งานบวชเพื่อน
งานบวชเพื่อน วันก่อนโน้นนนนนน...กำลังวิ่งขึ้นวิ่งลงบ้านเพราะแขกเยอะมาก ไปหาของกินเองบ้าง หาให้แขกกินบ้าง เหน็บมือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงกำลังคาบถุงขนมไว้ในปาก สองมืออุดมไปด้วยขวดน้ำอัดลมและกระติกน้ำแข็ง วิ่งๆๆขึ้นบันไดบ้านสิบกว่าขั้นแค่นั้นแหละ เสียงโทรศัพท์ดัง หยิบขึ้นมาดูด้วยสีหน้าสงสัย เบอร์ใครวะ อ้าวถามใครเค้าจะรู้ด้วยมั้ย เสียงอิคุณน้องชายกวนบาทามาก ไม่ได้ถามเว้ย น้องน้ำผึ้ง...พูดไม่เพราะเง้อ...โดนดุเลย ไอ้น้องบ้า หลังจากหันไปเขวี้ยงน้ำแข็งใส่น้องชายที่นั่งกระดิกบาทาดูการ์ตูนใช้อินังพี่สาวขึ้นๆลงๆเอาขนมนมเนยเสร็จก็โทรศัพท์มันตัดไปพอดี อ้าววางไปละ โทรกลับดีมั้ย หันไปถามแม่พร้อมตั้งท่าจะเดินลงไปข้างล่างอีกรอบเพราะยังขนขนมไม่หมด ยังไม่ทันจบประโยคเลยสายเจ้ากรรมโทรกลับมา กดรับทันที พร้อมดีดตัวเองเดินลงบันไดแบบเอ้อระเหยลอยชาย ฮัลโหลค่ะ นั่นใช่...ห้อง...หรือเปล่าครับเอาล่ะ ประโยคแรกมาละ เสียงคุ้น ชื่อคุ้น ห้องคุ้น อ้าว มันถามถึงฉันสมัยหลายปีก่อนนี่หว่า อาฮะนั่นใครอะ ตอนนี้หยุดเดินลงบันไดละ เอาหน้าไปเกยขอบหน้าต่างมองต้นมะม่วงเล็งอิลูกที่จะถึงคราวเคราะห์ไว้เรียบร้อยแล้ว อ๋อ...เรา...เองนะจำได้มั้ย อ่อ เพื่อนโทรมา อื้อๆจำได้ ว่าไงสบายดีหรอ แล้วไปเอาเบอร์นี้มาจากใครเนี่ย งงสิคะไม่ได้คุยกันเลยนอกจากในเฟซบุ๊คมานานน๊านนาน เอาเบอร์ใหม่สดๆซิงๆมาจากผู้ใดเนี่ยแล้วก็ขยับขา เอาหน้าหุบกลับมาจากขอบหน้าต่างเดินลงบันไดไปหนึ่งขั้น สรุปลงบันไดบ้านไปได้สี่ขั้น จากสิบสี่ขั้น จากเพื่อนในห้องแหละเออนี่ วันที่ ... ว่างมั้ย อ่าว่างๆ ทำไมหรอ คิดสะระตะพลางตอบตกลง แม้จะยังงงๆว่ามันไปขุดเบอร์ตูมาจากไหนฟะ เราจะบวชนะอ่อ เออดีเพื่อนจะบวช ว่างๆบวชกี่โมงอะไรยังไงว่ามา มีไรให้ช่วยบอก ตามประสาคนรักเพื่อนค่า ใจดีเต็มที่มากๆ
มาถือหมอนให้เราหน่อยดิ พรืด!!! โครม !!! เดาถูกละจ้าตกใจค่ะ ก้าวพลาด ร่วงบันไดไปสิบขั้น แล้วอิที่ซวยกว่าสิ่งใดๆในโลกหล้าคืออะไรรู้มั้ยร่วงลงไปชนกับพี่ข้างบ้านที่กำลังจะเดินขึ้นมาบนบ้านพอดี กร๊ากอิคนร่วงลงไปนะไม่เท่าไร เจ็บนิดหน่อย เจ็บบ่อยจนชิน แต่อิคนโดนคนสวยร่วงลงไปทับเนี่ยสิมันบอกว่า เห็นดาวเลยตัวโคตรหนักอ่ะ แล้วรู้อะไรมั้ยมันหยาบคายมากกกกกก กรี๊ดดดด รับไม่ได้ ตัวก็นิดเดียวทำไมหนักขนาดนี้เนี่ย ชิ งอนค่ะ ไม่คุยกับมันเลย ไม่ขอโทษด้วยส่วนคนปลายสายก็ยังคงอยู่ในสายนะเราต้องรีบบอกว่า โอเคๆเดี๋ยวนัดเจอกับเพื่อนแล้วจะบอกอีกทีนะ รีบชิ่งทันทีเลยค่ะ ตกใจ กร๊ากกก
หลังจากวันนั้นก็ไปกระจายข่าวจัดการแปลงร่างเป็นโทรโข่งบอกเพื่อนๆด้วยว่ามันต้องไปงานบวชเพื่อนกับฉันนะ ไอ้เพื่อนก็ เออๆๆ ไปๆๆนัดวันกันเสร็จสรรพเรียบร้อย และเนื่องจากบ้านนี้จะไม่เลี้ยงโต๊ะจีน เลยไม่วุ่นวายเออ ก็ดีเหมือนกันนะ ไม่ยุ่งยากดีเพราะคนบวชยังไงมันก็ต้องไปอยู่วัดก่อนอาทิตย์นึงใช่มั้ย?(จำถูกป่าวหว่า)ไม่ต้องไปลากถูลู่ถูกังให้มันมาเมาหัวราน้ำก่อนวันเข้าโบสถ์แล้วก็จะได้ไม่ต้องไปแฮงค์ตอนท่องคำขอบวชด้วย เห็นมาเยอะแล้วอนาถจิต คืนก่อนวันงานบวชโทรไปหาน้องสาวนาคเสร็จสรรพถาทางเรียบร้อย โอเค นอน หลับไปได้ซักพัก ตีห้าโทรศัพท์ดัง งื้ด ตกกะใจ ใครโทรมา กดรับแบบง่วงงุน ตายังไม่ลืมเลย พี่ฮันนี่คะแม่ให้ถามว่าพี่ฮันนี่จะมาถึงบ้านกี่โมงคะ หืม...อะไรนะ ฉันหูฝาดหรือไร อะไรนะจ๊ะขออีกที ถามด้วยน้ำเสียงบอกว่า อินี่ง่วงสุดฤทธิ์ ก็เห็นนาคบอกว่าพี่ฮันนี่จะมาถือหมอนเอ่อ ยังไม่ตื่นหรอคะ ใช่เลยค่ะคุณน้องขา มันเพิ่งจะตีห้านะคะ วันนั้นพี่บอกแบบนั้นหรอยังคงงงไม่สร่างค่า ใช่ค่ะ อ่างั้นเดี๋ยวอีกชั่วโมงนึงพี่ไปถึงนะ ขออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไม่อยากตื่นก็ต้องตื่นละ ถึงแม้จะเคืองๆงงๆแต่การให้ผู้ใหญ่รอคงไม่ดีหรอก ไม่ต้องแต่งหน้าแต่งตัวมานะคะพี่เสื้อผ้าที่นี่มี พี่จะใส่ได้หรอ...กำลังจะหาข้ออ้างต่อเลย ไม่ต้องห่วงค่ะช่วงพร้อม เอ่อ สาบานได้นะนี่ชีวิตจริง ไม่ใช่นิยายประหนึ่งโดนบังคับไปงานแต่งงานซะงั้น อ่าจ้ะเสร็จแล้วก็ลุกจากที่นอนแบบมึนๆไปอาบน้ำ ออกมา ปะป๊านั่งอยู่ข้างนอก จะไปแล้วหรอยังเช้าอยู่เลย อื้อง่วงค่ะ เวลานี้ เพิ่งนอนไปตอนตีสอง สมองยังไม่สั่งการจนกว่าจะได้อาหาร กร๊ากกตัวอะไรเนี่ย ขับรถได้แน่นอนปะป๊ายังไม่วายสงสัย ลูกสาวคงเหมือนผีดิบ อื้อป๊าไปนอนเถอะ เดี๋ยวไปทำงานสาย แล้วก็เดินไปหยิบของออกมาจากห้องนอนขับรถบึ่งๆออกไป เอิ๊ก ง่วงเหงาหาวนอนมาตลอดทาง สามสิบกว่ากิโล เหยียบมันซะร้อยยี่ดีที่ถนนมันว่างนะ พอมาถึงบ้านงานเค้าก็ลากไปเป็นตุ๊กตาบาร์บี้ ลองชุดนั้นชุดนี้อยู่สามสี่ชุดแล้วก็จัดแจงแปลงร่างนางมารน้อยให้เป็นนางฟ้าพอตั้งขบวนแห่เสร็จ ก็ขึ้นไปบนรถกับพ่อแม่นาคไม่ทำอะไร ไม่มองใครนั่งเมาท์กับ mp3 ในมืออย่างเมามันง่วงและหิวสุดๆในเวลานั้น วนโบสถ์ครบสามรอบปุ๊ป ส่งนาคเข้าโบสถ์ปั๊ปดีดตัวเองไปที่รถด้วยความเร็วสูง ลอกคราบตุ๊กตาออกเป็นยายเพิ้งคนเดิมมานั่งรอพระพระออกจากโบสถ์เสร็จ ถ่ายรูป ใส่บาตร เลี้ยงเพลเสร็จ ชิ่ง!!!ไม่อยู่ให้ใครซักอะไรทั้งนั้น ฮ่าๆๆ เพื่อนๆมันไม่สงสัยหรอกเพราะในห้องเรียนตอนนั้น มีผู้ชายสามสิบกว่าคน ผู้หญิงมีสิบคนแล้วที่มันอยู่ใกล้ๆก็ไม่มีใครอีกแล้วที่พระสนิทด้วย เอิ๊ก...อย่าคิดมากเล่าให้ฟังขำๆในความโก๊ะกังของตัวเอง
Create Date : 10 พฤษภาคม 2555 | | |
Last Update : 10 พฤษภาคม 2555 23:50:12 น. |
Counter : 468 Pageviews. |
| |
|
|
|