Once upon a time ...
Group Blog
 
All blogs
 
#11 Around Office

ใต้ถุนตึกมีร้านกาแฟและร้านขายอาหารในตัว อาหารไม่แพงมากนักแต่ก็เป็นราคาพิเศษสำหรับเราอยู่ดี กินได้เดือนละไม่เกิน 2 ครั้ง (ปกติเราจะออกไปกินอาหารนอกบ้านแบบหรูๆ คือ มื้อละ 10-15 เหรียญขึ้นไปตอนวันหยุด ส่วนวันธรรมดาเลือกแบบ 5 เหรียญหรือไม่ก็ทำเอง หุงข้าว ทำกับข้าวเอง ไม่ก็ขนมปังทาโน่นทานี่เรื่อยไป) แต่ที่นี่มี muffin อร่อยมากๆๆๆๆๆ ค่ะ Blueberry Muffin ก้อนใหญ่ อุดมไปด้วย Blueberry นี่ของโปรดของฉันเชียวล่ะ ราคา 3.50 เหรียญและเป็นอะไรที่ยอมควักกระเป๋าสตางค์จ่ายออกไปโดยไม่เสียดาย ซึ่งราคานี้จะซื้อขนมปังแถวได้ตั้ง 2 แถวเชียวนะ และความอร่อยของมันนี่ล่ะที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มได้เพิ่มดียามกินกับไมโลชงด้วยนมสดแทนน้ำร้อน โห..เขียนไปยังน้ำลายไหลไปเลยนะนี่

รอบๆออฟฟิศมีอะไรบ้าง

เอาเรื่องสถานที่ดีกว่า มองจากที่ทำงานออกไปก็เป็นตึกร้างแห่งหนึ่งซึ่งสถานฑูตไทยเป็นเจ้าของ ก็นึกแปลกใจว่าทำไมไม่เอาไปทำประโยชน์ ที่แถวนั้นมีราคาแพง ถ้าเอาตึกนี้ออกให้เช่า ทำร้านอาหารก็ได้หรือแม้แต่ทำที่จอดรถก็คงสร้างรายได้ให้กับสถานฑูตมากมาย แต่คุยกับเจ้าหน้าที่สถานฑูต เธอบอกว่าระเบียบอะไรก็ไม่รู้ ทำให้ทำไม่ได้ จะของบประมาณมาปรับปรุงก็ไม่ได้ ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน รู้แต่ว่าทางเวลลิงตันได้ส่งจดหมายเตือนมาแล้วให้ปรับปรุงสถานที่ให้ดูน่ามอง ก็ตึกร้าง มีทั้งขี้นกและยังมีขี้ยาอาศัยอยู่อีก น่ากลัวอยู่ไม่เบาหรอก

รูปของตึกดังว่า










ถัดจากตึกร้างไป เป็น Supermarket ขนาดใหญ่ ฉันเป็นคนชอบเดินซื้อของ ดูของใน Supermarket ค่ะ ไม่รู้ทำไม คงจะถูกชะตากับอะไรที่กินได้มากกว่าพวก Mall หรือร้านตามห้าง ปกติจะต้องซื้อของกลับที่พักสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ไปที่ร้านขายของเอเชียในเมืองอีกเดือนละสองครั้ง แต่บางทีก็ไปได้มากกว่าหนึ่งครั้ง ก็เลิกงาน เดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้ว ยิ่งถ้า flat mate มาบอกว่าของที่ฉันชอบตอนนี้ลดราคาอยู่ อาจจะเป็นกล้วยหอม กีวี แครอท น้ำผลไม้หรือนมหรือโยเกิร์ตยี่ห้อที่ชอบ ฯลฯ ก็คงต้องแวะเวียนไปมากกว่าหนึ่งครั้ง เช่นเดียวกันกับ Flat Mate ของฉันที่ต้องแวะเวียนไปเช่นกันถ้าฉันบอกเธอว่า ฉันเห็นอันโน้น อันนี้ลดราคาและรู้ว่าเป็นของโปรดของเธอ


ความที่บ้าเดิน supermarket มาก บ้าขนาดที่ว่าครั้งหนึ่งมีไฟไหม้ที่ตึก ต้องเดินลงมายืนหนาวอยู่ข้างนอก รอเขาจัดการ รอได้สักพักก็หันไปเห็น...เจ้า Super เพื่อนรัก เลยเดินไปหลบหนาวในนั้นดีกว่า กระเป๋าตังค์ก็เอาออกมาด้วย ไม่มีปัญหาสำหรับสาวนักช้อบ ว่าจะเดินดูโน่นดูนี่เฉยๆนะ เพราะจะถือถุงพลาสติคเดินเข้าไปทำงานตอนที่เขาจัดการเรื่องไฟเสร็จคงจะไม่งาม

เดินไปก็เหลือบมองที่ลานไป อ้อ...ยังมีคนยืนอยู่เพื่อรอให้ทางดับเพลิงจัดการควันที่พุ่งมาจากชั้นสาม เหลือบหลายรอบจนย่ามใจ เลือกถั่วดีกว่าว่าจะเอาแบบไหนดี ที่นั่นมีถั่วหลากหลายชนิดให้เลือก ทั้งถั่วลิสงธรรมดา ถั่วอัลมอนด์ แมคคาเดเมีย พีคอน โอ๊ย...ลายตา แต่ละแบบก็มีแบบเค็มบ้าง หวานบ้าง จืดๆบ้าง เลือกไปเลือกมาก็ได้มาสองสามแบบ แต่พอตอนจ่ายเงินแล้วเหลือบไปที่ลานอีกที เฮ้ย...คนหายไปไหนหมดแล้วหว่า ก็เลยกลายเป็นคนสุดท้ายที่เดินเข้าไปทำงานหลังจากที่เขาจัดการดับควันไฟไปเป็นชาติแล้ว


ส่วนอีกที่หนึ่งที่ยังไงก็ต้องพูดถึงคือ ร้านกาแฟของคุณ Jessee เขาเป็นคนแอฟริกัน-อเมริกันที่มาอาศัยอยู่ที่นี่ มีร้านกาแฟเป็นรถเคลื่อนที่แต่ไม่เคยเคลื่อนไปไหน จอดอยู่หน้าตึก วันหยุดก็ปิดร้านแล้ววางร้านกาแฟเขาไว้อย่างนั้นล่ะ ไม่เคยถามประวัติเขาหรอกนะ ก็เขาทำฉันเขินไปตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน คุณ Jessee ทักฉันว่า Hello Darling
แล้วก็เป็นอย่างนั้นมาได้แทบทุกครั้งถ้าเขามองเห็นฉันและไม่มัวโม้กับลูกค้าผู้หญิงรายอื่นอยู่ My Sweet heart บ้าง ดีไม่ดีมี I love you Darling ตะโกนลั่นมาจากในร้าน ฉันถาม Flat Mate ว่าทำไมต้องเป็นฉันคนเดียวด้วยหว่า ก็เดินมาด้วยกัน หรือเป็นเพราะ Flat Mate โพกผ้า เขาเลยกลัวเรื่องการลบหลู่ทางศาสนา หรือเป็นเพราะคิดว่าทำดีกับฉันแล้วฉันจะซื้อกาแฟร้านเขา แต่ฉันเป็นแฟนของ Fuel ไปแล้วนี่นา (Hot Chocolate ของ Fuel อร่อยมาก ขอบอก) ยังไงก็แล้วแต่ ฉันยิ้มหวานให้เขาทุกครั้งล่ะ คนมีไมตรีมาทั้งที จะทำหน้าบึ้งใส่ไปใย

Jessee รู้ได้ไงว่าฉันทำงานที่ไหนก็ไม่รู้นะ แต่คนขายกาแฟอย่างเขาคงสืบได้ไม่ยาก บางวันที่เดินไปทำงานข้างนอกแล้วผ่านร้านเขา เขาก็จะถามไถ่ว่าไปไหน เราก็บอกสถานที่ที่เราจะไป แค่นั้นจบ แต่บ่ายวันหนึ่ง วันที่ฉันใกล้จะกลับเมืองไทยแล้วเดินผ่านร้านของเขา เขาเรียกฉันเข้าไปหา บอกว่ารู้แล้วว่าฉันจะกลับบ้าน (เดาว่าต้องมีใครที่ออฟฟิศบอกเขาแน่เลย) ถามว่าบ้านอยู่ไหน แล้วก็แนะนำตัวว่าเขามาจากไหน มีภรรยามีลูกแล้ว และอยากจะมอบน้ำผลไม้ให้ฉันหนึ่งแก้วเพื่อให้รำลึกถึงเขา น้ำผลไม้นี้ผสม ‘Passion Fruit’ ด้วย โอ้โห...เจอไม้นี้เข้าก็เลยต้อง Shake Hand กันสักหน่อยเพื่อบอกลา (ลืมถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกน่ะ ทำไมไม่เคยคิดจะถ่ายรูปกับเขาก็ไม่รู้สิ แย่จังเรา) เอาน้ำผลไม้แก้วนั้นไปแบ่งให้ Flat Mateที่นั่งอยู่อีกฟากของออฟฟิศให้ช่วยกิน บอกว่าเผื่อฉันเป็นอะไรไป จะได้มีเพื่อนไปโรงพยาบาลด้วยกัน

สรุปแล้ว Jessee เป็นเจ้าของร้านกาแฟหน้าตึกที่เจอกันทุกเช้าและส่งคำหวานให้ฉันได้แทบทุกวัน จริงๆเขาทำแบบนี้ให้ผู้หญิงอีกหลายๆคนค่ะ ผู้หญิงที่เขาส่งคำหวานให้เป็นพวกที่ไม่เอาเรื่องเอาราวกับเขาทั้งนั้นล่ะ ยังไม่เคยเจอลุงชงกาแฟโบราณที่ไหนในเมืองไทยโหวกเหวกและห่ามได้เท่ากับคุณ Jessee เลยค่ะ

รูปรถกาแฟของ Jessee






เยื้องๆกับออฟฟิศเป็นตึกรัฐสภา Behive หรือรังผึ้ง ไม่ได้ใหญ่โตเท่ากับของบ้านเราและไม่ได้ลับลมคมในจนถึงกับห้ามผ่าน เวลาลงจากเขา (เดินจากบ้านมาในเมือง ต้องลงเขามาค่ะเพราะเป็นเด็กดอย) ก็เดินทะลุอาณาเขตรัฐสภาได้บ่อยๆ เป็นเหมือนตึกที่ทำงานตึกหนึ่งที่ไม่ได้พิเศษอะไรมากมายน่ะ ถึงตอนนี้ยังนึกสงสัยว่า หากมีใครมาประท้วงยึดทำเนียบ คนที่นั่นจะทำยังไงนะ ก็เขาอยู่กันสงบมานาน อยู่กันแบบสงบๆโดยที่ไม่ต้องประกาศว่าตัวเองเป็นคนที่ “รักสงบ” จ้า


Create Date : 16 ธันวาคม 2551
Last Update : 22 ธันวาคม 2551 19:48:58 น. 4 comments
Counter : 587 Pageviews.

 
จะปีใหม่แล้ว ขออวยพรก่อนนะ เพราะกลัวว่าจะไม่ได้เม้นต์ให้ ขอคุณพระพุทธเจ้า จงดลบันดาลให้เห็นแจ้งในธรรม ขอให้มีทรัพย์ในการสร้างบารมี ขอให้เป็นคนดีของสังคม และมีความสุขกับความดีที่ได้กระทำกันทั้งครอบครัวเลยนะ...


โดย: wbj วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:12:46:20 น.  

 
แอบผิดหวังตอนที่ Jessee บอกว่ามีภรรยาและลูกแล้วรึเปล่าครับ อิ อิ


โดย: ST.Exsodus วันที่: 27 ธันวาคม 2551 เวลา:9:16:06 น.  

 
ขอบคุณพรของพี่จุงค่ะ เป็นพรปีใหม่ที่ซึ้งและถูกใจมากๆค่ะ

ไม่เคยคุยกันเลย อาศัยแอบอ่านบทความของพี่อย่างเดียว แต่ทำหน้าที่ผู้อ่านที่ดี vote blog ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ
.........

ส่วนเรื่อง Jessee อืม...มีคนรู้ทันเสียด้วยว่าแอบผิดหวังที่อดกินกาแฟฟรีซะแล้วววว

เผอิญว่าชอบกิน Hot Chocolate มากกว่ากาแฟน่ะค่ะ เลยไม่ต้องผิดหวังมากนัก


โดย: saifan วันที่: 29 ธันวาคม 2551 เวลา:21:38:33 น.  

 
เนื้อความในบล็อกนั้นเป็นเนื้อเพลงนะครับ ชื่อเพลง "คิดถึงเธอทุกที (ที่อยู่คนเดียว)"


โดย: ST.Exsodus วันที่: 4 มกราคม 2552 เวลา:21:55:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

saifan
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add saifan's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.