I am who I am



I am who I am

เขียนบล็อกด้วยความอารมณ์เสียจริงนะ 

วันนี้มันวันวินาศสันตะโรอะไรก็ไม่รู้ มีแต่คนจิกกัดตลอดเวลา


          วันก่อนโน้น เล่นต่อเพลงกะเพื่อนคนหนึ่งดีๆในฮอตเมล์โดนด่าว่าแรด กรี๊ด...เหวี่ยง วีน ด่าแหลกกระจายตายกันไปข้างหนึ่ง ด่าซะจนเพื่อนมันต้องออกมาขอโทษแทนตบท้ายด้วยความสะใจยิ่งกว่าด้วยการไปประจานมัน!! ด้วยคำถามเบาๆ หากคุณเพื่อนผู้ชายทั้งหลายต่างรุมกระหน่ำมันชิ...สะใจ แต่มันยังน้อยไป วันหลังหัดสำเหนียกซะก่อนเห่านะจ๊ะ


คำถามเบาๆที่สะเทือนต่อมของทุกคนทั้งชาย ทั้งหญิง 

อ่านแล้วปรี๊ดแตกกันถ้วนหน้า


“ถ้าคุณถูกผู้ชายที่ไม่ใช่พ่อด่าว่าแรด ว่าตอแหล คุณจะทำอย่างไร จะรู้สึกอย่างไร”


หึสรุป ไม่ต้องทำอะไร รอคนอื่นมาช่วยกันสับมัน 

สุดท้าย เละสิ อยากปากดีไม่เข้าท่า

วันนี้ก็โดนอีกยังค่ะ มันยังไม่ยอมจบ ยังมีมาเหน็บอีกนะ 

ด่าฉันโง่ ไม่เลิกรักไอ้คนที่มันไม่รักฉันไม่เลิกเพ้อเจ้อถึงมันซะที

อ้าวไอ้สวะปลวก ฉันจะเพ้อถึงใครมันหนักกบาลใครวะคะ 

ไม่ได้ไปเพ้อให้มันฟังซะหน่อยสุดท้าย ก็เลยสะบัดผมใส่ 

แล้วตอบกลับไปเบาๆพร้อมรอยยิ้มว่า

“ฉันคิดว่านี่เป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลของฉันนะคะ”

ง่ายๆก็ด่ามันทางอ้อมแหละว่าจะส.ใส่เกือกอะไรกับเรื่องของฉัน ไม่พอใจ 

ก็อันเฟรนซะสิคะ บล็อกไปเล๊ยใครเค้าแคร์กันละยะ!!!

IAM…
Who I AM
Through all and because of
All I have done
All I have seen
All I have experienced

I AM…
Who I AM
Because of all of you
All who have been in my life
Because of all the love
that you give to me.

I AM…
Who I AM
If you are not my friends 
stay well clear from me 
because you have NO IDEA Who I AM.




 

Create Date : 14 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 14 พฤษภาคม 2555 22:21:19 น.
Counter : 641 Pageviews.  

วันหยุดที่ไม่ได้หยุด

วันหยุดที่ไม่ได้หยุด

ทำไมคนอื่นปิดเทอมเค้าได้พักได้ไปเที่ยวนู่นนี่นั่น ทำไมๆๆๆๆ ฉันถึงไม่ได้ไปไหนมาไหนกับใครเค้าบ้าง(ตอบว่าเพราะหล่อนเพิ่งไปเที่ยวกลับมาเมื่อเดือนก่อนนี่ไง)

จริงๆแล้วก็ไม่รู้จะบ่นทำไมวันก่อนเพิ่งพูดไปหยกๆว่างานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลได้ทุกอย่าง แต่มันเวียนหัวตาลายคล้ายจะเป็นลม วันหนึ่งนั่งจ้องอยู่หน้าจอนานเป็นสิบชั่วโมง โอย เพลีย

พอช่วงที่ว่างก็ว่างจนไม่รู้จะทำอะไร ช่วงที่ยุ่ง ก็นับเวลานอนเอาได้วันหนึ่งไม่ถึง 4 ชั่วโมง เฮ้อ...เหนื่อยใจ

นิยายจ๋าอยากแต่งนิยายในโหลดองต่อให้มันเสร็จ แต่ เปิดเวิร์ดขึ้นมาทีไร โทรศัพท์เข้าข้อความดัง งานมาตลอดๆ ฮือๆ...นิยายฉันจะจบมั้ย

รีบเคลียร์งานให้ด่วนๆๆๆๆที่สุดพอว่าง แต่งนิยาย เอาลงเน็ต อ่านไปอ่านมา ไม่ถูกใจคนอ่าน โดนสับซะแหลกเลยยิยายนะไม่ใช่หมู - -ไม่ได้คิดถึงอิคนเขียนเลยว่ากว่ามันจะได้มาแต่ละบรรทัด ยากเย็นแค่ไหนใครว่าเขียนนิยายมันเขียนง่ายๆ มาลองดูเหอะ

เพื่อนโทรมา..ไปเที่ยวกันโอ๊ย โคตะระอยากจะไปเลย แต่งานตูไม่เสร็จ จะทำยังไงล่ะ อยากจะกรีดร้อง มีเงินแต่ไม่มีเวลาจะใช้เงิน ว๊ากกกก...จะทำไปทำไมวะคะงานเนี่ย แถมก็ปากหนักปฏิเสธใครก็ไม่เป็นก็เลยต้อง อ่ะค่ะ ได้ค่า ส่งมาเลย...เบื่อตัวเองจริงๆวุ้ย

บ่นๆๆให้พี่ชายฟังมันบอกว่า ก็จัดระเบียบชีวิตตัวเองซะใหม่สิ เออ..ก็ดีเนอะต่อไปนี้จะทำงานตามเวลาราชการบ้างและ ปิดมือถือหลังเวลาราชการคงจะดีจะได้มีเวลาพักผ่อนบ้าง เฮ้อ...

ทั้งหมดที่บ่นมาแค่จะบอกว่า วันนี้วันหยุด งดทำงานทุกประเภท จะบันเทิงบ้าง ดองหนังดองหนังสือไว้หลายเรื่องแล้ว หุหุ เจอกันใหม่วันที่15 นะงานจ๋าเพราะหนูน้ำผึ้งจะอู้งานวันจันทร์อีกหนึ่งวัน จะนอนซะให้ชุ่มปอดเลย!!!




 

Create Date : 12 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 12 พฤษภาคม 2555 14:23:37 น.
Counter : 521 Pageviews.  

งานบวชเพื่อน

งานบวชเพื่อน

วันก่อนโน้นนนนนน...กำลังวิ่งขึ้นวิ่งลงบ้านเพราะแขกเยอะมาก ไปหาของกินเองบ้าง หาให้แขกกินบ้าง เหน็บมือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงกำลังคาบถุงขนมไว้ในปาก สองมืออุดมไปด้วยขวดน้ำอัดลมและกระติกน้ำแข็ง วิ่งๆๆขึ้นบันไดบ้านสิบกว่าขั้นแค่นั้นแหละ เสียงโทรศัพท์ดัง หยิบขึ้นมาดูด้วยสีหน้าสงสัย

“เบอร์ใครวะ”

“อ้าวถามใครเค้าจะรู้ด้วยมั้ย” เสียงอิคุณน้องชายกวนบาทามาก

“ไม่ได้ถามเว้ย”

“น้องน้ำผึ้ง...พูดไม่เพราะ”เง้อ...โดนดุเลย ไอ้น้องบ้า

หลังจากหันไปเขวี้ยงน้ำแข็งใส่น้องชายที่นั่งกระดิกบาทาดูการ์ตูนใช้อินังพี่สาวขึ้นๆลงๆเอาขนมนมเนยเสร็จก็โทรศัพท์มันตัดไปพอดี

“อ้าววางไปละ โทรกลับดีมั้ย” หันไปถามแม่พร้อมตั้งท่าจะเดินลงไปข้างล่างอีกรอบเพราะยังขนขนมไม่หมด ยังไม่ทันจบประโยคเลยสายเจ้ากรรมโทรกลับมา กดรับทันที พร้อมดีดตัวเองเดินลงบันไดแบบเอ้อระเหยลอยชาย

“ฮัลโหลค่ะ”

“นั่นใช่...ห้อง...หรือเปล่าครับ”เอาล่ะ ประโยคแรกมาละ เสียงคุ้น ชื่อคุ้น ห้องคุ้น อ้าว มันถามถึงฉันสมัยหลายปีก่อนนี่หว่า

“อาฮะนั่นใครอะ” ตอนนี้หยุดเดินลงบันไดละ เอาหน้าไปเกยขอบหน้าต่างมองต้นมะม่วงเล็งอิลูกที่จะถึงคราวเคราะห์ไว้เรียบร้อยแล้ว

“อ๋อ...เรา...เองนะจำได้มั้ย” อ่อ เพื่อนโทรมา

“อื้อๆจำได้ ว่าไงสบายดีหรอ แล้วไปเอาเบอร์นี้มาจากใครเนี่ย” งงสิคะไม่ได้คุยกันเลยนอกจากในเฟซบุ๊คมานานน๊านนาน เอาเบอร์ใหม่สดๆซิงๆมาจากผู้ใดเนี่ยแล้วก็ขยับขา เอาหน้าหุบกลับมาจากขอบหน้าต่างเดินลงบันไดไปหนึ่งขั้น สรุปลงบันไดบ้านไปได้สี่ขั้น จากสิบสี่ขั้น

“จากเพื่อนในห้องแหละเออนี่ วันที่ ... ว่างมั้ย”

“อ่าว่างๆ ทำไมหรอ” คิดสะระตะพลางตอบตกลง แม้จะยังงงๆว่ามันไปขุดเบอร์ตูมาจากไหนฟะ

“เราจะบวชนะ”อ่อ เออดีเพื่อนจะบวช

“ว่างๆบวชกี่โมงอะไรยังไงว่ามา มีไรให้ช่วยบอก” ตามประสาคนรักเพื่อนค่า ใจดีเต็มที่มากๆ



lozocat


“มาถือหมอนให้เราหน่อยดิ”

พรืด!!! โครม !!!

เดาถูกละจ้าตกใจค่ะ ก้าวพลาด ร่วงบันไดไปสิบขั้น แล้วอิที่ซวยกว่าสิ่งใดๆในโลกหล้าคืออะไรรู้มั้ยร่วงลงไปชนกับพี่ข้างบ้านที่กำลังจะเดินขึ้นมาบนบ้านพอดี กร๊ากอิคนร่วงลงไปนะไม่เท่าไร เจ็บนิดหน่อย เจ็บบ่อยจนชิน แต่อิคนโดนคนสวยร่วงลงไปทับเนี่ยสิมันบอกว่า

“เห็นดาวเลยตัวโคตรหนักอ่ะ” แล้วรู้อะไรมั้ยมันหยาบคายมากกกกกก กรี๊ดดดด รับไม่ได้

“ตัวก็นิดเดียวทำไมหนักขนาดนี้เนี่ย” ชิ งอนค่ะ ไม่คุยกับมันเลย ไม่ขอโทษด้วยส่วนคนปลายสายก็ยังคงอยู่ในสายนะเราต้องรีบบอกว่า

“โอเคๆเดี๋ยวนัดเจอกับเพื่อนแล้วจะบอกอีกทีนะ” รีบชิ่งทันทีเลยค่ะ ตกใจ กร๊ากกก



lozocat

หลังจากวันนั้นก็ไปกระจายข่าวจัดการแปลงร่างเป็นโทรโข่งบอกเพื่อนๆด้วยว่ามันต้องไปงานบวชเพื่อนกับฉันนะ ไอ้เพื่อนก็ เออๆๆ ไปๆๆนัดวันกันเสร็จสรรพเรียบร้อย และเนื่องจากบ้านนี้จะไม่เลี้ยงโต๊ะจีน เลยไม่วุ่นวายเออ ก็ดีเหมือนกันนะ ไม่ยุ่งยากดีเพราะคนบวชยังไงมันก็ต้องไปอยู่วัดก่อนอาทิตย์นึงใช่มั้ย?(จำถูกป่าวหว่า)ไม่ต้องไปลากถูลู่ถูกังให้มันมาเมาหัวราน้ำก่อนวันเข้าโบสถ์แล้วก็จะได้ไม่ต้องไปแฮงค์ตอนท่องคำขอบวชด้วย เห็นมาเยอะแล้วอนาถจิต

คืนก่อนวันงานบวชโทรไปหาน้องสาวนาคเสร็จสรรพถาทางเรียบร้อย โอเค นอน หลับไปได้ซักพัก ตีห้าโทรศัพท์ดัง งื้ด ตกกะใจ ใครโทรมา กดรับแบบง่วงงุน ตายังไม่ลืมเลย

“พี่ฮันนี่คะแม่ให้ถามว่าพี่ฮันนี่จะมาถึงบ้านกี่โมงคะ” หืม...อะไรนะ ฉันหูฝาดหรือไร

“อะไรนะจ๊ะขออีกที” ถามด้วยน้ำเสียงบอกว่า อินี่ง่วงสุดฤทธิ์

“ก็เห็นนาคบอกว่าพี่ฮันนี่จะมาถือหมอนเอ่อ ยังไม่ตื่นหรอคะ” ใช่เลยค่ะคุณน้องขา มันเพิ่งจะตีห้านะคะ

“วันนั้นพี่บอกแบบนั้นหรอ”ยังคงงงไม่สร่างค่า

“ใช่ค่ะ”

“อ่างั้นเดี๋ยวอีกชั่วโมงนึงพี่ไปถึงนะ ขออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”ไม่อยากตื่นก็ต้องตื่นละ ถึงแม้จะเคืองๆงงๆแต่การให้ผู้ใหญ่รอคงไม่ดีหรอก

“ไม่ต้องแต่งหน้าแต่งตัวมานะคะพี่เสื้อผ้าที่นี่มี”

“พี่จะใส่ได้หรอ...”กำลังจะหาข้ออ้างต่อเลย

“ไม่ต้องห่วงค่ะช่วงพร้อม” เอ่อ สาบานได้นะนี่ชีวิตจริง ไม่ใช่นิยายประหนึ่งโดนบังคับไปงานแต่งงานซะงั้น

“อ่าจ้ะ”เสร็จแล้วก็ลุกจากที่นอนแบบมึนๆไปอาบน้ำ ออกมา ปะป๊านั่งอยู่ข้างนอก

“จะไปแล้วหรอยังเช้าอยู่เลย”

“อื้อ”ง่วงค่ะ เวลานี้ เพิ่งนอนไปตอนตีสอง สมองยังไม่สั่งการจนกว่าจะได้อาหาร กร๊ากกตัวอะไรเนี่ย

“ขับรถได้แน่นอน”ปะป๊ายังไม่วายสงสัย ลูกสาวคงเหมือนผีดิบ

“อื้อป๊าไปนอนเถอะ เดี๋ยวไปทำงานสาย” แล้วก็เดินไปหยิบของออกมาจากห้องนอนขับรถบึ่งๆออกไป เอิ๊ก ง่วงเหงาหาวนอนมาตลอดทาง สามสิบกว่ากิโล เหยียบมันซะร้อยยี่ดีที่ถนนมันว่างนะ

พอมาถึงบ้านงานเค้าก็ลากไปเป็นตุ๊กตาบาร์บี้ ลองชุดนั้นชุดนี้อยู่สามสี่ชุดแล้วก็จัดแจงแปลงร่างนางมารน้อยให้เป็นนางฟ้าพอตั้งขบวนแห่เสร็จ ก็ขึ้นไปบนรถกับพ่อแม่นาคไม่ทำอะไร ไม่มองใครนั่งเมาท์กับ mp3 ในมืออย่างเมามันง่วงและหิวสุดๆในเวลานั้น วนโบสถ์ครบสามรอบปุ๊ป ส่งนาคเข้าโบสถ์ปั๊ปดีดตัวเองไปที่รถด้วยความเร็วสูง ลอกคราบตุ๊กตาออกเป็นยายเพิ้งคนเดิมมานั่งรอพระพระออกจากโบสถ์เสร็จ ถ่ายรูป ใส่บาตร เลี้ยงเพลเสร็จ ชิ่ง!!!ไม่อยู่ให้ใครซักอะไรทั้งนั้น ฮ่าๆๆ เพื่อนๆมันไม่สงสัยหรอกเพราะในห้องเรียนตอนนั้น มีผู้ชายสามสิบกว่าคน ผู้หญิงมีสิบคนแล้วที่มันอยู่ใกล้ๆก็ไม่มีใครอีกแล้วที่พระสนิทด้วย เอิ๊ก...อย่าคิดมากเล่าให้ฟังขำๆในความโก๊ะกังของตัวเอง



lozocat




 

Create Date : 10 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 10 พฤษภาคม 2555 23:50:12 น.
Counter : 468 Pageviews.  

วันที่ป่วย

วันที่ป่วย

Hello Doc.

อากาศประเทศไทยมันเป็นอะไรก็ไม่รู้เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝน เดี๋ยวหนาว วันนึงมีไม่ต่ำกว่าสอง-สามฤดูแล้วคนแพ้อากาศอย่างฉันจะรอดมั้ย โฮ๊ะๆ ไม่มีทาง ป่วยซะงอมพระรามขนาดนี้ กลางวันร้อนจนไมเกรนขึ้นทำงาน เขียนนิยายไปได้สองสามชั่วโมงก็ต้องพัก ไม่งั้นโดนหามส่งโรงบาลแบบคราวก่อนแน่อากาศแบบนี้ กินอะไรก็ไม่อร่อยเท่าน้ำเปล่าแช่เย็น กินแต่น้ำจนน้ำหนักลด O – o เพราะกินอะไรก็ไม่อร่อยT – T แถมเมื่อวันก่อนก็ซัดน้ำแข็งเต็มที่ทั้งวัน สุดท้ายวันนี้ ป่วย ไข้ขึ้น นั่งเป็นแมวเหงาหน้าคอม ฉีกยิ้มไปทำงานให้แม่ไป สุดท้ายเวียนหัว หน้ามืด เป็นลมสลบกลางอากาศไปเลย ฟื้นมา จะสามโมง หล่อนมีนัด ก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ลากแม่ไปตามนัด มือยังสั่น ขายังสั่น ใจยังหวิวๆตลอดๆตูจะเป็นลมกลางห้างอีกมั้ย สรุปว่า รอดมาได้ ออกจากห้าง ลากแม่ตรงดิ่งไปโรงพยาบาลขอยาหมอ หมอคงงง เอ๊ะ นังนี่ยังไง มาถึงไม่ยอมบอกหมอว่าเป็นยังไง มาถึงขอยาๆๆๆ เอออิหมอก็สั่งให้ค่ะ อ้อนหมอมา ทั้งๆที่ปรกติ เป็นโรคไม่ถูกกะหมอจะตาย ได้ยาเสร็จกลับบ้าน ณ ตอนนี้ หัวเบาหวิว ง่วงมาก ไปสลบดีกว่า

ปล.นึกขึ้นได้ว่าเคยสัญญากับใครบางคนว่าจะเขียนไดอารี่เรื่องรักๆของเรากับเขา เอาเป็นว่าเดี๋ยวเขียนให้ก็แล้วกันนะ ลอกเอาจากในเล่มๆมาลงเลยก็แล้วกัน ไม่โอก็ต้องโอเรื่องมากไม่ทำให้นะยะ!

ปล.2 ไหนๆก็เขียนของเจ้าชายแล้วนางมารร้ายขอแฉอัศวินด้วยเลยก็แล้วกัน บอกไว้ก่อน นิยายรักชีวิตจริงเรื่องนี้ไม่มีนางเอกนะคะ ;)

คนป่วยไม่เจียมสังขาร

นางมารร้ายเจ้าเก่า(ณัฐกัลยา)




 

Create Date : 03 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 3 พฤษภาคม 2555 22:56:53 น.
Counter : 346 Pageviews.  

เพ้อระยะที่สอง

เพ้อระยะที่สอง

Dear My Knight

จั่วหัวแบบนี้ FC บางคนรู้แน่ว่าหมายถึงใครหลังจากไม่ได้คุยกันมาสามเดือนกว่าๆ(มั้ง) เค้าคนนั้นก็ออนไลน์มาแบบงงๆมึนๆตอนแรกมองไม่เห็น ไม่รู้ว่าเอ็มเน่ารึเน็ตเดี้ยง หรืออะไร ช่างหัวมันเถอะแต่ด้วยความช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆจากคนสวยใจดีเจ้าเก่า เค้าก็ตอบเอ็มกลับมามาแบบเดิมเด๊ะๆๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไอ้เราก็ เว้ย อะไรวะ นั่งนอยด์นอนคิดมากอยู่สามเดือน มาแบบนี้ แทบกลิ้งตกเตียง ไอ้ที่พยายามทำแทบตาย สูญสลายหายไปกับสายลมและเสียงเพลงที่กรอกหูอยู่ทุกวันเฮ้อ ใจแข็งได้แค่นี้จริงๆนะ ปากดีไปงั้นแหละจริงๆแล้วก็ยังแอบคิดถึงเค้าเหมือนกัน แต่ว่า ถ้าถามว่าอยากกลับไปคบมั้ยตอบได้ทันทีว่าไม่ กลับไปก็ไม่เหมือนเดิม และเราก็คิดว่าเค้าน่าจะรู้ดี เพราะงั้นเป็นเพื่อนคุยเล่นกันแบบนี้แหละดีแล้ว สบายใจดี เหมือนเพลงที่ใครบางคนเคยบอกเค้าจะรู้มั้ยว่าฉันนั่งเก็บแต่ละเพลงมานั่งฟังทุกวันๆแล้วก็คิดถึงเค้า(จะบอกเค้าให้ดีใจเล่นทำไมยะ)

เฮ้อ...พอเถอะ เขียนมาตั้งเยอะแค่อยากจะบอกว่า ใจมันไม่แข็งเหมือนปากหรอก ความรู้สึกดีๆก็ยังเหมือนเดิม ยังคงฟังเพลงเดิมๆที่เธอคนนั้นเคยให้เพลงที่เค้าเคยบอกว่า มันเหมือนกับเรานั่งอยู่ริมทะเลสาบมองดาวแล้วใช้เพลงแทนคำพูดและความรู้สึก ไม่อยากจะบอกว่า มันก็ยังเดิมๆนะ

เดี๋ยวจะหาเรื่องเอาแต่ละเพลงมาลงวันละเพลงพร้อมความหมาย เอาไว้คิดถึงวันเก่าๆ เอ่อ รู้สึกจะเป็นเอามากนะฉัน ใครก็ได้ฉุดฉันออกจากความเพ้อเจ้อนี่ทีสิ - -

วันก่อนบอกกับน้องสาวคนนึงว่าจะเขียนสปอยล์ The Hunger Gameให้นางจนป่านนี้ก็ยังไม่เสร็จ เขียนรีวิวนิยายไว้เยอะแยะก็ไม่เอามาลงจนจะโดนทวงละ กร๊ากกก วันละอย่างนะจุ๊บๆๆ

มันก็ยังเหมือนวันวาน

นางมารน้ำผึ้ง (คนเดิมตลอดกาล)







 

Create Date : 02 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 3 พฤษภาคม 2555 0:02:11 น.
Counter : 451 Pageviews.  

1  2  

~PerSepHoneY~
Location :
สุพรรณบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]









“กุหลาบแดง” แต่งวาจา พาตอกย้ำ

ดังถ้อยคำ พร่ำรักไว้ ให้ชวนฝัน

หลงกลิ่นหอม หวนกลิ่นเจ้า เฝ้ารำพัน

คืนเปลี่ยนผัน กุหลาบนั้น ...พลันโรยลา



แต่กุหลาบ ดอกหนึ่ง คงหยัดยืน

ยังเฝ้าฝืน กลืนรอยช้ำ ร่ำเรียกหา

ผ่านสายลมพรมพร่างพรางน้ำตา

เวลาผัน “กุหลาบดำ” ยังทนทาน



กรุ่นกลิ่นชวน หวนหอม ตรอมอุรา

ยังตรึงตรา จารึกคำ พร่ำเพรียกขาน

ฝังอารมณ์ จมรากไว้ ในสายกาล

มอบวิญญาณ พลีหัวใจ ...ไว้ชั่วกัลป์



กุหลาบดำ จำวาจา เจ้าฝากไว้

กุหลาบไซร้ คือรักแท้ ที่เฝ้าฝัน

สีดำหรือ คือความรัก จักคงมั่น


“กุหลาบดำ” จึ่งแทนคำ...”รักนิรันดร์”








Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ~PerSepHoneY~'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.