กลับมาแล้วค่าาาา 

หายหน้าหายตาไปซะหลายวัน เพิ่งประกอบร่างเสร็จหลังจากกลับมาจากทริป -_-"  #ร่างแทบสลาย 555

ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ลองเดินทางแบบนักปีนเขาจริงๆจังๆ ปกติเคยแต่ไปเช้าเย็นกลับ ประเภท One-day Trip

เพื่อนๆที่ลิงค์กันอยู่ที่ Facebook ของจขบ.คงได้เห็นภาพ ทริปปีนเขาที่ Yanmingshan กันมาบ้างแล้ว #ตามไปอ่านกันได้จ้า

อันนั้นเป็นทริปเตรียมตัว ลองซ้อมมือซ้อมร่างกายดูว่าไหวไหม -- เมื่อดูท่าทีว่าน่าจะเอาตัวรอดได้ ก็เลยตัดสินใจที่จะไปพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในไต้หวัน

คือที่ Jade Mountain (ภูเขาหยก) หรือที่คนไต้หวันเขาเรียกกันคล่องๆปากว่า Yushan นั่นเอง!

 ยอดสูงสุดหรือ Summit ของ Yushan อยู่ที่ 3,952 เมตรจากระดับน้ำทะเล -- สูงที่สุดไม่เฉพาะในไต้หวันแต่รวมไปถึงเขต Western Pacific Region อีกด้วย

มาดูคืนก่อนหน้าออกเดินทางกันดีกว่า ว่าต้องเตรียมอะไรกันบ้าง ???

ของทั้งหมดที่จะต้องเอาไป... เอามากองรวมๆกันก่อนแพ็ค  แอบเยอะจนตกใจ 

ด้วยช่วงที่เดินทางอากาศเริ่มหนาวแล้ว แถมตอนต้นอาทิตย์ยังได้ข่าวว่ามีหิมะยังตกอีกด้วย เสื้อผ้าที่เอาไปจึงต้องเตรียมพร้อมรับอากาศหนาว + ฝนที่มีโอกาสตกได้ทุกเมื่อ เดินขึ้นเขาที่อุณหภูมิประมาณ 10 กว่าๆถ้าตัวเปียกคงดูไม่จืดแน่ๆ นอกจากนี้ยังต้องเตรียมเสบียงอาหารและน้ำสำหรับ 2 วันไปเองอีกด้วย ดังนั้นไม่ต้องหวังเลยว่าจะเอาเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆไป แพ็คทุกอย่างเท่าที่จำเป็นจริงๆ  #รู้จักคำว่าอยู่อย่าง "พอเพียง" ลึกซึ้งก็คราวนี้ หึหึ

ไม่น่าเชื่อว่าสุดท้ายใส่เข้าไปจนหมด -- 2 คน 3 ใบ #ของคุณพ่อบ้าน 2 ใบ อุอุ :P

ออกจากไทเปตอน 1 ทุ่ม.. กว่าจะถึงที่พักที่เมือง Dongpu ในเขตเมือง Nantou ก็ 5 ทุ่มแล้ว

โรงแรมที่ไฮโซสุดของแถบนี้ Ti Lun Dongpu Spa Hotel เข้ามาเป็นกลุ่มสุดท้าย ล็อบบี้ปิดไฟไปแล้วครึ่งนึง

หน้าตาห้องไม่ขี้เหร่นะ.. ที่นี่เป็นเขตบ่อน้ำแร่ น้ำที่อาบได้กลิ่นกำมะถันจางๆด้วย

ตอนเช้าออกมานอกระเบียง ข้างๆเป็นโบสถ์เลย  #ฤกษ์ดีใช่ไหม

จากโรงแรมนั่งรถต่อมาอีกชั่วโมงครึ่งก็ถึงเขตอุทยานแล้ว

ต้นไม้ริมข้างทางหน้าตาเริ่มเปลี่ยนไป สองต้นนี้เป็นต้นไม้ชื่อดัง -- เป็นต้นคู่รักเพราะอยู่ด้วยกันผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายสิบปี #นักเดินทางนิยมแวะมาถ่ายรูปคู่กัน

ถึงแล้ว Paiyun Visitor Center นักปีนเขาทุกคนต้องมาลงทะเบียนรายงานตัวและยื่นใบอนุญาตก่อน

#การจะปีนเขา Yushan ต้องทำการขอใบอนุญาต เขาจำกัดเอาไว้ที่วันละ 100 คน ใช้ระบบจับฉลาก #จขบ.รอคิวเกือบ 3 เดือนกว่าจะได้ -_-"

จากนั้นก็ต่อรถของอุทยานขึ้นเขาไปอีกนิด เพื่อไปยังทางเข้า

หน้าทางเข้าสู่ยอดเขา Yushan

แดดดีจนไม่อยากเชื่อว่าอุณหภูมิอยู่ที่ 14 องศา

ก่อนเริ่มเดินทางมีเจ้าหน้าที่นำทำกายบริหารยืดเส้นยืดสายซะด้วย

ยืด.. ยืด.. ยืดดดดด

ก้าวแรกของทริป ยังยิ้มได้อยู่  :D #เกือบ 10 กิโลอยู่บนหลัง ของคุณพ่อบ้านปาไปเกือบ 20!

เส้นทางในช่วงต้นไม่ลำบากอะไรมาก เป็นทางหินสลับกับทางไม้ แต่บางช่วงก็แคบเอาการอยู่ มองลงไปด้านข้างแอบเสียวๆอยู่เหมือนกัน

ในภาพกระต๊อบที่เห็นคือห้องน้ำที่ต้องปีนลงไปใช้งาน.. ไม่มีอะไรทั้งสิ้นนอกจากหลุม >.<

ต้นไม้บางชนิดยังอยู่ในช่วงผลัดใบ มีสีแดงสลับส้มให้เห็นอยู่เรื่อยๆเพลินดี #แต่มองมากไม่ได้ เดี๋ยวตกเขา 

ไม่มีอะไรกั้นทั้งสิ้น.. อันนี้ยังดีทางเรียบๆ ถือว่าเดินสบาย

บางจุดดูชิลๆเป็นสะพานไม้ แต่พอดูจริงๆ โอ้คุณพระ! ด้านล่างมันเหวชัดๆนี่นา

วิวสวยจนแทบลืมอาการหอบ..แฮ่กๆ

จุดแวะพักกลางทาง -- ทานข้าวปั้นที่เอามาเอง #ข้าวแข็งมาาาาก แต่ ณ เวลานี้อะไรก็อร่อย #เดินมา 3 ชั่วโมงกว่าๆได้

มีเจ้าบ้านมาต้อนรับซะด้วย #ไม่กลัวคนเลยนะ มาอยู่ด้วยกันเกือบ 10 นาทีแน่ะ

พอหยุดเดินปั๊บรู้สึกหนาวขึ้นมาทันที ช่วงที่เดินไม่รู้สึกเลยว่าอากาศอยู่ที่ 10 องศา .. ความรู้ใหม่จากการเดินเขา โปรแนะนำว่าต้องใส่หมวกตลอดเวลา เพราะที่ความสูงแบบนี้ ความกดอากาศไม่เหมือนด้านล่าง ต่อให้ไม่รู้สึกว่าหนาวก็ต้องใส่หมวก -- ตอนแรกจขบ.แอบไม่เชื่อ ไม่ยอมใส่ ไม่นานเริ่มปวดหัวจริงๆ แปลกดี

เห็นยอด Summit อยู่ไม่ไกล อีก 1 วันเจอกัน :)

แล้วเจอกันใหม่เอนทรี่หน้าค่ะ.. Have a good day 

Create Date : 01 ธันวาคม 2556
Last Update : 1 ธันวาคม 2556 16:45:27 น.		1 comments
Counter : 1383 Pageviews.
Share Tweet