|
Back Home: Eric Clapton
ผมได้อัลบั้มล่าสุดของเอริค แคล็ปคันนี้เมื่อราวๆปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ...ก็ตั้งหน้าตั้งตารอมาพอสมควรครับ ตั้งแต่ได้ทราบข่าวว่าจะน้าเอริคแกจะออกอัลบั้มใหม่เมื่อเดือนสิงหาคม ชุดนี้เรียกได้ว่าเป็นงานเพลงของแกเองชุดแรกในรอบหลายๆปีเลยทีเดียว (งานสองชุดก่อนหน้านี้ คือ Me and Mr Johnson และ Sessions for Robert J เอริค แคล็ปตันเอาเพลงของตำนานบลูส์ โรเบิร์ต จอห์นสันมา cover ...เอาไว้วันหลังผมจะเขียนเรื่องของโรเบิร์ต จอห์นสันคนนี้บ้าง เท่าที่ความรู้จะอำนวยนะครับ)
ร่ายชื่อนักดนตรีกันก่อนดีกว่า อ่านชื่อแล้วหลายๆคนคงร้องอ๋อ และอีกหลายๆชื่อผมก็เพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรกเหมือนกัน
เริ่มจากกีตาร์มือสอง ซึ่งมีสองคนครับ คนแรกเลยก็คือ มือกีตาร์คู่บุญของแคล็ปตันแก แอนดี้ แฟร์เวเธอร์-โลว (Andy Fairweather Low) คนนี้นี่เล่นดนตรีกับเอริค แคล็ปตันมานานมากครับ นานจนแกติดสำเนียงเอริค แคล็ปตันไปเลย บางทีก็ฟังแทบไม่ออกว่าใครเล่นกันแน่
ส่วนกีตาร์มือสองอีกคนนึงก็คือ ดอยล์ บรามฮอลล์ ที่สอง (Doyle Bramhall II) คนนี้เป็นนักกีตาร์ถนัดซ้ายครับ แต่เป็นอีซ้ายที่ไม่ค่อยเหมือนใคร คือเอาสาย 1 ไว้ข้างบน เรียงลงมาเรื่อยจนถึงสาย 6 อยู่ข้างล่างของคอกีตาร์ (ผมพูดให้มันยากไปอย่างนั้นเองละ พูดให้ง่ายๆก็คือ ตั้งเรียงสายแบบกีตาร์ถนัดขวาทั่วไป คือสายหกอยู่ข้างบน เรียงลงมาถึงสายหนึ่งข้างล่าง แล้วก็พลิกกีตาร์ไปอีกด้านนึง เท่านั้นเอง ซึ่งต่างจากนักกีตาร์ถนัดซ้ายๆทั่วๆไปที่พลิกกีตาร์ไปเล่นข้างซ้ายเหมือนกัน แต่เรียงสายกีตาร์ตามปรกติ คือสายหกอยู่บน สายหนึ่งอยู่ล่าง)
ตาดอยล์ บรามฮอลล์คนี้ ผมเห็นครั้งแรกก็ในคอนเสิร์ต Crossroads Guitar Festival 2004 ครับ (ดีวีดีล่ะครับ ไม่มีปัญญาไปดูเอง) หลังจากนั้นแกก็ได้เข้ามาทำเพลงกับเอริค แคล็ปตันอยู่เรื่อยๆ รวมทั้งใน Sessions for Robert J ด้วย
มือกลองในชุดนี้ก็สองคนเหมือนกันครับ คนแรกก็ นี่เลยครับ สตีฟ แกดด์ (Steve Gadd) มือกลองวัยหกสิบที่ผมเพิ่งเห็นเข้ามาเล่นดนตรีกับแคล็ปตันก็ในทัวร์คอนเสิร์ต One More Car One More Rider เมื่อช่วงปี 2001 นี่เองครับ ฝีมือนั่นไม่ต้องพูดถึง (ผมว่าผมชอบสตีฟ แกดด์มากกว่าเดฟ เว็คเคิล (Dave Weckl) อีกนะ
ส่วนมือกลองอีกคนคือ อับราฮัม ลาบอเรียล จูเนียร์ (Abraham Laboriel Jr) ...คนนี้ผมเพิ่งเคยได้ยินชื่อครับ ขอข้ามไปก่อน
มือเบส ก็แน่นอนครับ ณัฐธัญ บูรพา เจ้าเก่า (Nathan East) เล่นดนตรีกับเอริค แคล็ปตันมามากกว่ายี่สิบปีแล้ว (แกว่างั้น) มีวงของตัวเองคือ Four Play คนนี้เคยมาแสดงในงานเทศกาลแจ๊สที่เมืองไทยด้วยถ้าผมจำไม่ผิด
บิลลี เพรสตัน (Billy Preston) ก็ยังมาเล่นคีย์บอร์ด เปียโน และแฮมมอนด์ออร์แกนให้เหมือนเดิมครับ (พูดถึงคำว่าคีย์บอร์ด ทำให้นึกถึงคำว่า เครื่องดนตรีประเภทลิ่มนิ้ว ในหนังสือเรียนดนตรีศึกษาสมัยมัธยม)
นักดนตรีรับเชิญ เอาเฉพาะที่น่าจะเคยได้ยินชื่อกันก็ โรเบิร์ต แรนดอล์ฟ (Robert Randolph). จอห์น เมเยอร์ (John Mayer), สตีฟ วินวู้ด (Steve Winwood) และ วินซ์ จิลล์ (Vince Gill)
เอาเป็นว่า รายชื่อนักดนตรีในอัลบั้มนี้ ผมจบแค่นี้ก่อนก็แล้วกันนะครับ
10.11.2548 ฮ่า...กลับมาหัดเขียนต่อนะครับ
ถ้าใครติดตามงานของเอริค แคล็ปตันชุดหลังๆ ตั้งแต่อัลบั้ม "จิ้งเลื้อย" (Reptile) ในปี 2544 น่าจะพอสังเกตว่า โทนของดนตรีนั้นใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ชุด "กลับบ้าน" นี่ก็เช่นกันครับ แนวดนตรีโดยรวมจะค่อนข้างสดใส (เมื่อเทียบกับงานชุดเก่าๆ) แต่ยังคงไว้ซึ่ง Eric Clapton's Sound (นี่ผมเรียกเอง เพราะไม่รู้จะอธิบายยังไง ฮ่ะ ฮ่ะ) โดยโทนหลักของอัลบั้มก็คือ หลังจากไปตระเวณตะลอนๆหัวหกก้นขวิดมาครึ่งค่อนชีวิต อย่างน้อยก็ยังมีบ้านให้กลับ มีลูกมีเมียรออยู่ที่บ้าน ก็จะได้พักกายพักใจหายเหนื่อยบ้าง อะไรประมาณนั้นครับ (แต่โทนหลักที่ผมว่านี่ ไม่ได้หมายถึงเนื้อหาในเพลงนะครับ เพราะเพลงที่มีความหมายกระเดียดไปทางนี้จริงๆ ก็เห็นจะมีสองเพลง คือเพลงแรก So Tired และเพลงสุดท้าย (เพลงที่ 12) คือ Back Home
แนวเพลงในชุดนี้ก็ผสมๆกันหลายๆแนวเหมือนกัน ตั้งแต่ Pop rock ใสๆ (เจือดิสทอร์ชันนิดหน่อย) เช่น So Tired, I'm Going Left, One Track Mind และ Love Comes To Everyone--เพลงนี้แต่งโดย จอร์จ แฮร์ริสัน--หรือแนวเร็กเก้อย่าง Revolution ที่เห็นออกไปทางบลูส์ก็คือ Lost And Found เพลงเดียว (แต่ถึงจะยังไง ทุกเพลงก็ยังมีกลิ่นบลูส์แบบเอริค แคล็ปตันเจือปนแทรกซึมอยู่ทั่วอยู่ดี)
งานนี้ใครที่เป็นแฟนแคล็ปตันแบบหัวชนฝาอาจจะบอกว่า ไม่ค่อยชอบชุดนี้เท่าไหร่ ชอบแบบ Sunshine of Your Love หรือ White Room หรืออะไรยุคนั้นมากกว่า ก็...ขอบอกว่า เรื่องมันก็สามสิบปีมาแล้วนะครับ จะให้น้าแกเล่นอย่างที่เคยเล่นก็เห็นจะกระไรอยู่ ความคิดความอ่านคนเรามันก็เปลี่ยนไปตามประสบการณ์ ตามกาลเวลาล่ะครับ (แต่ผมก็ชอบเพลงของ Cream เหมือนกันนะ ชอบหมดแหละนะจริงๆแล้ว) อ้อ...เผื่อใครยังไม่ทราบข่าว... ดีวีดีคอนเสิร์ต Cream Reunion 2005 ออกวางขายได้เกือบเดือนแล้วนะครับ งานนี้แฟน Cream พลาดไม่ได้
...ขอจบเอามันดื้อๆอย่างนี้ก็แล้วกันนะครับ คิดอะไรไม่ค่อยออกแล้วล่ะ
ปล. ลองฟังตัวอย่างเพลงได้ที่นี่ครับ //ericclapton.com
Create Date : 08 พฤศจิกายน 2548 |
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2548 18:55:08 น. |
|
17 comments
|
Counter : 664 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: บูมเมอร์ IP: 202.155.163.177 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2548 เวลา:6:21:00 น. |
|
|
|
โดย: winston IP: 61.47.100.55 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2548 เวลา:1:10:35 น. |
|
|
|
โดย: บูมเมอร์ วันที่: 22 พฤศจิกายน 2548 เวลา:21:01:36 น. |
|
|
|
โดย: ลุดวิก IP: 61.19.51.37 วันที่: 13 ธันวาคม 2548 เวลา:8:02:14 น. |
|
|
|
โดย: บูมเมอร์ วันที่: 18 ธันวาคม 2548 เวลา:13:24:31 น. |
|
|
|
โดย: Bank IP: 202.53.198.108 วันที่: 30 ธันวาคม 2548 เวลา:5:37:17 น. |
|
|
|
โดย: ลุดวิก (ลุดวิก ) วันที่: 6 มกราคม 2549 เวลา:10:30:12 น. |
|
|
|
โดย: imu IP: 203.144.232.98 วันที่: 15 มีนาคม 2549 เวลา:17:26:10 น. |
|
|
|
โดย: บูมเมอร์ วันที่: 17 มีนาคม 2549 เวลา:6:31:19 น. |
|
|
|
โดย: หนึ่ง IP: 61.90.243.20 วันที่: 12 พฤษภาคม 2549 เวลา:13:21:30 น. |
|
|
|
โดย: ลุดวิก IP: 124.121.107.104 วันที่: 9 มิถุนายน 2549 เวลา:10:25:33 น. |
|
|
|
โดย: อิรัก แคลปตัน IP: 203.146.245.194 วันที่: 4 ตุลาคม 2549 เวลา:14:44:55 น. |
|
|
|
โดย: บูมเมอร์ วันที่: 22 ตุลาคม 2549 เวลา:9:40:09 น. |
|
|
|
โดย: กระทงหลงทาง IP: 124.120.165.126 วันที่: 31 ตุลาคม 2549 เวลา:23:48:10 น. |
|
|
|
โดย: o-loveneverdie-o@hotmail.com IP: 124.122.226.126 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2552 เวลา:22:12:44 น. |
|
|
|
| |
|
|