละ ๑๕ บาท ไปจ่ายบนภูครับ เห็นลูกหาบแล้วไม่เสียดายตังค์เลย มีผู้หญิงด้วย แบกกันคนละ ๕๐-๗๐ กิโลกรัมเลยทีเดียว ไอ้เราแค่เดินให้ถึงยังลำบากเลย ของติดตัวใส่เป้ขนาดกลาง แทนที่กระเป๋าสะพายเฉียงที่ใช้ประจำ เพื่อความคล่องตัว

ออกเดิน ๗.๑๕ น.
ถึงหลังแป ๑๐.๑๕ น.
ระหว่างทางทานไข่ต้มไปสี่ฟอง นึกถึงตอนตีกอล์ฟก็ชอบกินไข่ต้มนะ คืนกำลังดี
มีเมนูเด็ดอีกอย่างคือไอศครีมแสนอร่อยที่ซำกอซาง


ระหว่างทางเดินพร้อมผู้จัด เขาเล่าว่าผู้พบภูกระดึงเป็นนายพราน ไส่สัตว์ที่วิ่งหนีขึ้นมาเรื่อยๆ จนเจอลานนี้ ได้ยินเสียงกระดิ่งแว่วมา เมื่อลงมาบอกชาวบ้าน เลยเรียกภูกระดิ่ง แล้วจึงเพี้ยนเป็นภูกระดึง ฟังเขามาอย่างนี้นะครับ

จากซำแคร่ (ซำสุดท้าย) ถึงหลังแป ชันจริงๆ ระยะทาง ๑.๓ กิโลเมตร
เมื่อถึงหลังแป ๑๐.๑๕ น เหนื่อยเลย หมอกลง อาจไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก
ปั่นจักรยานฝ่าหมอก ถึงผาหมากดูก แดดออกพอดี เห็นทะเลหมอกสวยเชียว เลยแวะถ่ายรูปเสียพักใหญ่

ภาพนี้ผาหมากดูกยามเย็นครับ

ปั่นจักรยานต่อมาศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
คืนจักรยาน เดินจะมาทานข้าวเที่ยงที่ร้านส้มกุ้ง
ระหว่างรออาหาร เดินไปห้องน้ำ
เจอร้านการ์ดเลยซื้อเสียจำนวนหนึ่ง แสตมป์ร้านนี้ขายสี่บาท รับส่งให้ด้วย มีตราประทับ เราคือผู้พิชิตภูกระดึงให้ มีเสื้อลายพิกัด และผาหล่มสัก ขาย ราคา ๑๕๐ บาท น่าสนใจ
ซื้อการ์ดมาเป็นชุด เลยส่งไปเสียหลายใบทีเดียว
กระเป๋ามา จ่ายตังค์ไป ๑๓๕ บาท ๙ กิโลกรัม
จากนั้นอาบน้ำ เย็นจัง มานอนต่อ และบันทึกไปด้วย
เหนื่อย สวย ประทับใจ คือคำที่รู้สึกตอนนี้
สมราคาที่เที่ยวยอดนิยม

๒๗ ม.ค. ๕๑
เดินอย่างเดียววันนี้
ตีห้าครึ่งเดินไปผานกแอ่นเพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้น เดินกัน ๒.๒ กิโลเมตร ไม่เห็นพระอาทิตย์ แต่บรรยากาศสวยงามเกินบรรยาย ถ่ายรูปเสียมากมายเชียว เอาให้ชมบ้าง ดูเต็มๆ ที่ Album นะครับ

เดินกลับที่พักผ่านลานวัดพระแก้ว แล้วก็มาทานอาหารเช้า

เก้านาฬิกาเริ่มเดิน
มีพี่อ้วนเป็นไกด์นำเที่ยว
ไปน้ำตกที่มีน้ำน้อยมาก ทั้งน้ำตกโผนพบ น้ำตกนี้พี่ไกด์เล่าว่า โผน กิ่งเพชร ยอดนักมวยแชมป์โลกชาวไทย มาปรับสภาพร่างกายที่นี่ ก่อนจะไปชกต่างประเทศ เลยพบน้ำตกนี้
น้ำตกเพ็ญพบ ทานข้าวที่น้ำตกถ้ำสอเหนือ
ผาหล่มสัก บ่ายสอง รอพระอาทิตย์ตก

ตอนนั่งทอดหุ่ยที่ผาหล่มสัก ได้ยินคนพูดถึงร้านกาแฟที่เอาแก้วไปคืนแล้วให้การ์ด ๑ ใบ ชักสนใจ
เดินเข้าไปที่ร้าน ร้านชื่อ ชมพู่มะเหมี่ยว


สะดุดเสียงเพลงสากลยุค Sixty ถูกใจ เลยชวนเจ้าของร้านคุย บอกว่ามีแผ่นเพลงไทยด้วย เขาเลยเปลี่ยนแผ่นให้ฟัง ส่วนใหญ่เป็นเพลงคาราวาน
คุยไปมา พี่เจ้าของร้านบอกว่า ถูกใจเล่นเพลงให้ฟังอีกต่างหาก
สงสัยถูกใจ พี่เขาเลยคว้ากีตาร์มาขับกล่อมเสียเลย ขอเพลงได้ เน้นเพลงเพื่อชีวิตนะ พี่เจ้าของร้านผู้หญิงบอกว่าไม่ได้เล่นกีตาร์ตั้งแต่ลอยกระทง
ดื่มเบียร์ฟังเพลง ร้านนี้เปิดมา ๙ ปี พี่เจ้าของร้านชื่อ จ่านก เป็นอดีตทหารอากาศ
สุดท้ายไม่ไปดูพระอาทิตย์ตกเลย ดูจากร้านเอา เอาโต๊ะมานั่งกลางแจ้งมองเอา
ขากลับ มืดแล้ว ปั่นจักรยานกลับ ติดไฟที่หัว ยืมจ่านกเอา
พี่ๆ บางคนเป็นห่วง เพราะเห็นดื่มเบียร์ แถมถนนบางช่วงใกล้หน้าผาแบบเอียงไปทางขวาเนี่ย ตกหน้าผาได้เลย
เอาเข้าจริง ได้แต่มองทาง ตามคันหน้า ไม่ได้มองข้างๆ ที่เป็นหน้าผาเลย
เสียงตะโกนคันหน้า รากไม้ ทราย ตลอดทาง ขากลับนี่ปั่นกัน ๔ คน
ที่เป็นทรายปั่นยากสุดเลย บางครั้งถึงขั้นจูงเอา
ถึงไวกว่าเดินจมเลย แต่ก็ยังเสียวๆ แถวผาเหมือนกัน
แต่ถ้าไม่มีไฟส่อง ห้ามปั่นเด็ดขาด อันตรายมาก

อาบน้ำ กินข้าว นอนห้าทุ่ม

๒๘ ม.ค. ๕๑
ผานกแอ่นตอนเช้า เห็นพระอาทิตย์ขึ้นด้วย

มาลานวัดพระแก้ว มาเก็บของรอหาบ สิบกิโลกรัม แน่ะ
ทานข้าว ซื้อเสื้อ ออกจากที่พักประมาณเก้าโมง ถึงลานแปสิบนาฬิกา ถึงข้างล่างเที่ยง
อาบน้ำ ทานรองท้อง ก่อนเดินทางไปทานข้าวเที่ยง แวะร้านเจ๊กิม ผานกเค้า แล้วเดินทางกลับสระบุรี

ไม่บอกก็คงรู้นะครับ ว่าประทับใจมาก

รวมภาพไว้ที่ //ampatom.multiply.com/photos/album/1
ลองเข้าไปดูได้ครับ

ภาพที่ชอบเป็นการส่วนตัว ตั้งชื่อว่า ต่างวัย

อีกมุมหนึ่งครับ มีสมุดให้เขียนความประทับใจด้วยนะครับ


ป้ายชื่อร้าน


โฉมหน้าของจ่านก เจ้าของร้าน


นี่ในมาดขยับกีตาร์

Link ที่เกี่ยวข้อง :
๑๐ แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมจาก อสท.
เดือนมิถุนายน ชวนคุยกันเรื่อง ชั้นเทพ

ปิดท้ายด้วยภาพถ่ายกับต้นสนต้นนั้น คุยกันเล่นๆ ว่า หากต้นสนต้นนี้เป็นอะไรไป คงต้องเร่งปลูก ไม่งั้นไม่มีมุมให้ถ่ายภาพครับ

Create Date : 10 ตุลาคม 2551
Last Update : 29 กันยายน 2552 15:38:00 น.		23 comments
Counter : 3294 Pageviews.
Share Tweet