~* TRIP NO. 19/2010 *~
Osaka Kaiyukan Aquarium – Tempozan Market Place
- Jusco @ Noda Stn. - Namba – Kansai International Airport
TG673 KIX/BKK 0030/0420LT
.
.
.

วันสุดท้ายที่ Osaka แล้วค่ะ
เวลาช่างมีเพียงน้อยนิดเหลือเกิน
Y.Y

อยู่นานไป ก็ไม่ได้
เพราะถ้าเกิน 1 อาทิตย์ ใบรับรองแพทย์ที่เตรียมมาจะมีปัญหา
ต้องขอใบรับรองแพทย์ใหม่ เพื่อขึ่นเครื่องกลับ

Note (1) :
ใบรับรองแพทย์ที่เป็นเอกสารประกอบ สำหรับการโดยสารเครื่องบิน
(ใช้เมื่ออายุครรภ์มากกว่า 28 สัปดาห์)
จะมีอายุ (validity) เพียงแค่ 1 อาทิตย์เท่านั้น
มิฉะนั้นอายุครรภ์ที่ระบุไว้ในใบรับรองแพทย์ จะคลาดเคลื่อนไม่ตรงตามจริง

ทานอาหารเช้าเสร็จ
กลับมาเก็บข้าวของที่ห้อง เตรียม check-out

แอบเสียดาย ... เขาอุตส่าห์ให้ late check-out ถึง 1500 น.
แต่ไม่อยากเทียวไป-เทียวมา
จะได้เที่ยวยาวๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเวลามากนัก

  . . .   . . . 



@ OSAKA KAIYUKAN AQUARIUM @
//www.kaiyukan.com

Direction : Namba Stn.
>> Midosuji Line (สายสีแดง) to Hommachi Stn. (C16)
>> Transfer to Chuo Line (สายสีเขียว) to OSAKAKO Stn. (C11)
Exit # 1

ค่าเข้าชมคนละ 2,000 เยน
** ใช้คูปองจาก Kansai Thru Pass ลดราคาได้คนละ 100 เยน
เมื่อชำระโดยเงินสด **


++ ฉลามหัวฆ้อน ++

เรามาโอซาก้าครั้งก่อน เมื่อปี 2002
และมีโอกาสได้มาเยือน Osaka Kaiyukan Aquarium เป็นครั้งแรก
((มาทำงาน ฉลองปีใหม่และวันเกิดที่ Osaka คนเดียว ~ เหงาจับใจ))

ตอนนั้นชอบ และประทับใจกับที่นี่มาก
มีความฝัน และตั้งใจอยากพาพ่อหมีมาที่นี่ด้วยกันสักครั้งนึง

เพราะรู้ว่าพ่อหมีชอบดูปลา ... ตามประสาคนเคยดำน้ำลึก
แต่ต้องเลิกดำน้ำไป ตั้งแต่มาทำอาชีพคนบนฟ้า
เนื่องจากอาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้



ความทรงจำเกี่ยวกับ Osaka ครั้งนั้น แทบจะจำอะไรไม่ได้แล้ว
มีเพียงที่นี่เท่านั้นแหละ ที่ยังชัดเจนอยู่ในความทรงจำ
รอคอยมาถึงเกือบ 8 ปี ... วันนี้ฝันเป็นจริงสักที

แถมไม่เคยคาดคิด ว่าวันนี้จะได้กลับมาพร้อมกับชีวิตน้อยๆในพุง
คนสำคัญในชีวิตอีกคนหนึ่ง

Note (2) :
ช่วงเทศกาลปีใหม่ ของทุกๆปี ... อากาศหนาวเย็น
ทาง Kaiyukan จะมีประเพณี เอาเพนกวินมาโชว์ตัว
บริเวณด้านหน้าทางเข้า aquarium ค่ะ

นับว่าเป็นประสบการณ์ดีๆ
ที่ได้เห็นเพนกวิน อยู่นอกตู้กระจกบ้าง
^^


++ ภาพในอดีต : เที่ยว Osaka Kaiyukan ครั้งแรก 29 ธันวาคม 2545 ++

** Osaka Kaiyukan Aquarium **
ได้ขึ้นชื่อว่า เป็น The World’s Biggest Aquarium หรือ
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกค่ะ
มีความสูงเท่ากับตึก 8 ชั้น

Note (3) :
ทางพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ มีบริการให้เช่าหูฟัง เป็น self-guided
โดยมีค่าบริการเพิ่มเติม แต่ไม่มีภาษาไทยค่ะ



เข้าไปยังไม่ทันไร
พ่อหมีก็ตื่นตาตื่นใจกับอุโมงค์ปลา บริเวณทางเข้าซะแล้ว
จนเราต้องคอยลาก ... บอกว่าข้างในมีเด็ดกว่านี้อีก
ใจเย็นๆๆๆ

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่นี่ จะแบ่งแยกออกเป็นโซนต่างๆ
มีสัตว์น้ำน่ารักๆเต็มไปหมด
อาทิเช่น ตัวนากแม่น้ำ / นากทะเล / แมวน้ำ / หนูยักษ์ ฯลฯ




แต่ที่ดึงดูดให้เราใช้เวลายืนชมนานพอสมควร คือ โซน Tasman Sea
ที่มีโลมา มาว่ายน้ำโชว์ตัว

มากันทั้งแบบคู่แม่-ลูก ที่ว่ายเคียงข้าง ทำท่าทางเดียวกันตลอด
และอีกหลายๆตัว ที่แสนจะคึกคัก กระโดดโชว์ตัวเหนือผิวน้ำอยู่หลายรอบ
เล่นเอากดชัตเตอร์สนุกมือไปเลยทีเดียว



แต่ตัวโปรดที่เราชอบ และน่ารักมากๆ คือ “แมวน้ำ” ค่ะ
จะมีเจ้าแมวน้ำขี้เล่นอยู่ตัวหนึ่ง ที่แตกต่างจากตัวอื่น

คือเขาว่ายน้ำมา แล้วก็หยุดตรงหน้าเรา
คอยจะเล่นกับแผ่นกระดาษในมือเรา ที่โบกล่อไปมา
เล่นกันอยู่นานมากเลยล่ะค่ะ
^^







ส่วนตัวแล้ว ... พ่อหมีชอบกระเบนค่ะ
เขาบอกว่า พันธุ์นี้หาดูได้ยากมาก
ถึงขั้นนั่งเก้าอี้ดูกระเบนว่ายวนไปมา เป็นเรื่องเป็นราวเลย



ส่วนไฮไลท์ของ Kaiyukan แห่งนี้
คงเป็นเจ้าฉลามวาฬ 2 ตัว ที่ว่ายอยู่ในแทงค์น้ำขนาดใหญ่
เรียกว่า Pacifc Ocean Tank จุน้ำได้ถึง 5,400 ตัน

เราใช้เวลาถ่ายรูปเจ้ายักษ์ใหญ่สองตัวนี่อยู่นานทีเดียว
ที่ผ่านมา 3 วัน เราถ่ายภาพไปไม่ถึง 3 GB
แต่พอมาที่นี่แล้ว ... ไม่ถึงครึ่งวัน กดไป 300 กว่าภาพแน่ะ
^^”






++ Ocean Sunfish ที่พ่อหมีบอกว่าหาดูได้ยากมาก ++

นับเป็นความชอบส่วนตัวของเราสองคน ที่ลงตัวกันพอดี
เราชอบเที่ยวทะเล ชอบไปดำ snorkel ... และก็เที่ยว aquarium เนี่ยแหละ

ก่อนถึงทางออก มีกลุ่มแมงกระพรุนให้ชมออีกนิดหน่อย
ส่วนตัวแล้ว ชอบเจ้า sea angel มาก
แต่ทำยังไง ก็ไม่เคยถ่ายภาพมาได้สักที เพราะเขาตัวเล็กมาก



ต่อกันที่ชั้น 2 เป็น gallery และ touch pool ค่ะ
เปิดประสบการณ์ให้ได้ลองสัมผัสกับกระเบน และฉลามจริงๆ

เราไม่ได้ลองจับมากนัก เพราะมือถือกล้องอยู่
แต่พ่อหมีบอกว่า แตกต่างกัน กระเบนเขาจะตัวนิ่มๆ ... ฉลามตัวจะออกสากๆ
แต่ฉลามอีกพันธุ์ กลับนิ่มเหมือนกำมะหยี่



เราใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณ 4 ชม.ค่ะ
เสียดาย กะเวลา Feeding Show ไม่ถูก ไม่ได้เตรียมข้อมูลมาก่อน
มาถึงแล้ว ... เวลาเลยไม่ลงตัวเท่าไหร่

จากนั้น หาเรื่องแวะทานขนมที่ห้างใกล้ๆเนี่ยแหละ

  . . .   . . . 



@ TEMPOZAN MARKET PLACE @
อยู่ติดกับ kaiyukan เลยค่ะ ... สังเกตง่ายๆ ตึกที่มีชิงช้าสวรรค์ใหญ่
หรือ Tempozan Giant Ferris Wheel นั่นแหละค่ะ



เคยถามเขาครั้งก่อน
ถ้าจะนั่งกระเช้า 1 รอบ ใช้เวลา 30-60 นาทีเลยทีเดียว
ใหญ่โตเอามากๆ

ที่นี่มีทั้งร้านค้าขายของฝาก / เสื้อผ้า / ขนม
แต่ที่น่าสนใจ คือ โซนอาหาร (Naniwa Kuishimbo Yokocho)
ที่จัดทำในรูปแบบญี่ปุ่นย้อนยุค ... ได้บรรยากาศ แบบเก่าๆดี



เราเลยต้องขอลองสักหน่อย
โดยการสั่ง takoyaki (ไข่) มาลองชิม (14 ลูก = 600 เยน.-)
แต่แปลกตรงที่ไม่มีซอสราดค่ะ
เขาบอกว่า ถ้าแบบ original เลยจริงๆ จะไม่ราดซอส

เนื้อจะออกนิ่มมากกว่าแบบทั่วไป
แต่ปลาหมึกชิ้นใหญ่ ... เต็มปากเต็มคำดีจริงๆ




แอบเห็นแว๊บๆ ว่ามีตั๋วขึ้นเรือ Santa Maria Cruise ขายอยู่แถวๆนี้ด้วย
เป็นเรือใบขนาดใหญ่ วิ่งชมวิวในอ่าวโอซาก้า
//suijo-bus.jp



แต่เราสองคนขอผ่านค่ะ ... ไม่ใช่แนวเท่าไหร่
ประกอบกับมีเป้าหมายอื่นที่อยากแวะ

  . . .   . . . 



@ JUSCO ~ NODA STN. @
Direction : Osakako Stn. >> Awaza Stn. (C15)
>> Transfer to OsakaCity Sennichimae Line, Platform #2
for Nodahanshin >> NODA Stn. (S11)
Exit # 4

มาถึงนี่แล้ว ยังไม่มีโอกาสได้เดินซื้อของใน supermarket จริงๆ
เราอยากได้พวกขนมห่อ-ขนมกล่อง กลับบ้าน

เลยตัดสินใจไปห้าง Jusco ที่เห็นผ่านตา ตอนนั่งรถไฟผ่านวันแรก
เพราะสาขานี้ ดูจะอยู่ใกล้สถานีมากๆ ถ้าจะสะดวกหน่อย

เริ่มจากการสอย pampers ก่อนเลยค่ะ
ตุนไว้ได้หลายห่อแล้วเนี่ย ... เพราะราคาถูกกว่าบ้านเราเยอะ
(ห่อใหญ่ราคา 1,280 เยน หรือประมาณ 490.- บาท)

แต่ก็แอบกลัวๆ นะเนี่ย
ถ้าคุณลูกหมีแพ้ยี่ห้อนี้ คงได้เอามาขายเลหลังแน่ๆ

ไปที่แผนกของใช้เด็กอ่อนต่อ ... อยากไปดูพวก Pigeon
แต่ขอบอกว่า สินค้าไม่หลากหลายเท่าบ้านเรา แถมราคายังพอกันซะอีก
เลยไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมา

และสุดท้าย ... ก็ไปจบที่ขนมและของกินใน superฯ
สมความตั้งใจล่ะค่ะ

  . . .   . . . 



@ NAMBA @
Direction : Noda Stn. >> Hanshin Line to Umeda Stn.
>> Transfer to Midosuji Line to NAMBAStn.

ตอนนั้น เวลาประมาณ 1800 น.แล้ว
เรายังมีเวลาอีกประมาณ 4.30 ชม. ก่อนจะไป check-in ที่สนามบิน

ใจนึง ก็อยากลองไป Nippombashi ดู
เป็นแหล่งขายเครื่องใช้ไฟฟ้า

แต่ด้วยความที่เดินเยอะมาทั้งวัน
ประกอบกับหิ้วสัมภาระ (pampers ห่อใหญ่) เยอะ
เลยตัดสินใจไปเดินเล่นแถว Namba ต่อ และหามื้อเย็นทานกัน

เลือกสะดวก ... เลยทานร้านที่เห็นผ่านตาเมื่อวานอีกล่ะ
อยู่บนถนน Namba Nankaidori
ตรงข้าม starbucks เลย



ได้อารมณ์ร้านญี่ปุ่นแบบเก่าๆดี
สั่งอาหารแบบหยอดเหรียญ แล้วนั่ง counter

รายการอาหารบนตู้หยอดเหรียญ ... เป็นภาษาญี่ปุ่น
แต่ดีว่า ร้านนี้เขามีเมนูภาษาอังกฤษแยกต่างหาก
และจะมีหมายเลขกำกับไว้

ต้องการเมนูไหน
ก็ไปเทียบหา หมายเลขบนตู้กดอีกที

มื้อนี้ เราสั่ง ざるそば (zarusoba) หรือบะหมี่เย็น (250.- เยน)
ส่วนของพ่อหมีเป็นข้าวหน้าไก่ (380.-เยน)


++ ขนมสุดโปรด บนถนน Ebisubashi Shopping Street ++

ตามด้วยขนมหวาน Hop Chou a la Crème ไส้คัสตาร์ด
บนถนน Ebisubashi ที่อยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่
ติดใจ ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว (วันนี้เบิ้ล 2 ชิ้นคนเดียวเลย)

พ่อหมีบอกอยากทานข้าวหน้าเนื้อ
เลยเดินหา จนเจอร้าน ... แถมราคาแสนถูก เพียงแค่ 250.- เยน



อิ่มแล้ว ... ได้เวลากลับโรงแรมค่ะ
เอาของที่ซื้อมา ไปจัดแพ๊คใส่กระเป๋ากันอีกรอบ

แล้วก็ถึงเวลา ... อำลา Osaka สักที
จริงๆแล้ว ยังพอจะมีเวลาว่างอยู่อีก 1 ชม. แต่เริ่มเมื่อย เดินไม่ไหวแล้ว
เลยมุ่งตรงสู่ขบวนรถไฟ สาย Nankai Airport Line
ที่เดินใกล้มาก เพียงแค่ 3 นาทีจากโรงแรมที่พัก

เส้นทางสู่สนามบิน ... จะใช้ Platform # 6
แต่ต้องดูป้ายเวลา และขบวนรถไฟให้ดี

เพราะในชานชลาเดียวกัน จะมีรถไฟ 2 ขบวน คือ
1) สายที่ไป Wakayama
2) สายที่ไป Kansai Airport

เวลาไหน ที่รถไฟไปสนามบินจะเข้าเทียบท่า
ดูได้จากป้ายตรงหน้าทางเข้าชานชลา ... สังเกตจากรูปเครื่องบิน
รถไฟที่นี่ ตรงเวลามากๆ



ใช้เวลาเดินทางสู่สนามบิน 40 กว่านาที
เสียดายไม่มีเวลาแวะ Rinku Town และ Aeon Rinku Senna
ใกล้ๆสนามบิน ... อย่างที่ตั้งใจไว้ตอนแรก

เพราะเริ่มจะดึกแล้ว
และเราเองก็มีกระเป๋าสัมภาระใบใหญ่ด้วย

เราเองเคยไป Rinku Town แล้ว ... ตอนมา Osaka ครั้งก่อน
ซึ่งส่วนมากจะเป็น outlet และร้านค้า brand name

แต่ตอนนั้น จะมีบางมุมของบางร้าน ที่นำสินค้ามีตำหนิ
มาเลลังขายในราคาถูก
ก็เลยพอจะมีของ ที่กำลังทรัพย์พอจะซื้อได้บ้างล่ะนะ

Note (4) :
Aeon Rinku Sennan เป็นห้างใหญ่
หากต้องการเดินทางไป ต้องไปลงที่ Nankai Kansai Kuko Stn.
แล้วต่อ Sky Bus ไปลงที่ Aeon Rinku Sennan Stop

แค่ทั้งนี้ ตั๋ว Kansai Thru Pass
ไม่สามารถใช้กับรถ Sky Bus ได้ค่ะ

  . . .   . . . 



@ KANSAI INTERNATIONAL AIRPORT @
มาถึงสนามบิน ก่อนเวลา check-in ตั้ง 1 ชม.
ว่าจะเดินเล่นดูของด้านใน ... แต่ร้านเริ่มทะยอยปิดกันบ้างแล้ว
อดเลย
T.T

เลยใช้เวลาว่างเดินเล่นใน duty free นิดหน่อย
แต่ SK-II ที่อยากได้ ... ราคาแพงกว่าที่ขายบนเครื่องซะอีก

ด้านในมีมุม internet ให้ใช้บริการฟรี
เลยไปนั่งเล่นฆ่าเวลา ... รอเวลาไปขึ้นเครื่อง

TG673 KIX/BKK 0030/0420LT
เครื่องบินแบบ 777-300 ทะเบียน HS-TKC นาม”ขวัญเมือง”
มารับเรากลับบ้านค่ะ

เครื่องบินลำนี้ มีจอส่วนตัวให้เล่นเกมส์+ดูหนังด้วย
แต่เสียดายเป็นไฟล์ทดึก เลยไม่ได้เล่นเลย
หลับอย่างเดียว

ใช้เวลาในการเดินทาง 5.05 ชม.
มาถึงก่อนกำหนดเวลาตั้งเกือบ 50 นาที
.
.
.

เมื่อได้ย้อนกลับไปอ่านไดอารี่เก่าๆ ที่เคยบันทึกไว้
เราอ่านเจอข้อความที่ตัวเองเขียนว่าอยากไปโอซาก้า อยู่ตั้ง 2-3 ไดฯแน่ะ
((ไดอารี่ตอนเที่ยว Nagoya และในไดอารี่ตอนเที่ยว Macau))

รอคอยมานานนนน ... นานซะจนเกือบลืมความรู้สึก ที่ผ่านมาแล้ว
แต่ ณ วันนี้ ที่ได้มาเยือนโอซาก้า กลับยังรู้สึกไม่เต็มอิ่ม
และคิดจะกลับมาอีกสักครั้งหนึ่ง

เพราะยังมีอีกหลายๆที่ ที่เราอยากไป
ไม่ว่าจะเป็น ปราสาท Himeji @ Kobe ที่ครั้งนี้ ไม่มีโอกาสได้ไป
เพราะ ....

1) ปราสาทปิด เพื่อซ่อมแซมปรับปรุง
ไม่สามารถเข้าไปชมด้านในได้ ... ได้แต่รอบนอก

2) ต้องเดินเท้า จากสถานีรถไฟประมาณ 1 กม.
และเป็นทางลาดชัน ซึ่งสภาพร่างกายเราคงไม่ไหว
ในช่วงอากาศร้อนแบบนี้ด้วยแล้ว

และอีก 1 ที่ ... ที่เราตั้งใจจะไปให้ได้สักวัน
“Universal Studio Japan”
//www.usj.in.th/index.html

ที่ครั้งนี้ จำต้องตัดใจ ไม่ไป
เพราะไม่เหมาะกับคนท้องสักเท่าไหร่นัก
T.T

หากมีโอกาสไปญี่ปุ่นครั้งหน้า
พ่อหมีบอกว่า อยากลองนั่งรถไฟชินคันเซนดูสักครั้ง

เราเลยวางแผนว่าจะเริ่มจากโตเกียว แล้วค่อยต่อมาโอซาก้า
เห็นเขาว่า เดินทางโดยชินคันเซนเพียงแค่ 2 ชม.เท่านั้น



และแล้ว ... เราก็กลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพของวันที่ 11 เดือน 9
หรือวันครบรอบ 9 ปี ของเหตุการณ์ “911” นั่นเอง
หุ หุ

ตอนแรก คิดว่าทริปนี้
คงจะเป็นการเดินทางทิ้งทวนก่อนคลอดแล้วล่ะนะ

แต่ตอนอยู่ที่ญี่ปุ่น ได้รับข่าวดี
จนกลายเป็นต้นเหตุให้ต้องแพ็คกระเป๋าออกเดินทางอีกครั้ง
เมื่อกลับมาถึงเมืองไทย

นับเป็นโอกาสดีๆอีกครั้งในชีวิต ที่จะได้*เที่ยวฟรี*
ด้วยความขยันเที่ยว-ขยันเขียน เรื่องราวการท่องเที่ยวเนี่ยแหละน๊า
^^

ไว้มาเล่าต่อ ถึงโครงการ “Thailand Boutique Awards”
กับโอกาสดีๆที่ได้รับมาค่ะ


++ Dotombori @ Osaka ++

- เอ๋  ป๊อป -
& เจ้าลูกหมีน้อยในพุง ~ 31 weeks 6 days

Yokoso!! Japan ~ อุ้มท้องกลม ชิม & ชม @ OSAKA
~ 6 -10 September 2010 ~