BENNI CINKLE เพราะชีวิตไม่ได้มีแค่เบาะหลัง
จนถึงวันนี้เชื่อว่าหลายคนคงได้ร่วมเป็นพยานรู้เห็นมหรสพโพร์คส์ฮาแห่งปี อย่าง Friday ด้วยยอดวิวชวนศิโรราบที่ 120 ล้าน และมีแววจะเหยียบ 200 ล้านได้ในไม่กี่เดือนจากนี้ แต่ทุกคนก็รู้กันว่าสาเหตุที่ทำให้เพลงนี้ดังไม่ได้มาจากกระแสด้านบวกเป็น หลัก แม้สองมือจะมีทั้งดวกศ์ไม้และก้อนหินเลือกหยิบยื่นให้ศิลปิน แต่พิจารณาจากหัวที่ปูดบวมของแม่หนูรีเบ็กก้า หรือพูดให้เห็นเป็นภาพก็คือ ยอดdislikeแสนตะลึงที่แซงหน้าจัสทิน บีเบอร์ ไปหลายหลัก แค่นั้นก็พอจะสรุปเป็นเลาๆได้ว่า Friday ยิ่งเห่ยก็ยิ่งฮิต ยิ่งต่อต้านก็ยิ่งเติบโต และบาปทัณฑ์แห่งความโด่งดังนี้เอง ก็ได้เผื่อแผ่ไปยังผู้เกี่ยวข้องในผลงานนี้อย่างครบถ้วน ไม่ต้องพูดถึงตัวนักร้องนำที่โดนสำเร็จโทษไปเรียบร้อยแล้ว คนเบื้องหลังทั้งหลายก็ถูกลากประจานตั้งแต่ แร๊ปเพอร์ (ท่อนแร๊ปฝืด ไม่คมคาย) นักแต่งเพลง (เนื้อเพลงไก่กา ปญอ.) โปรดิวเซอร์และทีมซาวน์เอนจิเนียร์ (สำเร็จความใคร่ทางเสียงด้วยออโต้จูนเกินพิกัด) แม่รีเบคก้า (ส่งเสริมลูกสาวในทางเสื่อม) ผู้กำกับเอมวี (เอฟเฟกต์เชยสะบัด บลูสกรีนเห่ย และการนำเสนอภาพเด็กอายุ 13 ขับรถเอง) บรรดาตัวประกอบในเอมวี (แอคติ้งง้องแง้ง เหมือนถูกมาเฟียเอาปืนจ่อหลังตอนถ่ายทำ) แต่ในบรรดาเอ็กซ์ตร้าเข้าฉาก คนที่เด็ดสุดคงหนีไม่พ้นหญิงสาวชุดเกาะอกชมพูที่ยืนข้างรีเบ็กก้าด้านขวาใน ฉากขับรถ ซึ่งจริงๆแล้วแค่ปรากฎตัวไม่ถึง 30 วินาทีเช่นนี้ คงไม่มีใครคาดคิดว่าเธอจะกลายเป็นที่น่าสนใจ แต่อย่างว่าพอเพลงดัง เอมวีฮิต อะไรๆหลายอย่างก็เลยถูกจับตามองตาม(ในแง่ลบ) และนั้นทำให้ชาวไซเบอร์ทั้งหลายสังเกตท่าเต้นแบบเงอะงะของแม่สาวชุดชมพู แล้วพากันแคปเจอร์ออกมาเป็นภาพนิ่ง ไปจนถึงไฟล์อนิเมท ชี้ชวนกันให้ดูความบ๊องตื้นของท่าทาง ที่พวกเค้าตั้งชื่อท่านี้ว่า The Accordion Dance เนื่องจากท่าหล่อนมันเอื้อเหลือเกิน
ลองเป็นเด็กทั่วไปถูกล้อเลียนลงเน็ตแบบนี้คงกรี๊ดลั่นแล้วทุบคอม นั่งซึมเศร้าจับเจ่าไม่กล้าออกไปไหน แต่สาวชุดชมพูกลับไม่เป็นเช่นนั้น เธอรับมือกับสิ่งรบกวนจิตใจด้วยความฉลาดทางอารมณ์ จุดประกายความล้มเหลวให้เป็นโอกาส ในเมื่ออินเทอร์เนทคือบ่อเพาะเชื้อความขบขันให้เธอโด่งดัง มันก็น่าจะสามารถแปรเปลี่ยนกลับเป็นช่องทางในการสื่อสาร รู้จักเพื่อนใหม่ๆ และได้ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆได้เช่นเดียวกัน และเราจะไปทำความรู้จักเด็กสาวธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาด้วยท่าเต้นและความคิดของเธอกัน เธอชื่อ Benni Cinkle Benni Cinkle หรือชื่อจริงว่า Bennett เป็นเด็กหญิงวัย 13 ปี ที่อาศัยอยู่ในเมือง Anaheim รัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อนซี้ตัวจริงของ Rebecca Black... เบนนี่เองก็เหมือนเด็กสาววัยกระเตาะทั่วไป เธอไปดูคอนเสิร์ตเลดี้ กาก้า คลั่งไคล้จัสทิน บีเบอร์ (ทั้งหนูและรีเบกก้าเราคลั่งบีเบอร์กัน มากๆค่ะ หนูมีปฏิทิน 2 ใบ มีตุ๊กตา มีเสื้อ ไปดูคอนเสิร์ต แล้วก็ไปดู Never Say Never 2 หนเลยล่ะ อิอิ) ชอบดูSpongebob Squarepant และAmerican idol มีงานอดิเรกคือหัดเล่นกีต้าร์ และวาดรูประบายสี ถ้าจะมีอะไรที่ต่างออกไปหน่อยก็คงการที่เธอเป็นมังสวิรัตินี้แหละ หนู ทานมังสวิรัติมาได้ 8 เดือนแล้วค่ะ เพราะลุงหนูที่กินมังสวิรัติมาก่อน เอาวิดีโอเกี่ยวกับการฆ่าสัตว์มาทำอาหารให้ดู พอดูจบหนูก็เลิกทานเนื้อสัตว์เลยค่ะ
เธอเข้ามาเป็นส่วนนึงของมิวสิควิดีโอที่ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าจะเป็นไวรัล คลิปในเวลาต่อมา ด้วยคำเชิญจากเพื่อนสาวเจ้าของงาน ซึ่งอันที่จริงแล้วตัวประกอบเกือบทั้งหมดนั้นก็เป็นเพื่อนที่โรงเรียน เพื่อนบ้าน และคนในครอบครัวของรีเบคก้าทั้งสิ้น! อ่ะ อ่ะ ยกเว้นพี่แร๊พเพอร์นั้นไม่ใช่นะค่ะ คนนั้นคือ CEO ค่าย ARK Music พี่ Patrice Wilson ดูหน้าไว้ชัดๆเลย เพลง Friday ฮิตแค่ไหนก็มาจากปลายปากกาของเค้านั้นแหละค่ะ ภายหลังจากที่เอมวีออนไลน์ออกไป กระแสการจับผิดก็เริ่มต้นขึ้นอย่างที่ได้กล่าวไป คอมเมนท์ในยูทูบพุ่งขึ้นวิต่อวิประหนึ่งมีการแชทออนไลน์ หนูไม่คิดว่า Friday เป็นเพลงที่ห่วยนะค่ะ จริงอยู่ที่เนื้อเพลงมันไม่ได้เลอเลิศ มันก็เป็นเพลงๆนึงที่พูดถึงวัยรุ่นไปพาร์ที้ย์สนุกๆกัน เป็นเพลงที่ติดหู ชวนโยก มันก็เป็นเพลงแนวเดียวกันกับ Baby ของบีเบอร์นั้นแหละค่ะ ถ้าชอบเพลงนั้นแล้วก็ไม่น่าจะไม่ชอบเพลงนี้กันนะ กับกระแสต่อต้านที่รุนแรงเบนนี่ให้ความเห็นว่า หนู คิดว่าบางคนก็แร๊งงงค์เกินไป สำหรับเด็กอายุ 13 ที่ตั้งใจทำงานของเธอ การที่คุณไม่ชอบเพลงไม่ได้หมายความว่าคุณจะลามปามไปด่าตัวบุคคลเสียๆหายๆ ได้... สำหรับหนู หนูรับฟังเสียงตอบรับทั้งคำชมและคำติ แต่บางอย่างที่มันเลยเถิดมากไปก็ไม่อยากใส่ใจ ก็ขึ้นอยู่กับเรานี้แหละจะเก็บมาคิดรึเปล่า บางทีการใช้อารมณ์ขันก็เป็นการดีในการแก้ปัญหานะ หัวเราะไปกับมันสิ เบนนี่กล่าว หลังจากพบว่าเธอกลายเป็นบุคคลที่ถูกจับตาเทียบข้างไปกับรีเบคก้า ตอน แรกหนูไม่คิดเลยว่าจะมีคนพูดถึงหนู ยัยเบคก้าก็smsมาบอกให้ไปเช็คเฟซบุ๊ค ให้ตายเถอะค่ะ มีคนตั้งแฟนเพจให้หนูแล้วมากดแอดกันตรึมเลย หนูนั่งไล่อ่านทั้งใน facebook และ tumblr พยายามจะตอบคำถามที่พวกเค้าโพส แต่มันไม่ไหวจริงๆค่ะ เยอะโคตรๆ สุดท้ายเลยมีคนเสนอว่าทำไมไม่ลองถ่ายวิดีโอล่ะ จะได้ตอบครบจบทุกข้อสงสัยรวดเดียวไปเลย และนั้นคือที่มาของคลิป Q&A เบนนี่พบประชาชน ที่อัพโหลดลงยูทูบภายใต้แอ๊คเค้าท์ imthatgirlinpink ในวันที่ 18 มีนาคม เป็นครั้งแรกที่ตัวประกอบเบาะหลังอย่างเธอปรากฏตัวให้สาธารณะชนสัมผัสความคิด ความรู้สึกที่เปิดเผยอย่างเป็นกันเองครั้งแรก คำ ถามยอดฮิตเกี่ยวกับท่าเต้นที่ทุกคนอยากรู้กัน วันนั้นโปรดิวเซอร์แค่บอกให้หนูเต้นแบบสนุกๆว่ะเฮ้ย เอาแบบโง่ๆป่วงๆ หนูก็ลองขยับท่าทางดูว่าแบบไหนจะดูสนุกๆแบบบ๊องๆดี แล้วมันก็เลยออกมาเป็นอย่างที่เห็นนี้แหละ หนูก็สนใจพวกศิลปะนะค่ะ แต่กับการเต้นเนี้ย ไม่เคยเรียนมาก่อนเลยจริงๆ และความรู้สึกเมื่อเธอเห็นตัวเองกลายเป็นไฟล์ gif ถูกล้อเลียนว่อนเนท หนู ก็รู้สึกงงๆนิดหน่อย มันแปลกดีนะค่ะเวลาเห็นตัวเองไปเต้นอยู่บนโปรไฟล์ชาวบ้าน แต่ก็มีรูปนึงนะที่หนูชอบมาก อันที่เอาไปตัดต่อกับแอคคอร์เดี้ยน ไม่รู้เหมือนกันนะว่าใครทำ แต่หนูชอบมาก หลัง จากคลิปนี้ออนไลน์ไป ก็มีคนตามมากด Subscribe ให้เธอถึง 4,692 คน (ข้อมูลปัจจุบันอยู่ที่ 5,259) จนได้ตำแหน่งchannel ที่มีคน subscribe ที่สุดของเดือนเมษายนในอันดับที่ 32 มีคนโพสกันเยอะแยะเลยว่า ขอเต้นกับหนูบ้างได้ไหม ในความเป็นจริงมันเป็นไปไม่ได้หรอกนะค่ะที่หนูจะไปเต้นกับทุกคนที่โพส ดังนั้นหนูเลยคิดว่ามันคงเป็นการดีถ้าเพื่อนๆจะถ่ายคลิปตัวเองเต้นท่าแอ คคอเดี้ยนท์แล้วอัพลงยูทูบมาให้ดูแทน เบนนี่พูดถึงการประกวดที่เธอตั้งขึ้น หลังจากพบว่ามีแฟนๆหลายคนอยากเต้นกับเธอ และในวันที่ 30 มีนา เบนนี่ก็ได้เลือกคลิปที่เธอชอบมากที่สุด จากทั้งหมดประมาณสิบกว่าๆคลิป แต่ ก็ใช่ว่าเบนนี่จะสนใจแต่เรื่องของตัวเอง เธอคิดต่อยอดไปถึงสถานะความมีชื่อเสียงในระดับย่อมเยาของตนเอง มันคงจะดีไม่น้อยถ้าเธอได้ทำประโยชน์แก่ผู้อื่นบ้าง เบนนี่จัดตั้ง Flash Mob ขึ้นมา (อย่าถามว่าเธอจะเต้นเพลงอะไร) แล้วเกณฑ์เพื่อนๆออกมาช่วยกันเต้นกลางห้างสรรพสินค้า เพื่อเชิญชวนให้คนมาบริจาคเงินช่วยเหลือชาวญี่ปุ่นที่ประสบเหตุภัยพิบัติ เธอมาในชุดสีชมพู เครื่องแบบประจำตัว หนู คุยกับแม่ เราคิดกันว่าถ้าคนจดจำหนูได้เพราะการเต้น ทำไมเราไม่ใช้การเต้นเป็นจุดขายในการเชิญชวนให้คนมาบริจาคล่ะ โชคดีที่แม่มีเพื่อนเป็นนักออกแบบท่าเต้น หนูเลยขอให้เค้ามาช่วยฝึกสอนให้ เราขยันซ้อมกันมากๆ และวันที่ไปเต้นกัน ตอนแรกหนูเกร็งมาก แต่พอก็เริ่มขยับเท้า มองดูแม่ที่ถ่ายวิดีโอให้ จากนั้นทุกอย่างก็เกิดขึ้น ไม่น่าเชื่อเลยค่ะว่าหนูเต้นได้! น่ายินดีที่การรวมพลังเต้นครั้งนี้ (เบนนี่ของแท้ต้องมีท่าเสยผม) เรียกคนมาบริจาคได้จริงๆ ครอบครัวชาวญี่ปุ่นในซานฟราสซิสโกส่งเงินมาบริจาคให้เราประมาณ 5 แสนดอลล่าห์เลยนะ นอกจากนั้นเธอยังผลิตเข็มกลัดเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยเพิ่มขึ้นในราคา $4.99 ทุก 1 ดอลล่าห์จากการขาย จะนำไปสมทบทุนให้ญี่ปุ่นนะค่ะ //www.cafepress.com/Thatgirlinpink.515757565 สั่งซื้อเข็มกลัดได้ที่นี้หลังจากนั้นไม่นาน เบนนี่ก็กลายเป็นคนดังในท้องถิ่น ตอน เดินไปโรงเรียน มีคนมาแซวฉันกับรีเบกก้าว่า อีกสองวันต่อจากนี้เป็นวันอะไร บางทีก็มีคนตะโกนบอกให้ฉันเต้นๆ บางคนก็เข้ามาพูดว่า โอ้! ฉันเห็นเธอในเอ็มวีด้วยล่ะ แล้วเป็นคนดังแบบนี้เคยแจกลายเซ็นบ้างไหม เคยสองสามครั้งค่ะ เมื่อถามว่าโตขึ้นเธออยากทำอะไร เบนนี่ก็ตอบว่า ตอน แรกหนูอยากเป็นจิตแพทย์ค่ะ แต่พ่อบอกว่าคนพูดเก่ง กล้าโต้แย้งและให้เหตุผลแบบหนูน่าจะลองเป็นทนายความนะ หนูก็มานั่งคิดนะว่าถ้าเราได้เป็นทนายจริงๆ คงจะช่วยเหลือคน ต่อสู้เพื่อพวกเค้า ไม่ว่าจะเป็นจิตแพทย์ หรือทนายความ แต่ดูเหมือนว่าสองสิ่งที่มีร่วมกันคือการเป็นผู้ให้คำแนะนำ เป็นที่ปรึกษาให้แก่คนอื่น และนั้นก็ดูจะเป็นสิ่งที่เธอสนใจ พิสูจน์ได้จาก E-BOOK ที่เจ้าตัวลงทุนเขียนเพื่อให้คำแนะนำกับเด็กๆและผู้ปกครอง โดยมีพื้นฐานมาจากกรณี Friday ของเธอเอง That Girl in Pinks Internet Survival Guide: For Kids Who Live their Lives Online (and the Moms and Dads Who Love Them) นี้ เป็นคู่มือเอาตัวรอดในการเล่นอินเตอร์เน็ทนะค่ะ อันที่จริงมันน่าจะเรียกว่า วิธีการรับมือมากกว่า สำหรับหนูการต้องเจอคอมเมนท์เสียดสีเทเสียในช่วงแรกๆก็รู้สึกแย่เหมือนกัน แต่สุดท้ายมันก็ขึ้นกับเราเองนี้แหละว่าจะเก็บมาคิดแล้วรู้สึกยังไง หนูเลือกที่จะไม่คิดถึงมันในแง่ลบแล้วรับมือด้วยอารมณ์ขัน ซึ่งมันเวิร์คมากเลยนะค่ะ หนูเลยอยากลองแชร์ความคิดกับเด็กคนอื่นๆ หรือผู้ปกครอง ว่าเราจะรับมือกับปัญหาในโลกออนไลน์ยังไง ซึ่งสรุปได้ 5 ข้อตามที่เธอเขียนมา 1. จำไว้ว่านี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว เมื่อใดก็ตามที่คุณปรากฏตัวอยู่บนโลกอินเตอร์เน็ท มันก็ไม่ใช่เรื่องของคุณคนเดียวแล้ว แน่นอนว่าผู้คนสามารถแสดงความคิดเห็นต่างๆนานา ทั้งดีและไม่ดี แต่ว่าสิ่งที่พวกเค้าพูดถึงคุณมันก็เป็นแค่บางด้านเท่านั้นที่พวกเค้าเห็น ฉะนั้นตัวเรานั้นแหละที่รู้ดีที่สุดว่าเราเป็นยังไง 2. ตัวเราเท่านั้นที่เป็นคนกำหนด - ตามนั้นเลย เราเท่านั้นที่เลือกเองว่าอยากมีความสุข หรือทุกข์ ฉันเลือกแบบแรกนะ เวลามีใครมาเมนท์อะไรในทางลบ ฉันพยายามไม่มองว่าเค้าเป็นศัตรู ฉันเลยโพสกลับไปแบบขำๆซะเลย 3. คิดก่อนพูด (หรือพิมพ์) - เวลาเราพูด หรือวิจารณ์อะไรในทางสร้างสรรค์ มันมีค่านะค่ะ เมื่อแยกแยะถึงข้อคิด หรือคำแนะนำที่ได้มา ฉะนั้นแล้วการที่คิดก่อนพิมพ์ หรือพูด ย่อมมีประโยชน์กับคนที่ฟัง 4. ปรึกษาพ่อแม่ - เวลามีปัญหาอะไร อย่าอายที่จะพูดคุยขอคำชี้แนะจากพวกท่าน อย่าลืมว่าพวกท่านเป็นห่วงคุณนะค่ะ ถ้าคุณไม่อยากคุยกับพ่อแม่ตัวเอง ก็ลองหาผู้ใหญ่ที่ไว้ใจ หรือเพื่อนก็ได้ บางทีคุณอาจคิดว่าพ่อแม่ฉันแก่ คร่ำครึ ไม่มีทางเข้าใจ แต่ลืมไปรึเปล่าว่าผู้ใหญ่เองก็ต้องเคยเป็นเด็ก ผ่านช่วงเวลาวัยรุ่นมาแล้วทั้งนั้น 5. ซื่อสัตย์ต่อตัวคุณเอง - นี้คือวิธีที่ง่ายที่สุดเลยที่คุณจะมีความสุข สำหรับฉันแล้วถ้าเกิดท่าเต้นของฉันทำให้คนอื่นมีความสุข เฮฮา ฉันก็ยินดีค่ะ และฉันขอบอกเลยว่าไม่เคยเสียใจที่ได้ถ่ายเอมวีนี้เลย ส่วนในอนาคตข้างหน้า เบนนี่บอกว่าถ้ารีเบคก้ายังคิดจะชวนเธอไปถ่ายเอมวีอีก เธอก็ยินดีไปแจมแน่นอน แต่กับใครๆที่อยากติดตามเธอเป็นการเฉพาะ ก็สามารถติดตามเธอได้จากFACEBOOK - //www.facebook.com/# !/BennetCinkle Twitter - @benni_cinkle Tumblr - girlinpinkdancing.tumblr.com เบนนี่ยังคงตื่นเต้นกับการได้พบปะผู้คนใหม่ๆ ยังอยากจะจัดflash mob ครั้งใหม่ เขียนหนังสือเล่มใหม่ และทำกิจกรรมต่างๆอีกมากมายหลังจากนี้ เธอยังมีอะไรอยากเล่นสนุกอีกเยอะเลยล่ะ จากตัวประกอบเบาะหลังที่ก้าวขึ้น มาเป็นดารานำเบาะหน้า แม้หลายคนอาจจะหมั่นไส้กับการฉกฉวยโอกาสของเธอที่โปรโมตตัวเองอย่างต่อ เนื่อง แต่มันจะผิดอะไรเหมือนที่มาดอนน่าเคยกล่าวไว้ คำจำกัดความของการเป็นนักฉกฉวยโอกาสคือ การที่ใครสักคนได้เข้าครอบงำช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตไว้และตักตวงผลประโยชน์จาก มันให้ได้มากที่สุด และอย่างแน่นอนที่สุด ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายใคร
เธอพิสูจน์ให้เห็นว่าความฉลาดทางอารมณ์สามารถคลี่คลายความเครียดได้เป็น อย่างดี แม้ว่ามันอาจจะไม่สามารถใช้ได้กับทุกสถานการณ์ก็ตาม แต่ในอเมริกาที่ปัญหาการกลั่นแกล้งของเด็กมีวี่แววว่าจะเพิ่มมากขึ้น อินเตอร์เน็ตเป็นพื้นที่ยอดฮิตในการเข้าโจมตี ด้วยข้อดีที่เราสามารถปกปิด ปลอมแปลงตัวเองในเงามืด เบนนี่เลือกที่จะออกมาเปิดตัวในที่สว่าง เข้าถึงและจับต้องได้ ลองเปรียบรีเบคก้าที่เป็นนักร้อง มันไม่ใช่เรื่องยากถ้าเธอต้องการจะแถลงการณ์หรือให้ความกระจ่างเพื่อตอบโต้ ข้อกล่าวหา (เธอได้รับเชิญไปออกรายการของ Jay Leno และ Good Morning America เรียบร้อยแล้ว) แต่กับเบนนี่ที่มีสถานะเป็นเพียงคนธรรมดา ไม่มีช่องทางหรือเครือข่ายที่จะออกมาเป็นปากเป็นเสียงให้ตัวเอง เพียงเพราะไม่ใช่ตัวเจ้าของผลงาน (แต่เวลาถูกด่าก็โดนกันอย่างทั่วถึงเหมือนกันหมด) การกระทำของเธอจึงเป็นเรื่องเล็กๆของคนตัวเล็กๆที่น่าเป็นแบบอย่างในการ เผชิญกับปัญหา อย่างน้อยที่สุดนำจุดด้อยของคุณมาเปลี่ยนให้เป็นจุดเด่นแล้วนำเสนอให้คนได้ รู้จักส่วนดีๆที่เหลือของคุณสิ ทิ้งท้าย
เบนนี่อัพวิดีโอตัวใหม่ หลังจากได้รับจดหมายจากแฟนคลับที่ป่วยเป็นโรคซีสติกไฟโบรซีส เธอก็ตัดสินใจเข้าร่วมกิจกรรมเดินการกุศลของมูลนิธิ Cystic Fibrosis Foundation พร้อมเชิญชวนให้มาร่วมเดิน และบริจาคเงินกันตามเป้าที่ตั้งไว้ $5000 ขอแรงใจใครที่ไปไม่ได้ ก็คนละ 10 ดอล ก็ยังดีนะค่ะ แถมงวดนี้มีคนท้าชีอีก เค้าบอกว่าถ้าหนูหาคนได้ 100 คน หนูต้องยอมถ่ายตัวเองเต้นบ้าบอๆมาลงยูทูบอีกนะ ใครสนใจก็เข้าไปดูได้ตามนี้ //www.cff.org/great_strides/bennicinkle .... และกิจกรรมสุดท้าย เธอเชิญชวนให้แฟนๆร่วมประกวดถ่ายคลิปทำอะไรก็ได้ที่ทำแล้วมีความสุข คนที่เธอเลือกให้ชนะจะได้รับรางวัลใหญ่ร่วมถ่ายมิวสิควิดีโอตัวใหม่กับเธอ เป็นเพลงที่เธออัดเอง งานนี้เธอบอกว่าไม่ต้องห่วงว่าจะอยู่ใกล้หรือไกล "จะให้ฉันบินไปหา หรือบินมาแอลเอก็ได้นะค่ะ" และราชินีเพลงพ๊อพกับทวิสเทอร์ล่าสุดของเธอ Get Ready for The Piece of Art!!!!!!!!
Create Date : 27 พฤษภาคม 2554
1 comments
Last Update : 29 พฤษภาคม 2554 4:28:42 น.
Counter : 2273 Pageviews.