10 ท่าลดพุง
ขออนุญาติ copy รูปท่าออกกำลังกายมาไว้เพื่อเป็นแบบอย่างในการออกกำลังกายนะค่ะ (ตั้งใจเก็บไว้ดูเองไม่งั้นจะไปไม่ถูกทางว่าควรออกกำลังกายยังไง)

ท่าที่ 1





ท่าที่ 2





ท่าที่ 3





ท่าที่ 4





ท่าที่ 5





ท่าที่ 6





ท่าที่ 7






ท่าที่ 8







ท่าที่ 9







ท่าที่ 10










ขอขอบคุณข้อมูลจาก
//www.ladytip.com/main/content/view/70/75/



Create Date : 27 พฤษภาคม 2554
Last Update : 24 สิงหาคม 2554 16:56:38 น.
Counter : 224 Pageviews.

การเตรียมตัวก่อนล้างพิษ
การเตรียมตัวก่อนล้างพิษ

เมื่อคุณวางแผนจะจัดโปรแกรมล้างพิษด้วยตัวเองแล้วละก็คุณมิควรที่จะเข้าโปรแกรมล้างพิษเลยก่อนวันที่จะถึงวันนั้น

ก่อนถึงวันเริ่มต้นล้างพิษวันแรก คุณควรจะเตรียมร่างกายให้พร้อมอย่างดีเสียก่อน ซึ่งอย่างน้อยๆ ก็ควรเตรียมการสัก 5-7วัน ก่อนล้างพิษ เพื่อปรับสภาพร่างกายให้เตรียมคุ้นชินกับการลดปริมาณของอาหาร โดยเฉพาะเนื้อสัตว์และแป้ง

ตลอด 5-7 วันแห่งการเตรียมตัวล้างพิษ คุณควรปฏิบัติตนตามข้อแนะนำทั้ง 7 ข้อต่อไปนี้

1. เริ่มงดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่งทุกวัน เช่น วันนี้งดมื้อเช้า เปลี่ยนจากอาหารเช้าจานโปรดเพียง

ผลไม้ 1-2 ผล พรุ่งนี้งดมื้อกลางวัน โดยเปลี่ยนจากก๋วยเตี๋ยวชามโตเป็นสลัดผัก

(การงดในที่นิ้มได้ให้อด แต่ให้เปลี่ยนจากอาหารจานเดิมๆ เป็นผัก

2. ฝึกตัวเองให้ชิกับการกินผลไม้หลังอาหาร อย่างน้อยมื้อหนึ่งมื้อใดก็ได้ในระหว่างวัน

3. ดื่มน้ำเปล่ามากๆ ให้ได้วันละ 10-12 แก้ว

4. อย่ากินอาหารหลังตะวันตกดินไปแล้ว ถ้าหิวให้กินผักสดๆ แช่เย็น กินผลไม้สดหรือถั่วต่างๆ

5. เริ่มงดอาหารรสจัดๆ ทั้งหลาย ลดระดับความจัดจ้านของรสชาติ อาหารอย่างที่โปรดปรานลงไม่ว่าจะเป็นรสเผ็ด เค็ม เปรี้ยว หรือรสหวาน

6. ค่อยๆ ลดการกินเสื้อสัตว์บางมื้อใน 1 วัน ในบางวันลองงดเนื้อสัตว์สัก 2 ม้อ เลือกอาหารประเภทผักหรือเต้าหู้ทดแทน

7. อาหารที่กินได้ใน 7 วันก่อนเริ่มล้างพิษ คือ ปลากเล็กปลาน้อยทอดกรอบ เมนูประเภทอาหารทะเลกินได้ 1-2 ครั้ง ควรงดและพยายามลดเนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ และเนื้อเป็ด



โปรแกรมล้างพิษสำหรับมือใหม่ ฝึกอด 3 วัน

โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับทุกท่าน ที่จะลองอดเพื่อล้างพิษเป็นครั้งแรก โปรแกรมนี้จึงมิได้ให้อดอาหารอย่างแท้จริง แต่ยังคงมีเมนูอาหารล้างพิษในบางมื้อด้วย เพื่อให้ร่างกายคุ้นชินกับการลดปริมาณอาหารลงเสียก่อน จึงค่อยเข้าโปรแกรมล้างพิษอย่างสมบูรณ์แบบในครั้งต่อไป





วันแรก

มื้อเช้า น้ำแตงโมคั้น หรือน้ำแอปเปิล ข้าวต้มข้างกล้อง 1 ถ้วย

ตอนสายๆ ชาสมุนไพรร้อน 1 ถ้วย

มื้อกลางวัน สลัดผลไม้รวมหรือยำผลไม้ เช่น ฝรั่ง ชมพู่ แอปเปิล สับปะรด มันแกว

ยามบ่าย ดื่มนมเปรี้ยวรสผลไม้ 1 กล่อง หรือ 1 แก้ว (ถ้าแพ้นม ให้ดื่มน้ำผลไม้คั้นสดแทนได้)

มื้อค่ำ แกงจืดผักกาดขาวใส่เต้าหู้ ไม่ใส่วุ้นเส้นและหมูสับ น้ำเปล่าหรือ น้ำแร่ฝานมะนาวใส่ 1 1-2 แก้ว

หลังมื้อค่ำ ข้าวโพดต้มครึ่งฝัก หรือแอปเปิลเขียว 1 ผล


-------------------------------------------------------------------

วันที่ 2

มื้อเช้า ชาสมุนไพรร้อนๆ ถ้วย ขนมปังโฮลวีตปิ้ง ไม่ทาเนยหรือแยม 1 แผ่น

ตอนสายๆ นมเปรี้ยว 1 กล่อง หรือ 1 แก้ว

มื้อกลางวัน สลัดผักรวม 1 ถ้วย น้ำเปล่าหรือน้ำแร่ 1-2 ถ้วย

ยามบ่าย ส้มเขียวหวาน 1 ผล หรือลูกเกด 1 ช้อนโต๊ะ

มื้อค่ำ มันฝรั่งนึ่ง 1 หัวเล็ก หรือไข่ต้ม 1 ฟอง กับน้ำองุ่นคั้นหรือน้ำฝรั่ง 1-2 แก้ว

หลังมื้อค่ำ เมล็ดทานตะวัน 2 ช้อนโต๊ะ



----------------------------------------------------------------------------


วันที่ 3

มื้อเช้า ซีเรียลราดนมสด 1 ถ้วยเล็ก หรือชุปผักโขม (ผักปวยเล้ง) 1 ถ้วยเล็ก กับน้ำส้มคั้นหรือน้ำสับปะรด 1 แก้ว

ตอนสายๆ ดื่มชาสมุนไพรร้อนๆ 1 ถ้วย

มื้อกลางวัน ผักสดๆ แช่เย็นจิ้มซอส 1 จาน (เช่น ขึ้นฉ่าย แครอต แตงกวา ผักกาดแก้ว ถั่วฝักยาว หน่อไม้ฝรั่ง ดอกกะหล่ำ) กับน้ำแตงโมหรือน้ำองุ่น 1-2 แก้ว

ยามบ่าย ถั่วลิสงคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ หรือสับปะรดหั่นชิ้นพอคำ 5-6 ชิ้น

มื้อค่ำ เห็ดเข็มทองนึ่ง 1 จานเล็ก หรือน้ำเต้าหู้ใส่ลึกเดือยหรือเม็ดบัว 1 ถ้วย กับน้ำแร่ฝานมะนาวใส่ 1-2 แก้ว

หลังมือค่ำ องุ่น 10 ผล หรือมะเขือเทศแช่เย็นๆ ฝานใส่จานรองถ้วยกาแฟ 1 จาน



ขอขอบคุณข้อมูลจาก
//www.mindshopping.co.cc/bb.php?topic=17



Create Date : 27 พฤษภาคม 2554
Last Update : 27 พฤษภาคม 2554 1:33:44 น.
Counter : 250 Pageviews.

20 ผักผลไม้ ล้างสารพิษ
1. กล้วย มีคุณสมบัติในการบำรุงและสร้างความแข็งแรงแก่กระเพาะอาหาร ในขณะเดียวกันก็ให้เกลือแร่ที่จำเป็นแก่ร่างกาย เช่น โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียมช่วยควบคุมระดับของเหลวในร่างกายโดยช่วยขับของเหลว หรือสารพิษส่วนเกิออกจากร่างกายโดยช่วยขับของเปลว หรือสารพิษส่วนเกินออกจากร่างกายได้ดีขึ้น การกินกล้วยเป็นประจำยังช่วยป้องกันท้องผูก ทำให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติอีกด้วย

2. อัลมอนด์ เป็นถั่วที่มีใยอาหารสูง มีแคลเซียมและโปรตีนที่ดีต่อร่างกาย แม้จะมีไขมัน แต่ก็เป็นไขมันที่ดีและจำเป็นต่อร่างกายในระหว่างที่เราทำการล้างพิษจึงควรกินอัลมอนด์ นอกจากนี้อัลมอนด์ยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งถ้าระดับน้ำตาลในเลือดสูงก็จะเกิดอาการไฮเปอร์ไกลซีเมีย ( Hyperglycemia ) ทำให้รู้สึกหิวน้ำมากกว่าปกติ หายใจไม่ออก ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และหากน้ำตาลในเลือดต่ำที่เรียกว่า ไฮโปไกลซีเมีย( Hypoglycemia )จะทำให้เกิดอาการหน้ามืด เป็นลม ใจสั่น ไม่มีแรง คิดอะไรไม่ออก


3. แอปเปิ้ล ประกอบไปด้วยเพกตินสูง เพกตินเป็นไฟเบอร์ชนิดหนึ่งที่ช่วยจับคอเลสเตอรอลและโลหะหนักในร่างกายที่ปะปนมากับอาหาร เช่น ปรอท ตะกั่ว ซึ่งทำลายเซลล์สมอง นี่คือเหตุผลที่เราควรจะกินแอปเบิลเพื่อล้างสารพิษออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังมีคุณประโยชน์ช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็ง ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส จากการศึกษาทดลองยังพบว่าแอปเปิลช่วยขับสารเคมีที่ปนเปื้อนในอาหาร ซึ่งก่อให้เกิดอาการแพ้ในเด็ก และทำให้เกิดไมเกรนในผู้ใหญ่ได้


4. ตำลึง ผักใบเขียวที่ขึ้นข้างรั้วหาง่าย และราคาไม่แพงนี้ ในสมัยก่อนเรามักนำมาทำแกงจืดตำลึงโดยใสเนื้อสัตว์น้อยๆ แต่ปัจจุบันดูเหมือนว่าแกงจืดตำลึงจะมีตำลึงอยู่ไม่กี่ใบ และมีหมูสับเต็มไปหมด ซึ่งตำลึงมีคุณสมบัติ ช่วยผลิตน้ำดีที่จะทำให้ลำไส้ขับสารพิษออกจากร่างกายได้ดีขึ้น นอกจากนี้สารที่มีอยู่ในตำลึงยังช่วยให้ตับสลายไขมันในร่างกายด้วย


5. อะโวคาโด อาจยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ปัจจุบันเราก็สามารถหาซื้ออะโวคาโดได้จากตลาดทั่วไป ในอะโวคาโดมีสารกลูตาไทโอน(Glutathione ) ที่สามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลและป้องกันหลอดเลือดอุดตัน ทำให้หลอดเลือดมีความยืดหยุ่น ทั้งช่วยจับสารพิษที่เป็นตัวก่อให้เกิดมะเร็งกว่า 30 ชนิด และขณะเดียวกันก็ช่วยให้ตับกำจัดของเสียจำพวกสารเคมีและโลหะหนัก ซึ่งนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ( University of Michigan ) พบว่าผู้สูงอายุซึ่งกินอาหารที่มีสารกลูตาไทโอนสูงจะมีสุขภาพดีกว่าคนที่ไม่ได้กิน และมีอัตราการเกิดโรคหัวใจน้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์


6. บีทรูต ผักสีแดงที่นิยมใส่ในสลัดนี้นับเป็นผักมหัศจรรย์ซึ่งเประกอบไปด้วยไฟโรเคมีคอล ( Phytochemical ) วิตามินและเกลือแร่หลายชนิด ซึ่งทำให้บีตรูตมีคุณสมบัติต่อต้านชื้อโรค ทำความสะอาดเลือด ตับและระบบน้ำเหลือง อีกทั้งมีคุณสมบัติช่วยให้ร่างกายรับออกซิเจนได้มากขึ้น จึงช่วยกำจัดของเสียได้ง่ายและเร็วขึ้น ซึ่งจากกการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้พบว่าบีตรูตช่วยปรับระดับกรด-ด่างในเลือดให้สมดุลด้วย


7. กะหล่ำ เต็มไปด้วยสารต่อต้านมะเร็งและอนุมูลอิสระ ( Antioxidant ) และช่วยตับขับฮอร์โมนที่มากเกินไป ซึ่งอาจเป็นฮอร์โมนความเครียดที่มีผลเสียต่อร่างกาย ทั้งยังช่วยทำความสะอาดระบบย่อยอาหาร รักษาและปกป้องกระเพราะอาหารจากแบคทีเรียและไวรัสต่างๆ พืชตระกูลกะหล่ำ ได้แก่ กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก บรอกโคลี และกะหล่ำปม ผักเหล่านี้ช่วยทำความสะอาดร่างกายและช่วยกำจัดของเสียจากสิ่งแวดล้อม เช่น ของเสียจากควันบุหรี่ ควันจากท่อไอเสีย และช่วยให้ตับผลิตเอนไซม์ออกมาให้เพียงพอในการกำจัดของเสีย


8. บลูเบอร์รี่ เป็นผลไม้ที่มีค่าแอนติออกซิแดนต์สูงมากชนิดหนึ่งและถือเป็นหนึ่งในสุดยอดอาหารรักษาโรค เนื่องจากในบลูเบอร์รี่มีสารแอสไพรินตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยลดการระคายเคือง สารที่มีในบลูเบอร์รี่สามารถเข้าไปขัดขวางแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะ ส่งผลให้ลดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ


9. กระเทียม จากหลายการศึกษาให้ผลตรงกันถึงคุณสมบัติของกระเทียมในการทำความสะอาดร่างกาย นั่นคือ การกินกระเทียมเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ขับและฆ่าพยาธิในทางเดินอาหาร และฆ่าเชื้อไวรัส โดยเฉพาะทำความสะอาดเลือดและระบบลำไส้ ทำให้เส้นเลือดมีความยืดหยุ่นและลดแรงดันโลหิต นอกจากนี้ยังต่อต้านการเกิดมะเร็งและทำให้ระบบทางเดินหายใจดีขึ้น แต่ก็ควรระวังเรื่องการกินกระเทียมมากเกินไป ซึ่งก่อให้เกิดลมหายใจที่มีกลิ่นกระเทียมไปด้วย


10. ส้มโอ หรือเกรปฟรุต เพราะเป็นผลไม้รสชาติดีจึงได้รับความนิยมในอาหารมื้อเช้าของชาวตะวันตก สารเพกตินซึ่งเป็นไฟเบอร์ประเภทหนึ่งในเกรปฟรุต สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ก่อนที่จะจับตัวเป็นก้อนและขวางทางเดินในหลอดเลือด นอกจากนี้เพกตินยังสามารถช่วยป้องกันไม่ให้โลหะหนักเหล่านี้ทำอันตรายต่อร่างกาย ส่วนเกรปฟรุตช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งกระเพราะอาหารและมะเร็งตับอ่อน สารต้านอนุมูลอิสระในเกรปฟรุตช่วยปกป้องสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย


11. มะเขือพวง คนไทยนิยมใส่มะเขือพวงในอาหารประเภท ผัดเผ็ด แกงป่า แกงกะทิ และน้ำพริก สมัยก่อนแกงกะทิเช่นแกงไก่ใส่มะเขือพวงเต็มไปด้วย ใส่ไก่น้อยเน้นการกินมะเขือเป็นหลักแต่ปัจจุบันกลับตรงกันข้าม แกงไก่มักใส่ไก่มากกว่ามะเขือ และคนก็เลือกกินแต่ไก่ จึงเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้คนในปัจจุบันมีรูปร่างอ้วนกว่าคนสมัยก่อน
มะเขือพวงเป็นผักที่เต็มไปด้วยไฟเบอร์ ซึ่งสามารถช่วยดูดซึมไขมันในอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วยจับไขมันอิ่มตัว (ไขมันอันตราย) และขับออกจากร่างกายโดยระบบขับถ่าย ทั้งยังมีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงช่วยกำจัดของเสียออกจากระบบทางเดินอาหารได้เร็วขึ้นและลดการสะสมของเสีย


12. แครอท เต็มไปด้วยสารอัลฟาและเบตาแคโรทีน ( Alpha and Beta-carotene ) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิตามินเอ และถือว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยมช่วยปกป้องร่างกายจากสารพิษในสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะช่วยระบบทางเดินประสาท สายตา ผิวหนัง ที่ต้องสัมผัสแสงแดเป็นประจำ และจากการวิจัยพบว่าสารในแครอตช่วยลดการเกิดมะเร็ง และช่วยทำให้ระบบทางเดินหายใจและหัวใจแข็งแรงขึ้น


13. ขึ้นฉ่าย ถือว่าเป็นสุดยอดอาหารในการทำความสะอาดเลือดและช่วยลดความดันโลหิต สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูงควรกินขึ้นฉ่ายเป็นประจำ หรือถ้าจะให้ดีควรดื่มน้ำคั้นจากขึ้นฉ่ายสดในตอนเช้า เพื่อช่วยควบคุมระดับแรงดันเลือดให้คงที่ ในขึ้นฉ่ายยังประกอบไปด้วยสารต้านการเกิดมะเร็ง และสารที่ช่วยขับของเสียจากบุหรี่ในคนที่สูบบุหรี่หรือผู้ที่ได้รับควันบุหรี่ด้วย


14. พืชตระกูลถั่ว (เช่นถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง และถั่วขาว) จากการศึกษาพบว่าผู้ที่กินถั่วเป็นประจำมีระดับคอเลสเตอรอลน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้กิน และลดอัตราความเสียงต่อการเกิดโรคหัวใจด้วยพืชตระกูลถั่วนี้ประกอบด้วยไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ทำความสะอาดลำไส้ ลดการสะสมของสารพิษในลำไส้ และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ อีกทั้งช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้และมะเร็งต่อมลูกหมากด้วย


15. ทับทิม ตำราแพทย์แผนโบราณของชาวเอเชียกล่าวไว้ว่า การดื่มน้ำทับทิมสามารถรักษาอาการอักเสบและลดความปวดได้ เนื่องจากในผลทับทิมมีสารแอสไพรินซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกันกับแอสไพรินในยาแก้ปวด ช่วยล้างพิษ ลดการติดเชื้อของเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย และลดอาการอักเสบ โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการไขข้ออักเสบ ปวดบวม ช้ำ แนะนำให้กินทับทิม เพราะช่วยลดอาการปวดลงได้ ขณะเดียวกันยังมีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยให้ขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายได้ดีขึ้น


16. กระเจี๊ยบ น้ำกระเจี๊ยบมีคุณสมบัติช่วยทำความสะอาดแบคทีเรียและไวรัสออกจากระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งมักก่อให้เกิดการติดเชื้อ ทำให้มีอาการปัสสาวะไม่ออกหรือมีเลือดปน หรือมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ซึ่งสารในกระเจี๊ยบสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสเหล่านั้นได้


17. เมล็ดแฟลกซ์ ประกอบไปด้วยกรดไขมันที่จำเป็น อย่างโอเมกา 3 ซึ่งมีประโยชน์ต่อสมอง ช่วยบำรุงความจำ และมีผลดีต่อหัวใจเพราะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล นอกจากนี้ยังมีสารอื่นที่ช่วยทำให้ภูมิคุ้มกันร่างการแข็งแรงขึ้น


18. มะนาว เป็นสุดยอดอาหารที่ช่วยทำความสะอาดตับ มีวิตามินซีสูง น้ำมะนาวสดเมื่อนำมาผสมกับน้ำอุ่นแล้วดื่มตอนเช้าหลังตื่นนอนจะช่วยล้างพิษและทำให้เลือดสะอาดขึ้น แต่ถ้านำน้ำมะนาวสดผสมกับโยเกิร์ตและน้ำผึ้ง ก็จะเป็นอาหารที่ช่วยล้างพิษในลำไส้และป้องกันอาการท้องผูกได้อีกด้วย


19. หัวหอม ประกอบไปด้วยสารต่อต้านมะเร็งหลายชนิด และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยทำความสะอาดเลือด ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล LD ซึ่งไม่ดีเพราะเป็นตัวการก่อให้เกิดโรคหัวใจ นอกจากนี้ยังช่วยทำให้ระบบทางเดินหายใจทำงานดีขึ้น ช่วยรักษาโรคหอบ โรคทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้ และที่สำคัญคือช่วยรักษาโรคเบาหวานโดยช่วยให้ระดับน้ำตาลคงที่


20 สาหร่าย พืชสีเขียวในทะเลที่หลายคนมองข้ามคุณประโยชน์ แต่จากการศึกษาของ Mcgill University ที่ Montreal แสดงผลว่าสาหร่ายสามารถจับของเสียจากรังสีที่สะสมในร่างกาย

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก
//www.cityvariety.com/cityhealth-6857.html


---------------------------------------------------------------------------------


อาหารเผาผลาญไขมัน


สารอาหารบางอย่างอาจช่วยทำให้เราผอมได้ แต่บางอย่างก็ยังไม่สามารถบอกได้อย่างแท้จริงว่า มีสรรพคุณต่อร่างกายอย่างไร ยกตัวอย่าง เช่น

1หน่อไม้ฝรั่ง กรดแอสพาราจีนในหน่อไม้ช่วยทำให้ผอมได้ แต่กรดเหล่านี้เพียงช่วยขับน้ำออกเท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเผาผลาญไขมัน

2สาหร่ายและชาสาหร่าย ออกฤทธิ์เช่นเดียวกับกรดแอสพาราจีน คือขับน้ำและของเสียออกจากร่างกาย ส่วนการเผาพลาญไขมันนั้นยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่า สามารถเผาผลาญได้จริงหรือไม่

3พริก ในพริกมีสารรสเผ็ดร้อนที่ชื่อแคปไซซิน ช่วยเพิ่มความร้อนในร่างกาย “เพลิงร้อน” ตัวนี้สามารถช่วยเผาผลาญไขมัน ฉะนั้นถ้าใครกินเผ็ดได้ ก็เหยาะพริกป่นลงไปหน่อย หรือรับประทานพริกสดที่ซอยบางๆ ร่วมกับอาหารด้วยก็ดี

4กาแฟ กาเฟอีนช่วยกระตุ้นเอ็นไซม์ซึ่งมีหน้าที่เผาพลาญไขมัน ดังนั้น เราควรจะดื่มกาแฟเป็นประจำ แต่ไม่ควรดื่มมาก แค่มื้อเช้าดื่มหนึ่งแก้ว หลังอาหารเที่ยงดื่มอีกหนึ่งแก้ว ก็พอแล้ว

5ไวน์แดง หากดื่มในปริมาณน้อย สารบางอย่างในไวน์แดง ก็อาจจะช่วยขัดขวางการดูดซึมไขมันได้บ้าง อย่างไรก็ดีไม่ควรดื่มมากเกินไป เพราะไวน์แค่ครึ่งแก้วสามารถให้พลังงานได้ถึง 72 แคลอรี่

6ชาเขียว จากการศึกษาวิจัยของมหาวิทยาลัยไฟร์บวร์ก ประเทศเยอรมนี ยืนยันว่าการดื่มชาเขียวเป็นประจำในปริมาณวันละสี่แก้ว สามารถช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันได้ และดีต่อสุขภาพอีกด้วย


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
//www.myhomeveg.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=332132












Create Date : 27 พฤษภาคม 2554
Last Update : 27 พฤษภาคม 2554 1:27:24 น.
Counter : 254 Pageviews.

ขอเก็บข้อมูลก่อนจะเริ่มจริงจังเดือนหน้า
เบื่อตัวเองมากๆๆ อุตสาห์ว่าจะตั้งใจลดจริงจังในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาก็พอ ลด ละ เลิกและปรับเปลี่ยนการกินได้บ้างแล้ว ของกินระหว่างมื้อตัดทุกอย่าง มื้อเช้ากาแฟและขนมเบเกอร์รี่ 1-2 ชิ้น กลางวันกินปกติ ส่วนมื้อเย็น อุตสาห์งดข้าวเย็นได้สักสองวันด้วยการกินผลไม้แทน (ดีใจแทบแย่) แต่เจ้ากรรมกลับอยู่ในช่วงระยะอันตรายป้าแดงกำลังจะมา ขนาดลดปริมาณการกินได้เยอะ ท้องยังไม่แฟบเลยอย่างบวม แถมอาการหิวบ่อยๆมันกลับมาอีกแล้ว มิหนำซ้ำรู้สึกเพลียๆ เนือยๆแอบงีบเวลางานบ่อยๆ ไม่ได้เบิรน์เลย น้ำหนักก็ยังไม่ไปไหนเท่าเดิม ก็มีขึ้นๆ ลงๆ 3-5 ขีด อยู่นี่แหละ คาดว่าอาทิตย์นี้ป้าแดงมาคงปล่อยไปก่อนแล้วจะเรียกสติสตังให้กลับมาเอาไว้เริ่มโปรแกรมการกินจริงๆ วันที่ 1 มิย แล้วกัน สู้ๆ โอ้ยย อืดดด ขอเก็บข้อมูลก่อนว่าตัวเองจะกินอะไรได้บ้าง

อาหารสำหรับคนเลือดกรุ๊ปโอ

กรุ๊ปเลือดโอ : จัดเป็นพวกโปรตีน (High Protein Diet)

ลักษณะเด่นของเลือดกรุ๊ปโอคือ น้ำย่อยในระบบย่อยอาหารมีความเป็นกรดสูง ซึ่งเหมาะกับอาหารประเภทเนื้อแดงหลายชนิด ผักและผลไม้ส่วนใหญ่มีประโยชน์กับกรุ๊ปเลือดโอ แต่นมวัว และชีสแทบทุกชนิดจะย่อยยากสำหรับคนเลือดกรุ๊ปโอ ที่สำคัญที่สุดคือ การหลีกเลี่ยงจนถึงการงดการรับประทานแป้งสาลี เพราะเลคตินในแป้งสาลีจะทำปฏิกิริยาที่เป็นผลเสียเลือดและรบกวนระบบเผาผลาญของร่างกาย

สิ่งที่ควรเน้นเพิ่มคือ ปลาและอาหารทะเล ทั้งนี้เพื่อเพิ่มแคลเซียมซึ่งร่างกายจะไม่ได้รับจากนมวัว และเพิ่มไอโอดีนเพื่อประโยชน์ของฮอร์โมนไทรอยด์ซึ่งมักจะไม่คงที่

อาหารที่ควรรับประทาน

- เนื้อสัตว์โดยเฉพาะเนื้อแดง ยกเว้นเนื้อหมู เนื่องจากกระเพาะของคนกรุ๊ปเลือดโอมีความเป็นกรดสูงย่อยอาหารได้เร็วและดูดซึมได้ดีมาก

- อาหารทะเล ควรรับประทานเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเลือดไม่แข็งตัวและไทรอยด์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่ายในคนกรุ๊ปเลือดโอ

- ผักผลไม้ที่ดี ได้แก่ บร็อคโคลี่ สปินิช คะน้า สับปะรด พลับ พรุน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญอาหาร

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง

- อาหารทุกชนิดที่ทำจากแป้งสาลี เพราะจะมีปฏิกิริยาต่อระบบย่อยและระบบเลือด ทำให้น้ำหนักเพิ่มและเสี่ยงต่อโรคข้อเสื่อม

- ผักจากพวกกะหล่ำ ที่จะมีผลต่อระบบไทรอยด์ เห็ดหอม มะเขือยาว มันฝรั่งและข้าวโพดไม่ดีต่อกรุ๊ปเลือด

- เครื่องดื่มประเภท ชา กาแฟและเบียร์ ซึ่งจะเพิ่มกรดในกระเพราะอาหารที่มีมากอยู่แล้ว

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก
//www.entrykitchen.com/index.php?lay=show&ac=article&Ntype=6&Id=538735783

-------------------------------------------------------------------------------


สูตรล้างพิษ 1 วัน
หัวใจสำคัญในการล้างพิษใน 1 วัน คือ จะต้องกินให้ได้แคลอรี่น้อยกว่า 800 แคลอรี่ เพื่อให้ระบบย่อยและตับได้พัก ต่อจากนั้นตับจะขับสารพิษออกมาได้และอาหารที่คุณจะทานในวันนั้นจะต้องไม่มี เนื้อสัตว์เข้ามาปะปนเด็ดขาด เข้าใจกันดีแล้วต่อไปเรามาเข้าสู่กระบวนการล้างสารพิษกันเลยดีกว่า

1. เลือกผลไม้ที่คุณชอบมา 1 อย่างเช่น มะละกอ ฝรั่ง แคนตาลูป แอปเปิ้ล ส้มโอ ชมพู่ มะม่วง ฯลฯ ยกเว้นอยู่ 2 อย่าง คือ ทุเรียนและสับปะรด เพราะทุเรียนมีแคลอรีสูงเกินไปและย่อยยากทานแล้วจะเป็นภาระกับระบบย่อย ส่วนสับปะรดนั้นมีกรดสูงมากถ้ากินทั้งวันท้องก็จะอืดได้

2. ทานแต่ผลไม้ชนิดเดียวตลอดทั้งวัน โดยอาจจะปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ เช่น ถ้าเลือกมะละกอก็อาจจะทานเป็นเนื้อมะละสุกหรือส้มตำ (มะละกอดิบ) ที่ใส่แต่มะละกอกับน้ำปลามะนาวเท่านั้นไม่ใส่เครื่องประกอบอย่างอื่นเด็ดขาด

3. พอมาถึงมื้อกลางวันก็ทานมะละกออีก แต่อาจจะเป็นน้ำมะละกอปั่นใส่น้ำตาลน้อยที่สุดหรือน้ำมะละกอคั้นสดก็ได้

4. มื้อเย็นก็ยังต้องทานมะละกออีกครั้งเป็นมื้อสุดท้ายของวัน โดยอาจจะบีบมะนาวลงไปด้วยนิดหน่อยเพื่อเพิ่มรสชาติให้ไม่เลี่ยนเกินไป

5. วันรุ่งขึ้นก่อนที่จะเริ่มมื้อเช้าคุณจะต้องดื่มน้ำมะนาวผสมน้ำอุ่นประมาณ 2 ขวดก่อน เพราะเมื่อเราล้างสารพิษตับจะขับสารพิษให้มารวมกันอยู่ที่ลำไส้เล็กส่วนต้น จึงต้องดื่มน้ำอุ่นผสมมะนาวเข้าไปกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัวเพื่อให้สารพิษถูก ดันออกมากับอุจจาระหลังจากที่ดื่มน้ำอุ่นแล้วคุณจะรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ ทันที แต่ถ้าไม่มีการดื่มน้ำกระตุ้นและไปทานอาหารเช้าสารพิษก็จะถูกดูดกลับเข้าไป ในกระแสเลือดเหมือนเดิมทำให้การอดอาหารล้างพิษของเราต้องเสียเปล่าไป

- วิธีเตรียมน้ำอุ่นผสมมะนาว
อุปกรณ์

1. ขวดน้ำขนาด 1 ลิตร 2 ขวด

2. มะนาว 4 ลูก

3. เกลือป่น 2 ช้อนชา แต่ห้ามใช้เกลือไอโอดีน

- วิธีทำ

1. ใส่น้ำดื่มให้เต็มขวดจากนั้นบีบมะนาวใส่ลงไปขวดละ 2 ลูก และเกลือ 1 ช้อนชา เขย่าให้เข้ากัน

2. มะนาวจะไปกระตุ้นให้ลำไส้ทำงาน ส่วนเกลือก็จะช่วยอุ้มน้ำไว้ไม่ให้ถูกร่างกายดูดซึมไปหมด น้ำจะได้เหลือไปจนถึงทวารหนักเพื่อขับอุจจาระ

3. หลังจากดื่มน้ำมะนาวประมาณ 10-20 นาที คุณจะรู้สึกปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำ นั่นคืออาการปกติหลังจากถ่ายท้องเรียบร้อยแล้วก็เริ่มทานอาหารได้

กระบวนการล้างพิษจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นถ้าหากทำเป็นประจำสัก 2 อาทิตย์ ต่อหนึ่งครั้ง


ขอขอบคุณข้อมูลจาก ไอเอ็นเอ็น ที่มา : //health.deedeejang.com
//www.cityvariety.com/cityhealth-6857.html




Create Date : 27 พฤษภาคม 2554
Last Update : 27 พฤษภาคม 2554 0:43:41 น.
Counter : 234 Pageviews.

ขอแอบลดอย่างเงียบๆ อิอิ เพราะอายเพื่อนๆ Blog จังหายไปนาน นน.ขึ้นเท่าตัว T_T
กลุ้มใจตัวเองจริงๆ

หลังจากแรกๆที่แอบหลุดเพราะป้าแดงมา นิดหน่อยแต่สุดท้ายห้ามใจไม่อยู่เลยหลุดยาว น้ำหนักเลยขึ้นแบบฮวบฮาบภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน แต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้วเสื้อผ้าใส่ไม่ได้แล้วอ่ะ(จากไซด์ L ต้องซื้อ XL มาใส่แล้ว) ส่องกระจกเห็นตัวเองแล้วตกใจนี้ฉันอ้วนขนาดนี้เลยเหรอและมันก็เป็น นน.ที่มากที่สุดไม่เคยหนักแบบนี้มาก่อนในชีวิต ตอนแรกกะว่าเอาเรื่องคุณแฟนจะกลับมามาเป็นแรงบันดาลใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม ทำไม่ได้ หิวตลอดเวลา แถมกินทีเยอะด้วย ไม่ไหว ไม่ไหว ต้องปฏิวัติตัวเองใหม่แต่คราวนี้มีเรื่องงานมาเป็นแรงบันดาลใจเพราะต้องลดให้ได้ก่อนจะไปสมัครงานใหม่ ไม่งั้นไม่ได้งานแล้วแย่เลย จะพยายามที่สุด สู้ๆ


* มาเกริ่นไว้ก่อน ตอนนี้เริ่มตั้งสติและลดปริมาณอาหารอยู่ ยังไม่ลดแบบจริงจังเอาไว้คิดเมนูและโปรแกรมลดได้เมื่อไหร่แล้วค่อยจะเริ่มจริงๆ อีกอย่างคือยังขออนุญาติยังไม่บอก นน.นะค่ะ (อิอิ เพราะมีคนรู้จักเข้ามาอ่าน blog แอบอายคนรู้จักเพราะเขายังไม่เคยเจอตัวจริงของเรา)เอาไว้เริ่มจริงจังเมื่อไหร่ ค่อยรายงานผล




*** ขออนุญาติปิดคอมเม้นท์นะค่ะ เพราะไม่อยากรบกวนเพื่อนๆอีกอย่างตัวเราเองก็ไม่ค่อยได้ไปเยี่ยมบล็อคใครเลย เหมือนเห็นแก่ตัว อีกอย่างคือตัดปัญหาคนป่วน blog เห็นช่วงหลังๆ ห้องอื่นๆจะถูกป่วนกันถ้วนหน้า ***



Create Date : 19 พฤษภาคม 2554
Last Update : 19 พฤษภาคม 2554 13:11:40 น.
Counter : 255 Pageviews.

1  2  3  

sapuknik79
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



สาวราศีเมษ รักความสงบ ชีวิตสมถะ แต่ติสส์แตกอยู่บ่อยๆ เขียนบล็อคแล้วแต่อารมณ์ (แต่ขี้เกียจอัพเป็นส่วนใหญ๋) แต่มีความจริงใจยินดีต้อนรับเพื่อนๆทุกคนที่แวะมาเยี่ยมจ้า

: Users Online
Free นาฬิกาน่ารัก
Google
All Blog