Story of Kabukill
ท่องเที่ยวเกาะช้าง By TooktaALL2

         และแล้วก็มาถึงบทสรุปของทริปเกาะช้าง By TooktaALL แล้วนะครับ (ตุ๊กตา)
         ก่อนอื่นต้องขออภัยทุกๆท่านก่อนเลย ช่วงที่ผ่านมางานยุ่งมากๆ จึงไม่ได้มีเวลาเขียนบทความให้เสร็จ วันนี้แหละครับ เสร็จแน่นอน

         ความเดิมหลังจากที่ผมได้พักที่แหลมสิงห์ one คืนแล้ว เช้าขึ้นมา ผมก็เข้าตัวเมืองตราด เพื่อจะลงเรือ Ferries ข้ามไปยังเกาะช้าง วันนั้น thirteen เมษายน 2555 เป็นวันที่ทางจังหวัดปิดถนนกลางเมืองเพื่อให้ทางประชาชนเล่นสาดน้ำกัน ทำให้รถติดพอสมควร (ตุ๊กตา)
       เมื่อผมขับรถผ่านออกมาได้ก็ตรงไปท่าเรือ Ferriesบอกตามตรงผมไม่ทราบเส้นทางเลย แล้วทำอย่างไร ก็อาศัยดูป้ายตามทางที่บอก ทำให้ผมได้เข้ามาซื้อบัตรข้ามฝากไป – กลับ โดยเป็นท่าเรือของเอกชน ราคาข้ามฝาก ไป – กลับ ค่าพาหนะ one hundred sixty บาท ส่วนคนคิดคนละ a hundred บาท ระยะเวลาการเดินทางใช้เวลาประมาณ thirty นาทีก็ถึง





ภาพบรรยากาศที่ท่าเรือ Ferries ซึ่งกำลังนำรถยนต์ขึ้นเรือ

        บนเรือ Ferries ลมพัดเย็นสบาย ถึงแม้ว่าอากาศร้อน บรรยากาศขณะนั้น ถือว่าไม่เคยได้พบมาก่อน เพราะผมและคนรู้ใจไม่เคยพบประสบการณ์อย่างนี้มาก่อน เมื่อมาถึงเกาะช้าง ก็ได้ติดต่อทางรีสอร์ทที่ได้ซื้อแพคเกจไว้และได้บอกทางมาทางรีสอร์ทแต่ทว่า ผมก็ได้ขับรถหลงทาง แต่ไม่เป็นไร เพราะทางบนเกาะช้างก็มีอยู่แค่ไปทางซ้าย หรือทางขวา


บรรยากาศ ณ รีสอร์ท แห่งหนึ่ง (ไม่ขอระบุชื่อ เกรงว่าจะเป็นการโฆษณา)

        เมื่อมาถึงรีสอร์ทก็เป็นเวลาเกือบๆ บ่าย three โมงเย็น ซึ่งเป็นเวลาที่ทริปแรกของวันแรก คือ ทางรีสอร์ทจะพาไปเที่ยววันสงกราน์ตที่หาดทรายขาว แต่ทว่าผมกับคิดว่าจะไม่ไปเพราะเวลากระชั้นชิดและไม่อยากให้ผู้ร่วมทริปท่านอื่นรอคอย(ทั้งๆที่ไม่เคยพบหรือรู้จักกันมาก่อน) เมื่อเวลาผ่านไปจนถึง vi โมงเย็น ก็เป็นเวลาที่ทานอาหารเมื้อแรก ตรงนี้แหละจะเป็นจุดรวมของผู้ร่วมทริปครั้งนี้มาพบเจอกัน และได้ทำความรู้จักกันเป็นครั้งแรก

          ลืมบรรยายบรรยากาศของรีสอร์ทไป สภาพทั่วไปถือว่า ใช้ได้ เป็นการตกแต่งร่วมสมัย ปลูกบ้านเป็นหลังๆ หลังละ ชั้น a pair of และแบ่งย่อยได้ประมาณ four ห้อง ในขนาด 4x4 เมตรหน้าจะได้ ห้องน้ำในตัว ทั้งหมดหน้าจะมีห้องรวมทั้งสิ้น twenty ห้องเล็ก และ one หลังห้องใหญ่ (ที่ว่าเป็นห้องใหญ่เพราะ จะมี one หลัง ที่ไม่แบ่งซอยห้องเล็ก แต่ผู้พักต้องเหมาทั้งหลังเลย เหมาะมาเป็นครอบครัวใหญ่) มีทรายหาดให้เล่นกีฬา ประมาณ one สนามบอลเล่ล์บอล มีที่อาบแดด และมีตั๋งไว้ให้นอนเล่น ที่ยื่นออกไปในทะเล มีเรือให้พายด้วย แต่ไม่มีหาดทรายให้เล่นน้ำ สามารถเล่นน้ำได้แต่บริเวณนั้นจะเป็นหินเสียส่วนใหญ่
          ครั้นเมื่อถึงเวลา vi โมงเย็น ผมและผู้ร่วมทริปก็เดินขึ้นไปยังห้องอาหาร ต่างคนก็จะถูกระบุบให้นั่ง ณ โต๊ะตรงที่ทางรีสอร์ทจัดไว้ให้ ผมและคู่ผมก็ได้นั่งโต๊ะที่ผู้ร่วมทริปมาเป็นคู่ ซึ่งมีอยู่โต๊ะเดียว นอกนั้นเขามาเป็นครอบครัวหมด ประมาณ four คนขึ้นไป โต๊ะผมนั้งทั้งหมด three คู่ vi คน ตรงนี้เองที่ได้รู้จักเพื่อนใหม่ ซึ่งตลอดทั้งทริปนี้ เรา vi คน ก็ไปไหนไปด้วยกัน นั่งไหนนั่งกัน กลายเป็นคนสนิทกันไปเลย คู่ ที่ one จะเป็นคุ่ของผม คุ่ที่ a pair of เป็น a pair of สาว จาก กทม. ที่หนีจากทริปกระบี่ เพราะก่อนหน้าสงกราน์ตมีแผ่นดินไหว ทุกๆคนจึงกลัว ซึนามิ จึงได้ย้ายมาเที่ยวที่เกาะช้างนี้ คู่ที่ three เป็นคู่รักหญิง-ชาย จากปักร์ใต้ ที่อยู่ห่างกัน คือ ชาย ทำงานที่ใต้ ส่วน หญิงทำงานที่ กทม. หลังจากที่ทานอาหารกันอิ่มหมดแล้วทุกคนก็แยกย้ายกันกลับห้องแล้วนอนพักผ่อน จบวันที่ one 
          ณ เกาะช้างวันที่ 2 เช้าตรู่ ก็ตื่นมารับประทานอาหารเช้ากันทุกๆคน ในวันนี้ทางรีสอร์ทจะนำลูกทัวร์ไปดำน้ำ ชมปะการัง four เกาะ คือ เกาะยัค เกาะโล้น เกาะทองหลางและเกาะรัง เมื่อกองทัพทั้งหลายอิ่มท้องแล้ว นักรบทุกท่านก็พร้อมออกศึก ทางคณะได้ใช้เวลาเดินทางจากที่พัก ไปยังอ่าวสลักเพชร ใช้เวลาเดินทางประมาณ one ชม. ฝนก็ตกปรอยๆมาตลอดทาง (ในใจคิดว่าจะออกทะเลดีไหม) แต่ทางหัวหน้าทริป บอกว่าไม่ต้องห่วง ฝนตกนิดเดียวแล้วก็ผ่านไป เพราะดูจากฟ้าและเมฆ ทำให้เราใจชื้นขึ้นเยอะเลย เพราะเขาเป็นคนพื้นที่ 
          และแล้วก็มาถึงอ่าวสลักเพชร ทุกท่านได้ลำเรียงขึ้นเรือ เซ็ตของผมที่มาเป็นคู่ๆ ตกลงจะนั่งหัวเรือเลย เรื่องแดดไม่มีกลัวอยู่แล้ว มาเที่ยวจะกลัวทำไม ใช่ไหมครับแผ่นที่รอบๆเกาะช้างในตอนเดินทางโดยเรือเพื่อที่จะไปจุดหมายของทริปนี้ ทางหัวหน้ารีสอร์ท ได้บอกขอเปลี่ยนจุดดำน้ำ โดยจะไปที่เกาะรัง เกาะหมาก เกาะหวาย และเกาะเหลายา แทน เพราะนักท่องเที่ยวเยอะมาก ซึ่งผมก็ไม่ทราบว่าเกาะนั้น เกาะนี้อยู่ตรงไหนบ้าง จึงไม่ปฏิเสธ ได้แต่ตามเขาไป 
          ผ่านไปสักครู่หนึ่ง ก็มาถึงจุดแรกที่จะดำน้ำคือเกาะรัง ก่อนที่จะลงดำน้ำโดยใช้สน๊อคเกิ้ล ทางหัวหน้ารีสอร์ท ก็สอนวิธีใช้ ผมนั้นเคยใช้มาแล้ว แต่คนอื่นๆมิทราบได้ (ตุ๊กตา)



สน๊อคเกิ้ล ที่ใช้ดำน้ำดูปะการัง

          เมื่อทุกอย่างพร้อม คนพร้อม อุปกรณ์พร้อม ต่างคนก็ทะยอยลงน้ำ ผู้ที่ว่ายน้ำไม่เป็นจะมีลูกเรือพาว่าย โดยให้เกาะโฟมใหญ่ๆแล้วก็จะลากไป เซ็ตผมมีผม หนุ่ม-สาว ชาวใต้ที่ว่ายน้ำเป็น แฟนผมว่ายน้ำเป็นแต่ไม่ค่อยแข็ง ส่วน a pair of สาวจาก กทม. ว่ายน้ำไม่เป็นเลย แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ผมก็ได้เป็นครูจำเป็นในการสอนการใช้ สน๊อคเกิ้ล ต่อผู้ร่วมทริปต่างๆ เพราะในเวลาลงน้ำจริงๆจะมีปัจจัยหลายอย่างที่นอกเหนือจากทฤษฏี ซึ่งลูกเรือไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง ดังนั้นผมจึงช่วยดูและสอนการใช้ต่างๆให้ ก็มีความสนุกไปอีกแบบ (ตุ๊กตาน่ารัก)

          แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น ก่อนที่ผมจะลงดูปะการัง ผมได้มองลงไปที่จุดดูปะการัง เหมือนในหนังเรื่อง ไททานิค เลย เพราะคนลอยอยู่บนน้ำเยอะแยะไปหมด ดังรูป





          คนเยอะมากๆ เพราะตรงกับวันสงกรานต์เมื่อทางรีสอร์ทได้นำพานักท่องเที่ยวทั้งหลาย ดู ชมปะการังกันแล้ว ครั้งถึงเวลาที่กองทัพต้องเดินด้วยท้องแล้ว แต่เพราะนักท่องเที่ยวรายอื่นๆเยอะ ทำให้เกิดความล่าช้าในการรับประทานอาหารกลางวัน ซึ่งทุกๆคนได้รับประทานในเวลา บ่าย 3 โมง ผมสังเกตุผู้ร่วมทริปนี้ ทุกคนแสดงอาการหิวเป็นอย่างมาก จากนั้นทางเรือก็พาไปเที่ยวตามจุดต่างๆ ตามที่ได้บอกไว้ล่วงหน้า ซึ่งก็สวยไปอีกแบบครับที่เกาะเหลายา เป็นเกาะปิด เพราะทางเจ้าของเป็นเอกชน แต่ท่านอณุเคราะห์ให้มาเที่ยวได้บางส่วน สวยครับและสะอาดด้วยขากลับ ผมได้บอกกับหัวหน้าทริปว่า ช่วยจอดแวะซื้อทุเรียน ตรงทางกลับรีสอร์ทให้ด้วย เพราะมีคนบอกว่าที่เกาะช้างนี้ทุเรียนอร่อย แล้วก็ไม่ผิดหวัง ทุเรียนหมอนทองอร่อยจริงๆ หวานมัน แข็งนิดๆ อ่อนข้างใน 
         ซึ่งในตอนกลับนี้เอง ทุกๆคนต่างหิวกันสุดๆ เพราะทางรีสอร์ทบอกว่าจะมีอาหารทะเล ปิ้ง-ย่าง รวมทั้งอาหารอื่นๆมีไม่อั้น พอเอาเข้าจริง ไม่เป็นดังนั้น อาหารทะเลมีแค่ตามจำนวนหัว(คน) มี กุ้ง หมึก หัวละ 2 ชิ้น ทำให้นักท่องเที่ยวต่างๆพากันผิดหวังกันจริงๆ ประกอปกับวันนี้ทั้งวัน เพลียกันสุดๆ โดนแดดเผาก็เยอะ ทำให้เมื่อทานอาหารเย็นเสร็จก็แยกย้ายกันเข้านอน 

          เช้ามา วันสุดท้ายค่อยว่ากันใหม่วันที่ three วันสุดท้าย ทางรีสอร์ทจะนำพาไปไหว้ศาลเจ้าพ่อเกาะช้าง ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเกาะช้าง ซึ่งจะไปหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว และเมื่อหลังไปไหว้ศาลเจ้าพ่อเกาะช้างเสร็จแล้วทุกคนก็จะแยกย้ายกันกลับบ้าน โดยเวลานั้นเซ็ตของผมต่างก็แลกเปลี่ยนเบอรืโทรศัทพ์ E-Mail ต่างๆ เพื่อติดต่อกัน ถือว่าได้เพื่อนใหม่ แล้วสู่โลกของการท่องเที่ยวในประเทศไทยต่อไป 
          เป็นอันจบการท่องเที่ยวของทริปนี้ แต่ยังครับ ผมยังเที่ยวต่อ โดยได้พักต่ออีก one คืน ซึ่งผมได้ขับรถเที่ยวไปเรื่อยๆ จากท้ายเกาะ ไปอีกฝั่งหนึ่ง สิ่งที่ผมเห็นแล้ว เข้าใจเป็นอย่างหนึ่งคือ ทางหาดทราบขาว และหาดไก่แบ้ ล้วนมีแต่รีสอร์ทของเอกชนอยู่เต็มไปหมด เหตุผลเพราะมีชายหาดให้นักท่องเที่ยวเล่นน้ำได้ ถ้ามิใช่นักท่องเที่ยวที่มาพักของรีสอร์ทหรือโรงแรมนั้น ทางพนักงานของเขาจะไม่ให้เข้าไปเล่นบริเวณชายหาดของเขา ซึ่งผมเห็นแล้วก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ 
          ส่วนอีกทางหนึ่ง ทางสลักเพชร มีแต่บ้านชาวบ้าน ต้นไม่ใบหญ้า ซึ่งเป็นเหมือนห่างไกลความเจริญ แต่ความรู้สึกผมกลับว่าเป็นที่ๆน่าอยู่ เพราะชาวบ้านมีน้ำใจ ผมถามทาง พวกเขาก็แย่งกันบอก(ใช้คำว่าแย่งเลยนะครับ) ดูแล้วมีความสุขคืนนั้น ผมก็ซื้อตั๋วไปตกหมึก ซึ่งเสียดาย เป็นวันที่ไม่ดี หมึกไม่มีเลย ปลาก็ไม่มี แต่มีผู้ชำนาญทางการตกปลา เขาตักปลาได้ one ตัว แล้วลูกหมึกอีก one ตัว ถือว่าคืนนี้ไม่ได้กินไข่ต้ม 
         เช้ามาผมก็ข้ามเรือกลับแผ่นดินใหญ่เป็นอันจบทริปเกาะช้าง By TooktaALL โดยสมบูรณ์...สิ่งไหนที่ผมผิดหวัง ผมก็จะทิ้งลงทะเลไป ซึ่งไหนที่ประทับใจ ก็จะนำติดตัวกลับมา (ไม่ใช่วัตถุนะครับ) เป็นความรู้สึก ดีๆที่ไปเที่ยวกับคู่รัก ความรู้สึกดีๆต่อบรรยากาศ สถานที่ท่องเที่ยวและเพื่อนใหม่ๆ...



          แล้วก็กลับท่าเรืออีกครั้ง คนและรถเยอะมากๆเป็นอย่างไรบ้างครับ กับการผจญภัยของผม ในทริป ท่องเที่ยวเกาะช้าง By TooktaALL หวังว่าคงจะเพลิดเพลินหรือนำไปเป็นตัวอย่างในการเที่ยวของท่านๆได้นะครับ


เครดิต    //www.tooktaall.com



Create Date : 15 มิถุนายน 2555
Last Update : 15 มิถุนายน 2555 14:49:38 น. 1 comments
Counter : 2018 Pageviews.

 
น้ำสีสวยมากมากค่ะ


โดย: pps_n วันที่: 16 มิถุนายน 2555 เวลา:12:39:45 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kabukill
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ตุ๊กตา ตุ๊กตาน่ารัก
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kabukill's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.