ตอนแรก ครั้งที่สามในญี่ปุ่น กับครั้งแรกที่เข้าห้องรับรองพิเศษตอนผ่านตม. กรี้ดดด



เป็นทริปแบบไม่ค่อยได้ตั้้งตัวเตรียมใจ เริ่มวางแผนซื้อตั๋ว จองที่พักก่อนมาล่วงหน้าแค่เดือนเดียว
ยังดีที่มาช่วงโลว์ซีซั่น หน้าฝนของที่นี่ (Tsuyuแปลว่าหน้าฝน) จองใกล้ๆราคาก็ยังไม่พุ่งพรวดซักเท่าไหร่ 
รอบนี้มาแบบคนเบี้ยน้อยหอยน้อย มากับแอร์เอเชียเอ็กซ์ แบบไม่ซื้อน้ำหนักเพิ่มด้วย 55 ชั้นต้องรอดด้วยน้ำหนักแครี่ออน 7กิโลนี่แหละ

ยังไม่ทันจะได้ออกเดินทาง ก็เจอกับความตื่นเต้นแรก 
แผ่นดินไหวอย่างแรงที่โอซาก้า!! ระะดับแรงสุดเท่าที่เคยมีบันทึกมาในแถบนี้ ไหววันจันทร์ ส่วนเราไปวันอาทิตย์ มีเวลาให้พักฟื้นก่อนไปตั้ง 6 วันแน่ะ เหอออ
ในส่วนของการแพ็คกระเป๋ารับแผ่นดินไหวนั้น เราก็ได้เพิ่มนกหวีดเอย ไฟฉายเอย มาม่าคัพเอย ยาสำหรับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น รวมทั้งการเพิ่มยอดวงเงินประกันการท่องเที่ยวด้วย
ถามว่าเครียดมั้ยก็เครียดแหละ แต่ก็ไป... สุดท้าย จนจบทริปกลับมาก็ไม่เจอแรงสั่นสะเทือนใดๆ

เดินทางครั้งนี้ไปเที่ยวกับน้องเราเอง แต่ไปกลับคนละวันและคนละไฟล์ท 
ตอนแรกน้องเรานางแพลนจะไปเที่ยวคนเดียว จองตั๋วเครื่องบินไปหมดละ แต่จู่ๆก็มาชวนเราไปทีหลัง ผลก็เลยออกมาแบบงงๆนี่แหละ
เราเดินทางไฟล์ท XJ610 ออกจากดอนเมืองบ่ายสอง 
ซื้ออาหารเพิ่มไป 1 มื้อ ค่าอาหาร 150 แต่มีค่าดำเนินการอีก 300 แม่เจ้า.. ก็ว่าทำไมตอนจ่ายค่าตั๋ว ราคามันน่าจะถูกกว่านี้นะ
ก็ไม่ว่ากัน แต่รู้สึกพลาดท่าเสียทีกับค่าบริการจุกจิกที่เพิ่มเข้ามาโดยไม่รู้ตัวนี่แหละ บินกับโลว์คอสท์ต้องทำใจ
เราได้นั่งส่วนท้ายเครื่อง แม้ว่าจะได้นั่งติดหน้าต่าง แต่เกิดการเมาเครื่องบินอย่างแรง ไม่รู้ทำไม
เริ่มเมาตั้งแต่ออกจากดอนเมืองแรกๆ ถือถุงอ้วกติดมือตลอด อาหารที่สั่งเอาไว้ ก็แทบไม่ได้แตะ เสียดายตังมาก พูดเลย

แล้วก็แลนดิ้งสู่สนามบินตันไซ เวลา 21.55 น. เลทไปนิดหน่อย
เราก็มุ่งหน้าผ่านตม.อย่างมั่นใจ ตอนแรกทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี สแกนนิ้ว มองกล้อง ตัวหนังสือขึ้นจอขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ
อยู่ๆเจ้าหน้าที่ตม.ก็ส่ายหัว ร้องว้าาา จิ๊ปากอย่างไม่สบอารมณ์ (อินี่ก็จำได้ทุกช็อต 55) แล้วก็เขียนกระดาษไรซักอย่าง
เงยหน้ามาคุยภาษามือกะเราว่า ฟิงเก้อๆ โพรเบล็มๆ แล้วก็มีเจ้าหน้าที่อีกคนพาเราออกจากช่องตม.มาสู่ห้องรับรองพิเศษ ตื่นเต้นๆ มาคนเดียวเลยอ่ะ
ตอนนั้น ไม่รู้สึกกลัวเลย คิดว่ายังไงก็ต้องผ่าน(เอาความมั่นใจมาจากไหน) เค้าก็ให้เรานั่งรอ ประมาณ 10 นาที ก็เอาพาสปอร์ตมาคืนพร้อมโชว์สติ๊กเกอร์วีซ่าที่แปะมาให้แล้ว 
ไม่ถงไม่ถามไม่ขอดูเอกสารอะไรเพิ่ม จบ.โนดราม่า สงสัยลายนิ้วมือจะมีปัญหาจริงๆนั่นแหละ
ผ่านตรวจกระเป๋ามาอย่างสบายๆ ถามแค่ว่ามากี่วัน จากนั้นก็ขึ้นรถนันไกไปนอนนัมบะตามแพลน ขึ้นทันรอบสี่ทุ่มกว่าๆด้วย 

ทริปนี้ เราใช้บัตรเติมเงิน PASMO (from Tokyo subway ใช้ครั้งสุดท้ายตั้งแต่ปี 2012 โน้นแหนะ) แปะจ่ายทุกสิ่งอย่าง
ยืนยันว่าใช้กับสถานีรถไฟในทริปนี้ได้ทุกสถานี ซื้อข้าวของในคอมบินิ กินข้าวในร้านฟาสฟู้ดเชนก็แปะจ่าย สะดวกมากไม่ต้องมานั่งเก็บเหรียญให้หนักกระเป๋า
จริงๆทริปก่อน ก็ซื้อ ICOCAนะ แต่รีฟันด์เอาตังมาช้อปไปหมดแล้วนี่สิ เลยลองค้นว่ามีบัตร IC อะไรเหลืออยู่ที่บ้านบ้าง
แบบว่า งก ไม่อยากเสียตังค่ามัดจำบัตรใหม่ตั้ง 500 เยน 

ที่พักคืนแรกของเรา ครั้งแรกกับโรงแรมแคปซูล 
Shell Nell Namba by WBF

โดยรวมชอบมาก เหมาะสำหรับผู้ที่มาคนเดียว สถานที่สะอาด เป็นระเบียบ เช็คอินได้ตลอดคืน เรามาถึงที่พักเที่ยงคืน ตรงเคาเตออร์เช็คอินคนยังคึกคักอยู่เลย
แยกประตูทางเข้าชั้นผู้ชายผู้หญิง เดินจากสถานีนัมบะนันไกประมาณ 500 เมตร ทำเลดีไปสนามบินสะดวก แถมยังใกล้คลาดคุโระมงมากๆ
เข้าพักที่นี่แทบไม่ต้องเปิดกระเป๋า เพราะมีตั้งแต่ สลิปเปอร์ ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหัว ชุดนอน สำลีเช็ดหน้า น้ำยาเช็ดคสอ. มีดโกน สบู่ แชมพู หวี เครื่องเป่าผม ให้ใช้กันฟรีๆ
ข้อเสียที่นึกออก คือ ห้องไม่เก็บเสียงไม่เก็บอะไรเลย ขนาดว่ามีคนเปิดมือถือแบบสั่น เรายังได้รับแรงสั่นอ่ะคิดดู ขนาดไม่มีเสียงนะ

ภาพที่นอนของเรา 


ส่วนทางเข้าก็มีม่านม้วนดึงกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว


ออกแคปซูลมาตอนแแปดโมง แทบไม่มีคนเหลือ ได้จังหวะถ่ายรูปห้องแต่งตัวไว้ได้




ราคาไม่แพง เราจองผ่านอโกด้า คืนละ 550 บาทเอง 
บลอกนี้มีแต่ตัวหนังสือ ระบายอารมณ์ 55 บลอกหน้าจะเริ่มออกเที่ยวอย่างเป็นทางการแล้วค่าา




 

Create Date : 04 กรกฎาคม 2561    
Last Update : 4 กรกฎาคม 2561 15:24:12 น.
Counter : 681 Pageviews.  

1  2  

khimyo
Location :
ลำพูน Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add khimyo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.