Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
16 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 

สถานสงเคราะห์ บ้าน...เกิด..ผม (เปิดรั่วสถานสงเคราะห์) / (คำนำ)

เปิดรั่วสถานสงเคราะห์
เรื่อง หน้า

กิจวัตรประจำวัน
อาวุธสำคัญ
ปลาทูตัวเดียวพาเน่าทั้งเข่ง
เพราะท่านเหล่านี้
ไผ่ก่อเดี่ยวคือพลังสามาคดี
มุมมืด
เวลาที่เจ็ษ
ก้อนหินกับดวงดาว
ความฝัน ความหวัง
กายนางยักษ์ ใจนางฟ้า
คำถามซ้ำๆๆๆ.....
0 1 6 9.....

ปิดรั่วสถานสงเคราะห์


.......
..........................................................................................






คำนำ


สถานสงเคราะห์ บ้านที่ผมคิดว่าเป็นบ้านเกิดของผม แท้จริงแล้ว มันคือสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า นั้นเอง เพราะตั่งแต่จำความได้ ตัวผมเองก็ได้มา อยู่ในสถานสงเคราะห์ แล้วครับ หลายคนอาจคุ้นเคยเคยได้ยิน ได้ฟังจากวิทยุและสื่อโฆษณา ที่มีประโยค วลี คำพูดหนึ่งว่า “สำนึกรักบ้านเกิด” ซึ่งเป็นความหมายที่ดี แต่น่าเสียดาย ที่ประโยคนี้ อาจไม่เหมาะสำหรับผม สักเท่าไร เพราะตัวผมเอง ไม่รู้จักบ้าน เกิดของตัวเอง ไม่รู้ว่าอยู่ทิศไหนของประเทศไทย ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก ถ้าหากถามลงลึกรายละเอียดไปถึง จังหวัดอะไร บ้านเลขที่เท่าไร ยิ่งตอบว่าไม่รู้เข้าไปอีกถ้าไม่ผิดอะไรที่ตัวผมเอง จะเปลี่ยนประโยคว่า
“สถานสงเคราะห์ บ้านเกิดผม”

ตัวผมเองเติบโตมาจากสถานที่แห่งนี้ ได้เรียนรู้พฤติกรรมต่างๆ ทั้งในสิ่งที่ดีและไม่ดีจาก รุ่นพี่ น้องและเพื่อนๆ มีทั้งรอยยิ้ม เมื่อมีความสุขและมีน้ำตาเพราะความทุกข์ จากสังคมเล็กๆ สังคมหนึ่ง เมื่อถึงคราวที่ต้องออกมาเผชิญ อยู่ตัวคนเดียวในสังคมที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ที่มีแต่การเอารัดเอาเปรียบ เห็นแก่ตัว รวมถึงการหลอกลวง ต่างๆนานา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ล้วนเคยพบเจอมาแล้ว ในสถานสงเคราะห์ จึงทำให้ตัวผมเอง ต้องใช้ชีวิตอย่างมีสติ ด้วยคำสั่งสอนเสนอแนะแนว จากเจ้าหน้าทีที่คอยดูแล และผู้มีพระคุณทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นแม่บ้าน พี่เลี้ยง และบุคคลภายนอกที่เข้ามาให้ความรู้ แก่พวกผม

มีหลายคน มักยิงคำถาม อยู่บ่อยๆ เมื่อรู้ว่าผมเป็นเด็กกำพร้า คำถามแรกที่ ถามกันมากที่สุด คือ เธอพักอยู่ที่ไหน มีใครเป็นคนดูแล ผมพักอยู่ในสถานสงเคราะห์ มีเจ้าหน้าที คอยดูแล และคำถามก็เริ่มยิ่งมาเรื่อยๆ การกินอยู่ หลับนอน เป็นยังไง มีกฎระเบียบ ที่เข้มงวดเกินไปหรือเปล่า มีกิจวัตรประจำวันที่ต้องทำมีอะไรบ้าง และรวมถึงบทลงโทษต่างๆเมื่อทำผิด อีกทั้งยังถามความรู้สึกต่างๆในใจ(น้อยใจไหมที่ ไม่มีพ่อแม่ เหมือนคนอื่นเขา เคยคิดติดตามหาพ่อแม่ไหม( ถ้าหากได้เจอพ่อแม่จะพูดอะไรเป็นคำแรกและชอบไหมที่อยู่ในสถานสงเคราะห์)

ซึ่งในคำถามเหล่านี้ล้วนเป็น สาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้ตัวผมเอง อยากเขียนหนังสือเล่าประสบการณ์ชีวิต ในรั่วสถานสงเคราะห์ที่แห่งนี้ มีหลายคน อยากรู้ ความเป็นอยู่ในสถานสงเคราะห์ การรับเลี้ยงเป็นยังไง เหมือนที่พ่อแม่เลี้ยงลูกหรือเปล่า หรือบุคคลภายนอก บางคน อาจเข้าใจผิด คิดว่าเป็นที่ควบคุมพฤติกรรมเด็กที่ผิดกฎหมายมาแล้วต้องมาดันนิสัยในสถานที่แห่งนี้ มันไม่ใช่ บ้านเมตานะครับ

หนังสือสถานสงเคราะห์ บ้านเกิดผม เล่มนี้อาจจะให้คำตอบกับ
คุณผู้อ่านเกี่ยวกับสถานสงเคราะห์ รับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่มากก็น้อย
นอกจากนี้คุณผู้อ่าน จะได้ซาบซึ้งการมีน้ำใจในหมู่พี่น้องเด็กกำพร้าอย่างพวกผม ร้อยพ่อพันแม่ ที่ไม่รู้จักกันมาก่อนแต่มาอยู่รวมกันได้อย่างกลมกลืนกันดีและเรื่องแปลกๆที่คุณผู้อ่านเอง อาจไม่เคยนึกคิดมาก่อน กับกลเม็ดต่างๆ การซ้อนเงิน เรื่องระหว่างการใช้ไหวพริบระงับปัญหาที่จะเกิดขึ้นและรวมถึงคำสั่งสอน ในเชิงคำคม(คือให้แง่คิด) จากเจ้าหน้าที่ประชาสงเคราะห์ รวมถึงปราบเด็กซ่า-เด็กซนให้อยู่อย่างขอบเขตที่มี

จุดประสงค์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวประสบการณ์ชีวิตช่วงหนึ่งของผม โดยผ่านตัวอักษรร้อยเรียงจนเป็นหนังสื่อเล่มหนึ่ง ที่ใช่ซื่อว่า สถานสงเคราะห์..บ้านเกิดผม..เพื่อหารายได้ตอบแทนสถานสงเคราะห์ที่เคยรับเลี้ยงดูมาตั้งเล็กจนโตขึ้นโดยการเลี้ยงอาหารกลางวันเป็นพิเศษ และรายได้อีกส่วนหนึ่งเป็นทุนที่ จะซื้อบ้านเป็นของผมเองครับ... (ที่มั่งคงของชีวิตของผม) อีกทั้งหนังสือเล่มนี้ ยังเป็นเล่มแรกในชีวิตของผม
ซึ่งตัวผมเอง เป็นเพียงมือสมัครเล่น (แต่ใช้หัวใจทำขึ้นมา)ที่เขียนหนังสือ หากมีสิ่งใดผิดพลาดไปต้องขอกล่าว คำว่าขอโทษ ด้วยครับ
มา ณ. ที่ด้วยคับ


สุดท้ายและไม่ท้ายสุดหวังเป็นอย่างยิ่งที่เรื่องราวของผม
ใน รั่วสถานสงเคราะห์จะเป็นอุทาหรณ์สอนใจ สำหรับใครบ้างคนที่ยังไม่พร้อมจะมี และมีความคิดที่จะเอาลูกมาฝากที่สถานสงเคราะห์ ซึ่งเป็นความคิดที่ต้องไตร่ตรองให้มากๆ เพราะใช่ว่าเด็กทุกคนจะยอมรับได้กับสิ่งที่เป็นอยู่ บางคนถึงกับประชดชีวิต หนีออกจากสถานสงเคราะห์ กลายเป็นเด็กมีปัญหา เร่รอน หัวขโมย ติดยาเสพติด และสุดท้ายหนีไม่พ้นกลายเป็นปัญหาของสังคม เมื่อตอนนั้นมาถึง ความคิดนี้จะทำให้เสียใจในภายหลัง ฉะนั้นจงคิดทบทวนให้มากๆนะครับ

สุดท้ายนี้ต้องขอกล่าวคำขอบคุณทุกท่าน เป็นอย่างยิ่ง
ขอบคุณ

เพื่อนๆทั้งร้ายและดีทุกคน(ในสถานสงเคราะห์)ที่ไม่เคยทำให้เหงา
เวลาที่อยู่ตัวคนเดียว เกือบทุกครั้งและไม่เคยคิดทิ้งกัน เมื่อมีทุกข์

ขอบคุณ
พี่ๆและน้องๆทุกคนเลย ที่คอยมาแย่และล้อเล่นเป็นประจำ ทำให้รู้สึก
ว่าตัวเองไม่โดดเดียว และเกือบทุกครั้งที่คอยบอกเล่าเก้าสิบวิธีต่างๆ
ในเวลาที่แม่บ้านโมโหแม้ทั่งพี่เลี้ยง(แย่แม่บ้านและพี่เลี้ยง)

ขอบคุณ
บรรดาเจ้าหน้าที่ประสงค์สงเคราะห์ ทุกท่าน เป็นอย่างยิ่ง รวมถึงพ่อ
บ้านด้วย โดยฉะเพราะ แม่บ้านกับพี่เลี้ยงที่ดูแลเรื่อยมา ไม่ว่าสุขทุกข์
ยามที่ป่วย ก็ท่านแหละ ได้กำลังใจ ก็ท่านแหละครับ รวมถึงคำสั่งสอน
ต่างๆ ที่ต้องคอยเก็ษมาคิดอยู่ตลอดเวลา เพราะคำสั่งสอนของท่าน
ที่คอยเตือนใจอยู่ตลอดเวลา มีอยู่คำหนึ่งที่ท่านจะพูด อยู่บ่อยๆ
(ขออนุญาติใช้คำโบราญ) โตขึ้นมึง จะเป็นอะไรกูไม่ว่า แต่มึงต้อง
เป็นคนดีในสังคม แค่นี้กูพอใจแล้ว เป็นประโยคคำที่จำใส่ใจได้ดี และ
ตัวผมเองก็ทำได้

ขอบคุณ
บุคคลภายนอกทุกท่านที่เข้ามาให้ความรู้ต่างๆ โดยไม่คิดค่าจ้างใดๆ
แถมยังมีน้ำใจให้แก่พวกผมอีกต่างหาก ไม่ว่าจะเป็นศิลป์ปิน ดารา
นักร้อง ครูสอนภาษอังกฤษ คุณหมอ คุณตำรวจ และ พระสงฆ์
นักศึกษา (มหาวิลัยต่างๆ)ต้องขอบคุณทุกท่านเหล่านี้
เป็นอย่างมากครับ

และที่ขาดไม่ได้เลยต้องขอบคุณเป็นอย่างสูง กับเจ้าของประโยควลีคำนี้มาก สำนึกรักบ้านเกิด เพราะประโยคนี้ก็เป็นแรงใจ ในการตั้งซื้อหนังสือ เล่มนี้ขึ้นมาได้ สถานสงเคราะห์ บ้านเกิดผม หากไม่มีประโยคนี้ ตัวผมเอง ก็ไม่รู้จะตั้งซื้อหนังสืออะไรดี ขอบคุณมากครับ

คำนำ
p>

ลูกชิ้น เล็ก


ฝากคุณผู้อ่านติดชมด้วยครับและคอยติดตาม ในเรื่องต่อๆไปนะครับ




 

Create Date : 16 กรกฎาคม 2553
2 comments
Last Update : 20 กรกฎาคม 2553 17:09:46 น.
Counter : 659 Pageviews.

 

อ่านแล้วสะท้้อนสะท้านใจในอีกมุมหนึ่งของคนที่ไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดพ่อแม่หรือพี่น้อง คิดว่าพวกท่านคงมีเหตุผลที่จะปล่อยให้ลูกเป็นกำพร้าอาจจะเกิดจากปัจจัยหลายด้าน ๆของคนที่เป็นพ่อแม่ แต่มันอยู่ที่ใจ คนจะเป็นคนดีได้ อยู่ในสังคมใหญ่นี้ได้อย่างคนที่มีคุณค่า ความคิดอ่านของคนมีการศึกษา และพร้อมจะเป็นคนดีของสังคม แค่นี้น่าภาคภูมิใจแล้วจ๊ะ เห็นเด็กบางคนที่มีพ่อแม่มีฐานะในด้านการเงิน อยู่ในโรงเรียนที่ดี แต่จิตสำนึกสู้เด็กที่มาจากฐานะยากจนแต่การเรียนดีแม้อยู่โรงรียนที่ไม่มีชื่อ พูดจาไพเราะ อ่อนน้อมถ่อมตน ดีกว่าเด็กที่เพียบพร้อมแต่ไม่เคยคิดว่าตัวเองมีฐานที่ดีกว่าคนอื่นในทุก ๆ ด้าน ปล่อยให้จิตใจตกอยู่ในทาสของยาเสพติด ฯลฯ คิดแล้วน่าเหนื่อยใจ

 

โดย: ป้าใหญ่ IP: 58.8.64.162 20 กรกฎาคม 2553 12:40:01 น.  

 

อ่านแล้วรู้สึกดีมากเอาใจช่วยนะคะ คุณสามารถที่จะอยู่ในสังคมได้โดยที่ไม่ต้องอายใครเพราะคุณเป็นคนดีค่ะ
ตอนนี้ทางเรากำลังอยากช่วยเหลือเด็กกำพร้ากำลังมองหาแถวภาคอีสานหน่ะค่ะพอจะแนะนำได้มั๊ยคะ 0831790749โทรมาเบอร์นี้นะคะ จะขอบคุณมากค่ะ

 

โดย: มน IP: 124.122.139.18 8 กันยายน 2553 16:15:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ชูคอม
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ชูคอม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.