สถานสงเคราะห์ บ้าน...เกิด..ผม / อาวุธสำคัญ 4 (จบเรื่อง)
เล่าถึงอาวุธสำคัญ ของผม นั้นก็คือ ช้อนกินข้าว( ตราหัวม้าลายเจ้าของผม) มากพอแล้ว แต่จะไม่เขียนถึง อาวุธสำคัญของแม่บ้าน ( เจ้าหน้าที) มันก็ยังไงอยู่ น้า เพราะอาวุธนี้ก็มีความสำคัญที่ไม่แตกต่างกัน เลย อาวุธสำคัญ ของแม่บ้านก็คงหนีพ้น ไม้เรียว นั้นเอง (ถ้าหากให้คุณผู้อ่านตอบ ผมเชื่อเลยครับว่า คุณผู้อ่านต้องตอบถูกแน่นๆ จริงไหมครับคุณผู้อ่าน ) จะว่าไปแล้ว ไม้เรียวของแม่ มีหลายแบบ หลายขนาด แถมยังใช้ไม้เรียวลงโทษแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับโทษที่ก่อไว้ ว่า หนักหรือเบา และแม่ก็ยังมี ลูกอมวิเศษ ถือว่าเป็นอาวุธชนิดหนึ่ง ที่แม่มักใช้อยู่บ่อยครั้ง เวลาที่พวกผมทำผิด( ค่อยๆอ่านไปครับคุณอ่าน เดี๋ยวจะรู้ว่า ลูกอมวิเศษที่ว่านี้มันคืออะไร *** ระหว่างนี้ ลองเดาดูซิครับ คุณผู้อ่าน ว่า มันคืออะไร กันน้า....)
ผมจะเขียน อาวุธ (ไม้เรียว) ของแม่ ที่ใช้ลงโทษ พวกผม จากโทษที่เบาไปหาโทษที่หนัก เพื่อให้คุณผู้อ่านได้เข้าใจ ว่าในสถานสงเคราะห์ ที่ผมอยู่ มีการลงโทษได้สมเหตุสมผลไหมเหมื่อนที่ พ่อแม่ที่ลงโทษลูกหรือเปล่า
อาวุธที่ 1 คือ ไม้มะต้มมะยม แม่มักใช้แต่ก้านมะยมโดยดึงใบออกและทิ้งไปเอาแต่ก้านล้วนๆ แล้วมามักรวมกันหลายก้าน พอเหมาะมือ ที่จับได้ ใช้ลงโทษสำหรับเด็กเล็ก โดยตี ที่ น่องขา กับ ปลายก้น (ตูดนั้นแหละครับ) ความรู้สึก เจ็บแสบๆ ไว้ปราบเด็กที่ ชนๆ และซ่า ไม่เชื่อฟังเป็นต้น ( คุณผู้อ่านเคยโดนไหม ครับ ก้านต้นมะยม ถามเล่นๆ)
อาวุธที่ 2 เป็นอาวุธคู่บุญของแม่เลยก็ว่าได้ เวลาไปไหนมาไหน ในสถานสงเคราะห์แม่มักจะเหน็บไว้ข้างกายอยู่เสอม และเป็นอาวุธหลักที่แม่ใช้ประจำ อยู่บ่อยๆ อาวุธที่ว่าคือ ไม้ไผ่ที่แก่แล้ว ลักณะไม้ ดูเนื้อไม้ ไม่หนาเท่าไร แต่มีความเรียวยาวที่ดูสวยงาม ความยาวประมาณ ตั่งแต่เท้าถึงสะโพกของแม่ คิดว่าประมาณนี้แหละครับ (ผมกะเอาเองนะครับ คุณผู้อ่าน) ใช้ลงโทษทั้งเด็กเล็กและเด็กโต โดยตีที่น่องขา กับ ปลายก้น (ที่เก่า เจ้าเดิม) ความรู้สึกเจ็บแสบ แต่แสบมากขึ้น กว่า ก้านมะยม ซะอีกนะ ( แล้วอันละครับ คุณผู้อ่าน เคยโดนไหมครับ )
อาวุธที่ 3 คือไม้ไผ่ที่แก่แล้วเหมือนเดิม แต่ไม้ไผ่อันนี้มีความพิเศษ ตรงที่ว่า เนื้อไม้จะหนามากกว่า ไม้ไผ่ที่แม่พกอยู่เป็นประจำ เวลาที่ตี จะไม่ได้ยินเสียง ไม้ที่สีลม ใช้ลงโทษสำหรับ เด็กโต โดยเฉพาะ โดยตีที่ก้นที่เดียว ถึงไม่ตีที่น่องขา แต่ก็มีการตี คือ ถอดการเกนตีรวมถึงถอดกางเกนในด้วยนะ และก็ตีก้นแบบเต็มๆ กับใส่กางเกงตี ควาวรู้สึกที่โดน เจ็บ ปวดทันที มันทรมานตรงที่ ปวดนี้แหละครับ เป็นคุณผู้อ่าน หากต้องโดนลง โทษในลักษณะนี้ คุณผู้อ่านจะเลือกไหน คือ ยอมถอดกางเกนให้ตี กับ ไม่ยอมถอดกางเกนแต่โดนตี เหมื่อนกัน (ขอให้เป็นคำตอบ ในใจนะครับ คุณผู้อ่าน)
อาวุธที่ 4 คือ ไม้หน้า 3 อย่าพึ่งเข้าใจผิดนะครับคุณอ่าน ไม้หน้า 3 ที่ว่านี้ ไม่ใช่ไม้หน้า 3 ทั่วๆไป ที่รู้จักกัน ลักษณะไม้หน้า 3 คือ 3 นิ้วมือมารวมชิดกันเท่าหน้าไม้พอดี แต่มีความหนาที่เท่านิ้วชี้ ความยาวพอเหมาะ เป็นไม้ที่แม่จะออกมาใช้ลงโทษ เมื่อจำเป็นเท่านั้น ใช้ลงโทษสำหรับเด็กที่ความผิดร้ายแรง เช่น ขโมยของ นอกสถานสงเคราะห์มีเรื่องชกตีต่อยกัน โดยฉะเพราะกับเด็กเล็กที่ไม่มีทางต่อสู้ รวมถึง บุคคลภายนอก ชกตเป็นต้น ส่วนใหญ่ จะเป็นเด็กโต ซะมากกว่า ที่จะโดนไม้หน้า 3 ใช้ตีที่กัน ที่เดียว ความรู้สึกที่โดน ( ตัวผมเองตอบไม่ได้ เพราะว่ายังไม่เคยโดน แต่รู้ๆ มันคงต้องเจ็บแน่นๆ หาก ถามผมว่า อยากโดนไหม เพื่อจะอธิบาย ความรู้สึกที่โดนให้กับคุณผู้อ่านรู้ ผมคงตอบไม่แล้วกัน
อาวุธที่ 5 เป็นอาวุธ อเนกประสงค์เลย ก็ว่าได้ มันติดตัวอยู่กับแม่ตลอดเวลา ไม่มีวันไหนที่มันห่างหายเลยไปเลย ติดยังกะแตกเม ยิ่งกว่าไม้เรียวที่แม่พกอยู่ประจำซะอีก อาวุธอเนกประสงค์ที่ ว่ามานี้ คือ ฝ่ามือ ของแม่นั้นเอง และเป็นอาวุธเดียวที่ใช้ลงโทษ นอกสถานสงเคราะห์ได้เท่านั้น เวลาที่โดนลงโทษขึ้นอยู่แต่ละเหตุการณ์ เช่น เด็กที่ดื้อหน่อยก็ใช้ตบ กะบาน หรือ ตกหลัง สำหรับเด็กเล็ก ถ้าเป็นเด็กโต แม่ก็จะกำมือ ให้ ลูกมะกรูด และเค้นที่กะโหล และถ้าเจอเด็กไม่เชื่อฟังคำพูด แม่ก็ใช้ มือบิดที่หู ที่ข้างใดข้างหนึ่ง แม่ก็จะว่าได้ยินยัง...........โอ๋ย ได้ยินแล้วครับ คนที่โดนลงโทษ ก็จะตอบ........ แม่ก็จะถามเหลือหูอีกข้างหนึ่งจะเอาอีกไหม....... คนที่โดนลงโทษ ก็จะตอบไม่แล้วครับ หรือถ้าเสื้อนักเรียนไม่อยู่ในกางเกน แม่ก็จะใช้มื้อหยิกที่ท้อง แล้วก็จะถามว่า เป็นนักเลงหรือ นักเรียน เนี้ย หือ..... เสื้อนักเรียนอยู่ในกางเกนได้ไหม....คนที่โดนหยิก.....ก็จะรีบใส่เสื้อใส่ในกางเกงทันที แม่จึงจะหยุดหยิก การโดนลงโทษในแต่ละอย่าง คุณผู้อ่านเคยโดนหรือเปล่าครับ
อาวุธที่ 6 คือ ลูกอมวิเศษ ที่เคยไว้บอกกับคุณผู้อ่านไว้ ก่อนหน้านี้ ตอนนี้ก็จะบอกแล้วครับ นั้นก็คือ บอระเพรชนั้นเอง ครับ (เป็นไงมั่งครับ เดาถูกบ้างไหมครับ) บอระเพรชซื้อนี้เคยได้ยินบ้างไหมครับ มันเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง แต่สำหรับแม่ ไว้ใช้ลงโทษกับเด็กที่ พูดจาหยาบคาย ด่า ใช้คำพูดไม่เพราะ เช่น มึง กู เป็น ต้น หรือ เด็กที่ชอบพูด โกหก ก็จะโดนลงโทษ โดยการอม บอระเพชร ประมาณ 5 นาที ก่อนที่จะกินข้าวรสชาติของบอระเพชรมันออก ขมปี๋เลย ลองคิดดูซิครับคุณผู้อ่าน หลังจากที่อบบอระเพชรเสร็จ แล้วมากินอาหารต่อ จะไม่ได้รสชาติของอาหารเลย รสชาติมันติดลิ้นไป 2-3 มื้อเลย ไม่เชื่อ คุณผู้อ่านลองดูแล้วก็
อาวุธที่ 7 เป็นอาวุธที่น่ากลัวที่สุดในบรรดาอาวุธอื่นๆ ที่เคยมีมาในสถานสงเคราะห์ และเป็นอาวุธที่นานๆทีจะได้นำมาใช้สักครั้งนึง และเป็นอาวุธที่แม่บ้านไม่สามารถใช้ได้ มีแต่เพียงพ่อบ้านเท่านั้นที่สามารถใช้ได้ ชึ่งอาวุธนี้เป็นที่กล่าวขานกันมาในหมู่เด็กสถานสงเคราะห์ ซึ่งเป็นอาวุธที่มีกรรมวิธีที่วิเศษกว่าอาวุธอื่นๆ ต่างกันที่ว่า ก่อนจะนำมาลงโทษสั่งสอนนั้นต้องนำอาวุธที่ต้องแช่น้ำ มันมีต้นแบบมาจากการหวายแช่เยี่ยว (คุณผู้อ่านคงจะอยากรู้มากแล้วซินะ ว่ามันคืออาวุธอะไรที่ผมกำลังกล่าวถึงอยู่ ) นั่นก็คือ ไม้เรียวยี่โถแช่น้ำ นั่นเองครับ ตัวผมเองมักเรียกกันว่า อาวุธอาญาสิทธิ์ เพราะเป็นอาวุธที่ใช้ลงโทษกับเด็กที่มีปัญหาร้ายแรงที่สุดเกินที่จะเยียวยา ก่อนที่จะลงโทษในลักษณะนี้จะมีการประชุมถึงผลการกระทำของเด็กที่ศูนย์อำนวยการ ในบรรดาพ่อบ้านแม่บ้าน พี่เลี้ยง และผู้อำนวยการใหญ่ ( เจ้าหน้าที่สถานสงเคราะห์ ) ลงมติในการลงโทษ ซึ่งส่วนใหญ่ในการลงโทษลักษณะนี้จะลงโทษกับเด็กที่รีดไถเงิน ข่มขู่ และล่วงละเมิดเพศ ( อัดถั่วดำ ) แล้วพวกเด็กโตตั้งศาลเตี้ยลงโทษกันเองโดยไม่ให้พ่อบ้านแม่บ้าน พี่เลี้ยง และผู้อำนวยการใหญ่ ( เจ้าหน้าที่สถานสงเคราะห์ ) รับรู้ เมื่อลงโทษเสร็จก็จะมีคำสั่งให้ออกจาสถานสงเคราะห์โดยทันที ซึ่งนานๆทีจะมีการลงโทษแบบนี้ให้เห็นซักที เพราะเป็นบทลงโทษที่ร้ายแรงที่สุดในสถานสงเคราะห์
การลงโทษในแต่ละครั้งในการใช้ไม้เรียว ไม่ว่าโทษนั้นจะหนักหรือเบา แม่มักจะพูดอยู่เสมอถึงเหตุผลที่จะลงโทษเพื่อให้เจ็บและจำ ไม่ได้ลงโทษเพราะอารมณ์ส่วนตัวของตนเองและไม่เคยคิดว่ามันเป็นเรื่องสนุกเลย กลับมีความรู้สึกเจ็บปวดอยู่ในใจอยู่เสมอทุกครั้งที่ลงโทษลงไปในแต่ละครั้ง นี่คือเหตุผลของแม่บ้านและเจ้าหน้าที่กรมประชาสงเคราะห์ เป็นอย่างไรบ้างครับคุณผู้อ่าน หลังจากที่ได้อ่านอาวุธสำคัญในสถานสงเคราะห์บ้านเกิดผม คุณอยากจะเลือกอาวุธของผมหรือแม่ดีละครับคุณผู้อ่าน
*** โปรดติดตามอ่าน สถานสงเคราะห์...บ้านเกิด..ผม / ปลาทูตัวเดียวพาเน่าทั่งเข่ง 1 ได้ ใน วันจันทร์ 2 สิงหาคม 2553***
ขอบคุณครับ บ๊ายๆ....
Create Date : 30 กรกฎาคม 2553 |
|
1 comments |
Last Update : 30 กรกฎาคม 2553 19:32:25 น. |
Counter : 701 Pageviews. |
|
|
|
ถ้ามีเวลา ตรวจพิสูจน์อักษรหน่อยก็ดีครับ
แต่ถ้าไม่ว่าง ก็โอเคนะ อ่านเอาแต่ใจความหละ