้้ ๛IV-Believe In Yourself-IX๛
คะแนนสอบ ll บทเรียนราคาแพงที่ต้องยอมรับ

หลังจากมิดเทอมไป พร้อมกับความโล่งใจเพียงไม่นาน ความสุขผ่านไป ในช่วงเสาร์ อาทิตย์ จันทร์ ที่โรงเรียนหยุดให้
( ม.6 สอบวันจันทร์เพิ่มมา)
ความทุกข์ใหม่ก็เข้ามาแทนการสอบในสัปดาห์ก่อนที่จบไปแล้ว

จริงๆ มันก็เป็นเรื่องที่ผมควรจะต้องยอมรับมัน ในเมื่อทั้งหมดที่ผ่านมา เป็นเรื่องที่ผมเลือกที่จะทำทั้งสิ้น ผมอ้างไม่ได้ว่า การไปทำงานที่สุราษฎ์ก่อนสอบทั้งสัปดาห์ ทำให้ทำข้อสอบได้ไม่ดี ในเมื่อเพื่อนหมด ได้คะแนนดีกว่าผมในหลายๆ วิชา ทั้งที่ไปด้วยกัน

เคมีเป็นวิชาแรกที่ผมทราบคะแนน 14.5 จาก 20 แต้ม อ.ปัดให้เป็น 15 ก็ดูโอเคนะ แต่คะแนนเพื่อนๆที่ตามมา (ผมเลื่อนจากเลขที่ 2 เป็นหนึ่ง เนื่องจากเลขที่ 1 ไปซิ่วเตรียม)
แต่ละคนผ่าน 80% ทั้งนั้นเลย


นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเ่ท่านั้น
- เลขหลักตามมาชวนให้อบอุ่นใจเล็กน้อยด้วยคะแนน 17/20 แต่ขอโทษครับ เพื่อนๆ 19-20/20 -*-
- แล้วเลขเสริมตามมาหลอกหลอนด้วย 13/20 จริงๆผมควรจะได้ 14 นะ ถ้า 8 ของผม ไม่เป็น 2 ยกกำลัง 4 ซะ -*-
- ฟิสิกส์ หลังจากที่รู้ตัวว่าผิดโง่ๆเยอะมาก 14/20
- อังกิดเสริม ทำไมยากกว่าปีก่อนฟะ 12.5/20
- ดาราสาด นี่ถ้าได้อ่านคู่มือไอเอ๋มัน น่าจะได้มากกว่านี้ มีอย่างที่ไหน มีหน้าึนึงจาก 7ข้อ มันออก 5 -*- เก็บได้ 45/60

ทั้งหมดนี้ยังพอจะรับได้ แต่เมื่อวานกะวันนี้นี่น่ะสิ
- ชีวะ ผมว่าผมทำได้นา ถึงจะตกรูปภาพไปบางส่วน หลังจากที่อ.สาธยายซะยืดยาว ถึงแนวทางการวัดผลและประเมินผลของแก อ.บอกว่าถ้าวัดผลอย่างเดียวแบบที่อ.ท่านอื่นๆทำกัน จะมีแต่คนได้ 9 ไม่มีใครได้ 10 เต็ม ผลที่ออกมาสำหรับผม
6 -*- เต็ม 10 ตามด้วยโจ้ 5 เต็ม 10 เล่นเอาเพื่อนคนอื่นเริ่มใจไม่ดีแล้ว แต่หลังจากนัน้ เอ๋ 8.5/10 แล้วคะแนนก็อยู่ประมาณนั้นแหละ
แล้วอ.ก้อบอกชื่อคนที่เขียนคำตอบบรรยายไม่ได้เรื่องต้องปรับปรุงมา
แล้วผมก็ไม่ผิดหวัง สมกับคะแนน 6/10 ที่ได้มา มีชื่อผมด้วย -*-

ตามมาด้วยที่ย่ำแย่กว่านั้น อังกิด หลังจากที่ทำผิดไปช่วงนึง ประกอบกับพื้นฐานอันยวบยาบของผม อันเป็นผลมาจากการไม่ตั้งใจในตอนม.ต้น ทั้งๆที่ นี้เป็นวิชาที่ผมตั้งใจอ่านที่สุด ตลอดช่วงการสอบนี้ ผมช่วยกันติวเรื่อง infitive กับไอเอ๋ เป็นชั่วโมงเลย นี้อ่านมากสุดแล้วนะเนี่ย -*- ตกลงออกสี่ข้อ

เฮ้อ เครียด แล้วไอที่ผิดทั้งดุ้น อ.ให้เรื่องมาเรื่องนึงแล้วเป็นช่องไว้ที่กริยา แล้วให้คำไว้ด้านหลัง แล้วที่คำสั่งก็มีเขียนว่า past simple past perfect แล้วก็อีกหลาย tense เลย แล้วที่คำตอบ อ.ก็ให้เติมคำ ไอผมก็นึกว่าอ.จะให้เอาไปใส่ว่าที่เว้นไว่้เป็น tense อะไร ผมก็ใส่ past sim past con อะไรไปเต็มหมด ที่ไหนได้ อ.ให้เติมกริยาที่เปลี่ยนไปตาม tense แล้ว -*- เฮ้อ ตกลง เต็ม 60 ได้มา 37
- แล้วสังคม หลินบอกคะแนน "เลขที่ 2 ได้ 16 " ในใจเราก็คิด เฮ้อ โอเค ได้ 80% อีกซักตัว แล้วหลินก็พูดต่อ "เต็ม 30" ช๊อกเรยคับ เกือบตก ได้ไงฟะ
แต่หลังจากนั้น ซุปกะหมัด ได้ท๊อปที่ 23 แต้ม... ค่อนข้างจะเหนือความคาดหมายพอๆกับชีวะเลย -*-

ผมค่อนข้างจะเครียดกับคะแนนที่ออกมา ผมรู้ว่าเพราะอะไร ผมรู้สึกเหนื่อยในช่วงปลาย ๆ เพราะตอนปิดเทอมทำงานตลอด แต่นั่นต้องไม่เป็นข้ออ้างสำหรับผม เอ๋ก็ทำงานกนร.หนักกว่าผมอีก แล้วก็ไม่ได้เรียนพิเศษ แต่ทำไมคะแนนที่ออกมา ถึงแตกต่าง...



ผมรู้ว่าคะแนนเทอมนี้ อาจจะ่ค่อนข้างลำบากที่จะรักษาเลข 4 ไว้ ถ้าหากไม่ทุ่มเทกว่านี้ ถ้าผมยังเล่นเอม เปิดคอมเกือบทุกวัน
ผมเคยคิดอยู่เสมอว่าทำงานจนไม่ค่อยจะได้อ่านหนังสือ แต่จริงๆแล้วเราเองต่างหากที่มัวแต่เอาเวลาไปทำอะไรอยู่...

คะแนนคราวนี้ ผมจะเก็บไว้เป็นบทเรียน ความรู้สึกที่ต้องมองเพื่อนๆดีใจกับคะแนนที่ได้ตามเป้าหมาย แต่ผมกลับต้องทนเจ็บปวดกับความผิดหวังกับคะแนนที่ออกมา ทั้งๆที่รู้อยู่ว่าตัวเองทำได้ไม่ดีพอ แต่พอเห็นคนอื่นได้คะแนนดีๆกันหลายๆคน ก็ทำให้ผมรู้สึกตกต่ำลงไปไม่น้อยเลยทีเดียว

จากนี้ไปผมจะต้องวิ่งแล้ว ผมเดินทอดน่องมานานพอแล้ว สำหรับครึ่งเทอมที่ผ่านมา ผมไม่อาจะหยุด แล้วพักได้ เพราะนั่นจะทำให้ผมมีแต่จะถอยหลัง ผมต้องวิ่ง ถึงเหนื่อยแค่ไหน ก็จะต้องวิ่ง ให้ถึงเส้นชัยแล้วค่อยพัก ผมเลือกที่จะทำกิจกรรม ผมบอกว่าอยากทำกิจกรรม อยากเหนื่อย นี่ก็ได้เหนื่อยสมใจแล้วไง ? ผมบอกกับตัวเองอย่างนี้ทุกครั้ง ที่รู้สึกอยากจะวางมือจากงานที่ทำ ในเมื่อผมเป็นคนเลือกเอง เลือกที่จะทำสิ่งเหล่านี้ ไปพร้อมกับการเีรียนด้วย

ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราเลือกแล้ว ในเมื่อเราตัดสินใจเลือกมันไปแล้ว
เรื่องบางเรื่องที่เราเลือกไป อาจจะตัดสินใจใหม่ได้
แต่เรื่องบางเรื่อง เราไม่อาจที่จะย้อนมาตัดสินใจใหม่ได้อีก

เราจะต้องทำสิ่งที่เราเลือกอย่างเต็มที่ อย่างมีสติ แม้ผลสุดท้ายจะออกมาดีหรือร้าย ก็จงภูมิใจเถอะว่า ที่ผ่านมา เราได้ทำเต็มที่แล้ว...







Create Date : 27 กรกฎาคม 2550
Last Update : 28 กรกฎาคม 2550 0:06:38 น. 3 comments
Counter : 706 Pageviews.

 
ไม่ได้เกรดสี่ ชีวิตมันจะเฮงซวยขนาดนั้นเลยเหรอค่ะ?

จริงเหรอค่ะ...

ตอนหวานเรียนม.ปลาย หวานไม่เคยหวังจะได้เกรดสี่เลย ก็จริงค่ะ ว่ายุคหวานไม่ได้มีแอดมิดชั่น ใช้เอนท์

แต่หวานจะบอกอะไรคุณคำหนึ่งนะคะ

ในโลกนี้ มันมีอะไรที่มากกว่านั้นค่ะ .. จริงๆ นะ ถ้าได้คะแนนน้อยกว่าเพื่อนคือแพ้ งั้นลองมองในมุมกลับสิค่ะ
ถ้าคุณได้ที่หนึ่ง มันก็มีเพื่อนแพ้อีกหลายคนเช่นกัน

โลกนี้ไม่ได้ต้องการคนได้ที่หนึ่งหรอกค่ะ เพราะ ถ้าโลกเป็นงั้นจริง โลกนี้ก็จะเต็มไปด้วยพวกขี้แพ้ โลกที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่ง โลกที่ทุกคนในโลกจะทำทุกๆ อย่างเพื่อที่จะชนะ โดยไม่สนใจความเป็นจริง เป็นโลกของคนขี้แพ้

สิ่งที่คุณทำ คุณได้ทำดีทีสุดแล้ว ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร บอกกับตัวเอง ว่าคุณทำดีที่สุดแล้ว อย่าโทษตัวเอง เพราะนอกจากจะทำให้ใจคุณตกต่ำ แล้ว มันยังดูสมเพช ไม่ก็น่าสงสาร .. ไม่ดีเลย ที่จะทำให้คุณเป็นอย่างนั้น

ไม่มีใครทำคุณตกต่ำได้เท่าตัวคุณเองนะ อย่าพูดแบบนั้นกับตัวเอง อ่านแล้วหวานตกใจ และ ยอมรับไม่ได้จริงๆ


โดย: หวานใจนายโหด วันที่: 27 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:44:29 น.  

 
แหะๆ มันก้อไม่ได้ตกต่ำขนาดนั้นหรอกคับ ก้อแค่เหนว่าตัวเองน่ะ เล่นเกินไปแล้วนะ หนังสือก้อไม่อ่าน ก่อนสอบก้ออ่านนิดๆหน่อยๆ
การได้สี่มาปีก่อน ก้อไม่มีคำไหนจะอธิบายไปได้ดีกว่า คำว่าฟลุ๊กแล้ว

ผมจะบอกกับตัวเองว่า ถ้ายังอยุ่แบบนี้ ก้อคงไม่ดี เราจะต้องแบ่งเวลาเล่นมาเรียนให้มากกว่านี้นิดนึง เพราะปกติเรียนเสด ผมก้อกลับบ้านหกโมงเย็นประจำ ไม่เล่นบอลก้อเล่นเกม

ขอบคุนสำหรับความคิดเห็นดีๆนะครับ แต่ผมไม่ซีเรียสขนาดนั้นนะครับ


โดย: winos วันที่: 28 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:11:11 น.  

 
ตอนสมัยเรียนนะ หวานมีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง

เขาเป็นคนดีของทุกๆ คน เป็นคนดีของอาจารย์ เป็นคนดีของพ่อแม่ และเป็นคนดีของเพื่อน

หวานรักผู้ชายคนนี้มากเลย แต่หวานไม่กล้าจะบอกออกไป เพราะหวานมันต่ำต้อยกว่าเขาหลายขุมนัก

เหตุผลเดียว ที่หวานไม่กล้ารักเขา ก็คือ เขาเป็นคนดี เขาสวยงามสง่า ดุจ พญาหงส์

จนวันหนึ่ง เขาไปเรียนมหาลัย ตอนม.ปลาย เขาจบด้วยเกรดสวยหรู ความประพฤติดีเยี่ยม เป็นนักเรียนดีเด่น เมื่อจบม.ปลาย ... แน่นอนว่าเขา ม. ดัง มันก็อยู่ไกล เขาก็เลยต้องจากสังคมเดิมๆ

มีอยู่ครั้งหนึ่ง หวานไปหาเขา แล้วถามเขาว่า มีความสุขดีไหม ? เขายิ้มให้หวาน ... ด้วยสายตาที่ไม่เหมือนเคย มันเหมือนมีบางอย่าง ที่หวานอ่านออกได้เพียงคนเดียว

ตอนนี้เขาไม่ใช่คนดีของพ่อแม่อีกต่อไปแล้ว บางคืน เขาก็ออกไปข้างนอก ดื่มเหล้า ปรี้หญิง เรียนก็ไม่ยอมเข้า เพราะเอาแต่นอนแฮงค์ เกรดเฉลี่ยก็ตกจนน่าตกใจ

หวานไม่ใช่คนเรียนเก่ง หวานจึงไม่เคยรู้สึกถึงเกรดสี่ว่ายิ่งใหญ่เพียงใด แต่หวานรู้ว่า ความสุขที่ยิ่งใหญ่และจะอยู่กับชั่วชีวิต คือ "การยอมรับตัวเอง"

ยอมรับสิ่งที่คุณเป็น ยอมรับสิ่งที่คุณทำ และทำมันให้สุดความรับผิดชอบความสามารถ แค่นั้น คุณมีหน้าที่แค่นั้น ไม่ได้มีหน้าที่ต้องมากังวล..มาวัดผล โอ้ย..แบบนั้น มันเกินไป

หวานไม่ได้บอกให้คุณหยุดพยายาม ไม่บอกว่าเข้าม.ดังแล้วจะเป็นคนอย่างนี้ แต่หวาน อยากให้คุณ .. ยอมรับ ในสิ่งที่ตัวเองค่ะ นะ ..

ถึงแม้ทุกวันนี้ เขาจะไม่ใช่คนดีในสายตาใครๆ ไม่อีกต่อไปแล้ว แต่สำหรับเขาคือเพื่อนแสนดี คนดีที่หวานรักตลอดไป ชาตินี้ หวานคงเอื้อไม่ถึง (ว่าไปนั้น 555)

คนดี คนเก่ง ไม่ใช่ให้คนอื่นมาวัดคุณ คุณต้องวัดตัวเองค่ะ เกรด คือ คะแนนความพยายาม ไม่ใช่คะแนนวัดความโง่ค่ะ ไม่ใช่ผลแพ้ชนะ อย่าคิดแบบนั้น

หวานว่ามันก็คงไม่ซีเรียสมั้ง ? หวานจะไปรู้ใจคุณได้ไงล๊า หวานก็วัดจากที่อ่าน ที่เห็นเท่านั้น แถมยังไม่เคยเห็นหน้ากันด้วยซ้ำอ่ะเน้อ

ขอบคุณที่ไปเยี่ยมบล๊อกหวานค่ะ เป็นปลื้มจริงๆ


โดย: หวานใจนายโหด วันที่: 28 กรกฎาคม 2550 เวลา:3:07:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

winos
Location :
สงขลา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




บล็อกนี้ ก็ไม่ได้ตกแต่งอะไรมาก หลักๆก็อยากจะหาเรื่องมาลง หรือมาเขียนไว้ให้ทุกคนได้อ่านกัน เหมือนกับพ๊อกเก็ตบุ๊กเล่มนึง นึกเรื่องไรได้ก็เขียนไปเรื่อยๆ

ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาเยี่ยมในบล๊อกนี้ครับ


สถิติเว็บไซต์

Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add winos's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.