Bloggang.com : หนูน้อยไฮโซจิบไวน์ชายหาดทะเลดำ :

ติเพื่อก่อ ตอน 4 คุณแม่สุดเปรี้ยว....เล็ด คัมแบ็ก

สวัสดีกัลยาณมิตรที่กำลังรอคอยเจ้อยู่ทุกท่าน เป็นอันว่าพอจะทราบกันดีแล้วว่าถ้ามีอะไรเด็ดดวงเมื่อไหร่ เจ้ตุ๋ยจะโผล่ศีรษะมาในบัดดล ฉบับนี้ช้าหน่อยเพราะติดงาน หยุดยาวไป 4 วัน งานเลยยุ่งเป็นพิเศษ ปลีกตัวมาเขียนด่าไม่ได้เลย ทั้งๆ ที่คันไม้คันมือสุดชีวิต กัลยาณมิตรบางท่านก็ส่งข้อความมาด่าแถมเร่งยิกๆ แหม รอหน่อยสิคะ เจ้ก็ต้องทำมาหากินนะคุณ

วัตถุประสงค์แต่แรกเริ่มเดิมทีนั้น เจ้เขียนด่าครึ่งนึง แอบมีสาระอีกครึ่งนึง แต่ไม่รู้เป็นอะไรสิน่าโดนอุ้มมันทุกกระทู้ แถมเวลาที่กระทู้ถูกลบดันเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ทางพันทิบปิดปรับปรุงระบบทุกที โทรไปถามทางพันทิบก็ไม่ได้รับการแก้ไขเพราะมันหายสาบสูญไปเสียแล้ว ตอนนี้เจ้เลยเปลี่ยนแนวใหม่ อย่าไปเขียนมันเลยสาระ ไหนๆ ก็ต้องโดนอุ้มอยู่แล้ว ด่าอย่างเดียวเลยดีกว่า

แต่คราวนี้ขอขู่ไว้หน่อยนะจ๊ะ เพราะเจ้จะไม่ยอมอีกแล้ว ทันทีที่ทราบว่ากระทู้โดนลบ เจ้จะโทรไปถามทางพันทิบทันที หากเป็นตัวการเดิมๆ ละก็ได้สนุกกันแน่

อ้างอิงถึงฉบับปฐมฤกษ์ของเจ้ (ใครไม่เคยอ่าน ตามไปอ่านในบล็อกนะ) ตอนที่เหล่ากลุ่มก้อนแชทต่างๆ ถูกขอร้องให้แยกตัวออกไปสร้างห้องแชทต่างหากเพราะมันสร้างมลภาวะแก่หน้าหลัก ก็ได้กลุ่มคุณแม่สุดเปรี้ยวเยี่.วเล็ดทั้งหลายออกมาร้องแรกแหกกระเชอ ตีอกชกหัวตัวเองร่ำไห้ปานจะขาดใจ บ้างก็พร่ำบ่นว่าโดนไล่ที่ ฯลฯ หลังจากนั้นชนกลุ่มนี้ก็ได้แต่สิงอยู่ห้องแชทของตัวเอง ต่อไปนี้จะขอเรียกว่าเผ่าอุ้มป้ารุมป้า (เป็นญาติห่างๆ กับเผ่าอูมปา-ลูมป้าส์ ใน Charlie and The Chocolate Factory) แต่สัปดาห์ที่แล้วพวกเธอยกทัพกลับมาแล้ว กลับมาอย่างองอาจเพราะเผ่าของเธอใหญ่ขึ้นกว่าเดิม แถมไร้สำนึกมากกว่าเดิมเสียอีก ดังที่เราได้เห็นกันอยู่ เหตุเพราะแกนนำในเผ่าคนหนึ่งอ้างว่าถูกตัวอิจฉาใส่ร้าย ส่วนเหตุการณ์บานปลายอย่างไร ตอนจบเป็นอย่างไรนั้น ทุกคนไปติดตามเอาเอง เจ้เองก็ยังไม่ทราบ ยังไม่มีเวลาอ่านจนจบ ได้แต่ฟังเรื่องย่อมาจากคนอื่นอีกที

จริงๆ เจ้ก็จำพวกอุ้มป้ารุมป้าไม่ได้หรอกว่าพวกเธอเป็นใครหนอ พวกเธอมาจากไหน แต่ลักษณะนิสัยของแต่ละคนมันช่างดูคุ้นเคยราวกับเหตุการณ์เดจาวูเสียจริง เจ้ไปดูกระทู้เก่าๆ ถึงได้นึกออกว่าพวกหล่อนเป็นใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณแม่ปากตลาดคัมแบ็กที่ช่างกล้าพ่นคำผรุสวาทได้แม้ในกระทู้สาธารณะ เจ้ละเหี่ยใจอย่างบอกไม่ถูก เอาเป็นว่าเราอย่าไปสอนอะไรเธอเลยนะ อีก 5-10 ปีข้างหน้า เธอกลับมาย้อนดูข้อความที่เธอพิมพ์ไว้ เธออาจจะสำเนียกได้เองในตอนนั้น

คุณแม่ปากตลาดคัมแบ็กตกม้าตายไป ก็ยังอุตส่าห์ส่งไม้ให้ผลัด 2 แม่คุณเอ๊ย ไม่คิดจะตักเตือนกันบ้างหรือไงเนี่ย เจ้เชื่อว่าเผ่าอุ้มป้ารุมป้าต้องมีคนที่มีความคิดปกติอยู่บ้างแหละ แต่อาจจะไม่กล้าสะกิด เกรงจะถูกขับออกจากเผ่า

และก็ดังที่เจ้เคยว่าไว้ ความอยากดังไม่เคยปราณีใคร ทำให้หลายต่อหลายคนอยากดังแบบไม่ปรึกษาเพื่อน ไม่เตี๊ยมกันก่อน โชว์เดี่ยวเลย กะเกิดคนเดียวเต็มๆ ว่างั้นเถอะ ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก สมาชิกในแก๊งเพิ่งจะฆ่าตัวตายไปเมื่อไม่กี่อาทิตย์ ดันมาเจริญรอยตามแบบเสียนี่ เจ้ก็คิดไม่ถึงจริงๆ นะ ว่าคนเราจะทำไปได้ กรณีตัวอย่างก็มีให้เห็นมากมาย ยังจะมาซ้ำรอยแบบเดิมๆ อีก มุขก็มุขเดิมๆ เฮ้อ.....ดังๆ

ไอ้เรื่องอยากดังนี่มันเป็นภัยร้ายแรงจริงๆ บางคนผ่านประสบการณ์นี้มาแล้วแต่นิสัยก็ยังไม่เปลี่ยน ยังคงหาโอกาสฉกฉวยช่องว่างสร้างผลงานให้ตัวเองอยู่เป็นนิจ ขนาดเขาเข้าฉากฟาดปากกันอยู่ก็ยังอุตส่าห์มาขโมยซีนให้เด่นกว่า ถ้าเป็นพวกดารานี่โดนดักตบไปนานแล้ว เจ้ถามจริงๆ ว่าเป็นแผนที่เตี๊ยมกันมาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ หรืองานนี้คิดเองทำเองเดี่ยวๆ ไม่ปรึกษาใคร ยังไงมาถึงจุดนี้แล้ว ผู้คนให้อภัยแล้ว ก็หัดเรียนรู้จากความผิดพลาดครั้งเก่าก่อนเสียบ้างนะ อย่าให้มันเกิดขึ้นซ้ำสอง อ้อ.....แล้วก็เรื่องกาละเทศะอีก ปรับปรุงตรงนี้ได้จะดีมาก

พูดถึงเรื่องกาละเทศะ เท่าที่ดูจากหลายกระทู้เหมือนแม่ๆ บางท่านก็ไม่รู้จักกาละเทศะ บางกระทู้เขากำลังโพสเนื้อหาสาระอยู่ ยังไม่ทันเสร็จก็รีบร้อนมาโพสรูปลูกตัวเองแทรก เจ้เข้าใจว่าอยากโฆษณาลูก แต่รอให้เขาโพสให้เสร็จก่อนได้ไหม ดูจังหวะจะโคนหน่อย ไม่ใช่จ้องจะเสียบท่าเดียว บางคนยิ่งแล้วใหญ่ กระทู้คุยกันเรื่องบนเตียงแนวล่อแหลม ดันไปโพสรูปลูกในนั้น ลูกสาวเสียด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่าคิดอะไรอยู่ อยากจะสะกิดบอกก็ไม่กล้าเพราะไม่รู้ว่าใครนิสัยยังไง อีคิวสูงต่ำแค่ไหน เคยเห็นวีรกรรมการเหวี่ยงของกลุ่มอีโก้สูงมาแล้ว ใครตักใครเตือนอะไรไม่ได้เลย ด่ากราดกลับในทันที เข้าขั้นน่าสยดสยองเลยทีเดียว

วกกลับมาประเด็นร้อนล่าสุด หลังจากที่คนดังถูกอ้างว่าโดนใส่ร้าย ก็ร้อนถึงเหล่าแฟนขับที่รักต้องออกโรงปกป้อง ฉบับที่แล้วเพิ่งจะเขียนไปเรื่องแฟนขับมรณะ ไม่ได้อ่านกันบ้างหรือไง ถึงได้ไปชวนเหล่าแฟนขับพวกนี้มาช่วยขุดหลุมฝังตัวเอง งานนี้บอกตามตรง แฟนขับพาซวย ถึงจะสะดุดขาตกหลุมเอง แต่ได้แฟนขับมาช่วยกันขุดหลุมให้ลึกเข้าไปอีก ตะกายขึ้นมายากละคราวนี้

แต่งานนี้ต้องเรียกว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง เพราะเป็นกระทู้แห่งปีของพันทิบเลยนะเนี่ย มันจะเป็นตำนานที่ผู้คนกล่าวถึงไปอีกหลายปีทีเดียว ขอแสดงความยินดีกับเจ้าของเรื่องมา ณ โอกาสนี้

ไอ้เรื่องการรับประกันแทนเพื่อนนี่ก็เหมือนกัน หลายต่อหลายคนอินนักกับโลกออนไลน์ คนนี้อวยนิด คนนี้ยอหน่อยก็รีบร้อนถูกใจคบหากันประหนึ่งเพื่อนสนิทเลยทีเดียว ไอ้การที่คุยกันผ่านกระทู้ ผ่านโปรแกรมแชททั้งหลาย หรือไปพบปะกันเป็นครั้งคราว ไม่ได้หมายความว่าเราจะรู้จักนิสัยใจคอของอีกฝ่ายอย่างลึกซึ้งถึงขั้นต้องออกหน้ามารับแทนเมื่อเขาทำผิด หลักฐานแรกมันก็เห็นอยู่ทนโท่ ไม่จำเป็นเลยที่ต้องให้พันทิบมาแถลง ก็ยังจะออกมาร้องแรกแหกกระเชอแทนเพื่อน ถ้าเค้าไม่ผิด พวกหล่อนต้องมาขอโทษนะ ย้ำคิดย้ำทำอยู่ไม่รู้กี่ความเห็น แล้วเป็นไง พอได้รับการยืนยันพี่ก็หายหัวเงียบ ไม่ออกมาเรียกร้องให้เพื่อนที่หล่อนบอกว่ารู้จักดีประหนึ่งญาติสนิทมาขอโทษชาวบ้านบ้างละยะ

คุ้นๆ ว่ารายนี้จะเคยถามเจ้ว่าต้องการอะไรจากห้องนี้ เจ้ก็ต้องการให้แม่ๆ หันมาทำตัวให้สมเหตุสมผล เป็นตัวอย่างที่ดีแก่อนาคตของชาติไงจ๊ะ ตอนนี้เจ้ต้องถามหล่อนมากกว่ามั้งว่าต้องการอะไร เห็นมาโม้ในกระทู้เจ้ว่าเคยทำงานกับทางพันทิบ รู้จักคนนั้นคนนี้ดี หล่อนต้องการจะบอกอะไรเหรอ

เจ้ว่าเว็บบอร์ดนี้เขามีไว้ให้คนสอบถาม พูดคุย แลกเปลี่ยนทัศนคติกัน คนหลากหลายจะได้มองได้หลายๆ มุม แต่บางคนก็ดันจำกัดอยู่มุมเดียว ไม่เปิดหูเปิดตา เอาบอร์ดไว้สร้างภาพ ปลดปล่อยสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้ในชีวิตจริง เจ้ว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรกับใครนะ นอกจากเป็นพิษกับผู้อื่นแล้ว ยังทำให้ตัวเองขาดการพัฒนาด้วย

ขอวกมาเรื่องกระทู้สุดฮอตอีกหน่อยแล้วกัน ช่วงต้นๆ ที่เจ้ได้อ่านถึงตอนที่สงสัยเบาะแสแรก เจ้ก็นั่งอ่านไปเกร็งไป ตายแน่แล้วอีหนูเอ๋ย ไม่รู้เลยหรือว่าไปแอบสงสัยใคร อ่านแล้วหวาดผวาแทนเมื่อนึกถึงสภาพศพของขาจรชุดเก่าๆ เจ้เลยไม่กล้าอ่านต่อ โชคดีที่ได้รับทราบว่ามีกลุ่มผู้เรียกร้องสิทธิอมยิ้มมาช่วยไว้ได้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นอีหนูเตรียมฝังกลบได้เลย ริอ่านมาสงสัยนางฟ้าหน้าเด้งแม้จะอยู่ท่ามกลางฝนไล่ช้างอย่างนี้ได้ไง หล่อนไม่รู้หรือว่าเธอเป็นแม่พระแห่งชานเรือนเชียวนะ

ไอ้แนวคิดที่ว่า คนที่ศีลเสมอกันย่อมคุยกันถูกคอ อันนี้เจ้ว่าจริงแท้อย่างที่สุด เจ้ไม่แปลกใจเลยว่าชนกลุ่มนี้เขาถูกคอกันดี ตอนนี้ดับไปแล้ว 2 เรามาคอยจับตากันดูสิว่า ใครจะเป็นรายต่อไป เจ้ได้แต่หวังว่าคงจะไม่มีอีกแล้วนะ บทเรียนจาก 2 กรณีนี้ อ่านแล้วได้แง่คิดตรงไหนก็เอาไปปรับใช้ด้วย ถ้ามองไม่เห็นว่ามีแง่คิดอะไรบ้าง ส่งข้อความมาบอกเจ้ได้ ฉบับหน้าเจ้จะสาธยายให้

และพวกที่ชอบเบ่งว่าห้องนี้พวกชั้น พวกแกหน้าใหม่ เป็นเจ้าของห้องกันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย พวกหล่อนไม่เคยเป็นหน้าใหม่สำหรับห้องนี้เหรอ ใครไม่คุ้นหน้านี่ทักกันจัง ถามจริงๆ มีสมุดจดไว้เลยหรือเปล่าว่า ชื่อไหนเคยเล่นห้องนี้ ชื่อไหนไม่เคยเล่น ทีหลังก็อย่าลืมฉี่ไว้ตามมุมห้องด้วยล่ะ ถ้าใครแปลกหน้าเข้ามาก็กัดได้เลย

เวลามีปัญหารุมสกรัมกัน ถ้าไม่ได้คนหน้าใหม่ที่เขามีตรรกะเหมือนผู้เหมือนคนมาช่วยตบให้อยู่ในประเด็น ชานเรือนมันจะสมดุลย์เหรอ เพราะคนส่วนใหญ่ในชานเรือนที่เรียกตัวเองว่าขาประจำเนี่ย มักจะเอียงไปข้างใดข้างหนึ่งอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู แถมมีตรรกะแปลกๆ อย่างเช่น โกหกไม่ผิดถ้าไม่ทำให้ใครเดือดร้อน, อมยิ้มคุ้นหน้าทำผิดต้องให้อภัย เขาไม่ได้ไปฆ่าใครตายนะ แต่อมยิ้มหน้าใหม่ทำผิดต้องช่วยกันยำให้จมตีนคนอื่นจะได้ไม่เอาเป็นเยี่ยง อย่างนี้มันเรียกศาลเตี้ยแล้ว

เจ้หวังใจว่า กลุ่มชนประเภทที่เจ้กล่าวถึงทั้งหมด จะค่อยๆ หายไปจากชานเรือนนะ ไม่ได้หมายความว่าอย่ามาเล่นอีก แต่อยากให้พวกคุณปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเท่านั้นเอง (เจ้ละกลัวจริงๆ พวกที่อ่านแล้วจับประเด็นไม่ได้เนี่ย คนที่รำคาญขอให้เข้าใจเจ้หน่อยนะ ว่าทำไมเจ้ต้องคอยอธิบายยาวๆ เหมือนคนปัญญาอ่อน)

ไอ้นิสัยชอบโทษคนอื่น หาแพะมารับผิดแทนตัวเองเนี่ย มันคล้ายๆ ว่าจะเป็นนิสัยประจำชาติของคนไทยบางส่วนเลยทีเดียว เจ้มาคิดๆ ดูว่ามันเกิดจากการสั่งสอนแบบผิดๆ ของบางครอบครัวนะ บางคนปลูกฝังนิสัยแบบนี้ให้ลูกโดยที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ตัว อย่างเวลาเด็กหกล้ม ก็บอกพื้นมันไม่ดีทำลูกชั้นเจ็บ วิ่งชนโต๊ะก็โต๊ะมันไม่ดีมาขวางทาง พอลูกเข้าสู่วัยรุ่นเข้ากลุ่มเพื่อน เกเรหรือติดยาก็โทษว่า เพื่อนมันไม่ดีพาลูกเสียคน เด็กพวกนี้พอโตขึ้นเป็นพ่อแม่คนก็จะมีทัศนคติแบบนี้ติดตัว พอมีลูกก็สอนลูกในแบบเดียวกัน วนเป็นวัฎจักรเสื่อมๆ ที่บางทีพวกเขาเหล่านี้ก็ไม่เคยรู้ตัวเอง

ใครเข้าข่ายนี้ อ่านเจ้แล้วปรับเปลี่ยนความประพฤติกันเสียแต่เนิ่นๆ สำหรับตัวเราอาจจะสายไปแล้ว แต่เริ่มได้ที่ลูกของเรา เด็กหกล้มก็โอ๋ แล้วสอนว่าถ้าเดินไม่ระวังก็จะเจ็บตัว โต๊ะมันไม่ได้ขวางลูกแต่เป็นลูกที่เดินไปชนเอง อะไรอย่างนี้ พอลูกโตกว่านี้ ถ้ามีปัญหาอะไร อย่าโทษคนอื่น พยายามหาสาเหตุที่เกิดจากตัวเรา

ตอนนี้เจ้เห็นว่า น่าจะบอกลากันเสียทีสำหรับภาพลักษณ์เก่าๆ ของชาวชานเรือน ประเภทพาลูกมาเล่นที่สนามเด็กเล่น ส่วนแม่ๆ ก็นั่งคุยกันพลางถอนหญ้ากินไปพลางๆ (ขอโทษนะ เจ้ไม่ได้เหมาว่าทุกคน แต่คนที่แสดงออกบางส่วนมันเป็นแบบนี้) หวังว่าภาพเหล่านี้คงจะหมดไปพร้อมกับดราม่าชุดลาบหมูเด้งนะ

ส่วนใครจะบอกว่าเจ้ชอบเหยียบคนอื่นให้จมดิน ก็รำลึกถึงพฤติกรรมของพวกหล่อนด้วยเถอะ
อย่า...อย่า อย่ามาบอกว่าหล่อนไม่เคยทำ ถ้าไม่ใช่พวกหล่อน เจ้เคยเห็นพวกหล่อนทำยิ่งกว่าเจ้อีกนะ รุมแบบไร้สติด้วย อย่าให้สาธยายเลย ทีเจ้สะกิดเตือนด้วยความประสงค์ดี กลับมาหาว่าเหยียบให้จมตีน เฮ้อ คนเรา

คนพวกนี้มือถือสากปากถือศีล พอพวกตัวเองมีเรื่องก็อ้างบาปอ้างบุญ แต่พอมีคนอื่นเข้ามาโดยเฉพาะอมยิ้มหน้าใหม่ ก็แห่กันไปจับผิดเขาในทันที ขอโทษแล้วก็ไม่พอนะ พวกหล่อนจะรุมทึ้งจนสะใจ ขนาดที่ว่ามีคนแต่งนิยายมาให้อ่าน ยั้ง.....ยัง ยังอุตส่าห์ไปจับผิด

บางคนก็ย้ำคิดย้ำทำ ถามซ้ำถามซาก คอยแต่จะจ้องจับผิดเจ้อยู่ได้ว่ามีกี่ล็อกอิน เจ้ก็บอกไปเป็นรอบที่ 3 แล้วว่า มีอันเดียวนี่แหละจ๊ะ ก็ยังจะย้ำถามข้อนี้อยู่อีก ทำไมถึงคิดว่าต้องมีหลายๆ ล็อกอินด้วยละจ๊ะ หรือว่าตัวเองเป็นแบบนั้น โถ แม่คุณจ้องคอยจะจับผิดกันอยู่ได้ จิตใจทำด้วยอะไร ระวังบาปกรรมตามสนองเน้อ

อันตัวเจ้นี้ มีล็อกอินเดียวจริงๆ จ้ะ เอาไว้เปิดหูเปิดตาเล่นหลายๆ ห้อง เจ้ว่าดีกว่ามีล็อกอินหลายๆ อันเอาไว้เล่นห้องเดียวนะจ๊ะ ฮิ ฮิ (ใครคิดประโยคนี้ขึ้นมา เจ้ขออนุญาตยืมมาใช้หน่อยนะคะ)

สำหรับผู้ที่ต้องการ แสดงออกถึงความรักที่มีต่อเจ้ สามารถเลือกกระทำได้โดย

ชอบจัง กด 1

ชอบมาก กด 2

รักเลย กด 3

โคตรเกลียด กดปิด

ส่วนใครจะแสดงความเห็นว่าอย่างไรนั้น สามารถทำได้เต็มที่ ไม่ต้องเกรงใจกัน กระทู้เจ้เปิดกว้างสำหรับทุกความคิดเห็น
อยากระบายอะไรก็ตามสบาย แต่อย่ายาวนักเพราะเจ้จะไม่อ่าน

เจ้ตุ๋ยรักทุกคนค่ะ

Create Date : 06 สิงหาคม 2553

0 comments

Last Update : 6 สิงหาคม 2553 12:41:24 น.

Counter : 1962 Pageviews.