Orientation Days (2)



27 September 2012

วันนี้เป็นวันซื้อมือถือและวันพบ Host Family ของเด็กแลกเปลี่ยนบางส่วนค่ะ (ของเราจะได้เจอโฮสต์ตั้งวันที่ 5 ตุลาแน่ะ ช้ามาก อิจฉาพวกเจอโฮสต์ตั้งแต่วันนี้ชะมัด ชริ!)

เมื่อวานตอนเย็นเราได้เพื่อนใหม่ในหอมาอีกสองคนผ่านการแนะนำจากพี่มิกกี้ คนแรกชื่อโซเฟีย เป็นคนไต้หวันแต่ไปเรียนป.ตรีที่อเมริกา และมาแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่นโครงการเดียวกับเรา ส่วนอีกคนชื่อแก้ว อายุเท่ากันกับเรา มาจากม.เกษตร เรียนโปรแกรม Regular ซึ่งใช้ภาษาญี่ปุ่นในการเรียน (เธอจึงกลายเป็นดิกชันนารีประจำกลุ่ม.. เวลาไปไหนมาไหนไม่ถูกก็ได้เธอนี่ล่ะ เป็นคนถามทาง สบายดีจัง โฮะๆๆ)

เราสี่คนออกจากหอไปมหาลัยตอนสิบเอ็ดโมงกว่าๆ ขึ้นโมโนเรลที่สถานียามาดะไปฮันไดเบียวอิน(โรงพยาบาลของมอโอซาก้า ตั้งอยู่ในแคมปัสเลยค่ะ อารมณ์เหมือนโรงพยาบาลธรรมศาสตร์มั้ง) จากนั้นก็เดินเท้าในมอมาอีกราวๆสิบกว่านาที(แน่นอนว่ามีการหลงทางเกิดขึ้นด้วย แต่คนแถวนั้นช่วยเราได้เสมอ ดังนั้นจงอย่าได้เครียดไป Smiley)

ที่บอกว่าเป็นวันซื้อมือถือ เพราะมหาลัยโอซาก้าทำสัญญากับ Soft Bank ค่ายมือถือหนึ่งในสามยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นให้มาขายมือถือให้เด็กในราคาถูก ค่ายมือถือใหญ่ๆที่นี่เท่าที่รู้จะมีอยู่สามค่ายค่ะ คือ Soft Bank, AU และ Docomo ซึ่งระบบมือถือในญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างเป็นระบบปิด ทำให้ไม่สามารถนำมือถือจากไทยมาใช้ได้ ต้องซื้อใหม่สถานเดียว ดังนั้นเมื่อเราได้ยินว่ามันมีมือถือราคาถูกขาย จะไม่มาดูได้ยังไงล่ะคะ จริงไหม??

พอเข้ามาในห้องขายมือถือพวกเราก็ตื่นตะลึงค่ะ มือถือมันลดเหลือ 0 เยนนนนน มีแบบสมาร์ทโฟนด้วยนะ แต่ซื้อที่นี่เค้าจะบังคับให้ทำสัญญาสองปี ถ้าเราจะออกนอกประเทศต้องยกเลิกสัญญาก่อน เสียเงินราวๆ 10000 เยน ตกราวๆสี่พันบาท ซึ่งเทียบกับมือถือที่เอามาโชว์แล้ว เราว่าคุ้มค่ะ

(ภาพตัวอย่างมือถือสมาร์ทโฟนที่ซอฟแบ้งค์เอามาขายจากกูเกิ้ลนะคะ)

ความจริงสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เค้าเอามาขายแปดสีค่ะ แต่สองสีนี้เราชอบที่สุด น่ารักดี อ้อ.. เป็นระบบ Android นะคะ

 แต่เราเลือกซื้อรุ่นนี้ สีนี้ค่ะ น่ารักมากกกก ชื่อก็กินขาดละ Honey BeeSmiley


(น่ารักใช่ม้าาาาSmiley)
รายละเอียดมือถือ

จริงๆมือถือที่ไม่ใช่สมาร์ทโฟนก็น่ารักค่ะ เป็นแบบฝาพับใหญ่ๆ สีลูกกวาดมาเลยทีเดียว แต่เนื่องจากเราคิดว่าไหนๆมันก็ลดเหลือศูนย์เยนแล้ว เลือกสมาร์ทโฟนไปเลยน่าจะคุ้มกว่า แถมรายเดือน(แบบตัดเน็ตออกไปแล้ว)ยังเยอะกว่าแบบธรรมดาแค่หกร้อยกว่าเยน เผลอๆอาจเอากลับมาใช้ในไทยต่อได้อีกต่างหากเพราะมี 3g ความถี่เดียวกับดีแทค Smiley

พี่มิกกี้และแก้วก็เลือกรุ่นเดียวกับเราค่ะ แต่เสียดายที่สีนี้เค้ามีโควต้ามาขายแค่สองเครื่อง และหญิงแก้วตัดสินใจเลือกช้ากว่าพี่มิกกี้และเรา เลยอด เธอเลยเลือกรุ่นเดียวกันสีดำไปแทน ดูเท่ไปอีกแบบ


จากนั้นเราก็รอบรรดาเพื่อนๆไปพบโฮสต์ค่ะ(อย่างที่บอกว่าเราได้คิวตั้งวันที่ ๕ แน่ะ อิจฉาเพื่อนๆจัง Smiley) พอเกือบบ่ายสี่พวกเราก็เดินทางไปยูโฉะ(ไปรษณีย์+ธนาคาร)ในมหาลัย เพราะเราจะไปจ่ายเงินค่าประกันสุขภาพอีกหมื่นกว่าเยนที่มหาลัยบังคับทำ หลังจากนั้นก็เดินทางกลับไปหอค่ะ คราวนี้เราทดลองเดินกลับด้วยรถไฟธรรมดาบ้าง ต้องไปขึ้นรถที่สถานีคิตะเซ็นรินอกมอ แล้วนั่งรถไปลงที่สถานีมินามิเซ็นริซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของหอค่ะ เป็นสถานีถัดจากยามาดะมานั่นเอง

(เอาแผนที่มาให้ดูอีกรอบ เผื่อจะลืม ว่าหอเราตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างสถานียามาดะกับมินามิเซ็นริเลย)

(ตรงแถวๆการ์เดนมอลล์นั่นล่ะค่ะ มีสถานีมินามิเซ็นริตั้งอยู่ อาคารมันเชื่อมต่อกันค่ะ)


แต่หลังจากตระหนักได้ว่าเรานั่งรถไฟโคตรจะบ่อย จะกดตั๋วทุกรอบก็เสียเวลาไปมากโขอยู่ พี่มิกกี้กับแก้วเลยชวนให้เราทำบัตรรถไฟคันไซค่ะ คล้ายๆบัตรบีทีเอสแบบเติมเงินบ้านเราแหละ แต่ว่าใช้แล้วทิ้ง ไม่มีการสมัครสมาชิกใดๆทั้งสิ้น เติมเงินซื้อเอาอย่างเดียว ถ้าเงินในบัตรหมดก็ต้องทำใหม่ ตั๋วมีสองราคาคือพันเยนกับสองพันเยน เราเลือกทำแบบสองพันเยนค่ะ

(หน้าตาบัตรค่ะ คำอธิบายก็ตามภาษาอังกฤษที่เราพิมพ์บอกไว้เลย คือพอจะขึ้นรถไฟ เครื่องตรวจตั๋วก็จะพิมพ์รายละเอียดลงไปในบัตรก่อนเข้าไปในสถานี และพอจะออก เครื่องตรวจตั๋วก็จะพิมพ์ชื่อสถานีปลายทางพร้อมจำนวนเงินที่เหลือในบัตรให้อีกทีนึงน่ะค่ะ)


พอถึงสถานีมินามิเซ็นริ เรา พี่มิกกี้และแก้ว ก็ปิ๊งไอเดียทำอาหารด้วยกันขึ้นมาค่ะ จุดประสงค์คือจะได้แชร์ค่าอาหารและได้ทานอาหารไทย พวกเรา(รวมโซเฟียด้วยนะ)ก็เลยแวะช้อปปิ้งที่การ์เดนมอลล์ข้างสถานีมินามิเซ็นริก่อนกลับบ้าน และเดินกลับบ้านด้วยกันโดยเดินตัดผ่านสวนสาธารณะมินามิเซ็นริตามแผนที่ด้านบนค่ะ


(สวนสวยมากค่ะ บรรยากาศดี มีคนมาออกกำลังกายทุกวัน นางแบบในรูปนี้คือแก้วค่ะ ได้รับอนุญาตให้ลงรูปจากเจ้าตัวแล้ว เธอบอกว่าถ้าคุณแม่มาอ่านจะได้เห็นว่าเธอมีความสุขดี และกล้ามขึ้นเป็นมัดๆเนื่องจากการแบกของ(ฮ่าๆ))


ในสวนจะมีบ่อน้ำใหญ่บ่อนึงค่ะ คุณลุงคนนี้กำลังนั่งทอดหุ่ยชมวิวริมน้ำอยู่


สามสาวขี้เกียจรอเราเลยเดินนำไปข้างหน้า เพราะเรามัวแต่ถ่ายรูปนี่ล่ะ แต่พวกนางเดินนำไปได้ไม่นานหรอก เพราะไม่เคยเดินทางนี้ คนนำทางคือเราค่ะ อิอิ Smiley


มื้อค่ำวันนี้ค่ะ แกงเผ็ดที่ทำไปทำมากลายเป็นแกงส้ม Smiley
ฝีมือของเราสามคน(ความจริงพีมิกกี้เป็นเชฟ มีเรากับแก้วเป็นลูกมือ ฮ่าๆ)

ปิดท้ายด้วยเพลงนี้ละกันค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราค่อยเล่าเหตุการณ์ในวันปฐมนิเทศวันสุดท้ายต่อ แต่ตอนนี้ดึกมากแล้ว แถมเรายังมีนัดกับพี่ต.ไปพบพี่คนไทยคนอื่นวันพรุ่งนี้อีก ดังนั้น.. โอยาสุมินะไซทุกท่านที่หลงเข้ามาอ่านนะคะ (ท่านแม่ด้วยนะ...) ฝันดีค่ะ Smiley








Create Date : 30 กันยายน 2555
Last Update : 30 กันยายน 2555 1:01:02 น.
Counter : 1125 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แมวกับพระจันทร์
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]



New Comments