กระต่ายน้อยมิ้น เด็กรุ่นใหม่ ที่พิเศษได้ใจจริงๆ
จากที่ได้รู้จักน้องมิ้นตั้งแต่สัมผัสเพียงแค่สิ่งที่รับรู้ผ่านจอโทรทัศน์ มาเป็นพบเจอตัวจริง... ได้รับรู้สิ่งที่น้องมิ้นคิดผ่านตัวหนังสือใน Internet ผ่านการพูดคุย และเห็นในสิ่งที่น้องมิ้นแสดงออก ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยความสุขอย่างหนึ่งในชีวิตช่วงนี้จริงๆ แต่..วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วเสมอ ในยามที่เรามีความสุข ยิ่งสุขมาก... ก็ยิ่งผ่านไปเร็วเหลือเกิน มีเรื่องราวที่อยากเขียนเกี่ยวกับน้องมิ้นอยู่หลายเรื่อง แต่ความเร่งรีบในชีวิตช่วงนี้ ก็ทำให้ห่างหายการบันทึกเกี่ยวกับน้องมิ้นไป ทั้งที่นับวันมีเรื่องราวของน้องมิ้น ที่อยากบันทึกไว้ โดยเฉพาะ ณ เวลาที่เกิดความรู้สึกที่เป็นสุขที่ได้รับรู้เรื่องราวเล่านั้น
ชีวิิตการทำงานประจำวันของตัวเองจริงๆแล้วก็ต้องเจอกับเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับน้องมิ้นทุกวัน แต่จะหาเด็กที่มีความพิเศษในตัวเองดีๆที่ประทับใจเหมือนน้องมิ้นดูจะหาไม่ค่อยได้ง่ายๆนัก ไม่ใช่ว่าเด็กๆที่ดูแลอยู่ไม่ดีนะคะ ทุกคนก็มีข้อดีของตัวเองในแต่ละด้านแตกต่างกันไป และข้อบกพร่อง ส่วนหนึ่งก็ต้องเป็นหน้าที่ที่เราที่จะช่วยกันพัฒนา แต่กว่าเด็กๆเหล่านี้จะผ่านเข้ามาแสวงหาความรู้เพื่อพัฒนาปัญญาของตัวเองในระดับนี้ พื้นฐานที่สำคัญที่จะเอื้อให้เกิดการพัฒนาต่อยอดต่อไปนั้น ไม่ได้รับการส่งเสริมให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นระบบคิด การใช้สติ ใช้ปัญญา ที่สำคัญที่ขาดมากคือการพัฒนาพื้นฐานทางด้านจิตใจ
จำได้ว่าเคยคุยกับน้องมิ้นเกี่ยวกับมุมมองการศึกษาในมหาวิทยาลัย ตอนนั้นน้องมิ้นเรียนไปได้ประมาณสักครึ่งเทอมแล้วมั้งค่ะ น้องมิ้นเปรียบเทียบการเรียนรู้ในระดับมัธยมกับมหาวิทยาลัยได้แตกต่างกันชัดเจนค่ะ และรู้ตัวเองว่า หากใช้วิธีการเรียนช่วงเรียนมัธยมมาเรียนในมหาวิทยาลัย คงไม่ประสบผลสำเร็จในการแสวงหาความรู้แน่นอน สิ่งที่น้องมิ้นบอกกล่าวถึงความคิดหลายอย่างในวันนั้น จะเรียกว่า Learning Style ก็ได้ค่ะ เพราะหากเราเข้าใจตัวเองว่ามีความถนัดในการเรียนรู้แบบไหน และเลือกที่จะใช้รูปแบบการเรียนรู้นั้นมาใช้กับตัวเอง เราจะมีความสุขกับการเรียนมากค่ะ ซึ่งส่วนนี้บางคนกว่าจะรู้และเข้าใจก็เรียนผ่านมาจนจบโดยที่ไม่รู้ก็มี ดีใจค่ะที่น้องมิ้นเข้าใจเรื่องนี้ได้ด้วยตัวเอง
น้องมิ้นเป็นคนที่ละเอียดอ่อน อ่อนไหว (Sensitive) กับเรื่องราวที่มากระทบได้ง่าย แต่สิ่งที่ดีของน้องมิ้นก็คือ เมื่อเกิดความทุกข์ กังวลใจ เสียใจ หรือ ผิดหวัง และเมื่อผ่านจุดนั้นมาไม่นาน แค่เพียงชั่วคืน น้องมิ้นจะมีวิธีการอธิบายกับตัวเองและคนอื่นให้คลายกังวลไปได้ด้วยดีเสมอ น้องมิ้นใช้วิธีคิดอย่างเป็นระบบอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเป็นเหตุ เป็นผล และใช้มุมมองเชิงบวก ทำให้จิตใจสบายขึ้นได้จริงๆ ผู้ใหญ่อย่างเราๆ กว่าจะพัฒนาและควบคุมจิตของตัวเองให้ได้แบบนี้ ก็ใช้เวลานานนับหลายปีทีเดียว
น้องมิ้นมักมีเรื่องราวหลายสิ่งที่ทำให้ อึ้ง ไปพร้อมๆ ปลื้มใจ จนทำให้กล้าบอกว่า น้องมิ้น เป็นเด็กรุ่นใหม่ที่พิเศษ ในใจจริงๆนะคะ ขออนุญาตเล่าถึงเรื่องนี้นะคะ
การเข้าเรียนที่ไม่ตรงเวลาของนักศึกษาไทย เป็นเรื่องที่ต้องยอมรับว่านักศึกษายุคนี้ขาดวินัยเกี่ยวกับเวลามากกว่าแต่ก่อนมาก และเมื่อไต่ถามถึงสาเหตุของการมาสาย ก็มักมีเรื่องราว (ข้ออ้าง) ตั้งแต่ ฝนตก รถติด ไม่สบาย ตื่นสาย ของหาย หา sheet ไม่เจอ ทานอาหารเช้าไม่ทัน ฯลฯ สารพันจะเป็นเหตุ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เหตุเลยสักอย่าง แต่มีนักศึกษาคนหนึ่งกล้าที่จะยอมรับสารภาพสาเหตุของการมาสายบ่อยครั้ง ด้วยหลักของสาเหตุในทางพุทธจริงๆค่ะ
เหตุเกิดใน class วิชาที่ต้องเรียนตั้งแต่ 8 โมงเช้า ก่อนหน้านั้น 1 อาทิตย์ อาจารย์ได้เตือนนักศึกษาที่มาสายไว้แล้วว่า อาทิตย์ต่อไปขอให้มาทันเวลาเรียนด้วย แต่จังหวะหรือโชคร้ายก็ไม่รู้นะคะ วันนั้นเป็นวันที่ฝนตกหนักทั้งคืน ต่อเนื่องมาจนถึงเช้า และมีนักศึกษามาสายมากกว่าทุกครั้ง อาจารย์ก็เลยให้นักศึกษาที่มาสายเขียนเหตุผลของการมาสายในวันนี้ และอาจารย์นำมาอ่านให้ฟังหน้าห้องทีละเหตุผล ก็อย่างที่บอกไว้ว่า เหตุผลก็วนเวียนอยู่กับปัจจัยสิ่งแวดล้อมเดิมๆ แต่มีคำตอบอยู่ใบหนึ่งค่ะ เขียนเหตุผลของการมาสายในทำนองนี้ค่ะ... Because I am not responsible I will not be late for class, I promise.
จริงๆก็คงมีหลายคนที่รู้ถึงเหตุผลที่แท้จริงในข้อนี้ แต่จะมีใครสักกี่คนกล้ายอมรับค่ะ เชื่อว่าคนที่เขียนทราบดีค่ะว่า ในภาษาอังกฤษ I promise นั้นศักดิ์สิทธิในการใช้แค่ไหน แล้วจะไม่ให้ทั้ง อึ้ง ทั้ง ปลื้มใจ กับเด็กดีที่น่ารักคนนี้ได้ไงค่ะ...
ครม.หลายคนคงได้ดูใน True MoMint ล่าสุดนี่แล้วนะคะ น้องมิ้นก็กล้าที่จะยอมรับความผิดพลาดในการบริหารเวลาของตัวเอง ที่เอาเวลาว่างในบางครั้งไปเล่นเกมส์ เล่น hi5 จนทำให้ต้องเหน็ดเหนื่อยกับการตะลุยเตรียมตัวอ่านหนังสืออย่างหนักแบบนี้ จะว่าไปแล้วเรื่องติดเกมส์ หรือใช้ Internet มากเกินเวลาพักผ่อนนั้น หลายคนก็คงผ่านช่วงนั้นมาเหมือนกัน หรือไม่ตอนนี้บางคนก็ยังคงเป็นอยู่จริงมั้ยค่ะ (ที่แน่ๆ ก็โพรงกระต่ายน้อยมิ้น ใน pantip นี่ล่ะคะ วันไหนไม่ได้เข้าเหมือนชีวิตขาดอะไรไปสักอย่าง ^ ^) จะว่าไปแล้วตัวเองก็เคยติดเกมส์ประเภท Stimulation มาก่อนเหมือนกัน เคยเล่น SimCity สร้างเมืองมหานคร กับ Roller Coster สร้างสวนสนุก วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ไม่ไปไหนเลย 2 วันเต็มๆ และถึงแม้เดี๋ยวนี้งานมากมายจนเรื่องเกมส์นี่พับไปเลย แต่ก็ยังผ่อนคลายกับการเปิด Spider Solitaire ทุกวัน นั่งคิดงานไม่ออก ก็เปิดประจำ ตั้ง level Difficult:Four Suits ไว้ ท้าทายดีค่ะ ^ ^ ดีใจค่ะที่น้องมิ้นกล้าที่จะเล่าให้ฟัง เพราะถ้าไม่บอก ก็ไม่มีใครรู้ อาจเป็นเพราะเมื่อน้องมิ้นเห็น ครม. ทุ่มเทกำลังใจส่งให้น้องในช่วงสอบ ด้วยจิตสำนึกที่ดีๆ มี หิริ-โอตตัปปะของน้องมิ้น จึงนำไปสู่แก้ไขข้อบกพร่องของตัวเอง ชื่นชมจริงๆนะคะเด็กสมบูรณ์...
แล้วแบบนี้จะไม่ให้หลงรัก ปลื้มอก ปลื้มใจกับ กระต่ายน้อยมิ้น เด็กรุ่นใหม่ ที่พิเศษได้ใจ คนนี้ได้ไงใช่มั้ยค่ะ
Create Date : 02 ตุลาคม 2550 |
Last Update : 3 ตุลาคม 2550 5:59:33 น. |
|
1 comments
|
Counter : 641 Pageviews. |
|
|
กับเรื่องที่น้องมิ้นติดเกมส์ ก็เหมือนกับเด็กทั่วๆไปในวัยเดียวกัน แต่เมื่อน้องมิ้นคิดได้เอง และแบ่งเวลาได้เป็น การที่ออกมายอมรับก็ถือว่าดี และจะได้เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้องๆด้วยค่ะ
ก็น้องมิ้นเป็นเด็กที่มีความคิดดีอย่างนี้แล้วจะไม่ให้รักได้ยังไงล่ะคะ