เคาะปอด - - ดูดเสมหะ ครั้งแรกและน่าจะเป็นครั้งสุดท้าย
ไปเจอคุณแม่ๆ ที่ห้องชานเรือนถามเรื่องเสียงครืดคราดในอกของน้องมา เลยเอาเรื่องนี้มาลงให้นะคะ ..
ตอนใบบัวเด็กๆ เสมหะเยอะมาก ครืดคราดตลอด ..
แล้วมีอยู่ช่วงหนึ่ง.. ตอนอายุเกือบๆ ขวบเวลาใบบัวไอแล้วจะพาลดึงเอาเสมหะ/เสลดที่อยู่ ข้างในอกขึ้นมาพันคอ .. ทำให้หายใจไม่ออก
ครั้งแรกใบบัวหน้าเขียวๆ กลั้น ๆ ไปเลย .. ครั้งแรกเลยต้องกลั้นใจล้วงคอให้อ๊วก .. แล้วก็อ๊วกออกมา เลยค่อยยังชั่ว .. แต่ร้องลั่น คงเพราะตกใจ เพราะเราก็กลัวเหมือนกัน ..
พอหลังจากนั้น.. พอใบบัวไอมากๆ ก็จะลากเสมหะขึ้นมาอีก .. เป็นอยู่เดือนกว่า ..เราคิดว่าช่วงนั้นเป็นช่วงระวังภัยที่สุดเลย
พอไอปุ๊บ จะออกอาการหายใจไม่ค่อยออก กลั้น ปากเม้มปิดตลอด พอเราเห็นทีก็ตัวเย็นเลย.. เรียกว่า" เย็นตั้งแต่หัวถึงเท้าเลย " พอใบบัวอาการออกว่าจะหายใจไม่ออก เราก็เตรียมล้วงคอเลย ..
พอตอนหลังคิดว่ามันเรื้อรังเกินไป .. พอใบบัวจะไอทีไรก็ต้องระวัง.. ว่าเสมหะจะขึ้นมาพันคอแล้วจะหายใจไม่ออกทุกที .. เลยตัดสินใจไป รพ.เอกชนค่ะ ..
พอคุยกับคุณหมอ.. คุณหมอเลยถามว่า .. ลองเคาะปอดแล้วดูดเสมหะเลยไหมคะ .. ถ้าน้องเสมหะเยอะต้องดูด 3 ครั้ง วันละครั้ง จะไป-กลับ หรือ แอดมิทก็ได้ค่ะ ..
เราเลยตัดสินใจแอดมิท
ตอนเคาะปอด.. พยาบาลจะให้แม่อยู่ด้วยค่ะ แล้วเคาะที่อกกับหลัง.. หรือบางทีก็ให้แม่เคาะเอง ประมาณครึ่งชม.
พอถึงเวลาดูด.. พยาบาลจะให้แม่รออยู่ข้างนอกค่ะ .. ซึ่งเวลาดูดคุณหมอจะดูแลเองและต้องให้อ๊อกซิเย่นกันไว้ด้วยค่ะ
พอถึงเวลาจริงใบบัวร้องลั่นเลยค่ะ .. ขนาดเพิ่งหัดพูด ยัง " แม่จ๋า" ชัดมาก " แม่ช่วยด้วย " .. เราอยากจะหนีไปไกลๆ เลยไม่อยากได้ยินเสียงใบบัวร้อง แต่ก็ห่วง เลยได้แต่ยืนร้องไห้ สงสารใบบัวอยู่นอกห้อง ..
ระหว่างที่ดูดฯ ใกล้จะเสร็จแล้ว.. คุณหมอก็ให้พยาบาล มาเชิญ( ถ้า รพ.รัฐน่าว่าคุณหมอให้มาตาม ^^ ) ไปรอทีห้องคุณหมอก่อน (อยู่ติดกับห้องที่ใบบัวอยู่ )ค่ะ
พ่อใบบัวก็เรียกๆๆ "" เรายังไม่อยากไปเพระกลัวจะร้องไห้ให้คุณหมอเห็น ..เพราะคนเป็นแม่ต้องเข้มแข็ง ( แต่พ่อใบบัวเอาเที่ยวเอาไปพูดว่า .. " เราโกรธหมอจนไม่อยากคุยด้วย " .. เราเลยโกรธพ่อใบบัวทีนี้ .. ขอสักทีได้ไหม ไอ้การคิดเองเออเอง แล้วเอาไปพูดเนี่ย.. เราก็เข้าใจอ้ะว่าคุณหมอหวังดี .. แต่เราไมใอยากน้ำตาไหลต่อหน้าคุณหมอ..ก็เท่านั้นเอง ( เพราะคนเป็นแม่ต้องเข้มแข็งมากๆ ค่ะ ) )
พอดูดเสมหะเสร็จ.. คุณหมอก็ให้เข้าไปดู.. แล้วคุณหมอก็เอากระปุกที่ดูดเสมหะมาให้ดู มีเสมหะ 100 cc. น้ำ 200c. ( น้ำจะเติมเข้าไปค่ะ แล้วค่อยดูดกลับออกมา ) แต่ที่จำฝังใจคือ .. จะมีเลือดๆ ปนออกมาด้วย แต่ไม่มาก
คุณหมอบอกว่า .. 100 c. ค่อนข้างเยอะ .. แต่ของวันนี้เป็นอันจบค่ะ ต้องรอดูว่าเช้าต่อมาจะยังครืดคราดอีกมากหรือเปล่า เพราะอาจจะต้องดูดฯ ต่อ ( หมอบอกปกติ อาจต้องดูด 3 หนค่ะ)
พอตอนเช้า .. คุณหมอมาตรวจให้อีกรอบ ( เพื่อดูว่าจะต้องดูดฯ อีกหรือเปล่า ) ปรากฏว่าผลเป็นที่น่าพอใจค่ะ ไม่ครืดคราดมาด เลยไม่ต้องดูดซ้ำ.. กลับบ้านได้
แต่ ปล. คุณหมอใจดีมากค่ะ .. ตอนมาตรวจน้องตอนดึก สังเกตุเห็นว่าเรา ฟึดฟัดๆ คุณหมอเลยถามว่าราไม่สบายหรือเปล่า .. แล้ว ขอตรวจ + สั่งยาให้เสร็จสรรพ รวมบัญชีพี่บัวไปด้วย หุ..หุ..หุ
พอกลับบ้านประกันรับผิดชอบหมดค่ะ .. สบายใจและสบายกระเป๋า
ปล. 2. ใบบัวเคาะปอดตอนเกือบๆ ขวบหรือขวบนิดๆ ไม่แน่ใจ .. แต่หลานชายเป็นโรคหัวใจตั้งแต่กำเนิดโดนตอน 6 เดือน ค่ะ
Create Date : 16 พฤษภาคม 2553 |
|
11 comments |
Last Update : 16 พฤษภาคม 2553 9:14:53 น. |
Counter : 19957 Pageviews. |
|
|
|
ทราบว่าทรมาน แต่ไม่มีทางไหนที่จะดีกว่านี้ในการที่จะเอาเสมหะออก
เพราะถ้าไม่ออก นั่นหมายถึงการเข้าไปแทนที่ออกซิเจน อาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้เลย
เห็นใจค่ะ