ต่อเนื่องจากบทความที่แล้วคราวนี้ก็มาถึงการเลือกโปรให้เด็กๆ เราควรจะเลือกโปรแบบไหนจึงจะเหมาะสมกับการเริ่มต้น โดยหลักๆก็มักจะแตกออกเป็นสองความคิด คือ

1. เรียนไปก่อนเถอะ เรียนที่ไหน กับใครก็เหมือนๆ กันเด็กตัวแค่นี้ ไว้เอาจริง ค่อยว่ากันก็ล่ะกัน

2.เน้นคุณภาพและประสบการณ์ของโปรผู้สอนตั้งแต่เริ่ม จากประสบการณ์จริงที่เราพบในโรงเรียนนั้นมีเด็กๆ หลายคนที่ในครั้งแรกเริ่มต้นด้วยเหตุผลที่หนึ่งแต่ต่อมาพบว่า ลูกชอบกอล์ฟมากและเอาจริง ท่านผู้ปกครองจึงเปลี่ยนที่เรียน จริงๆ แล้วที่กล่าวว่า เด็กๆ เหมือนผ้าขาวนั้นก็ใช้ได้เช่นกันในกรณีนี้ค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กที่ชอบกอล์ฟและซ้อมสม่ำเสมอ สิ่งที่เขาเรียนรู้ก็จะซึบซับเข้าไปมาก ไม่ว่าถูกหรือผิดค่ะ ยิ่งเด็กที่ซ้อมหนักยิ่งแกะออกยาก เด็กๆ ก็เหมือนกันกับผู้ใหญ่ที่เป็นนักกอล์ฟค่ะ

กล้ามเนื้อของเด็กก็จะเคยชินกับสิ่งที่เขาฝึกซ้อมมา อย่างที่บางท่านเรียกว่า muscle memoryนั่นล่ะค่ะ แต่สิ่งหนึ่งที่เด็กๆ มีน้อยกว่าผู้ใหญ่ คือความอดทนในการปรับวงสวิง นักกอล์ฟที่เคยต้องผ่านการปรับวง จะทราบดีว่ามันน่าเบื่อและต้องใช้แรงใจขนาดไหน เพราะฉะนั้นการให้สิ่งที่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มกับเด็กๆ จะดีกว่ามากเพราะเราเองก็ไม่อาจทราบได้ค่ะ ว่าเด็กๆ จะเอาจริงไหม อย่างน้อยที่สุดถ้าพื้นฐานดี ถูกต้องตามหลักของกอล์ฟนอกจากจะพัฒนาเติบโตได้ในวันหน้าแล้วยังลดการบาดเจ็บได้อีกด้วย

อย่าลืมค่ะว่า เด็กๆ จะมีพรสวรรค์อย่างหนึ่งที่ต่างจากผู้ใหญ่ ก็คือการเรียนรู้ได้เร็ว เพราะฉะนั้น ถ้าเราจะต้องให้สิ่งใดกับเด็ก ก็ควรให้สิ่งที่ถูกต้องตั้งแต่เริ่ม

ปัจจุบันนี้สถาบันสอนกอล์ฟมีมากมายเราจะทราบได้อย่างไรว่าที่ไหนเหมาะกับลูกของเราโดยรวมง่ายๆให้ศึกษาจากประวัติการศึกษาของผู้สอนและผลงานความสำเร็จของลูกศิษย์ที่ผ่านมา หรือประสบการณ์การสอน

ประวัติการศึกษาของโปรผู้สอนหมายถึงประวัติการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับกอล์ฟค่ะ เช่น โปรหลายท่านจบการศึกษาจากต่างประเทศเราก็สามารถขอให้แสดงหลักฐานการศึกษาได้ว่า จบมาจากสถาบันกอล์ฟที่ไหน อย่างไร ปีอะไร หรือในกรณีที่ไม่ได้มีวุฒิทางการศึกษาจากสถาบันกอล์ฟโดยตรงเราก็สามารถให้แสดงบัตรประจำตัวโปรได้ค่ะซึ่งจะแบ่งออกเป็นสองแบบคือ Touring Professional หรือตัวย่อคือ TP และจะตามมาด้วยตัวเลข อีกแบบหนึ่งก็คือ Golf Instructor หรือตัวย่อคือ GI ซึ่งทั้งสองแบบจะผ่านการสอบโปรมาแล้ว และสามารถสอนได้ นอกจากนี้ เราจะพบว่าโปรบางท่านถือสองบัตร คือนอกจากมีบัตรโปรแล้ว ก็ยังมีบัตรกรรมการผู้ตัดสินด้วย ซึ่งบัตรนี้ต้องผ่านการสอบเกี่ยวกับเรื่องกฎของกอล์ฟ

นอกจากนี้เราอาจสอบถามโปรด้วยก็ได้ว่าผ่านการอบรมใดเพิ่มเติมมาอีกบ้างทั้งจากการกีฬาแห่งประเทศไทยและหรือองค์อื่นใดผู้ปกครองสอบถามได้หรือในกรณีที่โปรท่านนั้นเคยผ่านการเข่งขันมา เราก็อาจศึกษาดูได้ว่า ตัวโปรเองนั้นมีผลงานอะไรมาบ้าง เพื่อประกอบการตัดสินใจ

อีกส่วนสำคัญที่ช่วยประกอบการตัดสินใจ ก็คือ ประสบการณ์การสอน และผลงานความสำเร็จของลูกศิษย์ที่ผ่านมาว่า มีความสำเร็จมากน้อยเพียงไร และในระดับใดบ้าง เช่น ระดับเยาวชน ระดับสมัครเล่น หรือเล่นอาชีพ และประสบความสำเร็จในประเทศ หรือต่างประเทศอย่างบ้าง

และอีกสองประเด็นสำคัญในส่วนของโปรผู้สอนที่ควรนำมาร่วมพิจารณาด้วยก็คือทัศนคติบุคลิกภาพของโปรผู้สอน เพราะในเด็กๆ นั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กกลุ่มหกถึงแปดปีนั้นจะเป็นช่วงของการซึบซับและการเรียนรู้ในเรื่องความเชื่อ ทัศนคติ ค่านิยม ซึ่งตรงนี้เด็กๆ อาจจะเห็นโปรเป็นต้นแบบได้

และอีกประเด็นที่ไม่ควรมองข้ามเราควรพิจารณาวิธีการสอนการสื่อสารของโปรกับเด็กว่าเข้าถึงกันหรือคลิ๊กกันหรือไม่จะว่าไปการหาโปรก็คล้ายๆกับการหาแฟนเหมือนกันค่ะ จะสวยจะหล่อ จะแพ็คเกจดีอย่างไร สื่อสารไม่เข้าใจ หรือคุยกันไม่รู้เรื่อง มันก็ไม่มีประโยชน์ค่ะ มีผู้ปกครองบางท่านถามว่า ที่เราให้เด็กมาทดลองเรียนฟรี นั้นเพื่อที่เราจะได้เลือกว่าเราจะรับเด็กหรือไม่ใช่ไหมไม่ใช่ค่ะ หากแต่เราเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้เลือกเราต่างหาก ว่าเด็กคลิ๊กกับเราไหม เพื่อการเรียนการสอนจะได้ประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น

ที่มา : //www.hotgolfclub.com/page.php?a=10&n=306&cno=2377