"I'm like cat here, a no-name slob. We belong to nobody, and nobody belongs to us. We don't even belong to each other."
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2554
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
27 พฤษภาคม 2554
 
All Blogs
 

BENNI CINKLE เพราะชีวิตไม่ได้มีแค่เบาะหลัง






จนถึงวันนี้เชื่อว่าหลายคนคงได้ร่วมเป็นพยานรู้เห็นมหรสพโพร์คส์ฮาแห่งปี
อย่าง Friday ด้วยยอดวิวชวนศิโรราบที่ 120 ล้าน และมีแววจะเหยียบ 200
ล้านได้ในไม่กี่เดือนจากนี้
แต่ทุกคนก็รู้กันว่าสาเหตุที่ทำให้เพลงนี้ดังไม่ได้มาจากกระแสด้านบวกเป็น
หลัก แม้สองมือจะมีทั้งดวกศ์ไม้และก้อนหินเลือกหยิบยื่นให้ศิลปิน
แต่พิจารณาจากหัวที่ปูดบวมของแม่หนูรีเบ็กก้า หรือพูดให้เห็นเป็นภาพก็คือ
ยอดdislikeแสนตะลึงที่แซงหน้าจัสทิน บีเบอร์ ไปหลายหลัก
แค่นั้นก็พอจะสรุปเป็นเลาๆได้ว่า Friday ยิ่งเห่ยก็ยิ่งฮิต
ยิ่งต่อต้านก็ยิ่งเติบโต
      และบาปทัณฑ์แห่งความโด่งดังนี้เอง
ก็ได้เผื่อแผ่ไปยังผู้เกี่ยวข้องในผลงานนี้อย่างครบถ้วน
ไม่ต้องพูดถึงตัวนักร้องนำที่โดนสำเร็จโทษไปเรียบร้อยแล้ว
คนเบื้องหลังทั้งหลายก็ถูกลากประจานตั้งแต่ แร๊ปเพอร์ (ท่อนแร๊ปฝืด
ไม่คมคาย) นักแต่งเพลง (เนื้อเพลงไก่กา ปญอ.)
โปรดิวเซอร์และทีมซาวน์เอนจิเนียร์
(สำเร็จความใคร่ทางเสียงด้วยออโต้จูนเกินพิกัด) แม่รีเบคก้า
(ส่งเสริมลูกสาวในทางเสื่อม) ผู้กำกับเอมวี (เอฟเฟกต์เชยสะบัด บลูสกรีนเห่ย
และการนำเสนอภาพเด็กอายุ 13 ขับรถเอง) บรรดาตัวประกอบในเอมวี
(แอคติ้งง้องแง้ง เหมือนถูกมาเฟียเอาปืนจ่อหลังตอนถ่ายทำ)

แต่ในบรรดาเอ็กซ์ตร้าเข้าฉาก
คนที่เด็ดสุดคงหนีไม่พ้นหญิงสาวชุดเกาะอกชมพูที่ยืนข้างรีเบ็กก้าด้านขวาใน
ฉากขับรถ ซึ่งจริงๆแล้วแค่ปรากฎตัวไม่ถึง 30 วินาทีเช่นนี้
คงไม่มีใครคาดคิดว่าเธอจะกลายเป็นที่น่าสนใจ แต่อย่างว่าพอเพลงดัง เอมวีฮิต
อะไรๆหลายอย่างก็เลยถูกจับตามองตาม(ในแง่ลบ)
และนั้นทำให้ชาวไซเบอร์ทั้งหลายสังเกตท่าเต้นแบบเงอะงะของแม่สาวชุดชมพู
แล้วพากันแคปเจอร์ออกมาเป็นภาพนิ่ง ไปจนถึงไฟล์อนิเมท
ชี้ชวนกันให้ดูความบ๊องตื้นของท่าทาง ที่พวกเค้าตั้งชื่อท่านี้ว่า The
Accordion Dance เนื่องจากท่าหล่อนมันเอื้อเหลือเกิน





 
 ลองเป็นเด็กทั่วไปถูกล้อเลียนลงเน็ตแบบนี้คงกรี๊ดลั่นแล้วทุบคอม
นั่งซึมเศร้าจับเจ่าไม่กล้าออกไปไหน แต่สาวชุดชมพูกลับไม่เป็นเช่นนั้น
เธอรับมือกับสิ่งรบกวนจิตใจด้วยความฉลาดทางอารมณ์
จุดประกายความล้มเหลวให้เป็นโอกาส
ในเมื่ออินเทอร์เนทคือบ่อเพาะเชื้อความขบขันให้เธอโด่งดัง
มันก็น่าจะสามารถแปรเปลี่ยนกลับเป็นช่องทางในการสื่อสาร รู้จักเพื่อนใหม่ๆ
และได้ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆได้เช่นเดียวกัน
และเราจะไปทำความรู้จักเด็กสาวธรรมดา
ที่ไม่ธรรมดาด้วยท่าเต้นและความคิดของเธอกัน เธอชื่อ Benni Cinkle






Benni Cinkle หรือชื่อจริงว่า Bennett เป็นเด็กหญิงวัย 13 ปี
ที่อาศัยอยู่ในเมือง Anaheim รัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อนซี้ตัวจริงของ Rebecca
Black... เบนนี่เองก็เหมือนเด็กสาววัยกระเตาะทั่วไป เธอไปดูคอนเสิร์ตเลดี้
กาก้า คลั่งไคล้จัสทิน บีเบอร์ (“ทั้งหนูและรีเบกก้าเราคลั่งบีเบอร์กัน
มากๆค่ะ หนูมีปฏิทิน 2 ใบ มีตุ๊กตา มีเสื้อ ไปดูคอนเสิร์ต แล้วก็ไปดู Never
Say Never 2 หนเลยล่ะ อิอิ”)
ชอบดูSpongebob Squarepant และAmerican
idol มีงานอดิเรกคือหัดเล่นกีต้าร์ และวาดรูประบายสี
ถ้าจะมีอะไรที่ต่างออกไปหน่อยก็คงการที่เธอเป็นมังสวิรัตินี้แหละ “หนู
ทานมังสวิรัติมาได้ 8 เดือนแล้วค่ะ เพราะลุงหนูที่กินมังสวิรัติมาก่อน
เอาวิดีโอเกี่ยวกับการฆ่าสัตว์มาทำอาหารให้ดู
พอดูจบหนูก็เลิกทานเนื้อสัตว์เลยค่ะ”



         
เธอเข้ามาเป็นส่วนนึงของมิวสิควิดีโอที่ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าจะเป็นไวรัล
คลิปในเวลาต่อมา ด้วยคำเชิญจากเพื่อนสาวเจ้าของงาน
ซึ่งอันที่จริงแล้วตัวประกอบเกือบทั้งหมดนั้นก็เป็นเพื่อนที่โรงเรียน
เพื่อนบ้าน และคนในครอบครัวของรีเบคก้าทั้งสิ้น! “อ่ะ อ่ะ
ยกเว้นพี่แร๊พเพอร์นั้นไม่ใช่นะค่ะ คนนั้นคือ CEO ค่าย ARK Music พี่
Patrice Wilson ดูหน้าไว้ชัดๆเลย เพลง Friday
ฮิตแค่ไหนก็มาจากปลายปากกาของเค้านั้นแหละค่ะ”

ภายหลังจากที่เอมวีออนไลน์ออกไป
กระแสการจับผิดก็เริ่มต้นขึ้นอย่างที่ได้กล่าวไป
คอมเมนท์ในยูทูบพุ่งขึ้นวิต่อวิประหนึ่งมีการแชทออนไลน์ “หนูไม่คิดว่า
Friday เป็นเพลงที่ห่วยนะค่ะ จริงอยู่ที่เนื้อเพลงมันไม่ได้เลอเลิศ
มันก็เป็นเพลงๆนึงที่พูดถึงวัยรุ่นไปพาร์ที้ย์สนุกๆกัน เป็นเพลงที่ติดหู
ชวนโยก มันก็เป็นเพลงแนวเดียวกันกับ Baby ของบีเบอร์นั้นแหละค่ะ
ถ้าชอบเพลงนั้นแล้วก็ไม่น่าจะไม่ชอบเพลงนี้กันนะ”
กับกระแสต่อต้านที่รุนแรงเบนนี่ให้ความเห็นว่า “หนู
คิดว่าบางคนก็แร๊งงงค์เกินไป สำหรับเด็กอายุ 13 ที่ตั้งใจทำงานของเธอ
การที่คุณไม่ชอบเพลงไม่ได้หมายความว่าคุณจะลามปามไปด่าตัวบุคคลเสียๆหายๆ
ได้... สำหรับหนู หนูรับฟังเสียงตอบรับทั้งคำชมและคำติ
แต่บางอย่างที่มันเลยเถิดมากไปก็ไม่อยากใส่ใจ
ก็ขึ้นอยู่กับเรานี้แหละจะเก็บมาคิดรึเปล่า
บางทีการใช้อารมณ์ขันก็เป็นการดีในการแก้ปัญหานะ หัวเราะไปกับมันสิ”
เบนนี่กล่าว หลังจากพบว่าเธอกลายเป็นบุคคลที่ถูกจับตาเทียบข้างไปกับรีเบคก้า




“ตอน
แรกหนูไม่คิดเลยว่าจะมีคนพูดถึงหนู ยัยเบคก้าก็smsมาบอกให้ไปเช็คเฟซบุ๊ค
ให้ตายเถอะค่ะ มีคนตั้งแฟนเพจให้หนูแล้วมากดแอดกันตรึมเลย
หนูนั่งไล่อ่านทั้งใน facebook และ tumblr พยายามจะตอบคำถามที่พวกเค้าโพส
แต่มันไม่ไหวจริงๆค่ะ เยอะโคตรๆ
สุดท้ายเลยมีคนเสนอว่าทำไมไม่ลองถ่ายวิดีโอล่ะ
จะได้ตอบครบจบทุกข้อสงสัยรวดเดียวไปเลย”
และนั้นคือที่มาของคลิป Q&A เบนนี่พบประชาชน ที่อัพโหลดลงยูทูบภายใต้แอ๊คเค้าท์ imthatgirlinpink ในวันที่ 18 มีนาคม




เป็นครั้งแรกที่ตัวประกอบเบาะหลังอย่างเธอปรากฏตัวให้สาธารณะชนสัมผัสความคิด ความรู้สึกที่เปิดเผยอย่างเป็นกันเองครั้งแรก “คำ
ถามยอดฮิตเกี่ยวกับท่าเต้นที่ทุกคนอยากรู้กัน
วันนั้นโปรดิวเซอร์แค่บอกให้หนูเต้นแบบสนุกๆว่ะเฮ้ย เอาแบบโง่ๆป่วงๆ
หนูก็ลองขยับท่าทางดูว่าแบบไหนจะดูสนุกๆแบบบ๊องๆดี
แล้วมันก็เลยออกมาเป็นอย่างที่เห็นนี้แหละ หนูก็สนใจพวกศิลปะนะค่ะ
แต่กับการเต้นเนี้ย ไม่เคยเรียนมาก่อนเลยจริงๆ”
และความรู้สึกเมื่อเธอเห็นตัวเองกลายเป็นไฟล์ gif ถูกล้อเลียนว่อนเนท  “หนู
ก็รู้สึกงงๆนิดหน่อย
มันแปลกดีนะค่ะเวลาเห็นตัวเองไปเต้นอยู่บนโปรไฟล์ชาวบ้าน
แต่ก็มีรูปนึงนะที่หนูชอบมาก อันที่เอาไปตัดต่อกับแอคคอร์เดี้ยน
ไม่รู้เหมือนกันนะว่าใครทำ แต่หนูชอบมาก”





   หลัง
จากคลิปนี้ออนไลน์ไป ก็มีคนตามมากด Subscribe ให้เธอถึง 4,692 คน
(ข้อมูลปัจจุบันอยู่ที่ 5,259) จนได้ตำแหน่งchannel ที่มีคน subscribe
ที่สุดของเดือนเมษายนในอันดับที่ 32
“มีคนโพสกันเยอะแยะเลยว่า
ขอเต้นกับหนูบ้างได้ไหม
ในความเป็นจริงมันเป็นไปไม่ได้หรอกนะค่ะที่หนูจะไปเต้นกับทุกคนที่โพส
ดังนั้นหนูเลยคิดว่ามันคงเป็นการดีถ้าเพื่อนๆจะถ่ายคลิปตัวเองเต้นท่าแอ
คคอเดี้ยนท์แล้วอัพลงยูทูบมาให้ดูแทน”
เบนนี่พูดถึงการประกวดที่เธอตั้งขึ้น หลังจากพบว่ามีแฟนๆหลายคนอยากเต้นกับเธอ
และในวันที่ 30 มีนา เบนนี่ก็ได้เลือกคลิปที่เธอชอบมากที่สุด จากทั้งหมดประมาณสิบกว่าๆคลิป




แต่
ก็ใช่ว่าเบนนี่จะสนใจแต่เรื่องของตัวเอง
เธอคิดต่อยอดไปถึงสถานะความมีชื่อเสียงในระดับย่อมเยาของตนเอง
มันคงจะดีไม่น้อยถ้าเธอได้ทำประโยชน์แก่ผู้อื่นบ้าง เบนนี่จัดตั้ง Flash
Mob ขึ้นมา (อย่าถามว่าเธอจะเต้นเพลงอะไร)
แล้วเกณฑ์เพื่อนๆออกมาช่วยกันเต้นกลางห้างสรรพสินค้า
เพื่อเชิญชวนให้คนมาบริจาคเงินช่วยเหลือชาวญี่ปุ่นที่ประสบเหตุภัยพิบัติ
เธอมาในชุดสีชมพู เครื่องแบบประจำตัว






“หนู
คุยกับแม่ เราคิดกันว่าถ้าคนจดจำหนูได้เพราะการเต้น
ทำไมเราไม่ใช้การเต้นเป็นจุดขายในการเชิญชวนให้คนมาบริจาคล่ะ
โชคดีที่แม่มีเพื่อนเป็นนักออกแบบท่าเต้น หนูเลยขอให้เค้ามาช่วยฝึกสอนให้
เราขยันซ้อมกันมากๆ และวันที่ไปเต้นกัน ตอนแรกหนูเกร็งมาก
แต่พอก็เริ่มขยับเท้า มองดูแม่ที่ถ่ายวิดีโอให้ จากนั้นทุกอย่างก็เกิดขึ้น
ไม่น่าเชื่อเลยค่ะว่าหนูเต้นได้!”
น่ายินดีที่การรวมพลังเต้นครั้งนี้ (เบนนี่ของแท้ต้องมีท่าเสยผม) เรียกคนมาบริจาคได้จริงๆ “ครอบครัวชาวญี่ปุ่นในซานฟราสซิสโกส่งเงินมาบริจาคให้เราประมาณ 5 แสนดอลล่าห์เลยนะ” นอกจากนั้นเธอยังผลิตเข็มกลัดเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยเพิ่มขึ้นในราคา $4.99 “ทุก 1 ดอลล่าห์จากการขาย จะนำไปสมทบทุนให้ญี่ปุ่นนะค่ะ”




//www.cafepress.com/Thatgirlinpink.515757565 สั่งซื้อเข็มกลัดได้ที่นี้

หลังจากนั้นไม่นาน เบนนี่ก็กลายเป็นคนดังในท้องถิ่น “ตอน
เดินไปโรงเรียน มีคนมาแซวฉันกับรีเบกก้าว่า อีกสองวันต่อจากนี้เป็นวันอะไร
บางทีก็มีคนตะโกนบอกให้ฉันเต้นๆ บางคนก็เข้ามาพูดว่า โอ้!
ฉันเห็นเธอในเอ็มวีด้วยล่ะ”
แล้วเป็นคนดังแบบนี้เคยแจกลายเซ็นบ้างไหม “เคยสองสามครั้งค่ะ”


เมื่อถามว่าโตขึ้นเธออยากทำอะไร เบนนี่ก็ตอบว่า “ตอน
แรกหนูอยากเป็นจิตแพทย์ค่ะ แต่พ่อบอกว่าคนพูดเก่ง
กล้าโต้แย้งและให้เหตุผลแบบหนูน่าจะลองเป็นทนายความนะ
หนูก็มานั่งคิดนะว่าถ้าเราได้เป็นทนายจริงๆ คงจะช่วยเหลือคน
ต่อสู้เพื่อพวกเค้า”
ไม่ว่าจะเป็นจิตแพทย์ หรือทนายความ
แต่ดูเหมือนว่าสองสิ่งที่มีร่วมกันคือการเป็นผู้ให้คำแนะนำ
เป็นที่ปรึกษาให้แก่คนอื่น และนั้นก็ดูจะเป็นสิ่งที่เธอสนใจ พิสูจน์ได้จาก
E-BOOK ที่เจ้าตัวลงทุนเขียนเพื่อให้คำแนะนำกับเด็กๆและผู้ปกครอง
โดยมีพื้นฐานมาจากกรณี Friday ของเธอเอง That Girl in Pink’s Internet Survival Guide: For Kids Who Live their Lives Online (and the Moms and Dads Who Love Them) “นี้
เป็นคู่มือเอาตัวรอดในการเล่นอินเตอร์เน็ทนะค่ะ อันที่จริงมันน่าจะเรียกว่า
วิธีการรับมือมากกว่า
สำหรับหนูการต้องเจอคอมเมนท์เสียดสีเทเสียในช่วงแรกๆก็รู้สึกแย่เหมือนกัน
แต่สุดท้ายมันก็ขึ้นกับเราเองนี้แหละว่าจะเก็บมาคิดแล้วรู้สึกยังไง
หนูเลือกที่จะไม่คิดถึงมันในแง่ลบแล้วรับมือด้วยอารมณ์ขัน
ซึ่งมันเวิร์คมากเลยนะค่ะ หนูเลยอยากลองแชร์ความคิดกับเด็กคนอื่นๆ
หรือผู้ปกครอง ว่าเราจะรับมือกับปัญหาในโลกออนไลน์ยังไง”
ซึ่งสรุปได้ 5 ข้อตามที่เธอเขียนมา




1.
จำไว้ว่านี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว –
เมื่อใดก็ตามที่คุณปรากฏตัวอยู่บนโลกอินเตอร์เน็ท
มันก็ไม่ใช่เรื่องของคุณคนเดียวแล้ว
แน่นอนว่าผู้คนสามารถแสดงความคิดเห็นต่างๆนานา ทั้งดีและไม่ดี
แต่ว่าสิ่งที่พวกเค้าพูดถึงคุณมันก็เป็นแค่บางด้านเท่านั้นที่พวกเค้าเห็น
ฉะนั้นตัวเรานั้นแหละที่รู้ดีที่สุดว่าเราเป็นยังไง
2.
ตัวเราเท่านั้นที่เป็นคนกำหนด - ตามนั้นเลย
เราเท่านั้นที่เลือกเองว่าอยากมีความสุข หรือทุกข์ ฉันเลือกแบบแรกนะ
เวลามีใครมาเมนท์อะไรในทางลบ ฉันพยายามไม่มองว่าเค้าเป็นศัตรู
ฉันเลยโพสกลับไปแบบขำๆซะเลย
3. คิดก่อนพูด (หรือพิมพ์) - เวลาเราพูด
หรือวิจารณ์อะไรในทางสร้างสรรค์ มันมีค่านะค่ะ เมื่อแยกแยะถึงข้อคิด
หรือคำแนะนำที่ได้มา ฉะนั้นแล้วการที่คิดก่อนพิมพ์ หรือพูด
ย่อมมีประโยชน์กับคนที่ฟัง
4. ปรึกษาพ่อแม่ - เวลามีปัญหาอะไร
อย่าอายที่จะพูดคุยขอคำชี้แนะจากพวกท่าน อย่าลืมว่าพวกท่านเป็นห่วงคุณนะค่ะ
ถ้าคุณไม่อยากคุยกับพ่อแม่ตัวเอง ก็ลองหาผู้ใหญ่ที่ไว้ใจ หรือเพื่อนก็ได้
บางทีคุณอาจคิดว่าพ่อแม่ฉันแก่ คร่ำครึ ไม่มีทางเข้าใจ
แต่ลืมไปรึเปล่าว่าผู้ใหญ่เองก็ต้องเคยเป็นเด็ก
ผ่านช่วงเวลาวัยรุ่นมาแล้วทั้งนั้น
5. ซื่อสัตย์ต่อตัวคุณเอง -
นี้คือวิธีที่ง่ายที่สุดเลยที่คุณจะมีความสุข
สำหรับฉันแล้วถ้าเกิดท่าเต้นของฉันทำให้คนอื่นมีความสุข เฮฮา ฉันก็ยินดีค่ะ
และฉันขอบอกเลยว่าไม่เคยเสียใจที่ได้ถ่ายเอมวีนี้เลย


ส่วนในอนาคตข้างหน้า เบนนี่บอกว่าถ้ารีเบคก้ายังคิดจะชวนเธอไปถ่ายเอมวีอีก
เธอก็ยินดีไปแจมแน่นอน แต่กับใครๆที่อยากติดตามเธอเป็นการเฉพาะ
ก็สามารถติดตามเธอได้จาก

FACEBOOK - //www.facebook.com/#!/BennetCinkle
Twitter - @benni_cinkle
Tumblr - girlinpinkdancing.tumblr.com




 
    เบนนี่ยังคงตื่นเต้นกับการได้พบปะผู้คนใหม่ๆ ยังอยากจะจัดflash mob
ครั้งใหม่ เขียนหนังสือเล่มใหม่ และทำกิจกรรมต่างๆอีกมากมายหลังจากนี้
เธอยังมีอะไรอยากเล่นสนุกอีกเยอะเลยล่ะ
จากตัวประกอบเบาะหลังที่ก้าวขึ้น
มาเป็นดารานำเบาะหน้า
แม้หลายคนอาจจะหมั่นไส้กับการฉกฉวยโอกาสของเธอที่โปรโมตตัวเองอย่างต่อ
เนื่อง แต่มันจะผิดอะไรเหมือนที่มาดอนน่าเคยกล่าวไว้
“คำจำกัดความของการเป็นนักฉกฉวยโอกาสคือ
การที่ใครสักคนได้เข้าครอบงำช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตไว้และตักตวงผลประโยชน์จาก
มันให้ได้มากที่สุด และอย่างแน่นอนที่สุด ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายใคร”

…เธอพิสูจน์ให้เห็นว่าความฉลาดทางอารมณ์สามารถคลี่คลายความเครียดได้เป็น
อย่างดี แม้ว่ามันอาจจะไม่สามารถใช้ได้กับทุกสถานการณ์ก็ตาม
แต่ในอเมริกาที่ปัญหาการกลั่นแกล้งของเด็กมีวี่แววว่าจะเพิ่มมากขึ้น
อินเตอร์เน็ตเป็นพื้นที่ยอดฮิตในการเข้าโจมตี ด้วยข้อดีที่เราสามารถปกปิด
ปลอมแปลงตัวเองในเงามืด เบนนี่เลือกที่จะออกมาเปิดตัวในที่สว่าง
เข้าถึงและจับต้องได้ ลองเปรียบรีเบคก้าที่เป็นนักร้อง
มันไม่ใช่เรื่องยากถ้าเธอต้องการจะแถลงการณ์หรือให้ความกระจ่างเพื่อตอบโต้
ข้อกล่าวหา (เธอได้รับเชิญไปออกรายการของ Jay Leno และ Good Morning
America เรียบร้อยแล้ว) แต่กับเบนนี่ที่มีสถานะเป็นเพียงคนธรรมดา
ไม่มีช่องทางหรือเครือข่ายที่จะออกมาเป็นปากเป็นเสียงให้ตัวเอง
เพียงเพราะไม่ใช่ตัวเจ้าของผลงาน
(แต่เวลาถูกด่าก็โดนกันอย่างทั่วถึงเหมือนกันหมด)
การกระทำของเธอจึงเป็นเรื่องเล็กๆของคนตัวเล็กๆที่น่าเป็นแบบอย่างในการ
เผชิญกับปัญหา
อย่างน้อยที่สุดนำจุดด้อยของคุณมาเปลี่ยนให้เป็นจุดเด่นแล้วนำเสนอให้คนได้
รู้จักส่วนดีๆที่เหลือของคุณสิ



ทิ้งท้าย



       เบนนี่อัพวิดีโอตัวใหม่
หลังจากได้รับจดหมายจากแฟนคลับที่ป่วยเป็นโรคซีสติกไฟโบรซีส
เธอก็ตัดสินใจเข้าร่วมกิจกรรมเดินการกุศลของมูลนิธิ Cystic Fibrosis
Foundation พร้อมเชิญชวนให้มาร่วมเดิน และบริจาคเงินกันตามเป้าที่ตั้งไว้
$5000 “ขอแรงใจใครที่ไปไม่ได้ ก็คนละ 10 ดอล ก็ยังดีนะค่ะ”
แถมงวดนี้มีคนท้าชีอีก “เค้าบอกว่าถ้าหนูหาคนได้ 100 คน
หนูต้องยอมถ่ายตัวเองเต้นบ้าบอๆมาลงยูทูบอีกนะ” ใครสนใจก็เข้าไปดูได้ตามนี้
//www.cff.org/great_strides/bennicinkle....
และกิจกรรมสุดท้าย
เธอเชิญชวนให้แฟนๆร่วมประกวดถ่ายคลิปทำอะไรก็ได้ที่ทำแล้วมีความสุข
คนที่เธอเลือกให้ชนะจะได้รับรางวัลใหญ่ร่วมถ่ายมิวสิควิดีโอตัวใหม่กับเธอ
เป็นเพลงที่เธออัดเอง งานนี้เธอบอกว่าไม่ต้องห่วงว่าจะอยู่ใกล้หรือไกล  "จะให้ฉันบินไปหา หรือบินมาแอลเอก็ได้นะค่ะ"









และราชินีเพลงพ๊อพกับทวิสเทอร์ล่าสุดของเธอ



Get Ready for The Piece of Art!!!!!!!!




 

Create Date : 27 พฤษภาคม 2554
1 comments
Last Update : 29 พฤษภาคม 2554 4:28:42 น.
Counter : 2273 Pageviews.

 

นอนหลับฝันดีนะครับ พักผ่อนเยอะๆ สุขภาพแข็งแรง News

 

โดย: bbandp 30 พฤษภาคม 2554 10:23:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


AguileraAnimato
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




They told me: "Girl, to get you're way, you've got to be a bitch!"
They say that: "A guy won't get the girl, if he's not filthy rich!"
New Comments
Friends' blogs
[Add AguileraAnimato's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.