Welcome to my blog
2 วัน 1 คืน แม่ลาน้อย เสน่ห์บ้านนาแห่งขุนเขาแม่ฮ่องสอน

 
สถานที่ท่องเที่ยว : เฮินไต รีสอร์ท, แม่ลาน้อย, แม่ฮ่องสอน Thailand
พิกัด GPS : 18° 22' 36.12" N 97° 56' 10.82" E

หากพูดถึงฤดูฝน  หลายคนคงต้องนึกถึงความเฉอะแฉะ น้ำท่วม เดินทางสัญจรไปไหนมาไหนลำบาก และเป็นฤดูที่ไม่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยว แต่เชื่อไหมครับว่า นอกจากข้อเสียเหล่านี้แล้ว แต่ในอีกด้านหนึ่ง หน้าฝนก็มีข้อดีมากมาย ทั้งทุ่งนาป่าเขาที่เขียวขจี อากาศที่ไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าฤดูอื่น สำหรับในรีวิวนี้ผมจึงจะพาไปเที่ยวสัมผัสเสน่ห์หน้าฝนที่จังหวัดในแถบภาคเหนืออย่าง แม่ฮ่องสอน ครับ

ถ้าพูดถึงจังหวัดแม่ฮ่องสอน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็คงนึกถึงปาย พระธาตุดอยกองมู บ้านรักไทย ปางอุ๋ง หรือ ทุ่งบัวตองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวฮิต แต่จริงๆแม่ฮ่องสอนไม่ได้มีแค่นั้นครับ ในบล็อกนี้ ผมจะพาทุกคนไปเที่ยวแม่ฮ่องสอนในมุมใหม่ ในอำเภอที่หลายคนอาจจะมองข้ามไป นั่นก็คือ อำเภอแม่ลาน้อย ครับ

ทริปนี้ผมไปมาในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2564 นะครับ ใครจะไปตามรอยแล้วอยากได้วิวทุ่งนาเขียวๆแบบนี้ ให้ไปช่วงปลายฝนต้นหนาวตั้งแต่เดืิอนสิงหาคมถึงตุลาคมนะครับ

รู้จักกับอำเภอแม่ลาน้อย

แม่ลาน้อย เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งแยกออกจากอำเภอแม่สะเรียงเมื่อปี พ.ศ.2518 โดยที่มาของชื่อ แม่ลาน้อย นั้นมาจากคำว่า แม่ลัวะน้อย ซึ่งเป็นภาษาดั้งเดิมของ ชาวลัวะ (ในคลิปด้านล่าง) ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองดั้งเดิมในพื้นที่ แต่ต่อมา ชาวไทใหญ่ ได้ทำการอพยพเข้ามาที่อำเภอนี้ ทำให้ชื่อเรียกจึงค่อยๆเพี้ยนมาเป็นแม่ลาน้อยดังในปัจจุบันครับ

 

ปัจจุบัน อำเภอนี้ถือเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายของกลุ่มชาติพันธุ์ ทั้ง ชาวลัวะ ที่อาศัยอยู่ตามหุบเขา (เช่นที่ บ้านละอูบ), ชาวไทใหญ่ และ ชาวไทยวน ที่อาศัยอยู่ในตัวอำเภอ และยังมีกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆทั้ง ปกาปะญอ (กะเหรี่ยง) และ ม้ง อาศัยอยู่อีกด้วย
 
 
ในแง่มุมของการท่องเที่ยวนั้น แม่ลาน้อยเป็นอำเภอที่มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อย่าง ถ้ำแก้วโกมล ที่เป็นถ้ำผลึกคริสตัลแห่งเดียวของไทย หรือในด้านวัฒนธรรม ที่นี่ก็มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมทั้ง ไทย, ไทใหญ่, พม่า, ล้านนา, กระเหรี่ยง และ ลัวะ ทำให้ในแถบนี้มีทั้งวัดและเจดีย์ที่เป็นศิลปะในแบบที่แตกต่างจากที่เราคุ้นเคยกัน นอกจากนี้ ถ้าใครมาเที่ยวที่นี่ในหน้าฝน จะพบกับทุ่งนาเขียวขจีสุดลูกหูลูกตาแบบที่อยู่ในรีวิวตอนนี้ครับ

แผนเที่ยว

วันที่หนึ่ง
  • ขึ้นรถตู้ของเปรมประชาจากสถานีขนส่งอาเขต (ตัวเมืองเชียงใหม่) เพิ่อเดินทางไปยังอำเภอแม่ลาน้อย
  • เช็คอิน เข้าพักที่เฮินไต รีสอร์ท/ ถ่ายรูปกับทุ่งนาตอนเย็น
วันที่สอง
  • เหมารถเที่ยวอำเภอแม่ลาน้อย
  • แวะชมสถานที่ต่างๆในอำเภอแม่ลาน้อยได้แก่ ถ้ำแก้วโกมล, โครงการหลวงแม่ลาน้อย, บ้านละอูบ, บ้านห้วยห้อม และนาขั้นบันไดบ้านดง
  • เดินทางออกจากอำเภอแม่ลาน้อย (ไปยังอำเภอแม่สะเรียง)
ที่พักที่อำเภอแม่ลาน้อย

ในทริปนี้ ผมเลือกพักที่ เฮินไตรีสอร์ท ครับ ที่นี่เป็นรีสอร์ทมาตรฐานแห่งเดียวในอำเภอแม่ลาน้อย โดยเป็นรีสอร์ทกลางทุ่งนา บ้านแต่ละหลังออกแบบเป็นสไตล์ไทใหญ่ ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์หลักในแถบนี้

 

บ้านพักที่นี่มีหลายหลัง เป็นห้องแอร์ทั้งหมด และทุกหลังมองเห็นวิวทุ่งนาในมุมที่แตกต่างกัน
 

สำหรับทริปนี้ ผมจองบ้านพักแฝดชั้นบนไว้ ก็จะเห็นวิวทุ่งนาแบบนี้ครับ
 

มาดูกันที่ในห้องบ้าง เนื่องจากที่พักนี้จะเป็น Eco resort ครับ ดังนั้นใครที่ต้องการความสะดวกสบายและความหรูหราอาจจะผิดหวัง แต่ถ้าใครชอบความเรียบง่าย อยู่กับธรรมชาติ และความเงียบสงบ รีสอร์ทนี้เหมาะกับคุณเลยครับ
 
 

ภายในรีสอร์ท มีร้านอาหารชื่อว่า ครัวเฮินไต ครับ โดยรวมอาหารที่นี่อร่อยและไม่แพง
 



กิจกรรมยอดนิยมของการมาพักที่รีสอร์ทนี้ ก็คือการมาถ่ายรูป ชมวิวทุ่งนาวิวหลักล้านแบบนี้ครับ
 











 
ผมพักที่นี่ 2 วัน 1 คืนครับ ราคาห้องต่อคืนรวมอาหารเช้าจะอยู่ที่ 720 บาทเท่านั้นเอง (ราคานี้ใช้สิทธิลดจากโครงการเราเที่ยวด้วยกันแล้ว) หารต่อคนตกคนละ 360 บาทครับ โดยรวมถือว่าพอใจ ที่พักอาจจะไม่ได้สะดวกสบาย แต่สะอาด มีวิวสวยๆ บรรยากาศเงียบสงบ ถือว่าตอบโจทย์การมาพักผ่อนในทริปนี้ครับ

ใครสนใจที่พักนี้ สามารถดูรายละเอียด ติดต่อสอบถาม และจองที่พักได้ที่เพจนี้ครับ
https://www.facebook.com/HerntaiResortMaelanoi/

วันที่หนึ่ง

ทริปนี้เราเริ่มต้นทริปจากจังหวัดเชียงใหม่ครับ โดยเราขึ้น รถตู้เปรมประชา จาก สถานีขนส่งอาเขต ในตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อเดินทางไปยังอำเภอแม่ลาน้อย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ชั่วโมง ค่ารถตู้อยู่ที่ 300 บาท 

ใครจะเดินทางด้วยรถตู้เปรมประชาจากเชียงใหม่เพื่อไปยังแม่ลาน้อย ผมแนะนำให้จองตั๋วไว้ล่วงหน้านะครับ เนื่องจากตั๋วอาจจะเต็มได้ โดยเราสามารถซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์ตามสถานีขนส่งอำเภอต่างๆของเชียงใหม่และแม่ฮ่องสอน หรือถ้าไม่สะดวก แนะนำให้ซื้อตั๋วออนไลน์ผ่านเว็บไซต์นี้ครับ https://premprachatransports.com/

พอเรานั่งรถตู้มาถึงที่ท่ารถเปรมประชาในอำเภอแม่ลาน้อยแล้ว ผมโทรศัพท์เรียกทางรีสอร์ทให้มารับพวกเราไปยังที่พัก จากนั้นก็เช็คอิน ถ่ายรูปเล่นในที่พัก แล้วก็พักผ่อนครับ
 
วันที่สอง

หลังจากเมื่อวานเราเดินทางมาถึงที่อำเภอแม่ลาน้อยเป็นที่เรียบร้อย ในวันนี้ก็ได้เวลาเที่ยวที่อำเภอนี้ครับ สำหรับในทริปนี้ผมให้ทางเฮินไต รีสอร์ทติดต่อรถสองแถวนำเที่ยวภายในตัวอำเภอให้ โดยค่ารถสองแถวนำเที่ยว 1 วัน จะอยู่ที่ 1,500 บาท (รวมทุกอย่างแล้ว)

 

สถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอแม่ลาน้อย

1. วนอุทยานถ้ำแก้วโกมล

เป็นจุดแรกที่เราแวะครับ ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว Unseen in Thailand ที่มีความสวยงาม แต่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักกัน ผมเลยขอเอามาแนะนำ จะได้ฮิต

 

ถ้ำแก้วโกมลเป็นถ้ำที่ตัวผนังถ้ำประกอบด้วยผลึกแคลไซต์ซึ่งมีสีขาว ซึ่งในโลกนี้ มีถ้ำลักษณะนี้แค่ 3 แห่งเท่านั้นคือ ที่ไทย จีน และออสเตรเลีย

ถ้าใครมาเที่ยวในช่วงหน้าหนาว จะให้ความรู้สึกเหมือนมาเที่ยว ถ้ำน้ำแข็ง อย่างไรก็ตาม เวลาเข้าชมต้องมีเจ้าหน้าที่อุทยานพาเราเข้าไปชมเท่านั้น และต้องปฏิบัติตามกฎต่างๆอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ภายในถ้ำไม่สามารถถ่ายรูปได้นะครับ เพราะแสงแฟลชอาจจะมีผลกระทบกับผลึกได้ ผมจึงขอนำคลิปที่ได้รับอนุญาตให้ถ่ายเป็นกรณีพิเศษมาให้ชมกัน

 

ภายในถ้ำจะประกอบด้วย 5 ห้อง ได้แก่ พระทัยธาร, วิมานเมฆ, เฉกหิมพานต์, ม่านผาแก้วและ เพริศแพร้วมณีบุปผา ซึ่งชื่อทั้งหมดนี้ ได้รับพระราชทานมาจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 
 

วนอุทยานถ้ำแก้วโกมล เปิดให้บริการเข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 8.30 – 16.30 น. ยกเว้นช่วงระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายนของทุกปี ถ้ำนี้จะปิดเพื่อให้ผลึกได้ฟื้นตัวครับ

2. จุดชมวิวดอยขุนคำ

อยู่ตรงทางขึ้นบ้านละอูบ มีความสูงมากกว่า 1,000 เมตร ที่นี่จึงมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี

 

ชาวลัวะจะเรียกว่า ดอยถั่วเหลือง เนื่องจากมีการปลูกถั่วเหลืองอยู่เป็นจำนวนมากทั้งภูเขา

3. บ้านละอูบ

บ้านละอูบเป็นหมู่บ้านของคนลัวะครับ โดยจุดแรกที่ผมจะพามาเยี่ยมชมคือ บ้านของคนขับรถของเราเอง

 

ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน
 

 
วิวทิวทัศน์จากภายในบ้านครับ
 

 
องค์พระใหญ่หลังหมู่บ้าน
 

 
วิวด้านหลังองค์พระ จะมองเห็นนาขั้นบันไดอยู่ลิบๆ
 

จริงๆที่บ้านละอูบยังมีการเปิดเป็นโฮมสเตย์ด้วย ใครสนใจจะเรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวลัวะอย่างใกล้ชิด สามารถติดต่อได้ที่ ป้อหลวงนัฐ 088-764-1488

4. นาขั้นบันไดบ้านดง


นาขั้นบันไดที่นี่เป็นของชาวลัวะ ซึ่งจะทำการเพาะปลูกตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม และทำการเก็บเกี่ยวในช่วงเดือนพฤศจิกายน ดังนั้น ช่วงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการมาเที่ยวที่นี่คือ ระหว่างเดือนกันยายนถึงตุลาคมครับ 

 




นอกจากนาขั้นบันไดแล้ว ที่นี่ยังมีการเพาะปลูกผักเมืองหนาวอีกด้วยครับ
 

5. บ้านห้วยห้อม

เป็นหมู่บ้านของชาวปกากะญอ (กะเหรี่ยง) ที่นับถือศาสนาคริสต์ ซึ่งมีอาชีพหลักทั้งปลูกข้าว เสาวรส และกาแฟพันธุ์อาราบิก้า รวมทั้งมีอาชีพเลี้ยงแกะ เพื่อทำผ้าทอขนแกะอีกด้วย

 









ใครสนใจอยากจะซึมซับบรรยากาศ และเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวปกากะญออย่างใกล้ชิด ที่นี่มีบ้านพักแบบโฮมสเตย์ โดยติดต่อสอบถาม และจองที่พักได้ที่ นางมะลิวัลย์ ประธานกลุ่มทอผ้าขนแกะและกาแฟ  โทร. 089 555 3900

6. วิวทิวทัศน์ระหว่างทาง

นอกจากตัวสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆแล้ว วิวทิวทัศน์ระหว่างทางที่นี่ก็สวยงามครับ อย่างภูเขาลูกนี้ จริงๆก็มาจากการทำการเกษตรของชาวปกากะญอซึ่งเป็นการทำ ไร่แบบหมุนเวียน กล่าวคือ จะเป็นการเพาะปลูกพืชหลายชนิดทั้งข้าว ผัก และพืชใช้สอยต่างๆ รวมอยู่ในพื้นที่เดียวกัน จนเมื่อทำการเพาะปลูกไประยะหนึ่งจนดินลดความอุดมสมบูรณ์ลง ก็จะย้ายไปทำการเพาะปลูกในพื้นที่แห่งใหม่ และปล่อยให้ดินตรงนั้นฟื้นตัวได้เองตามธรรมชาติ แล้วจึงหมุนเวียนกลับมาใช้ประโยชน์ในพื้นที่เดิมอีกครั้ง

กล่าวกันว่า การเกษตรในลักษณะนี้ถือว่า เป็นวิธีการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ และความอุดมสมบูรณ์ของดินได้มากที่สุดวิธีหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ในระยะหลังๆมีการทำไร่หมุนเวียนแบบผิดวิธีจนกลายเป็น การทำไร่เลื่อนลอย ซึ่งเป็นการตัดไม้ทำลายป่า และกลายเป็นภาพฝังหัวเชิงลบของคนไทยในพื้นที่อื่นๆที่มีต่อกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่สูง

 

การเดินทางในทริปวันนี้ ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับชาวบ้านหลายคน และได้เรียนรู้วิธีชีวิต วิถีชุมชน รวมทั้งวัฒนธรรมในแถบพื้นที่สูงหลายอย่าง ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่อาจจะไม่คุ้นเคยกัน ผมเลยอยากให้ลองมาสัมผัสดูที่นี่ครับ เพราะที่นี่ยังมีความดิบ สิ่งที่ได้รับจากท่องเที่ยวที่นี่จึงมีความเรียลมากกว่าในเมืองอื่นๆที่เริ่มถูกสปอยล์จากการท่องเที่ยวกระแสหลักไปแล้ว

สำหรับทริปแม่ลาน้อยก็จบลงเพียงเท่านี้ครับ ส่วนตัวผมมองว่า ที่นี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งอำเภอของจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่มีเสน่ห์แปลกใหม่พอสมควร ด้วยความที่นี่ยังไม่แมส มีความเงียบสงบ ไม่ปรุงแต่ง ถ้าใครชอบเที่ยวสไตล์แบบนี้ แม่ลาน้อยก็เป็นอีกหนึ่งอำเภอที่น่ามาเยือน

บล็อกที่เกี่ยวข้อง



Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2564
Last Update : 1 ธันวาคม 2566 21:16:15 น. 3 comments
Counter : 1800 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณKavanich96, คุณโอน่าจอมซ่าส์


 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:4:34:23 น.  

 
น่าไปมากๆจ้า


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 4 มีนาคม 2564 เวลา:9:56:33 น.  

 
แนะนำให้ไปช่วงหน้าฝนครับ สวยมาก อากาศบริสุทธิ์ เย็นสบายครับ


โดย: เจ้าสำนักคันฉ่องวารี วันที่: 16 มีนาคม 2564 เวลา:22:48:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจ้าสำนักคันฉ่องวารี
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




ชอบท่องเที่ยว สนใจประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และการเมืองระหว่างประเทศ

Blog นี้จะใช้เขียนความทรงจำในการเดินทาง และวิธีการเดินทางอย่างละเอียด เผื่อใครจะมาตามรอย หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะครับ

ถ้าชอบ blog เนื้อหาประมาณนี้ ฝากกดติดตามด้วยนะครับ
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เจ้าสำนักคันฉ่องวารี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.