BORN TO WRITE
|
|||
[I love this shit] Psychonauts : เกมดีที่ไม่ดัง!! Inception + Tim Burton!!
ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะ "หน้าตาเกม" มันไม่ชวนให้เล่น หรือเป็นเพราะการโปรโมทไม่ดีกันแน่ นักวิจารณ์ทุกสำนักต่างวิจารณ์ในแง่บวก คนเล่นยกนิ้วให้ว่า "เยี่ยม" กันเกือบทุกคน แต่กระแสเสียงทั้งจากนักวิจารณ์และคนเล่น ต่างไม่สามารถกระจายความดังของเกมได้มากไปกว่านี้ ผลสุดท้ายคือ เกมที่มีศักยภาพจะมีภาคต่อ กลับกลายเป็นหมันไปซะงั้น... แต่คำแนะนำของผมตรงนี้คือ "ถ้ามีโอกาสก็จงหามาเล่นกันซะ!" (ใน Steam มีขายนะ) +ลองนึกถึงหนัง Inception ที่ทิม เบอร์ตัน (Alice in Wonderland, Beetlejuice, Corpse Bride) กำกับ +แนวความคิดสร้างสรรค์ แต่ละด่านถูกดีไซน์ได้อย่างมีเอกลักษณ์ +สู้กับบอสสนุก +เขียนบทได้ดี เนื้อเรื่องง่ายๆ แต่กลับน่าติดตาม -มุมกล้องทำให้ตายโง่ๆหลายครั้ง -พลังบางพลัง พอจบด่านแล้วแทบไม่ได้ใช้ต่อเลย Psychonauts เป็นเรื่องเกี่ยวกับโลกที่มีผู้ใช้พลังจิต เรื่องราวเกิดขึ้นในแคมป์ฤดูร้อนที่ใช้ฝึกเด็กๆผู้มีพลังจิต (Whispering Rock Psychic Summer Camp) ซึ่งก่อตั้งโดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ตัวเอกของเรื่องคือแรซปูติน อควอโต้ (ชื่อเล่นคือ "แรซ") ลูกชายเจ้าของคณะละครสัตว์ซึ่งหนีมายังค่ายฤดูร้อนแห่งนี้ เพื่อหวังจะฝึกวิชาพลังจิต แต่ครูผู้ฝึกจะไม่ฝึกแรซจนกว่าจะได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง จึงเลือกพ่อของเขามาที่ค่ายเพื่อรับตัวกลับ แรซจึงมีเวลาที่จะได้อยู่ในค่ายเพียงแค่สามวันเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แรซได้รับอนุญาตให้เข้าฝึกในระดับเบื้องต้น อีกทั้งยังดูเหมือนว่าแรซจะมีพลังจิตในระดับที่ไม่ธรรมดา จึงได้รับความสนใจจากเจ้าหน้าที่ "ไซโคนอตส์" ผู้มีพลังจิตที่ทำงานให้กับรัฐบาล (คล้ายกับพวกสายลับอย่างเจมส์ บอนด์ หรือไม่ก็พวก FBI หรือ CIA) ในระหว่างการฝึกนั้นเอง แรซได้พบว่ามีเด็กถูกดร.โลโบโต้ขโมยสมองไป ในยามวิกฤติแบบนี้ กลับมีเพียงแต่แรซเท่านั้นที่จะช่วยพวกเด็กๆและค้นหาความจริงของเรื่องนี้! Psychonauts ออกขายในปี 2005 ส่วน Inception ออกฉายในปี 2010 ดังนั้นแน่นอนว่า Psychonauts ไม่มีวันไปเอาไอเดียจาก Inception แน่ๆ มีแต่จะกลับกัน คือ Inception ไปเอาไอเดียมาจากอีกฝ่ายเสียมากกว่า... แต่ก็ไม่มีข้อยืนยันว่า คริสโตเฟอร์ โนแลน ผู้กำกับ Inception จะไปเอาไอเดียของเกมนี้มาใช้ อย่างไรก็ตาม Psychonauts กับ Inception มีอะไรที่เหมือนกันอยู่ไม่น้อย แรซจะสามาถเข้าไปในจิตใจของผู้คนได้ผ่านประตูบานเล็ก และใช้พลังจิตส่งจิตสำนึกของตัวเองเข้าไปในจิตใต้สำนึกของคนๆนั้น คล้ายๆกับที่ดอม คอบบ์ ใช้เครื่องสร้างฝัน ส่งตัวเองเข้าไปในฝันของคนอื่น ซึ่งความฝันใน Inception คือประตูของจิตใต้สำนึก สามารถขโมยข้อมูล หรือแม้แต่กระทั่งปลูกฝังความทรงจำหรือแรงบันดาลใจก็ได้ ทุกครั้งที่แรซเข้าไปในโลกจิตใจของผู้คน เขาจะได้เจอกับหลายๆอย่างที่เป็นภาพสะท้อนภายในจิตใจของคนๆนั้น เช่น สิ่งที่เกลียด, สิ่งที่สร้างเป็นปมของจิตใจ ฯลฯ รวมถึง "ตัวเซนเซอร์" ซึ่งคอยขจัดผู้ที่บุกรุกเข้ามาในจิตใจ เหมือนกับใน Inception ที่ภาพสะท้อนของผู้คนในความฝันจะสามารถรุมเข้ามาทำร้ายผู้บุกรุกได้ บางครั้งแรซต้องเจอกับโลกที่บิดเบี้ยว คล้ายกับที่ใน Inception มีฉากที่ตัวละครสามารถบิดเมืองให้พับขึ้นมาอยู่เหนือหัวได้ เพียงแต่แรซไม่ใช่หัวขโมยเหมือนดอม คอบบ์ เป็นแค่เด็กผู้มีพลังจิตที่ได้รับการฝึกโดยส่งเข้าไปในจิตใจของผู้คนเท่านั้น ซึ่งก็สมเหตุสมผล เพราะในโลกของจิตใจ เด็กสามารถฝึกใช้พลังได้โดยที่ไม่ต้องบาดเจ็บทางกายภาพ ตรงจุดนี้เองที่กลายเป็นหัวใจสำคัญของเรื่องราว เกมมีการเล่าเรื่องที่ดี และค่อนข้างสมเหตุผลในโลกของเกม ตัวละครทุกตัวในเกมมีปมอยู่ในจิตใจ แม้แต่แรซเองก็มีปมเกี่ยวกับพ่อของเขา และโรคกลัวน้ำด้วย หลังจากเกิดเรื่องราวที่ดร.โลโบโต้ขโมยสมองของเด็กไป แรซได้มีโอกาสเข้าไปในจิตใจของ "ปลายักษ์ที่ถูกดัดแปลงให้ใช้งานชั่วร้าย", จิตใจของพวกผู้มีปัญหาทางจิตในโรงพยาบาลบ้า, ตัวร้ายของเรื่อง, รวมถึงภายใจจิตใจของตัวแรซ เมื่อเข้าไปในโลกของจิตใจ แรซสามารถสืบหาว่าอะไรคือปมภายในจิตใจของคนๆนั้น และเมื่อเขาหาทางแก้ไขปัญหา ก็จะเป็นการ "รักษาจิตใจ" ของคนๆนั้นด้วย ให้พูดตรงๆคือ แทบจะไม่มีตัวละครไหนที่เรียกว่าชั่วร้าย แม้แต่ผู้ร้ายของเรื่องเองก็ตาม ถ้าจะมีตัวละครที่แทบไม่มีด้านดีอยู่เลย ก็มีเพียงแค่ดร.โลโบโต้ นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง... ไม่สิ เอาจริงๆเขาเป็นแค่หมอฟันสติแตกเท่านั้นแหละ... เป็นคนไข้โรคจิตที่ทำตามแผนการของ "คนร้ายตัวจริง" เท่านั้น ดังนั้นจะบอกว่า "ชั่วร้าย" ได้ไม่เต็มปากนัก แต่ที่ดูชั่วร้ายสุดๆ อาจจะเป็นเพราะเราไม่ได้รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของเขาเหมือนคนอื่นๆ นี่คือเสน่ห์ที่แท้จริงของ Psychonauts นอกจากนี้เสน่ห์อีกอย่างของเรื่อง คงจะเป็น "โทน" และ "การดีไซน์" ของเกม ตัวเกมมีโทนที่ค่อนข้างเหมือนการ์ตูนสำหรับเด็ก มีมุกตลกอยู่เต็มไปหมด และการดีไซน์ชวนให้นึกถึงหนังของทิม เบอร์ตัน อย่างเช่น Alice in Wonderland, Corpse Bride หรือแม้แต่หนังที่ทิม เบอร์ตันอำนวยการสร้างอย่าง The Nightmare Before Christmas อย่างไรก็ตาม บางทีนี่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา หนังหนังของทิม เบอร์ตัน บางคนก็มองว่ามัน "พิลึกกึกกือ" เกินไป และมันมีด้าน "มืดๆทึมๆ" อยู่เยอะ ตัวละครเรียกว่าน่ารักไม่ได้เต็มปาก บ้างก็ดูพิกลพิการ พูดง่ายๆคือมัน "เซอร์เกินไป" นั่นเอง และ Psychonauts ก็อาจมีหน้าตาของเกมที่ "แนวเกินไป, เซอร์เกินไป" เหมือนหนังของทิม เบอร์ตัน ระบบเกมของ Psychonauts สนุกมาก เกมไม่ใช่ Open world แต่เรามีอิสระในการสำรวจแคมป์ฤดูร้อนได้อย่างอิสระ ภายในค่ายจะมีของให้ตามเก็บสะสม เช่น "หัวศรธนู" ซึ่งใช้แทนเงินภายในเกม, การ์ดสำหรับอัพเกรด แรซสามารถใช้พลังจิตในการสำรวจอะไรหลายอย่าง อาทิ ใช้ลูกบอลพลังจิตทำให้กระโดดได้สองชั้นติดกัน หรือใช้มือพลังจิตฟาดของต่างๆได้ นอกจากนี้แรซยังสามารถอัพเกรดพลังจิตที่หลากหลายได้ด้วย วิธีการอัพเกรดคือมีทั้งการทำภารกิจตามเนื้อเรื่องและเลเวลอัพ แต่ไฮไลท์จริงๆของเกมคือตอนที่เข้าไปในโลกของจิตใจ โลกของจิตใจจะแตกต่างกันไปตามจิตใจของตัวละคร ดังนั้นการดีไซน์เรียกว่าหลากหลายมาก แต่ละคนมีปมไม่เหมือนกัน วิธีการแก้ไขปัญหาของแรซจึงแตกต่างกันไป บางครั้งแรซต้องเจอโลกที่บิดเบี้ยว, บางครั้งแรซต้องเป็นยักษ์ถล่มเมืองที่มี "ปลา" เป็นผู้อาศัย, บางครั้งแรซต้องเข้าไปในโลกของเกมกระดาน ทั้งย่อเข้าไปเป็นระดับเดียวกับโมเดล และขยายให้ใหญ่ขึ้นอีกนิด เพื่อจับตัวหมากให้เดินบนกระดาน ภายในจิตใจของตัวละครจะมี "ภาพสะท้อนของจินตนาการ" ให้แรซสามารถสะสมได้ ถ้าสะสมครบ 100 ก็จะเลเวลอัพ (แรงค์อัพ) ได้ ระบบเกมมีปัญหาใหญ่อยู่ข้อเดียวเลยคือ มุมกล้อง หลายครั้งผมตายเพราะมุมกล้อง กำลังอยู่ในวิกฤติและจะกระโดด แต่มุมกล้องกลับสะบัดจนทำให้มุมการกระโดดเปลี่ยนไป ทำให้แทนที่จะลงบนพื้นที่ไหนสักแห่ง กลับวืดตกลงไปตายแทน! ให้ตายเถอะ นี่มันน่าหงุดหงิดมาก! แล้วมุมกล้องของเกมนี้ยังค่อนข้างแคบ เช่นผมจะใช้เมาส์แพนมุมกล้องขึ้นไปดูด้านบน แต่พอเงยขึ้นไปได้นิดหน่อยกลับสะบัดกลับลงมา ต้องใช้ "ปุ่มหันหน้าเงยหน้า" แทน นอกนั้นเป็นปัญหาเล็กน้อย เช่น พลังบางพลัง ใช้ได้ดีแค่ในด่านๆหนึ่งเท่านั้น แต่หลังจากจบด่านนั้นไป ก็แทบไม่ได้ใช้อีก เช่น พลังในการมองผ่านสายตาของคนอื่น... แทบไม่ได้ใช้เลยอีกเลยหลังจากจบด่านๆหนึ่งแล้ว โดยรวมผมชอบเกมนี้มาก อาจหงุดหงิดกับมุมกล้องที่ให้อิสระในการมองน้อยมาก หรืออยู่ดีๆก็สะบัดเปลี่ยนทิศทางเหมือนอย่างที่ว่ามา แต่นอกนั้น เกมนี้ถือว่าเป็นเกมที่ดีจริงๆนั่นแหละ น่าเสียดายที่ไม่มีเงินจะทำภาคต่อ อุตส่าห์ทิ้งท้ายไว้ได้อย่างน่าตื่นเต้นแล้วแท้ๆ แต่อาจจะเป็นข้อดีก็ได้ เพราะไม่แน่ว่าภาคต่อจะสามารถทำได้ดีเท่าภาคแรกน่ะนะ Metal Gear Solid V : Ground Zeroes [PC] - โคจิม่า ขอยิงเองบ้างเถอะ!!!
เป้าหมายที่ผมเล่น MGS V ก็ด้วยเหตุผลเดียว เอามาลองสเปคเพื่อดูว่า Lenovo 410p ของผมจะเล่น Batman Arkham Knight ได้หรือไม่ (CPU : Intel Core i7-4700MQ (2.40 GHz), NVIDIA GeForce GT 755M (2GB GDDR5), Ram : 8 GB DDR3L) ใช่แล้ว ขอโทษด้วยนะ โคจิม่า ผมเห็นแบทแมนสำคัญกว่าสเน็ค!! (ถึงผมจะชอบสเน็คก็เถอะ) จากที่ลองเล่นดู ผมรับความละเอียดของโมเดลกับเท็กซ์เจอร์ระดับ Extra High นอกนั้น High ซึ่งผลออกมาคือ "เล่นได้พอลื่น" ทั้งที่ "การ์ดจอผมสเปคไม่ถึงกับ minimum"!!!! ว้าว... จะเป็นเพราะเปิดโปรแกรม Razer Cortex ช่วยด้วยหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ แต่จากประสบการณ์ ถึงจะเปิดโปรแกรมนี้ก็ช่วยได้เล็กน้อย บทจะกระตุกมันก็กระตุกอยู่ดี แต่นี่แทบไม่มีกระตุกเลย ถึงจะมีก็แค่นิดเดียวจริงๆ แต่แค่นี้ก็ประทับใจแล้ว! สเปคของ MGS V ต่ำกว่า Batman Arkham Knight บางส่วน โดยเฉพาะ CPU แต่โดยรวมแล้วใกล้เคียงกัน แปลว่า ถ้าผมเล่น MGS V ได้ลื่น Batman ผมก็ต้องเล่นได้แม้จะปรับ low หรือ medium สินะ!! เอาวะ เดือนมิถุนายนคงได้รู้กัน ภาพ : สเปค MGS V Recommend น้อยกว่า Batman Arkham Knight แค่ CPU ถ้าวัดจากเว็บ Game Debate แล้วเครื่อง Lenovo 410p ยังเล่น MGS V ปรับ High/Extra High แล้วลื่นใช้ได้ Batman เองก็คงเล่นได้แม้จะต้องปรับ Low เป็นอย่างมากก็ตาม พักหลังผมเล่นเกมฝั่งตะวันตกซะเยอะ และบอกได้ว่า Metal Gear Solid V : Ground Zeroes นอกจากจะมีเนื้อหาน่าสนใจแล้ว ระบบแอ็กชั่นยังดูใช้ได้อีก... แค่ใช้ได้ ยังไม่สมบูรณ์ การเปลี่ยนอาวุธยังน่าหงุดหงิดเหมือนเดิม ไม่เหมือนเกมหลายเกมสมัยนี้ที่ใช้สโครลตรงกลางเม้าส์ก็เปลี่ยนอาวุธได้ ทั้งๆที่ติดตั้งปืนได้แค่ไม่กี่กระบอก แต่ไหงเวลาเปลี่ยนมันยุ่งยากกว่าหลายเกมหว่า... อืม ก็ไม่ได้ถึงกับแย่ หรือเล่นได้ไม่ลื่นไหลหรอกนะ แค่มันติดใจตรงนี้แหละ ประเด็นสำคัญคือ เกมมันสั้นมากกกกกกกกกกกกกกก เรียกว่าเอามาเพื่อเป็นเดโมของ Phantom Pain ที่จะออกมาเร็วๆนี้ว่างั้นเถอะ แต่มันก็กระตุ้นความสนใจได้ดีเหมือนกัน ภาพสวย ฉากแอ็กชั่นดี ดราม่าน่าสนใจ เนื้อเรื่องดี ประทับใจกับเอาคีเฟอร์ ชูเธอร์แลนด์มาให้เสียงกับเป็นโมแคปให้ ถึงแม้หลายคนจะบ่น เพราะมันไม่ใช่เดวิด เฮเยอร์ที่เคยพากย์เสียงสเน็คจนคุ้นหูก็เถอะ ว่าแต่... มันจงใจหรือเปล่าเนี่ย หา โคจิม่า! คีเฟอร์ ชูเธอร์แลนด์เล่นเป็นแจ็ค บาวเออร์ในซีรีส์ 24 ซึ่งต้องทำงานให้กับรัฐบาลอเมริกาเหมือนกัน บางทีก็มีคนทรยศในทีมเหมือนกัน มีดราม่าให้เข้าด้านมืดอยู่บ่อยครั้งเหมือนกัน ตัวละครเกรี้ยวกราดเหมือนกัน นี่มันจงใจใช่ไหม!! เกมโอเค สั้นๆ แต่สนุกดี ไม่ว่ากัน แต่ปัญหาสำหรับผมคือ... ไอ้ฉากที่ควรจะต้องลงไปยิงเองน่ะ ทำไมไม่ให้กรูบังคับฟะ!? ทำไม!? ไอ้ตอนท้ายที่บอสจะต้องไปช่วยคู่หูที่ฐานกำลังถูกโจมตีน่ะ ตอนที่เฮลิคอปเตอร์กำลังจะหย่อนตัวบอสลง ไอ้เราก็แบบ เฮ้ย เอาแล้วไง ได้บู๊แล้ว อุตส่าห์เตรียมเมาส์เพื่อยิงเต็มที่... ที่ไหนได้ แม่งเป็นฉากแอ็กชั่น CG!! อารมณ์โคจิม่าแบบ... "ไม่ต้องๆ ตรงนี้ยากไป ไม่ต้องเล่นหรอก ดูสบายๆเถอะ เดี๋ยวจะจัดฉากแอ็กชั่นเจ๋งๆให้เอง" ฮ่วย! โคจิม่า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! (ทำเสียงเหมือน Liquid Snake ใน MGS ภาคแรกตะโกนร้อง Snakeeeeeeeeeeeeeeee!!!!!) อย่างน้อยนะ โคจิม่า อย่างน้อยช่วยใส่ฉากบอสที่เอ็งถนัด ทำได้สนุก จัดมาให้ข้าเล่นสักฉากเถอะเฟ้ยยยย!!! เอาเหอะ ถ้า Phantom Pain ยังคงใช้สเปคแบบนี้อยู่ ก็แสดงว่าเครื่องผมเล่นได้ ถ้าเล่นได้... ก็คงต้องเล่นต่อไปละมั้ง ไหนๆก็ไหนๆแล้วนี่... [บันทึกสปอยล์เกม] Grand Theft Auto V : PC (3)!! คลิปการประมวลผลของ Lenovo 410p!!
คราวนี้อัพสั้นๆแต่ได้ใจความ... ผลลัพธ์น่ะหรือครับ... ไม่แน่ใจว่า Razer Cortex ช่วยได้แค่ไหน แต่ก็เหมือนจะทำให้เล่นได้ลื่นขึ้นมาอีกหน่อย หลังจากที่ลองปรับแต่งอะไรดูหลายอย่าง พบว่าที่ลงตัวที่สุดก็คงจะพ้นอย่างที่เห็นในคลิป ซึ่งผมถือว่าโอเค เพราะไม่นึกว่า Lenovo 410p จะเล่นเกมนี้ได้ลื่นด้วยระดับกราฟฟิคที่น่าพอใจแบบนี้ด้วยซ้ำ! ข้อมูลคร่าวๆของ Lenovo 410p ก็คือ - Intel Core i7-4700MQ - NVIDIA GeForce GT 755M (2GB GDDR5) - 8 GB DDR3L และที่ผมปรับแต่งก็คือตามภาพนี้ครับ แต่อย่าถามเรื่องเฟรมเรทเลยครับ ค่อนข้างต่ำใช้ได้ ถึงอย่างนั้นก็เล่นได้ลื่นอยู่นะ... แต่ผมคิดว่าคงจะไม่เล่น Rockstar Editor นี่สักเท่าไหร่ เพราะขี้เกียจครับ ชอบเขียนอย่างเดียวมากกว่า (ถึงไม่ได้ทำพวก Let's Play เหมือนคนอื่นๆ) ฮะๆๆๆๆ [บันทึกสปอยล์เกม] Grand Theft Auto V : PC (2)!! เล่นเทนนิส, จิ๊จ๊ะกับคุณตัว, บินยากจังเว้ย!!! (18+)
จากความเดิมตอนที่แล้ว
อะแฮ่ม!! คราวนี้มีภาพบางภาพหรือเนื้อหาบางเนื้อหาที่อาจจะไม่เหมาะสมอยู่บ้าง ดังนั้นเยาวชนทั้งหลายโปรดอย่าอ่านเลยนะจ้ะ (ติด 18+ เลยละกัน!!) ก่อนอื่นขอระบุสเปคโน้ตบุคของผมก่อน Lenovo 410p -Intel Core i7-4700MQ (2.40 GHz, 6 MB L3 Cache, up to 3.40 GHz) -NVIDIA GeForce GT 755M (2GB GDDR5) -8 GB DDR3L -เซ็ท Texture ไว้ที่ Very High, ปิด MSAA (ทำให้เห็นรอยหยักอยู่บ้าง), นอกนั้นมี High กับ Very High สลับกัน ภาพที่ออกมาก็ราวๆด้านล่างนี้ อันดับแรกเลย ผมเล่น GTA จบแค่สองภาค คือ Vice City กับ San Andreas สิ่งที่ผมรอคอยใจจดใจจอในเกมอย่าง GTA ก็คือ 1. ได้ขับเครื่องบินเล่น 2. ขับมอเตอร์ไซค์ชมวิวในเกม และเกมนี้ก็ไม่ทำให้ผมผิดหวัง!! แต่ว่า ไอ้การบินนี่มันโคต-------------รยาก!! คือผมเล่นด้วยโน้ตบุค มันจึงไม่มี numpad แบบที่ให้กดง่ายๆ แล้วเวลาบิน มันต้องใช้ numpad!! ชิบหายแล้วสิ! ลองบินแล้วก็บึ้มอยู่หลายครั้ง สุดท้ายก็เลยปรับปุ่มที่จะต้องเป็น numpad ให้มาอยู่บนพวกตัวอักษรซีกขวาของคีย์บอร์ดแทน ปัญหาคือ บางปุ่มมันดันมีใช้งานไว้ก่อนอยู่แล้ว! สุดท้ายก็ต้องเปลี่ยนเอาฟังก์ชั่นที่ไม่ค่อยได้ใช้งานไปไว้ปุ่มไกลปืนเที่ยงอย่างปุ่ม End (ของ Lenovo 410p มันจะอยู่ริมขวาสุดเลย) แล้วเอาปุ่มบินเซ็ทเป็น O, K, L, ; แทน แต่ว่า!! ผมมีปัญหาเรื่องการควบคุมเครื่องบินมาตั้งแต่ Vice City กับ San Andreas แล้วละครับ กว่าจะหาวิธีทำให้บินได้นุ่มได้ ก็บึ้มแล้วบึ้มอีกหลายครั้ง เฮ้อ... แต่ก็นับว่าคุ้มค่าจริงๆ!! ผมชอบบินไปเรื่อยๆแล้วก็ฟังเพลงแต่ละสถานีในเกม ถ้ามีร่มชูชีพ ก็จะกระโดดลงจากเครื่องบินเพื่อเพิ่มความตื่นเต้นขึ้นด้วย นี่แหละ เป้าหมายที่สนุกสำหรับผม มีหลายคนใน Steam บ่นเรื่องการคอนโทรลด้วยคีย์บอร์ดและเมาส์ของเวอร์ชั่น PC แต่เท่าที่ผมเล่น มันมีปัญหาตรงไหนหรือ? นอกจากเรื่องเครื่องบินที่ควบคุมลำบากแล้ว ทั้งรถทั้งเรือก็ควบคุมได้อย่างลื่นไหล ไม่มีอะไรติดขัดเลยนี่นา อืม แปลกจังแฮะ เอาเป็นว่า พอมาถึงตอนที่ได้เล่นเป็นเทรเวอร์ หนึ่งในตัวเอกสามคน เราจะได้ออกมาอยู่ในพื้นที่ชนบทซซึ่งคล้ายๆกับภาค San Andreas ตอนผมเล่น San Andreas สิ่งที่ผมชอบคือการบิดมอเตอร์ไซค์และสำรวจเส้นทางชนบทไปเรื่อย ทีนี้ก็ได้ทำสมใจแล้ว ให้ตายเถอะ คุ้มค่าจริงๆที่ซื้อเกมนี้มาเล่น!! GTA V ยังมีอะไรให้ทำมากมายเหมือนเดิม แต่บางภารกิจชวนให้นึกถึงเกมภาคเก่าๆ อาทิ - ต้องขับรถไปในทะเลทรายหรือพื้นที่แห้งแล้งเพื่อไปเอาของหรืออะไรสักอย่าง - ต้องขับรถไปใกล้กับเป้าหมาย เพื่อให้เพื่อนที่ร่วมทางมาด้วยกระโดดขึ้นไปบนรถบรรทุก แล้วก็มีคนห้อยต่องแต่งทำท่าจะตก เราก็ต้องขับรถไปรองรับให้มันพอดี - ไล่ล่าศัตรูโดยต้องยิงปืนขณะไล่กวดด้วย เป็นต้น คือไม่ได้คิดว่ามันแย่หรอกครับ ตรงกันข้าม เป็นอะไรที่สนุกอยู่เหมือนเดิม แค่อารมณ์ประมาณว่า "อ๊ะ อ๋อ มันให้ทำแบบนี้สินะ คุ้นเคยดีเลย" อะไรแบบนี้ นอกจากนั้นยังมีอะไรเล็กๆน้อยๆให้ทำอีก อาทิ - ไปดูหนัง... คือมันเล่นฉายหนังการ์ตูนทั้งเรื่องเลยนะ! แต่ว่า อารมณ์การ์ตูนมันค่อนข้างจะถ่อยๆเสื่อมๆ เหมือนพวก South Park หรืออะไรทำนองนี้ ก็แหม... มันอยู่ในเกมอย่าง GTA นี่นะ! - เล่นเทนนิส... เล่นเทนนิสนี่ก็สนุกดี ควบคุมได้ง่าย มันเป็นแค่มินิเกม ฟังก์ชั่นอาจจะไม่ถึงกับเกมเทนนิสจริงๆ แต่แค่นี้ก็เล่นเพลินแล้ว - ว่ายน้ำทะเล... การว่ายน้ำและดำน้ำจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับร่างกาย เช่น ความอึดและปอดด้วย - ยิงปืน... การยิงปืนจะช่วยเสริมค่าในการยิง ทำให้เล็งได้ดีขึ้น - หาจุดชมวิวและสำรวจอะไรไปเรื่อย บางครั้งจะมีเหตุการณ์แรนด้อมเกิดขึ้น เช่น มีคนถูกวิ่งราว ถ้าอยากช่วยหยุดโจรก็ทำได้, มีคนเรียกให้เราไปช่วย แต่กลายเป็นพวกแก๊งหลอกปล้น, มีตำรวจวิ่งไล่โจร เราเข้าไปช่วยหยุดโจรหรือตำรวจก็ได้ แล้วแต่เรา, ปล้นร้านสะดวกซื้อด้วยเพียงแค่ยกปืนขึ้นเล็ง ฯลฯ - เข้าไปดูระบำเปลื้องผ้า... ถ้ามีตังค์ก็เรียกให้ไปโชว์แบบเต็มสองเต้า... เอ๊ย เต็มสองตาในห้องส่วนตัว แต่ห้ามจับเนื้อต้องตัว ไม่งั้นจะถูกโยนออกมา - ตอนกลางคืนจะมีโสเภณียืนอยู่ ถ้าอยากใช้บริการก็ต้องขับรถไปจอดใกล้ บีบแตรเรียก โสเภณีก็จะขึ้นรถมา จากนั้นต้องขับแบบนุ่มๆ ไม่กักขฬะหรือไปทำข้าวของพัง เธอจะยอมนั่งแต่โดยดีจนไปถึงที่ลับ... แล้วก็จ่ายตังค์ก่อนจะได้รับบริการ... อืม ถ้าใครหวังจะได้เห็นมุมเด็ดๆแบบหนังโป๊ละก็ ผิดถนัด มันให้ดูแค่นอกรถ และเสื้อผ้าก็ใส่ครบด้วย ก็เหมือนกับเวลาดูหนังซีรีส์ฝรั่งที่มีฉาก sex น่ะ ไม่ใช่เกมโป๊ซะหน่อย!! สรุปแล้ว เล่นมาสองวัน รู้สึกประทับใจในอะไรหลายอย่าง อาจมีอะไรซ้ำรอยของเก่าอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดีแต่อย่างใด เฮ้อ คุ้มค่า 1499 บาทจริงๆแฮะ โชคดีจริงๆที่เล่นได้อย่างไม่มีปัญหาเหมือนคนอื่นๆ... [บันทึกสปอยล์เกม] Grand Theft Auto V : PC Day 1!! Notebook ก็เล่นได้ดีนะเอ้อ!!
ผมใช้โน้ตบุค Lenovo 410p ที่ใช้การ์ดกราฟิคคือ Geforce GT 755m หลังจากเช็คผลการทดสอบจากเว็บบางเว็บ ก็ระบุว่าการ์ดจอของโน้ตบุคตัวนี้พอรับไหว คือเกิน minimum ที่เกมกำหนดไว้ราว 20 กว่าเปอร์เซนต์ แต่ห่างไกลจาก recommend มากโข ผมจึงทำใจว่าอย่างเก่งสุดคงได้ระดับกลางๆหรือไม่ก็ต่ำไปเลย และอาจมีกระตุกด้วย ที่ไหนได้ พอลองเปรี้ยวดูสักหน่อย ปรากฏว่า ตัว Texture ผมปรับได้ถึง Very High ส่วนอย่างอื่นก็มี High บ้าง Very High บ้างสลับกัน สุดท้ายคือไม่กระตุกเลยสักนิด!! (กระตุกก็แต่ตอนกดแคปเจอร์ภาพของทาง Steam) (ภาพตอนต้นเกมที่ Texture ปรับไว้ที่ High) (Texture ปรับไว้ที่ระดับ Very High ผลคือไม่ต่างกันมากนักระหว่าง High กับ Very High) น่าประทับใจมาก! แต่ก่อนหน้านั้น... ผมตัดสินใจกดซื้อ GTA V จาก Steam ด้วยราคาเต็มในวันที่ 13 เมษาฯ ที่ลังเลไม่ใช่เพราะอะไร แต่กลัวว่าจะเล่นไม่ได้ สุดท้ายหลังลองโหลดเกม Dying Light แบบเถื่อนมาเพื่อลองประสิทธิภาพตัวเครื่องก่อน (เพราะจากเว็บทดสอบ เครื่องผมจะเล่น Dying Light ไม่ได้) ปรากฏว่าผมลองเล่น Dying Light ได้... ดังนั้นจึงตัดสินใจกดซื้อเกม GTA V โดยทันที!! ประเด็นคือเกมมันตั้ง 60 GB แถมโหลดได้อย่างเต่า โชคดีที่มีบางช่วงมันโหลดไปได้ถึง 2mb สุดท้ายเลยโหลดเสร็จในช่วงตีสามของวันที่ 14 เมษาฯ ก่อน steam จะปลดล็อกไม่กี่ชั่วโมง ให้ตายเถอะครับ คุณนึกออกกันมั้ย ผมกัดฟันซื้อของแท้ 1499 บาทโดยไม่แน่ใจว่าเครื่องเล่นจะเล่นได้แค่ไหน แล้วต้องใช้เวลาโหลดนานกว่าจะได้ ดังนั้นพอตื่นเช้ามา ผมตื่นเต้นมากแค่ไหน นึกกันออกไหมครับ? ผมนึกว่าทุกอย่างจะไปได้สวย ทว่า... ทว่า... สิ่งที่อยากจะบ้าตาย#1 : หลังโหลดเกมเสร็จ 100% แล้ว ยังต้องมี unpack ตัวเกมอีกราวชั่วโมงกว่า!! บ้าเอ๊ย ดู Game of Thrones Season 5 รอก็ได้ฟะ! สิ่งที่อยากจะบ้าตาย#2 : เนื่องจากตัวที่ผมโหลดจาก steam เป็น Pre-load ตัวเกมน่ะ 60GB จริง แต่ตอน unpack มันจะขยายเพิ่มเป็นเท่าตัว! ผมมองดูเนื้อที่ HDD ลดลงไปเรื่อยๆด้วยใจระส่ำสุดๆ กลัวว่าจะไม่พอ นี่ลบเกมหลายเกมออก ลบนู่นย้ายนี่ไปเรื่อย จนกระทั่งมัน unpack เสร็จ ผลคือ หลังจาก unpack เสร็จเรียบร้อย มันก็ลบไอ้ตัว Pre-load ออกไปเหลือไว้เพียงแค่ตัวเกมจริงๆ เท่ากับพื้นที่ที่ถูกกินไปก็ได้คืนกลับมาด้วย! บอกได้คำเดียวว่า... อะไรของมันฟะ! สิ่งที่อยากจะบ้าตาย#3 : พอจะกดเล่นเกม มันขึ้น GTA V Launcher has stopped working หรืออะไรประมาณนี้ ทั้งที่กดเลือก Run as Administrator แล้วก็ยังเล่นไม่ได้ ค้นหาวิธีในเนตตั้งนานกว่าจะรู้ว่า... ต้องเข้าไป disable การ์ดจอของ nVidia ชั่วคราวใน device manager กดเข้าเกม แล้วไป enable ก่อนเข้าโลโก้เกม!! ฮ่วย! มันอะไรกันฟ้าาาา!!??? เอาละครับ หลังจากเข้าเกมได้แล้ว ทีนี้ก็ถึงข่าวดีบ้าง โอ้ว ผมประทับใจกับเกมตัวเกมพอสมควร โดยเฉพาะสมรรถภาพของโน้ตบุคตัวนี้ที่นึกว่าจะเล่นไม่ได้แล้ว กลับเล่นได้ลื่นหัวแตก ไม่เหมือนกับตอนเล่น Watch Dogs ที่แบบ พอถึงฉากขับรถแล้วกระตุกเป็นว่าเล่นเลย สุดยอดจริง! (ตอนเล่นขับรถแบบลื่นๆไม่เหมือน Watch Dogs นี่ ทำเอาผมน้ำตาแทบไหลเลย) GTA ที่ผมเล่นจบมีแค่ Vice City กับ San Andreas ไม่ได้เล่นภาค IV แต่เท่าที่ดู ระบบมีการเอามาจากภาค IV พอสมควร คือมีการหลบหลังรถแล้วยิงจากตรงนั้นได้ หรืออะไรประมาณนั้น (หลบหลังกำแพงแล้วยิง ตามสไตล์เกมบุคคลที่สามยุคปัจจุบัน) (ระบบการเตะต่อยก็ทำได้ดี นี่แค่มองหน้ากันก็หาเรื่องแล้ว เลยต้องมีต่อยกันหน่อย) นอกจากนี้เกมยังมีระบบให้กดเลือกตัวละครตัวอื่นๆ แม้กระทั่งย้ายไปเป็นมุมมองในสายตาของหมาก็ได้ด้วย! แน่นอนว่ายี่ห้อ GTA ตัวเกมย่อมทั้งรุนแรง ถ่อย และมีมุกตลกเสื่อมๆ แต่นี่แหละ GTA เกมปีศาจที่คนมีศีลธรรมรังเกียจ (แต่ยอดคนซื้อเกมกลับเพิ่มขึ้นกว่าเมื่อก่อน เข้าข่ายยิ่งห้ามยิ่งยากเล่น) ตัวเนื้อเรื่องผมยังบอกไม่ได้มาก แต่คราวนี้เล่นเป็นตัวละครถึงสามตัวและสลับไปยังเรื่องราวของแต่ละคนได้ ตอนนี้ผมยังเล่นได้แค่ตัวละครสองตัวเท่านั้น คือ Franklin Clinton กับ Michael De Santa (เปลี่ยนตัวละครในการเล่าเรื่อง จากแฟรงคลินเป็นไมเคิลได้) แต่ที่ผมประทับใจและก็ชอบมากคือๆ ระบบการขับรถที่ทำให้ทุกอย่างอยู่ในโหมดสโลว์โมชั่น ทำให้เราหลบเลี่ยงถนนที่การจราจรคับคั่ง หรือขณะที่แข่งรถก็ได้ง่ายขึ้นหลายเท่า! (ระหว่างแข่งรถ ระบบสโลว์โมชั่นมีประโยชน์มาก) สมกับเป็น GTA เล่นแล้วติดจริงๆ ปัญหาคือ ผมคงต้องเล่นไปพักเครื่องไป ไม่ใช่อะไร กลัวโน้ตบุคมันจะไหม้ซะก่อนน่ะสิ พ่นลมร้อนจนน่ากลัวเลยทีเดียว! (Lenovo 410p เล่นได้แค่นี้แถมไม่กระตุก ผมก็พอใจแล้ว) |
หมาหัวโจก
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [?] Group Blog All Blog
Friends Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |