เรื่องวิ่งๆที่ "ไต้หวัน" ... Happy Marathon(ing) in Taiwan สวัสดีวันศุกร์ค่ะ... ก่อนอื่นต้องขอบคุณทุกข้อความและกำลังใจดีๆที่ส่งมาทาง Facebook นะคะ ถึงตอนนี้จะอยู่ระหว่างทริป 2 ล้อสุดโหดมันฮา #หมดวันทีแทบจะหมดลม แต่ก่อนนอนก็ต้องขอแวะมาอัพเดทเปิดอ่านข้อความของเพื่อนๆกันก่อน :) พูดถึงเรื่องกิจกรรมใช้กำลัง -- วันนี้มีกิจกรรมใช้พลังมาฝากกันค่ะ ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาจขบ.ดูแลสุขภาพตัวเองเป็นพิเศษ ต่อให้ตารางชีวิตยุ่งแค่ไหนก็พยายามหาเวลาออกกำลังกาย ไม่ได้จะฟิตแอนด์เฟิร์มหรอกนะคะ แต่สถานการณ์บังคับค่ะ  ช่วงปลายปีที่แล้วมีเหตุให้ได้สัมผัสกับภาวะหมอนรองกระดูกปลิ้น #เพิ่งเคยได้ยินเหมือนกัน #ไม่ได้สึก ไม่ได้เคลื่อน แต่ปลิ้นทะลักออกมา  อธิบายง่ายๆนะคะ นึกภาพตาม --หมอนรองกระดูกเป็นชั้นนุ่มๆ เป็นตัวกลางอยู่ระหว่างกระดูก 2 ชิ้นของเรา ทีนี้พอเกิดภาวะผิดปกติแล้วเจ้าชั้นนุ่มๆนี้มันปลิ้นออกมาไปรบกวนกับประสาทแถวๆนั้นก็เลยเกิดอาการเจ็บร้าว ของจขบ.นี่เจ็บร้าวไปทั้งขาเลยค่ะ ช่วงที่เป็นแรกๆเดินแทบไม่ได้ แอบตกใจอยู่เหมือนกัน เพราะไม่ได้มีอาการอะไรมากนอกจากปวดหลัง 2-3 วันก่อนหน้านั้น #ปกติปวดหลังบ่อยๆอยู่แล้วเพราะกระดูกสันหลังคดตั้งแต่เกิด 555  สีชมพูๆนี่แหล่ะค่ะ -- หมอนรองกระดูก หมอนรองกระดูกยื่นไปกดทับกับเส้นประสาท  ช่วง 2 อาทิตย์แรกที่เป็นนี่แทบจะไม่ต้องเดินกันเลย นั่งรถเข็นเที่ยวห้างกับนอนติดเตียงซะมากกว่า -- กว่าจะกลับมาเดินได้ปกติก็เกือบ 3 เดือนค่ะ ช่วงที่รักษาตัวนี่แอบเศร้ามากเลย ... จิตตกเอาบ่อยๆด้วย กลัวว่าตัวเองจะกลับมาซนตามแบบที่ชอบอีกไม่ได้ อายุก็ไม่น้อย ร่างกายไม่ได้ฟื้นฟูเร็วเหมือนสมัยก่อน  พอคิดอย่างนั้นก็ยิ่งกลัว เลยพยายามฟิตและดูแลร่างกายมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก -- ตอนนี้ผ่านมา 5 เดือนแล้ว ถึงแม้ว่าจะยังไม่ปกติ 100% แต่ก็ต้องเรียกได้ว่าดีมากๆ ถึงแม้ว่าจะมีอาการชาบ้างเป็นครั้งคราวแต่ก็ไม่ได้รบกวนกิจกรรมทั่วไปในชีวิตประจำวันเท่าไหร่ ผลพลอยได้จากการฝึกกล้ามเนื้อและบริหารร่างกายอย่างเป็นระบบคือระบบคาร์ดิโอ (Cardio Level) ดีขึ้นมาก ออกกำลังกายได้นานๆ เหนื่อยช้าลงเยอะ  ช่วงที่ออกกำลังกายใหม่ๆ มีเพื่อนที่นี่ชวนไปวิ่ง ส่วนตัวไม่ได้อินกับกิจกรรมประเภทวิ่งๆเท่าไร เคยแต่ไปประเภท Fun Run 5 กิโลสนุกๆเก๋ๆมากกว่า #ซอมบี้รัน ไปดูภาพกันได้ ฮามาก! #ลิงค์ซอมบี้รัน ครั้งนี้พอเขามาชวน -- เลยนึกสนุกอยากลงกับเขาด้วย เพราะเป็นงานระดับชาติอย่าง Taroko Gorge Marathon ที่อุทยานแห่งชาติทาโรโกะ #Hualian  งานนี้เป็นงานใหญ่ 1 ใน 3 งานสำคัญของงานมาราธอนของที่นี่  #อีก 2 งานคือ Taipei Standard Chartered Marathon และ Fubon Taipei International Marathon แต่ไม่กล้าซ่า ขอลงแบบขำๆแค่ 5 กิโลเหมือนเดิม งานวิ่งที่ Taroko จำกัดผู้เข้าร่วมแข่งขันอยู่ที่ 13,000 คน เห็นจำนวนคนเยอะๆแบบนี้แต่ยังน้อยมากถ้าเทียบกับอีก 2 งานที่จัดในไทเป ที่ต้องจำกัดจำนวนคนเป็นเพราะสถานที่แข่งขันคือในบริเวณอุทยานแห่งชาติเลย ไปดูรูปกันดีกว่า #บางรูปอาจจะได้เห็นผ่านตาใน Facebook แล้วนะคะ 1 อาทิตย์ก่อนวันแข่งได้รับเบอร์ เสื้อและอุปกรณ์ต่างๆทางไปรษณีย์ เขามีคู่มือชี้แจงงานและเส้นทางการวิ่งอย่างละเอียด #มีภาษาอังกฤฤษด้วย :) เราตัดสินใจเดินทางโดยรถไฟ เลี่ยงการจราจรติดขัด -- ไม่เหนื่อยด้วย ดีที่สุดคือได้ทานอาหารกล่องโบราณของการรถไฟ อุอุ  ดูวิวไปเพลินๆ ตื่นๆหลับๆ ถ้าเป็นรถด่วนแบบขบวนที่นั่งมา แวะไม่กี่สถานี ถึงแล้วสถานี Hualian #2 ชั่วโมงนิดๆจากไทเป โรงแรมและตั๋วรถไฟเต็มหมด.. จำยอมต้องมาก่อน 1 วัน -_-" โรงแรมที่พัก 2 คืนแรก "F Hotel" -- เดินจากสถานีรถไฟมาได้เลย สะดวกมาก #10 นาที โรงแรมใหม่และสะอาด มีอาหารเช้าแบบบุฟเฟท์ให้ด้วย #วันแข่งต้องออกจากโรงแรมไปขึ้นรถไฟตอนตี 5 มีบริการแพ็คอาหารเช้า+เครื่องดื่มใส่กล่องให้ไปทานด้วย ประทับใจมาก ^^= วันวิ่ง.. ตื่นตี 4 เตรียมตัวไปขึ้นรถไฟตอนตี 5 ขบวนพิเศษสำหรับนักวิ่งโดยเฉพาะ ถึงสถานียังไม่มีแสงใดๆทั้งสิ้น มืดสนิท... ว่าแล้วไปรีบต่อบัสของงาน ออกจากสถานีรถไฟมาขึ้นรถบัส #ฟรี รถมาเรื่อยๆไม่ต้องแย่งกัน มีที่นั่งทุกคน  ถึงแล้วค่า.. จุดสตาร์ท #ถ่ายตอนฟ้าสว่างแล้ว ช่วงรอวิ่งหลบกันอยู่ด้านในตึก หนาวลม 555 #เห็นโล่งๆแบบนี้ตอนปล่อยตัวคนเยอะม๊าาาก  จุดรับฝากกระเป๋า #ต้องชมระบบการจัดการของงาน คนเยอะก็จริงแต่แทบจะไม่ต้องรอเลย เร็วมากๆ มีซุ้มผลไม้ให้เติมพลังก่อนออกวิ่งด้วย  #แต่ถ้าวิ่ง Full/Half Marathon จะอดเพราะซุ้มตั้งช่วงสาย #Full/Half ปล่อยตัวไปก่อนแล้ว Fun Run ชิลสมชื่อ.. มีเวลาช้อปก่อนออกวิ่งด้วย ช่วงก่อนออกตัว คนเริ่มเดินไปจุดสตาร์ท #เห็นทะเลคนไกลๆในภาพไหมคะ #มองไกลๆด้านซ้าย ออกตัวไปได้สักพักก็มีซุ้มน้ำ/ผลไม้ และปฐมพยาบาลเป็นระยะๆ วิวข้างทางก็สวยดี วันที่วิ่งอากาศสบายๆ 14 องศา ฝนไม่ตก ภาพนี้จากช่างภาพของงาน -- เขาถ่ายรูปเราไว้ตามทางเรื่อยๆ ถ้าชอบก็ซื้อได้ค่ะ #รูปจขบ.ฮาตามปกติ ไม่กล้าเอามาโชว์  เวลาวิ่งผ่านช่องแบบนี้แอบเพิ่มสปีด กลัวหินหล่นใส่หัว 555 1 กิโลสุดท้ายวิ่งผ่านอุโมงค์ยาวมาก  #ตลอดทางมีทั้งวิ่งลอดอุโมงค์ ลอดช่องเขา ข้ามสะพาน ทางไม่ขึ้นๆลงๆมากสำหรับ 5 กิโล แต่สำหรับ Full/Half เห็นว่ามีขึ้นๆลงๆเนินเขาอยู่เหมือนกันค่ะ Fun Run  แรกหลังจากหมอนรองฯปลิ้นได้ 2 เดือนกว่าๆ 555 ~ วิ่งๆหยุดๆแต่ภูมิใจอยู่เล็กๆ :) หมดงานมีแจกเบ็นโตะด้วย เย้! #หิวโฮก นั่งรถไฟกลับโรงแรม #เหรียญของคุณพ่อบ้านนะคะ FunRun ไม่มีเหรียญให้ #แอบเอามาใส่ถ่ายรูปเก๋ๆ :P ครั้งหน้าพาไปดูกิจกรรมหลังวิ่งเสร็จที่ Hualian + ไปดูงานวิ่งสำคัญอีก 1 งานที่เพิ่งผ่านไป อยากให้เพื่อนๆที่ชอบการวิ่งได้มาสัมผัสบรรยากาศของที่นี่ ยิ่งช่วงต้นปีกับปลายปีอากาศดีๆยิ่งวิ่งสบาย  แล้วเจอกันใหม่เอนทรี่หน้านะคะ... บ๊ายบาย   Create Date : 06 มีนาคม 2558     0 comment Last Update : 17 มีนาคม 2558 10:47:18 น.     Counter : 1139 Pageviews.   Share Tweet

พระอาทิตย์ขึ้นที่ภูเขาหิมะกับน้ำตกสูง 50 เมตร O_o" @ Wuling: You gotta love Taiwan สวัสดีค่ะ~  หลังจากที่เอนทรี่ก่อนได้พาไปดูความสวยงามของดอกซากุระและพันธุ์ปลาหายากอย่าง Taiwan Salmon แล้ว #ลิงค์เอนทรี่ก่อน [1] และ [2] วันนี้จะพาไปดูที่เที่ยวสวยๆในฟาร์มอู๋หลิงกันต่อ อย่างที่ได้เกริ่นไว้ในเอนทรี่ที่แล้ว ที่นี่มีดีกว่าแค่การชมป่าซากุระ การเดินทางมาเที่ยวถึงแม้จะไม่ลำบาก แต่ก็แอบกินเวลาอยู่พอสมควร ดังนั้นถ้าแพลนจะมา แนะนำให้อยู่เที่ยวอย่างน้อย 1 คืนค่ะ ช่วงที่ไปพักอากาศช่วงกลางคืนหนาวเอาเรื่องอยู่ คืนแรกอุณหภูมิติดลบ ยังดีที่ห้องพักมีผ้าห่มไฟฟ้าไว้ให้ นอนหลับฝันดีอุ่นสบายไม่มีปัญหา  นอกจากห้องพักในโรงแรมและวิลล่าแล้ว ที่ฟาร์มยังมี Camping Area เอาไว้ให้นักเดินทางตั้งเต้นท์นอนดูดาวกันด้วย ถ้าไม่มีอุปกรณ์เอง เขาก็มีใช้เช่า -- แต่รอบนี้จขบ.อยากเที่ยวแบบสบายๆ เลยขอแค่แว๊บไปแอบดูบรรยากาศช่วงเช้ามืด ก่อนพระอาทิตย์จะขึ้นแถวนั้น เพราะได้ข่าวว่าแสงสวยไม่แพ้ที่ไหนๆ  บรรยากาศริมทาง ป่าซากุระ.. ช่วงเช้าคนแทบจะไม่มี เหมือนดินแดนในฝัน ถึงแดดจะยังไม่มา แต่สีของดอกซากุระสลับกับดอกหญ้าก็ไม่ได้สวยน้อยลงเลย ขาวโพลนเหมือนเกล็ดหิมะ จะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นต้องขับรถขึ้นเขาต่อไปอีกประมาณ 3 กิโล บริเวณนี้อยู่ไม่ไกลจากบริเวณที่ตั้งแคมป์ ถ้ามาเที่ยวเองไม่มีรถส่วนตัวแต่ต้องการพักแบบแคมป์ โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ล่วงหน้า นัดเวลาให้มารับที่บริเวณโรงแรมด้านล่างได้ #Camping Region Management Center (+886) 04-2590-1470 หรือ 04-2590-1265  ถ้าอยากแวะมาดูบรรยากาศช่วงกลางวัน ทางฟาร์มมีบริการรถทัวร์ภายในบริเวณซึ่ง แวะพาเที่ยวตามจุดสำคัญๆในฟาร์ม ใช้เวลาทั้งหมด 2 ชั่วโมงในการเที่ยว #ค่าบริการ 150 NT$/คน/รอบ #ช่วง Peak เช้า 2 รอบ บ่าย 2 รอบ #ช่วง Off-Peak เช้า1 รอบ บ่าย 1 รอบ มาแล้วพระเอกของวัน อย่าลืมเอาแจ๊คเก็ตกันลมมาด้วยนะคะ ลมแรงอยู่ #มีฮู้ดด้วยยิ่งดี  แสงอาทิตย์ลอดผ่านภูเขาฝั่งตรงข้ามมา สวยมากๆ ดูพระอาทิตย์ขึ้นเสร็จลงมาเดินเล่นที่ที่ตั้งแคมป์ต่อ #เจอต้นบ๊วยฟอร์มสวยอยู่หน้าห้องน้ำ #ดอกบ๊วยเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติของไต้หวันนะคะ ตั้งแคมป์มีหลากหลาย -- แบบแรกคือเอามาเอง มีบางครอบครัวเต้นท์อลังการมาาาก หรือจะพักแบบกระท่อมหลังจิ๋วก็ได้ มีระเบียงส่วนตัวเอาไว้ทำบาบีคิวด้วยนะ #แอบชอบ ^^ หรือจะติดดิน..นอนแบบเพิงยังไหว จนท.แอบกระซิบว่าออปชั่นแคมป์ปิ้งนี้ดีสำหรับผู้ที่พลาดการจองห้องพักในช่วง High Season เช่นช่วงเทศกาลชมดอกซากุระช่วงนี้ ส่วนใหญ่ยังมีที่ว่างให้จับจองกัน แต่ถ้าใครเลือกแบบนี้ เตรียมตัว+อุปกรณ์ให้พร้อมกับสภาพอากาศนิดนึงนะคะ บริเวณแคมป์นี้นอกจากจะเป็นที่พักของนักเดินทางที่ตั้งใจมาเที่ยวฟาร์มอู๋หลิงแล้วยังเป็นที่พักของนักปีนเขาอีกด้วย ที่นี่เป็นทางเข้าของภูเขาหิมะหรือ 雪山 (Xueshan) ภูเขาที่สูงเป็นอันดับ 2 รองจากภูเขาหยก (YuShan) ของไต้หวัน #ยอดของภูเขาหิมะสูง 3,886 เมตรจากระดับน้ำทะเล ตอนที่ไปปีนภูเขาหยก #ตามไปอ่านกันได้นะคะ #เอนทรี่ภูเขาหยก -- ผู้เชี่ยวชาญด้านปีนเขาที่ไปด้วยกันบอกว่าถ้าไม่นับเรื่องความสูง ภูเขาหิมะนี่สวยเป็นอันดับ 1 เลยทีเดียว แต่เห็นว่าปีนยากกว่าภูเขาหยกอีก  อร๊าาาย แอบดูบริเวณแคมป์เสร็จก็ได้เวลากลับลงไปทานอาหารเช้าที่โรงแรมแล้ว แวะถ่ายรูป Tea Saloon หรือโรงน้ำชาระหว่างทางซะหน่อย #กลางวันคนแน่นทีเดียว รูปสลักไม้ขำๆ #ชี้อะไรกันจ๊ะ :P  คอชาห้ามพลาดค่ะ.. ชาที่นี่เป็นชาที่ปลูกบริเวณนี้ ลองชิมดูอบไม่เข้มแต่หอมฟุ้งเลย ชมดอกไม้เสร็จมานั่งชิลดื่มชาต่อได้ หรือจะมาจิบริมป่าก็ไม่ผิดกติกา -- จขบ.ไม่จิบชาแต่ซดมาม่าเลยค่ะ เมื่อวานหนาว 555  ช้อปก่อนกลับกันได้ แนะนำกิมจิของที่นี่เลยค่ะ -- ผักกาดขาวเป็นพันธุ์เฉพาะของเขตนี้ ปลูกในที่สูง หวานมาก #150 NT$ มีแบบผักกาดดองด้วย #180 NT$ หลังจากทานมื้อเช้าเสร็จ -- เป้าหมายวันนี้คือน้ำตก 50 เมตรแห่งภูเขา Taoshan ค่ะ! น้ำตกนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตเขา Taoshan แต่กว่าจะได้เห็นต้องเดินขึ้นเขาไปอีก 4.3 กิโลเมตร เส้นทางเดินไม่ยาก เป็นทางเรียบๆกว้างๆ มีร่มไม้ไปตลอดทาง เด็กเดินได้สบายๆ แต่ใช้เวลาพอควร ไป-กลับรวมๆก็ 3 ชั่วโมงครึ่ง ทางเข้าไปดูน้ำตกอยู่ติดกับที่พักอีกแห่งของฟาร์ม ตึกนี้อยู่ลึกสุดในบรรดาที่พักทั้งหมดของฟาร์ม บรรยากาศระหว่างทาง เป็นไม้สนไปเกือบตลอด -- อากาศสดชื่นดี เดินไปเรื่อยๆแบบไม่รีบ ระหว่างทางมีที่พักและจุดชมวิวให้นั่งพักเหนื่อย หลายๆกลุ่มมากันเป็นแบบครอบครัวมีทั้งเด็กน้อยทั้งผู้ใหญ่ Taoshan Waterfall Trail นี้มีชื่อเรื่องนก -- นักส่องนกชอบมากัน ขนาดจขบ.ตาไม่ค่อยจะดี ยังเจอนกน่ารักๆหลายประเภทเลย อย่างเจ้าตัวนี้ ตาหวานเชียว  "มองอะไร.. ไม่เคยเห็นนกเหรอจ๊ะ"  มายืนโชว์ตัวให้ดูกันใกล้ๆ ผ่านไป 1 ชั่วโมงนิดๆ--เห็นป้ายนี้น้ำตาจะไหล #ป้ายบอกระยะที่เหลือก่อนถึงน้ำตก ป้ายบอกถึงแล้ว -- ไหนอ่ะน้ำตก ??? #มองมุมสูงค่ะ มองมุมสูง น้ำตก Taoshan นี้สูงจริงๆค่ะ #ผอมด้วย พยายามถ่ายรูปอยู่หลายมุมมากเพื่อให้ใกล้กับภาพที่เห็นด้วยตาจริงๆ แต่ก็แอบยาก ลองเทียบดูกับตัวคนนะคะ น้ำตกสูงมาาาาก เห็นน้ำตกนี้แล้วรู้สึกว่าเหมือนดูผ้าพันคอไหมสีขาวกำลังปลิวตามแรงลม เห็นที่เขาเขียนบรรยายไว้ -- น้ำตกนี้มีประจุ Ion ที่ดีต่อสุขภาพด้วย รีบสูดหายใจลึกๆเลย ฮึบๆ  เดินกลับผ่านสะพานกันอีกรอบ  ดอกไม้น่ารักๆริมทาง คืนที่ 2 ก่อนกลับอากาศกำลังสบายไม่หนาวเหมือนคืนแรก นอกจากเดินเล่นชมอุโมงค์ซากุระแล้ว #ดูภาพจากเอนทรี่ก่อน -- ก็เลยแวะไปฟังดนตรีเล่นสดที่โรงแรม Hoya Resort #แสดงทุกวันตอน 8:30-9:30 PM พ่อหนุ่มผมยาวเสียงนุ่ม  แต่ละวันการแสดงจะไม่เหมือนกัน สลับกันมาเรื่อยๆ ไม่ใช่แขกโรงแรมก็มาฟังกันได้ค่ะ -- ถ้าอยากนั่งฟังสบายๆ มาประมาณ 2 ทุ่มยังมีที่ว่างเพียบ ทริปนี้เป็นอีกหนึ่งทริปสุดประทับใจของจขบ. แค่เวลา 3 วันแต่ได้เห็นหลากหลายบรรยากาศ สารภาพค่ะว่าก่อนหน้าที่จะมาเที่ยว รู้จักฟาร์มอู๋หลิงในแค่มุมของแหล่งชมดอกซากุระ แต่พอได้มาเยือนจริงๆ ที่นี่สวยกว่าที่เห็นในรูปมาก ต่อให้ไม่มีดอกซากุระ "อู๋หลิง" ก็ยังน่าเที่ยวอยู่ดี -- ที่นี่นอกจากช่วงเทศกาลดอกซากุระ (กุมภา-มีนา) ช่วงหน้าร้อนก็ยังมีต้นแพร์-พลัมและแอปเปิ้ลออกดอก (มีนา-เมษา) ช่วงปลายมิถุนา-ตุลา ยังมีเทศการเก็บลูกพีช แพร์และแอปเปิ้ล อีกช่วงที่สวยไม่แพ้กันคือปลายพฤศจิกา-ธันวา เพราะเป็นฤดูใบไม้ผลิ จะได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสี แดงสลับเหลืองไปทั้งเขา #จขบ.วางแผนว่าจะมาเที่ยวอีกครั้งช่วงนั้นเหมือนกัน :D  ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ //www..wuling-farm.com.tw/en/profile/index.php  #สำหรับการจองห้องพักสำหรับชาวต่างชาติ สามารถบอกเบอร์เครดิตการ์ดทางโทรศัพท์ได้โดยตรง ไม่ยุ่งยากค่ะ :) จนกว่าจะพบกันใหม่ ~ "Wuling Farm"  ป.ล. ขอบคุณสำหรับข้อความน่ารักๆและกำลังใจดีๆที่ส่งมาทักทายกันทาง Facebook ดีใจที่บล็อกเล็กๆแห่งนี้มีประโยชน์สำหรับเพื่อนๆที่รักไต้หวันและมาท่องเที่ยวที่นี่... แล้วเจอกันใหม่เอนทรี่หน้าค่ะ    Create Date : 06 มีนาคม 2558     1 comment Last Update : 6 มีนาคม 2558 13:27:59 น.     Counter : 1464 Pageviews.   Share Tweet

เที่ยวสวรรค์ซากุระที่อู๋หลิง Cherry Blossom Heaven @ Wuling Farm [Taiwan] สวัสดีค่ะ ~  วันนี้พาไปเที่ยวฟาร์มอู๋หลิง ชมดอกซากุระกันต่อจากเอนทรี่ที่แล้ว หลังจากเดินทางผ่านหลายสิบโค้ง ผ่าทั้งหิมะ ทั้งฝน ทั้งแดด (ไม่น่าเชื่อว่านี่เดินทางแค่ 3 ชั่วโมงกว่า!)#ตามไปอ่านกันได้ #ตอนที่แล้ว ก็มาถึงที่ฟาร์ม จขบ.แวะไปที่ตึกโรงแรมเพื่อเช็คอิน ตึกโรงแรมเป็นศูนย์กลางของที่นี่ ไม่ว่าจะพักตึกไหนเวลาลงทะเบียนเช็คอิน/เช็คเอาท์ หรือทานอาหารก็ต้องมาที่นี่  #ที่พักของฟาร์มมีด้วยกัน 4 ตึก #โรงแรม 2 วิลล่าอีก 2 #ที่พักอีกที่เป็นของเอกชน ชื่อโรงแรม Hoya Resort ห้องพักของ Wuling Hotel #อาคารหลัก ด้านหน้าทางเข้า #สังเกตอุณหภูมิ #ไหนว่าพยากรณ์ฯว่า 13 องศา  เวลาเช็คอินของทางโรงแรมคือ 3PM เช็คเอาท์เที่ยง ถ้ามาถึงก่อนก็ฝากกระเป๋าเอาไว้ได้ ไม่มีปัญหา ที่นี่เข้ามาแล้วแทบจะไม่ต้องออกไปไหน เพราะอยู่ในเขา ฉะนั้นถ้าอยากหม่ำอะไรเป็นพิเศษแนะนำให้ซื้อตุนมาก่อน แต่ถ้าไม่ซีเรียสด้านในฟาร์มมีร้านขายของและขนมกระจุกกระจิก ราคาแพงกว่าข้างนอกนิดหน่อยแต่ก็ยังรับได้  ซุปเปอร์มาเก็ตเล็กๆร้านเดียวของที่นี่ คนแน่นช่วงกลางวัน ทางฟาร์มมีบริการอาหารทั้งมื้อเช้า-กลางวัน-เย็น ราคาสมเหตุสมผล มื้อเช้าและเย็นเป็นแบบบุฟเฟ่ท์ ส่วนมื้อกลางวันเป็นเซ็ทให้เลือก ห้องอาหารที่เป็นจุดฝากท้องตลอดทั้งทริป ทานอาหารพร้อมวิว ~ ฟินจ้าาาา >.< ถึงแม้ว่านักท่องเที่ยวจะเยอะ แต่ต้องชมการจัดการของที่นี่ เขาทำได้ดีเป็นระบบมาก ไม่ต้องเสียเวลารออาหารเลย คิวก็เป็นระเบียบ ไม่ต้องแย่งเก้าอี้ดนตรีกัน บุฟเฟ่ท์มื้อเย็น เปลี่ยนเมนูมาทุกวัน #350 NT$/คน สำหรับใครที่ทานมังฯ เขามีเมนูเฉพาะไว้ให้ด้วย น้ำซุปจากก๋วยเตี๋ยวร้อนๆอุ่นร่างกายขึ้นเยอะ มื้อเย็นเป็นซุปต่างๆ มื้อเช้าเป็นข้าวต้ม ซุ้มสลัดกับน้ำชา/กาแฟ #ชาร้อนและน้ำดื่มมีไว้ให้บริการฟรีตลอดวันที่ล๊อบบี้โรงแรม มื้อเย็นมื้อแรกของจขบ. #อันนี้แค่จานแรก 555 อาหารกลางวันมาเป็นเซ็ทแบบนี้ #เซ็ทละ 250-280 NT$ ที่ต้องระวังกันนิดคือเวลาให้บริการของห้องอาหาร เพราะเขาให้บริการเป็นรอบๆ ไม่ได้เปิดตลอดวัน มื้อเช้า 7-9 AM #อาหารเช้าฟรี มื้อกลางวัน 11:30AM - 2PM #จขบ.พลาดมาแล้ว -_-" มัวแต่ถ่ายรูปเพลิน มื้อเย็น 5:30-8PM   เช็คอินเสร็จยังเหลือเวลาสบายๆ เลยออกไปเดินเก็บรูปมาฝากกัน ห่างจากโรงแรมไปไม่ไกล ก็เห็นทุ่งดอกซากุระแล้ว จุดชมดอกซากุระที่ใกล้ที่สุด ระหว่างทางเห็นวิวแม่น้ำสวยๆด้วย วันแรกที่ไปถึง พระอาทิตย์ชอบเล่นซ่อนแอบ เดี๋ยวผลุบเดี๋ยวโผล่ตลอด ผึ้งน้อยระหว่างปฏิบัติการ เห็นภาพแดดดีๆแบบนี้ อุณหภูมิบ่ายนั้นอยู่ที่ 2-5 องศานะคะ ลมก็แรงหนาวเอาเรื่องอยู่  เดินเก็บภาพได้สักพัก ไม่ไหวๆ หูเริ่มชามือเริ่มสั่น -- ไม่ได้เตรียมตัวมาเพื่ออากาศเย็นขนาดนี้ ขอหาที่หลบดีกว่า ว่าแล้วเลยแวะไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ที่จนท.แนะนำให้ไปดูนิทรรศการและหนังสั้นประวัติของฟาร์ม ด้านหน้าของศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีกาแฟร้อนช่วยชีวิตขายด้วย! นอกจากหนังสั้นแล้ว ยังมีนิทรรศการที่น่าสนใจให้ดูด้วย #ณ เวลานั้นอะไรก็ไม่น่าสนใจเท่ากาแฟร้อน 555 ร่างกายอุ่นค่อยช้อปต่อ #มีบริการส่งโปสการ์ดด้วย #ราคาไม่แพงเลย ไม่มีตราปั๊มไม่ใช่ไต้หวัน :P หนังสั้นรอบที่ดูเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับปลาแซลมอนสายพันธุ์พิเศษของที่นี่ #มีเฉพาะที่ไต้หวันเท่านั้น แซลมอนพันธุ์นี้เกือบจะศูนย์พันธุ์แต่โชคดีที่มีโครงการวิจัย จัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาฟื้นฟูการเพาะพันธุ์ขึ้น #Taiwan Salmon Eco Center ตั้งอยู่ในฟาร์มด้วย เดินต่อมาจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ไม่ไกลกันเท่าไร -- ถึงแล้ว มีเวลาเปิด-ปิด #หยุดทุกวันจันทร์ ต้องเดินลงบันไดไปดู เพราะตัวอาคารติดอยู่กับริมแม่น้ำ #มีปลาแซลมอนอยู่ในแม่น้ำด้วย ข้างล่างก็มีต้นซากุระ แดดช่วงเย็นสีนวลตา อาคารนิทรรศการ บรรยากาศด้านใน มีลูกปลาแซลมอนให้ดูด้วย #เด็กๆชอบ :) เดินเล่นที่นี่เสร็จก็ได้เวลากลับไปที่พัก #ประมาณ 1.5 กิโล #ไม่อย่างนั้นจะพลาดมื้อเย็นได้ อุอุ  ถ้าใครไม่ชอบเดิน มีออปชั่นให้เลือกค่ะ ใกล้ๆกับศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีบริการให้เช่าจักรยานและสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า เปิดให้บริการตั้งแต่ 9AM-5PM ให้เช่าแบบ 2ชม.หรือ 24ชม. ใช้ระบบไฟฟ้า ลดมลพิษ ไม่รบกวนนักท่องเที่ยวคนอื่นด้วย ^^= เด็ดสุดคือมีรถเอาไว้ให้บริการแก่คนชราและผู้พิการด้วย #อยากให้บ้านเรามีแบบนี้บ้าง ส่งท้ายเอนทรี่นี้ด้วยภาพอุโมงค์ซากุระยามค่ำคืน -- บรรยากาศช่วงกลางคืนโรแมนติคมาาาาาก  ชมซากุระตอนกลางคืนความรู้สึกต่างจากตอนกลางวันค่อนข้างเยอะ เป็นไปได้อยากให้พักที่นี่กันสัก 1 คืน เพื่อซึมซาบกับบรรยากาศกันค่ะ ถึงอากาศแต่คนยังสู้ .. ตั้งกล้องถ่ายรูป เก็บโมเม้นท์ดีๆกันใหญ่ ซากุระสีทอง ครั้งหน้าจะพาไปดูมุมเด็ดของฟาร์มอู๋หลิงกันต่อ นอกจากซากุระแล้วที่นี่ยังมีจุดไฮไลท์แจ่มๆรอให้ค้นหาอยู่อีกค่ะ Have a nice weekend ค่าาาา   Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2558     2 comment Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2558 13:46:05 น.     Counter : 1916 Pageviews.   Share Tweet

ซากุระที่สวยที่สุดของไต้หวัน.. Heaven on Earth @ Wuling Farm [Taiwan] สวัสดีวันตรุษจีนค่าาา...  วันนี้ก็เข้าวันที่ 2 ของปีใหม่จีน ยังไม่สายเกินไปสำหรับการกล่าวอวยพร ~  "ปีแพะนี้ขอให้เพื่อนๆทุกคนและครอบครัวมีแต่ความสุขสดใส แข็งแรง เฮงๆๆ รับทรัพย์กันตลอดปี Gong Xi Fa Cai ค่าาา!!! "  ไหนๆก็อยู่ในช่วงแห่งการเฉลิมฉลองเทศกาลดีๆอย่างวันปีใหม่ เอนทรี่นี้เลยนำเรื่องราวจากทริปล่าสุดที่ทั้งสวยทั้งประทับใจสุดๆมาฝากกันค่ะ -- ไปเที่ยว Wuling Farm กันค่ะ!  Wuling Farm ตั้งอยู่ในเขต Heping เมือง Taichung แต่อย่าเข้าใจผิดว่าอยู่ในตัวเมืองไทจงนะคะ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในเขตไทจงแต่ Wuling Farm ตั้งอยู่ในภูเขา สูงจากระดับน้ำทะเล 1,740-2,200 เมตร ถ้าให้เห็นภาพง่ายๆ Wuling Farm ติดอยู่กับด้านนึงของอุทยานแห่งชาติ Sheipa นั่นเอง จากไทเป เดินทางมา Wuling ง่ายสุดคือใช้เส้นผ่านเมือง Yilan # ทางเป็นทางเขา หลายเลี้ยว เวลาจริงนานกว่าเวลาที่ google ให้ไว้พอสมควร การเดินทางไป Wuling Farm ใช้เวลาค่อนข้างนาน จากไทเปใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง แต่ถ้าไม่นับเรื่องเวลาในการเดินทางถือว่าสะดวกมาก เพราะมีรถบัสให้บริการตรงจากสถานี Taipei Main Station เลย ต่อเดียวถึง #รถออกทุกวันตอน 7:20 AM  Wuling Farm เป็นหนึ่งในที่เที่ยวที่โด่งดังในหมู่คนไต้หวัน โดยเฉพาะหน้าดอกซากุระ #Cherry Blossom ช่วงเดือนมกรา-มีนา ขึ้นอยู่กับอากาศในปีนั้นๆ ปีนี้เทศกาลชมดอกซากุระตรงกับเทศกาลตรุษจีนพอดี  เห็นความสวยและความเยอะของซากุระที่นั่นแล้ว ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทุกปีคนไต้หวันถึงยอมรถติดเป็นชั่วโมงๆขึ้นเขาไปชมดอกไม้กัน ต้นฤดูค่อยๆทยอยผลิดอกแล้ว ปกติการจองที่พักของที่นี่ ถ้าช่วงเทศกาลดอกซากุระแนะนำให้จองล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือนเพราะเต็มเร็วมาก ปีนี้โชคดีเวลาและโอกาสอำนวยเลยได้ชวนคุณพ่อบ้านไปเที่ยวกันที่นั่น 3 วัน #ช่วงที่ไปเที่ยว จขบ.ลงรูปไว้ที่ Facebook เป็นระยะๆ บางคนอาจจะได้เห็นแล้ว  ช่วงที่ไป (10-12กุมภา) อากาศที่ไทเปกำลังสบายๆประมาณ 15-20 องศา เช็คอุณหภูมิที่ Wuling เย็นกว่านิดหน่อย 13-17 จัดกระเป๋าสบายๆ เอาแจ๊คเก็ตตัวเก่งเผื่อไปขึ้นเขาดูพระอาทิตย์ขึ้นหน่อย ออกจากบ้านมาระหว่างทางอากาศดีเชียว วิวระหว่างทาง #จริงๆฟ้าไม่มืดน้าาา กล้องเป็นอะไร -_-" นั่งรถขึ้นเขามาเรื่อยๆ วิวตามทางก็ดูปกติ รู้เลยว่ามาถูกที่ ขนาดแค่ริมทางยังมีซากุระสวยๆให้ดู นั่งต่อมาได้สัก 2 ชั่วโมง บรรยากาศริมทางเริ่มเปลี่ยนไป หันไปอีกที~ อ้าว ไหงฟ้ากลายเป็นสีนี้แล้วอ่ะ ไม่ได้ตั้งตัวเลย อยู่ๆก็ได้เห็นหิมะตกซะอย่างนั้น  ก่อนหน้านี้ประมาณอาทิตย์กว่าๆเห็นจากข่าวว่ามีบางบริเวณบนเขาสูงๆที่มีหิมะตก ไม่นึกว่าจะเจอกับตัวเองในทริปนี้ อากาศตอนออกจากบ้านไม่ได้มีสํญญาณเตือนเลย ตอนแรกนึกว่าฝนตก แต่สังเกตดูอ้าว..ขาวๆ หิมะนี่นา  ยิ่งขับต่อไปเรื่อยๆหิมะยิ่งเยอะขึ้น กดดูอุณหภูมินอกรถ 2 องศาหยึยๆ.. หนาวก็หนาวแต่ยังยื่นมืออกไปถ่ายรูปเอามาฝากกัน #กร๊าาาก  ภาพนี้ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆในไต้หวัน ต้นไม้ข้างทางบางส่วนโดนน้ำแข็งและหิมะเกาะ ดูมีสเน่ห์แบบลึกลับๆ มีเพื่อนร่วมทางเป็นรถบัส #น่าจะคันนี้ที่มาจากไทเป Main Station ไม่นานจากหิมะก็กลายเป็นลูกเห็บ ยื่นมือหลบกลับเข้ารถแทบไม่ทัน #ระคายผิวใช้ได้อยู่ >.<  ชั่วโมงสุดท้ายฟ้าใสอีกแล้ว #เปลี่ยนอารมณ์ตามแทบไม่ทัน สำหรับใครที่เมารถเมาง่าย แนะนำให้เตรียมตัวให้ดีเลยค่ะ ทางเส้นนี้หลายเลี้ยวหลายโค้งมาก ใครเป็นลูกช่างเวียนหัวแบบจขบ. สภาพตอนถึงอาจไม่งาม #บ๊วยเอย ยาดมเอย จัดมา! เดินทางมา 4 ชม.เต็มจากไทเปในที่สุดก็ถึงที่หมาย "Wuling Farm" !!! Wuling Farm เปิดให้เข้าตลอดทั้งปี มีบางช่วงที่คนเยอะๆเขาจะจำกัดจำนวนนักเดินทางในแต่ละวัน #Traffic Control อย่างปีนี้มีการจำกัดผู้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 12-24 กุมภาเอาไว้ที่ 6,000 คนต่อวัน ทั้งนี้ก็เพื่อให้บรรยากาศการชมดอกซากุระเป็นไปอย่างราบรื่น และไม่เป็นการรบกวนธรรมชาติมากเกินไป #ค่าเข้าชมต่อคน NT (Off-Peak NT) #เด็กและผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป)NT  ช่วงวันที่ไปเป็นวันธรรมดาก่อนเทศกาลตรุษจีน นักท่องเที่ยวยังไม่เยอะมาก ดอกซากุระเพิ่งเริ่มบาน พื้นที่ของฟาร์มกว้างมาก ดอกซากุระมีหลายหลายพันธุ์ ช่วงเวลาการผลิดอกก็ไม่พร้อมกัน ค่อนๆทยอยกันบานเป็นโซนๆ ตลอดทางในฟาร์ม ไม่ว่าหันไปทางไหนก็เห็นป่าดอกซากุระ สีหวานไล่กันไปหลายเฉดทั้งสีขาว ชมพูอ่อน ชมพูเข้ม ช่วงตั้งแต่ 10:30AM-4PM เป็นช่วงที่คนเยอะสุด #ทัวร์ลง ประวัติความเป็นมาของที่นี่คล้ายๆกับที่ Cingjing Farm #สวิสเซอร์แลนด์แห่งไต้หวัน #ตามไปดูภาพน่ารักๆของแกะน้อยได้ที่ เอนทรี่ชิงจิ้ง คือเป็นเขตอาศัยของเหล่าทหารผ่านศึกที่ปลดประจำการแล้ว ก่อนหน้าปี 1985 แถวนี้ยังไม่มีถนนไฮเวย์ตัดผ่าน การเดินทางลำบาก แถวนี้เป็นที่อยู่อาศัยของชนเผ่า Ataya หลังจากมีการตั้งหมู่บ้านชุมชนทหารผ่านศึก ได้ปรับให้เป็นพื้นที่เกษตรกรรมพัฒนา จนปี 1980 ถึงได้มีการส่งเสริมให้พื้นที่นี้เปิดเป็นเขตการท่องเที่ยว  จุดเด่นของ Wuling Farm นอกจากด้านความงามของพันธุ์ไม้สวยๆอย่างต้นซากุระ ต้นบ๊วย ต้นพีช ไร่ชาฯแล้ว Wuling ยังเป็นต้นทางของทางขึ้นยอดเขา SyueShan 雪山(Snow Mountain)#บางที่เรียก Xueshan ภูเขาที่สูงเป็นอันดับ 2 ของไต้หวัน (3,886 เมตร) ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงอย่าง Sheipa  ถ้าเป็นไปได้แนะนำให้พักที่นี่อย่างน้อย 1 คืน เพราะบรรยากาศช่วงเช้าและกลางคืนผิดกับตอนกลางวันมาก กลางวันคึกคักสนุกสนาน ช่วงเช้าและกลางคืนนั้นเงียบสงบและโรแมนติคมาก โดยเฉพาะใครที่รักการถ่ายรูป รับรองว่าชาร์ตแบตกันแทบไม่ทันเลย ในฟาร์มยังไม่ได้มีดีแค่ดอกซากุระ เอนทรี่หน้าจะพาไปเจาะลึกกันถึงที่เที่ยวดีๆ กิจกรรมเด็ดๆที่ไม่ควรพลาดถ้ามาที่นี่ -- บอกได้คำเดียว "เพียบ!"  ที่พักของที่นี่มีทั้งแบบโรงแรม #ห้องพักอยู่ในตึกเดียวกัน แบบวิลล่า #บ้านพักส่วนตัวเป็นหลังๆ หรืแแม้แต่ตั้งแคมป์กันเองบนเขา #มีอุปกรณ์ให้เช่าทั้งเต้นท์ ถุงนอน อุปกรณ์จำเป็นอื่นๆ รอบนี้ขอแบบสบายๆนอนในโรงแรมละกัน หน้าตาตึกที่พัก เป็นไม้ๆสบายๆ ถึงแล้วห้องพัก ห้องไม่ใหญ่แต่สะอาดสมบูรณ์ มีอุปกรณ์กันหนาวอย่างผ้าห่มให้ความร้อนไว้ด้วย นอนสบายมาาาาก อีกมุม -- กาน้ำร้อน+ชา ไดร์เป่าผม ทีวี #อยู่ในเขาแต่เคเบิ้ลชัดแจ๋ว 555 อ้อ! ที่นี่มี Free Wifi ให้ด้วย แต่สัญญาณตามห้องไม่ค่อยดี ขึ้นเขามาไม่สูงเท่าไหร่ อากาศในถุงขนมพองซะแล้ว # 2 ถุงด้านขวานี่อร่อยมาก จขบ.ทานบ่อย แนะนำให้ชิมเวลามาเที่ยวไต้หวัน เมืองไทยไม่มีน้าาา #ด้านขวาล่างเป็นรีโมตของผ้าห่มไฟฟ้า ปรับกันได้ตามชอบ อุ่นสุดๆ อารมณ์เหมือนแช่ออนเซ็น #ก่อนนอนลดอุณหภูมิให้ต่ำไว้ ไม่อย่างนั้นระหว่างคืนตื่นมาเหงื่อโชก บ้านพักแบบวิลล่า ข้อดีคือตื่นมาท่ามกลางวิวภูเขาและต้นซากุระ เปิดประตูมาเห็นวิวนี้เลย  ทริปนี้รูปเยอะหน่อย เพราะอยากให้ได้เห็นบรรยากาศสวยๆกัน แล้วจะค่อยๆทยอยลงนะคะ จะได้ไม่โหลดกันโหดมาก -- รูปสุดท้ายก่อนไป โคลสอัพสุดๆ  แล้วเจอกันใหม่นะคะ.. Happy Weekend กันทุกคนค่าาา   Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2558     1 comment Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2558 13:29:09 น.     Counter : 2353 Pageviews.   Share Tweet

ตะลอนทานร้านอร่อย เดินทางสะดวก Tokiya @ Taiwan สวัสดีค่ะ  กลับมารายงานตัวก่อนหมดสัปดาห์ วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการทำงานของหลายๆคนแต่จขบ.ต้องมาปั่นงานที่สะสมไว้หลังจากหนีไปเที่ยวมาซะหลายวัน # ช่วงกรรมติดจรวด  ตลอดทริปมีเหตุการณ์ตื่นเต้นมากมาย อย่างที่ได้เห็นรูปกันไปแล้วบางส่วนในหน้า Facebook #พยายามอัพรูปเท่าที่สัญญาณจะอำนวย 555 3 วันที่ผ่านมานี้เรียกว่าได้สัมผัสทั้ง 4 ฤดูกาลของไต้หวันกันเลย ~ ไม่เว้นแม้แต่หิมะตก! ระหว่างทางขึ้นเขา แดดออกอยู่ดีๆหิมะก็ตกซะอย่างนั้น ครึ่งชั่วโมงก่อนหน้ายังลั้ลลาถ่ายภาพต้นซากุระอยู่เลย ถึงแม้ว่าจะเดินทางยาวกว่าปกติ #นั่งรถขึ้นเขา #จากไทเปใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมง แต่ความประทับใจที่ได้จาก Wuling Farm นี้สุดยอดจริงๆค่ะ ทริปนี้ติดอันดับความประทัยใจระดับต้นๆไปเลย ขอเวลาจัดการเรื่องภาพสักพักนะคะ #ถ่ายกันแบบลืมแบตหมดไปเลย เอาไว้เรียบเรียงเสร็จจะรีบเอามาเล่าสู่กันฟังค่ะ . . . อาทิตย์หน้าก็วันตรุษจีนแล้ว.. เพื่อนๆหลายคนกำลังจะเดินทางมาฉลองกับครอบครัวที่ไต้หวันด้วย บางคนส่งข้อความมาถามถึงร้านอาหารนั่งสบายๆที่เหมาะกับผู้ใหญ่ จขบ.ลองกลับไปเปิดย้อนดูเอนทรี่ก่อนๆของตัวเอง เพิ่งรู้สึกตัวได้ว่ามีแต่รีวิวประเภทจัดหนัก  #บ่งบอกรสนิยมการกินของตัวเองมาก ส่วนใหญ่จะเป็นประเภทบุฟเฟ่ท์ซะเยอะ #ไม่เชื่อลองตามไปดู [1] [2] [3] นานๆครั้งถึงจะมีร้านชิลๆ แต่ไม่ธรรมดาแบบ [4] หรือ [5] วันนี้เลยขอแก้มือ พาไปชิมร้านอร่อยๆนั่งสบาย เดินทางสะดวกกันบ้างนะคะ  ร้านนี้ชื่อร้าน Tokiya 陶板屋 .. เปิดมานานหลายปีแล้ว เป็นอีกหนึ่งร้านที่จขบ.ชอบไป โดยเฉพาะถ้านัดกับเพื่อนๆ #สาขาที่เดินทางสะดวกอยู่ใกล้ๆกับ MRT Sun-Yat Sen Memorial Hall เดิน 5 นาทีก็ถึงแล้ว นอกจากความง่ายในการเดินทาง ร้านนี้เขาให้บริการแบบเซ็ทเมนูแต่เสริฟมาเป็นแบบ full course #ค่อยๆมาเรื่อยๆทีละอย่าง ไม่ได้มาทีเดียว #ไล่มาตั้งแต่สลัด อาหารเรียกน้ำย่อย ซุป ออร์เดิฟ จานหลัก ขนมหวาน เครื่องดื่ม  นอกจากการันตีว่าได้ของชอบของทุกคน (เพราะเลือกเอง :P) ยังนั่งชิลๆเม้าท์กันได้แบบเต็มที่ ไม่ต้องพะวงกับการเดินไปตัก  พิกัดร้าน ไปดูหน้าตาบรรยากาศร้านกันหน่อย #หลายๆภาพยืมมาจากเวปของทางร้านนะคะ   ร้านบรรยากาศดี นั่งสบาย แต่ถ้าเสาร์อาทิตย์คนก็แน่นอยู่ค่ะ ทุกสาขาตกแต่งสไตล์เดียวกัน ไม่ต้องกังวลเรื่องภาษา เพราะมีเมนูภาษาอังกฤษไว้ให้ด้วย #สมัยก่อนราคา ตอนนี้ขยับขึ้นมาอีกนิด ครั้งล่าสุดที่ถ่ายรูปมา ตอนนี้ไม่รู้ว่าเมนูหน้าตาเปลี่ยนไปรึยัง ไปดูหน้าตาอาหารกันบ้าง #อันนนี้เป็นเมนูที่ตัวเองชอบทาน ไม่ค่อยเปลี่ยน #รักเดียวใจเดียว เอิ๊กๆ  เริ่มจานแรกสลัด ตามมาด้วยอาหารเรียกน้ำย่อย .. เห็ดผัดซ้อส ซุปฝักทอง แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาเปลี่ยนเมนูแล้ว เมนูนี้ยกเลิกไป หน้าตาซุปปัจจุบัน ซุปใสดูน่าทานเชียว #หิวๆ  อาหารว่างอีกจาน เมนูอาหารว่างชนิดอื่น ดูดีไปหมด  รักพี่เสียดายน้อง ~ จานหลักมาแล้วค่าาา... สเต๊กเนื้อ กระเทียมที่มาด้วยกันกรอบอร่อยมาก #ถ้าไม่ทานเนื้อก็มีเมนูหมู เป็ด ไก่ และปลาให้เลือกนะคะ หรือจะเลือกแบบลูกผสมก็ได้ จานลูกผสม แต่ดูเหมือนว่าจะโดนเขมือบไปบางส่วนแล้ว 555 จานลูกผสมจากเวปของร้าน เขามีซ้อสให้เลือกทานคู่กันด้วยค่ะ #เป็นซ้อสพริกไทยกับซ้อสหวาน ระหว่างที่ทาน เขาจะมีน้ำไซเดอร์บ๊วย #หรือน้ำส้มสายชูรสบ๊วยนี่เอง มาให้เราทานล้างคอด้วย -- อย่าเพิ่งเบือนหน้าหนีกันนะคะ อยากให้ลองชิมดู อร่อยมากๆ สดชื่นดีค่ะ  #ติดใจขอเพิ่มได้ จขบ.ทำบ่อย ^^" ถึงคิวขนมหวานกันบ้าง เห็นอย่างละนิดละหน่อยแบบนี้ ถึงจานท้ายๆก็แอบอิ่มแบบเกือบจุกอยู่เหมือนกันนะคะ  ขนาดคุณผู้ชายตัวใหญ่ๆที่ไปด้วยกันยังแอบบ่นงึมงำเลย เครื่องดื่มมีทั้งแบบร้อนและเย็น เลือกได้ว่าจะให้มาพร้อมอาหารหรือหลังอาหารพร้อมขนมหวานค่ะ อาทิตย์หน้านี้ก็เข้าสู่เทศกาลตรุษจีนอย่างเป็นทางการแล้ว  ขอให้เพื่อนๆทุกคนมีความสุขมากๆ สุขภาพร่างกายแข็งแรง เฮงๆตลอดปีนะคะ  ป.ล. ช่วงตรุษจีนร้านค้าที่ไต้หวันส่วนใหญ่ (โดยเฉพาะห้าง) ให้บริการตามปกติ แต่อาจจะปิดทำการเร็วหน่อย #ช่วงวันที่ 18-20 กุมภา แต่ถ้าใครแพลนจะไปทานอาหารตามร้าน แนะนำให้โทรจองล่วงหน้าค่ะ    Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2558     1 comment Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2558 15:07:54 น.     Counter : 1195 Pageviews.   Share Tweet