Group Blog
 
All Blogs
 
ปี 197 AD

ปี Jian’an ที่ 2 197 AD
(17 กุมภาพันธ์ 197 – 25 มกราคม 198)

ในฤดูใบไม้ผลิ เดือนแรก โจโฉโจมตีเตียวสิ้ว ทันทีที่กองทัพเขามาถึงแม่น้ำ Yu เตียวสิ้วก็นำกองทัพเขามายอมแพ้

โจโฉนำตัวเมียของเตียวเจไปเป็นเมียน้อยของเขา เตียวสิ้วจึงโกรธมาก และโจโฉยังมอบทองคำให้แก่ Hu Cheer แม่ทัพที่เก่งกาจของเตียวสิ้ว เมื่อเตียวสิ้วรู้เรื่องจึงสงสัยและเกิดระแวง เขาโจมตีกองทัพโจโฉอย่างฉับพลัน โจงั่งลูกคนโตโจโฉถูกฆ่าตาย โจโฉยังถูกธนูบาดเจ็บ พ่ายแพ้และหนีไป

เตียนอุยต่อสู้ต้านทัพเตียวสิ้ว คนของเขาล้มตายเกือบหมด ตัวเขาเองก็ได้รับบาดแผลหลายสิบแห่งทั่วร่าง ทหารของเตียวสิ้วพยายามจับตัวเขา แต่เตียนอุยจับตัวทั้งสองและฆ่าเขาทั้งคู่ แต่ในที่สุดเตียนอุยก็ตายด้วยสายตาที่เคียดแค้นและด่าทอศัตรูจนตาย

โจโฉรวบรวมทัพที่แตกพ่ายและกลับไป Wuyin เตียวสิ้วนำทัพม้าไล่โจมตี แต่โจโฉเข้าโจมตีเขาพ่ายแพ้ไป เตียวสิ้วกลับไปเมือง Rang รับใช้เล่าเปียว

กองทัพโจโฉในเวลาน้นสับสนวุ่นวาย อิกิ๋ม เป็นแม่ทัพคนเดียวที่รวบรวมทหารและออกคำสั่งถอย ในระหว่างทางกลับ ทหารบางคนในกองทัพเฉงจิ๋ว (ทหารที่มาจากแคว้นเฉงจิ๋วของโจโฉ) เข้าปล้นชาวบ้าน อิกิ๋ม ด่าการกระทำพวกเขาและเข้าโจมตี ทหาร เฉงจิ๋ว จึงวิ่งไปหาโจโฉ

เมื่อ อิกิ๋ม มาถึงค่าย เขาเตรียมค่ายสำหรับการป้องกันก่อนที่จะเข้าหาโจโฉ บางคนบอกเขาว่า กองทัพ เฉงจิ๋ว ได้กล่าวหาท่าน ท่านควรจะไปพบท่านโจโฉทันทีเพื่อแก้ข้อกล่าวหา

อิกิ๋ม บอกว่า ข้าศึกประชิดอยู่ด้านหลังของเรา พวกเขาอาจโจมตีเราเมื่อไหร่ก็ได้ เราจะรับมือพวกเขาได้อย่างไรถ้าไม่เตรียมตัวให้ดี นายท่านนั้นฉลาดเกินกว่าที่จะเชื่อการใส่ร้ายป้ายสี

เขาคุมการขุดคูค่ายและเมื่อการเตรียมพร้อมป้องกันค่ายเสร็จแล้ว เขาจึงไปหาโจโฉเพื่อรายงาน โจโฉยินดีมากและพูดกับเขาว่า ด้วยโชคร้ายที่แม่น้ำ Yu แม้แต่ข้าเองก็ยังสิ้นหวังและสับสน แต่ท่านกลับควบคุมทัพได้ในความสับสน และยังลงโทษทหารที่ทำการปล้นอย่างโหดร้าย ท่านยังเตรียมการป้องกันของเราให้แข็งแรง ท่านประพฤติดีและคงคุณธรรม จะมีแม่ทัพมีชื่อเสียงในอดีตคนไหนทำได้ดีกว่าท่านอีก ด้วยสำนึกในความดีของ อิกิ๋ม โจโฉแต่งตั้ง อิกิ๋ม เป็น Marquis แห่งหมู่บ้าน Yishou

หลังจากนั้นโจโฉนำทหารเขากลับไปเมือง ฮูโต๋

อ้วนเสี้ยวเขียนจดหมายไปหาโจโฉ คำพูดของเขาเย่อหยิ่งอวดดีและดูถูกเขา โจโฉพูดกับซุนฮกและกุยแกว่า เวลานี้ข้าตั้งใจที่จะโจมตีขุนนางชั่ว แต่ข้าเองยังไม่แข็งแกร่งเพียงพอ ข้าจะทำอย่างไร ทั้งสองตอบว่า ท่านรู้ดีว่า พระเจ้าฮั่นโกโจนั้นไม่สามารถเทียบกับเซี่ยงหวี่ได้ แต่พระเจ้าฮั่นโกโจฉลาดกว่าเซี่ยงหวี่ ดังนั้นแม้ว่าเซี่ยงหวี่จะแข็งแกร่งกว่า เขาก็สามารถเอาชนะเซี่ยงหวี่ได้ในที่สุด

มีอยู่สิบประการที่อ้วนเสี้ยวด้อยและท่านเหนือกว่า ดังนั้นแม้ว่าอ้วนเสี้ยวจะมีอำนาจเหนือกว่าท่านแต่เขาไม่มีทางได้รับความสำเร็จ
1. อ้วนเสี้ยวชื่นชมพิธีการใหญ่โตและธรรมเนียมที่ดี ท่านกลับตัดสินใจและปฏิบัติอย่างเป็นธรรมชาติ นี่คือข้อเหนือกว่าของท่านในเรื่องศีลธรรมการปฏิบัติที่ดี

2. อ้วนเสี้ยวประพฤติตัวเหมือนกบฏ ท่านรับใช้และเชื่อฟังคำสั่งฮ่องเต้และคำสั่งของแผ่นดิน ท่านเหนือกว่าเขาในความจงรักภักดี

3. ตั้งแต่สมัยฮ่องเต้ Huan และ Ling ราชสำนักได้ตกต่ำลง จากการกระทำตามใจมากเกินไป อ้วนเสี้ยวไม่มีความตั้งใจและไม่ใส่ใจที่จะรักษากฏหมายบ้านเมือง แต่ท่านเอาใจใส่ผู้คนของท่าน ดังนั้นทุกคนไม่ว่าฐานะใด จึงปฏิบัติตามกฏอย่างดี นี่เป็นข้อได้เปรียบในการปกครอง

4. อ้วนเสี้ยวนั้นภายนอกดูเหมือนเป็นคนใจกว้าง แต่ที่จริงแล้วอิจฉาริษยาผู้อื่น เขามีลูกน้องดีมีฝีมือมากมายแต่กลับไม่ไว้ใจใคร แต่งตั้งตำแหน่งสำคัญให้แก่ลูกเขาและเครือญาติ นิสัยท่านภายนอกนั้นธรรมดาและเรียบง่าย แต่จริง ๆ แล้วท่านฉลาดหลักแหลม ท่านรู้จักใช้ผู้คนและไว้ใจในลูกน้อง ท่านให้ความสนใจในความสามารถของคนมากกว่าการเกี่ยวข้องทางสายเลือด นี่เป็นข้อได้เปรียบเรื่องความใจกว้างต่อผู้อื่น

5. อ้วนเสี้ยวมีแผนการมากมายแต่แทบไม่เคยลงมือปฏิบัติ เขาปล่อยโอกาสให้ผ่านไปและกระทำการช้าเกินไป เมื่อท่านวางแผนการ ท่านลงมือทำในทันที และท่านสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปได้ดี นี่เป็นข้อได้เปรียบเรื่องกลยุทธ์

6. อ้วนเสี้ยวใช้การสนทนาที่ดีและพิธีรีตองดึงดูดคนที่มีชื่อเสียง บัณฑิตมากมายที่ชื่นชอบในการพูดเล่นคำและพิธีการที่หรูหราพากันรับใช้เขา ท่านปฏิบัติต่อผู้คนอย่างตรงไปตรงมา ท่านไม่แต่งกายอย่างหรูหราฟุ่มเฟือย ดังนั้นบัณฑิตที่มีใจสัตย์ซื่อ ผู้มองเห็นสิ่งต่าง ๆ อย่างชัดเจน เห็นความจริงใจของท่านและอยากรับใช้ท่าน นี่คือข้อได้เปรียบด้านความดีของท่าน

7. ถ้าอ้วนเสี้ยวพบผู้คนที่หิวโหยและเหน็บหนาว เขาจะรู้สึกสงสารผู้นั้น แต่อ้วนเสี้ยวรับรู้ปัญหาได้จากสิ่งที่เขามองเห็นเท่านั้น ท่านเอง บางเวลาก็มองข้ามสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นกัน แต่เมื่อไรที่เป็นเรื่องของบ้านเมืองและประชาชนทั้งแผ่นดิน ความเมตตากรุณาของท่านนั้นเหนือกว่าที่คนทั่วไปคาดคิดนัก ท่านอาจจะมองไม่เห็นทุกสิ่ง แต่การตัดสินใจของท่านนั้นคำนึงถึงปัญหาของทุกคน นี่คือข้อได้เปรียบเรื่องความรู้สึกด้านจิตใจ

8. เหล่าขุนนางของอ้วนเสี้ยวต่างต่อสู้แข่งขันกัน กล่าวหา ใส่ร้ายโจมตีซึ่งกันและกัน แต่ท่านปฏิบัติต่อลูกน้องอย่างดี และไม่สนใจคำนินทาหรือใส่ร้าย นี่คือข้อได้เปรียบเรื่องความเข้าใจ

9. ไม่มีใครรู้ว่าอ้วนเสี้ยวต้องการอะไร แต่ตัวท่านใช้ธรรมเนียมปฏิบัติกับสุภาพชน และใช้กฏหมายบ้านเมืองกำหราบคนพาล นี่คือข้อได้เปรียบเรื่องการบริหารจัดการ

10. อ้วนเสี้ยว ไม่ใส่ใจเรื่องกองทัพ แต่ท่านสามารถใช้คนน้อยพิชิตคนมาก ทหารของท่านล้วนเชื่อในตัวท่าน ในขณะที่ศัตรูต่างก็เกรงกลัวท่าน นี่คือข้อได้เปรียบเรื่องการบริหารกองทัพ

โจโฉหัวเราะตอบว่า ข้ามีความสามารถขนาดนั้นเชียวหรือ

กุยแกพูดว่า อ้วนเสี้ยวเดินทางขึ้นเหนือเพื่อโจมตีกองซุนจ้าน ท่านควรใช้ประโยชน์ตอนที่กองทัพของอ้วนเสี้ยวไม่อยู่เดินทัพไปตะวันออกจัดการลิโป้ เพราะถ้าอ้วนเสี้ยวหันมาเป็นศัตรูกับเรา และลิโป้ให้ความช่วยเหลือเขา เราต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากแน่

ซุนฮกจึงว่า เว้นแต่ท่านจะจัดการกับลิโป้ก่อน ไม่งั้นแผนการพิชิตภาคเหนือคงไม่ง่าย

โจโฉว่า ถูกต้อง แต่ถ้าอ้วนเสี้ยวยกทัพมาภาคกลางและใช้ให้เผ่า เกี๋ยง และพวกชนเผ่าบุกจากตะวันตกจ๊ก และ Han จากภาคใต้ กลายเป็นว่าข้าต้องรับศึกจากกองทัพห้าในหกส่วนของแผ่นดิน โดยมีแค่มณฑลกุนจิ๋วและ อิจิ๋ว เป็นที่มั่น ข้าจะทำอย่างไร

ซุนฮกจึงว่า เหล่าผู้นำภายในด่าน ล้วนแต่ต่างจิตใจ ไม่มีใครสามารถเป็นผู้นำพวกเขาได้เด็ดขาด ในจำนวนผู้นำเหล่านี้ หันซุยและม้าเท้งถือเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งที่สุด ถ้าพวกเขาเห็นว่าฝั่งตะวันออกมมีการสู้รบเกิดขึ้น พวกเขาต้องเกณฑ์ทหารเตรียมพร้อมรับสงคราม ให้ท่านจงปฏิบัติต่อเขาอย่างดี สร้างความสัมพันธ์ และส่งคนไปเสนอเป็นพันธมิตร แม้ว่าจะเป็นการหวังผลระยะสั้น แต่ก็น่าจะเพียงพอให้ทั้งสองคนสงบอยู่ได้ในขณะที่ท่านโจมตีตะวันออก

จงฮิวเป็นคนที่ฉลาดและนักวางกลยุทธชั้นเยี่ยม จงใช้เขาไปจัดการกับทางตะวันตก แล้วท่านจะไม่มีสิ่งใดต้องกังวล

ดังนั้นโจโฉจึงเสนอให้แต่งตั้งจงฮิวเป็นขุนพลถือสัญลักษณ์แทนพระองค์ มีอำนาจควบคุมกองทัพภายในด่าน เขายังได้รับคำสั่งให้สามารถจัดการบริหารทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง เมื่อจงฮิวมาถึงเตียงอั๋น เขาส่งจดหมายไปถึงม้าเท้ง หันซุยและคนอื่น อธิบายเหตุการณ์ให้เขาเข้าใจ ม้าเท้งและหันซุยส่งบุตรชายของเขาเข้าเฝ้าองค์ฮ่องเต้

อ้วนสุดสถาปนาตัวเองขึ้นเป็นฮ่องเต้ที่ฉิวฉุน เรียกราชวงศ์ของเขาว่า ราชวงศ์ Zhong เขา แต่งตั้งเมืองจิวเจียง เป็นเมืองหลวง แต่งตั้งตัวเองเป็นฮ่องเต้และตั้งขุนนางชั้นสูง และยังได้ทำพิธีบวงสรวงบูชา

ตันกุ๋ย หลานของ Chen Qiu เป็นเพื่อนของอ้วนสุดตั้งแต่ยังเด็ก อ้วนสุดส่งจดหมายไปเชิญตัวเขามาร่วมงาน และจับตัวบุตรชายเขาไว้เป็นตัวประกัน เพื่อความมั่นใจ แต่ ตันกุ๋ย ตอบว่า แม่ทัพโจนั้นรักษากฏหมายบ้านเมือง และจะขับไล่และทำลายพวกชั่วช้าทั้งหลาย ในความคิดของข้า ท่านควรจะช่วยเหลือเขา และคิดกอบกู้ราชสำนักฮั่นจะดีกว่า การคิดก่อกบฏจะนำความหายนะมาสู่ตัวท่านเอง ท่านต้องการให้ข้าไปประจบสอพลอท่าน แต่ข้ายอมตามเสียดีกว่าที่จะทำแบบนั้น

อ้วนสุดต้องการให้ กิมเซี่ยง ผู้ตรวจการคนก่อนของมณฑล กุนจิ๋ว มาเป็นแม่ทัพใหญ่ของเขา แต่ กิมเซี่ยง ไม่ยอมรับและพยายามหลบหนี อ้วนสุดจึงฆ่าเขา

ในเดือนที่สาม ขงหยงถูกส่งไปแต่งตั้งให้อ้วนเสี้ยวเป็นแม่ทัพมีอำนาจควบคุมสี่มณฑล กิจิ๋ว เฉงจิ๋ว อิวจิ๋ว และเป๊งจิ๋ว

ในฤดูร้อน เดือนที่ห้าเกิดฝูงตั๊กแตนอาละวาดทำลายพืชผล

อ้วนสุดส่ง หันอิ้น ไปเป็นฑูตเจรจากับลิโป้ อธิบายการสถาปนาเป็นฮ่องเต้ของเขาและเสนอให้มีการแต่งงานเชื่อมความสัมพันธ์ ลิโป้เห็นด้วยและส่งลูกสาวกลับมากับเขา

ตันกุ๋ย กลัวว่า อ้วนสุดและลิโป้จะร่วมมือกัน สร้างปัญหาให้แผ่นดิน เขาจึงไปหาลิโป้พูดว่า ท่านโจโฉสนับสนุนฮ่องเต้และช่วยเหลือราชสำนัก ท่านควรที่จะร่วมมือกับเขาเพื่อกอบกู้แผ่นดิน การที่ท่านตกลงแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับอ้วนสุด ท่านจะเสียชื่อเสียง และฐานะของท่านก็จะไม่มั่นคง

ดังนั้นลิโป้จึงจำได้ว่าอ้วนสุดเคยปฏิบัติต่อเขาอย่างไร แม้ว่าลูกสาวเขาจะเดินทางไปแล้ว แต่เขาก็ส่งเขาไปตามกลับมาและยกเลิกการหมั้น สั่งจับตัว หันอิ้น ส่งไปศาลที่เมืองชีจิ๋ว หันอิ้น ถูกประหารและศรีษะของเขาถูกนำไปประจานในตลาด

ตันกุ๋ยต้องการส่งตันเต๋งลูกชายเขาไปหาโจโฉ แต่ลิโป้ไม่อนุญาต หลังจากนั้นมีราชโองการแต่งตั้งให้ลิโป้เป็นแม่ทัพซ้าย และโจโฉก็ส่งจดหมายมายินดีกับเขา สรรเสริญเยินยอเขาเป็นอันมาก ลิโป้ปลื้มปิติ และส่งตันเต๋งไปส่งจดหมายและขอบคุณโจโฉทันที

ตันเต๋งได้เข้าพบโจโฉ เขาได้สาธยายความเก่งกล้าของลิโป้และความไร้สามารถในการมองสถานการณ์ในอนาคตของลิโป้ และยังบอกว่าลิโป้เป็นคนที่ไม่น่าไว้ใจในการเป็นพันธมิตรด้วย โจโฉจึงบอกว่า ลิโป้นั้นเหมือนหมาป่า เป็นการยากที่จะควบคุมเขาอยู่ในอำนาจนาน ๆ คงมีเพียงแต่ท่านที่สามารถใช้ประโยชน์จากลิโป้ได้

โจโฉเพิ่มเบี้ยหวัดของตันกุ๋ยเป็นสองพัน shi และแต่งตั้งตันเต๋งเป็นเจ้าเมืองกองเหลง ตอนที่ตันเต๋งลาจาก โจโฉจับมือเขาไว้พูดว่า ข้าขอฝากภารกิจทางตะวันออกไว้กับท่านแล้ว โจโฉสั่งให้ตันเต๋งซ่องสุมทหารตัวเองเป็นไส้ศึกจากภายใน

ก่อนหน้าที่ตันเต๋งจะไปพบโจโฉ ลิโป้ได้ใช้ให้ตันเต๋งขอให้ทางการแต่งตั้งตัวเองเป็นผู้ครองมณฑลชีจิ๋ว แต่คำขอร้องของลิโป้ถูกปฏิเสธ เมื่อตันเต๋งกลับมา ลิโป้โกรธมาก เขาคว้าทวนขึ้นฟันโต๊ะ พูดว่า พ่อของเจ้าชักชวนให้ข้าเป็นพันธมิตรกับโจโฉ ล้มเลิกการแต่งงานระหว่างลูกสาวข้ากับลูกชายอ้วนสุด เวลานี้ คำขอของข้าถูกปฏิเสธ แต่เจ้ากับพ่อของเจ้ากลับได้รับตำแหน่งสูงขึ้น นี่เจ้าทรยศข้าหรือไร

ตันเต๋งตอบอย่างไม่สะทกสะท้านว่า เมื่อข้าได้พบกับท่านโจโฉ ข้าบอกกับเขาว่า ตัวท่านนั้นเป็นเหมือนเสือ ดังนั้นควรจะเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ไม่อย่างนั้นเสือก็จะแว้งกัดเจ้านายตัวเอง แต่ท่านโจโฉตอบว่า ข้าดูแล้วว่า ลิโป้เหมือนดั่งอินทรีมากกว่าเสือ อินทรีนั้นเมื่อหิวโหย ก็สามารถใช้งานได้ แต่ถ้าเลี้ยงดูดีเกินไป อินทรีก็จะบินหนีไป นี่คือคำพูดที่ท่านโจโฉว่าไว้ ลิโป้ได้ฟังจึงสงบลง

อ้วนสุดส่ง เตียวหุน และ เตียวเสง นำทัพไปร่วมกับ หันเซียม และ เอียวฮอง ทั้งหมดยกทหารหลายหมื่นสู่เมือง แห้ฝือ อย่างรวดเร็วและแบ่งทัพออกเป็นเจ็ดสายเข้าโจมตีลิโป้ ในตอนนั้นลิโป้มีทหารเพียงสามพันคนและทหารม้าสี่ร้อยนาย ลิโป้กลัวว่าเขาจะไม่สามารถสู้กับทัพอ้วนสุดได้ จึงพูดกับตันกุ๋ยว่า นี่หรือผลงานของท่าน ตอนนี้อ้วนสุดยกทัพมาโจมตี แล้วข้าจะทำอย่างไร

ตันกุ๋ยตอบว่า หันเซียม และ เอียวฮอง นั้นเพิ่งจะมาอยู่กับอ้วนสุดได้ไม่นาน พวกเขาไม่มีเวลาวางแผนเตรียมการด้วยกันนัก ทัพของพวกเขาคงไม่สามัคคีกันเท่าไหร่ ลูกชายข้า ตันเต๋งสังเกตทัพพวกเขาแล้ว เขาบอกว่า ทัพอ้วนสุดเหมือนกับไก่หลายตัวที่ไม่สามารถอยู่ร่วมคอนเดียวกันได้ เราสามารถแยกพวกเขาออกจากกันได้

ลิโป้ทำตายคำแนะนำของตันกุ๋ย เขาเขียนจดหมายไปหา หันเซียม และ เอียวฮองว่า ท่านทั้งสองเป็นผู้กล้าผู้ช่วยเหลือฮ่องเต้ ข้าเองก็เป็นคนฆ่าทรราชย์ตั๋งโต๊ะด้วยมือตัวเอง ต่างคนต่างก็มีชื่อเสียงจากความสำเร็จของตัวเอง เหตุใดพวกท่านถึงไปรับใช้กบฏอย่างอ้วนสุด เราควรจะมาร่วมมือกัน โจมตีอ้วนสุด ขจัดภัยพิบัติให้แผ่นดิน ลิโป้ยังสัญญาให้ทรัพย์สมบัติที่จะได้จากกองทัพของอ้วนสุด

หันเซียม และ เอียวฮอง พอใจมาก พวกเขาวางแผนเข้าร่วมกับลิโป้

ลิโป้นำทหารไปตั้งขบวนห่างจากกองทัพ เตียวหุน ร้อยก้าว แล้วกองทัพ หันเซียม และ เอียวฮอง ก็โห่ร้องขึ้นพร้อมกันและเข้าโจมตีทัพ เตียวหุน จนกองทัพ เตียวหุน พ่ายแพ้หลบหนีไป ทหารลิโป้ไล่ตามโจมตีจนสามารถฆ่านายทหารของ เตียวหุน ได้สิบคน ทหารของ เตียวหุน เกือบทั้งหมดถูกฆ่า บาดเจ็บ ไม่ก็จมน้ำตาย

แล้วลิโป้ก็รวมทัพกับ หันเซียม และ เอียวฮอง พวกเขามุ่งหน้าไปฉิวฉุน ยกทัพทั้งทางบกและทางน้ำไปทาง Zhongli พวกเขาปล้นสะดมทุกพื้นที่ที่เดินทัพผ่านไป พวกเขายกทัพกลับที่ตอนเหนือของ Huai ทิ้งจดหมายดูถูกเหยียดหยามอ้วนสุดไว้ อ้วนสุดนำทหารม้าห้าพันนายมาที่ Huai ด้วยตัวเอง แต่ทัพของลิโป้อยู่ทางตอนเหนือของแม่น้ำ ทัพลิโป้หัวเราะเยาะเย้ยทัพอ้วนสุด แล้วก็ยกทัพกลับ

จงป้า หัวหน้าโจรภูเขาไท้ซาน โจมตี Xiao Jian นายอำเภอ ฮองหลิม ที่ Ju ได้ทรัพย์สินมีค่ามากมาย และสัญญาว่าจะส่งสิ่งของเหล่านั้นให้ลิโป้ แต่ก็ไม่ได้ส่งให้ จนลิโป้ต้องไปทวงสิ่งของจากเขาด้วยตัวเอง

โกซุ่น แย้งว่า นายท่านนั้นมีอำนาจและชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่ว ผู้คนต่างพากันเคารพท่าน ท่านจะขอสิ่งของจากผู้อื่นแล้วล้มเหลวได้อย่างไร ท่านจะเดินทางไปขอสิ่งของด้วยตัวเอง ถ้าเกิดเหตุที่ทำให้ท่านล้มเหลว ท่านจะต้องเสียหน้าแน่นอน แต่ลิโป้ไม่เห็นด้วยกับเขา

ลิโป้เดินทางมาถึง Ju แต่ จงป้า และโจรผู้เขาคนอื่นไม่เข้าใจว่าทำไมลิโป้ถึงยกทัพมาหาพวกเขา พวกเขาจึงป้องกันค่ายพวกเขาและขับไล่ลิโป้ไป ลิโป้จึงต้องกลับมามือเปล่า

โกซุ่น เป็นแม่ทัพที่มีเกียรติ เป็นคนที่สงวนถ้อยคำ เขามีทหารในอำนาจเพียงเจ็ดร้อยนาย แต่เพราะว่าคำสั่งของเขาเด็ดขาด ดังนั้นเมื่อเขานำทหารต่อสู้ครั้งใดก็ได้ชัยชนะทุกครั้ง ทหารของเขาจึงได้ชื่อว่า กองทัพ Xianchen หรือ Xianzhen ying (เป็นทัพที่บุกเข้าโจมตีขบวนทัพของศัตรู เป็นทหารที่เข้าทำลายการจัดทัพของฝ่ายตรงข้าม การเข้าโจมตีรูปแบบนี้ทำให้ทหารต้องต่อสู้กับทัพศัตรูรอบด้าน)

หลังจากนั้นเมื่อลิโป้ชอบพอเขาน้อยลง และเพราะ งุยซก ใกล้ชิดกับลิโป้มากกว่า ลิโป้จึงนำทหารในสังกัดของ โกซุ่น มอบให้แก่ งุยซก เมื่อยามมีสงคราม และมอบทหารคืนให้แก่ โกซุ่น เมื่อสิ้นการศึก แต่ โกซุ่น ก็ไม่เคยแสดงความไม่พอใจ

ลิโป้เป็นคนที่ตัดสินใจรวดเร็ว และยังกระทำการอย่างรีบเร่ง โกซุ่น มักจะทัดทานเขาอยู่เสมอ บอกว่า เมื่อใดที่ท่านตัดสินใจทำอะไร ท่านไม่เคยคิดให้รอบคอบ เมื่อใดที่มีทางเลือกระหว่างทางเลือกระหว่างทางที่ถูกกับผิด ทานมักจะเลือกสิ่งที่ผิดเสมอ ลิโป้ชื่นชมความภักดีของเขา แต่ไม่เคยทำตามคำแนะนำของเขา

โจโฉส่ง Wang Pu นำราชโองการไปแต่งตั้งซุนเซ็กเป็นขุนพลทหารม้าและตำแหน่ง Marquise แห่ง Wucheng และตำแหน่งเจ้าเมืองห้อยแข โจโฉยังสั่งให้ซุนเซ็กนำทัพร่วมกับลิโป้และ Chen Yu เจ้าเมืองต๋องง่อ เข้าโจมตีอ้วนสุด ซุนเซ็กต้องการตำแหน่งแม่ทัพเพื่อฐานะที่สูงขึ้น ดังนั้น Wang Pu จึงใช้อำนาจแต่งตั้งเขาเป็นแม่ทัพผู้เชิดชูราชวงศ์ฮั่น

ซุนเซ็กจัดเตรียมกองทัพแล้วยกทัพไป Qiantang แต่ Chen Yu นั้นวางแผนที่จะโจมตีซุนเซ็กอย่างลับ ๆ เขาลอบติดต่อกับ Zu Lang เงียมแปะฮอและเจ้าเมืองคนอื่นให้เป็นพันธมิตรร่วมโจมตี แต่ซุนเซ็กล่วงรู้แผนการก่อน เขาจึงส่ง ลิห้อม และ Xu Yi ไปโจมตี Chen Yu ที่ Xaixi Chen Yu พ่ายแพ้หลบหนีไปหาอ้วนเสี้ยวเพียงลำพัง

ก่อนหน้านั้น Liu Chong อ๋องแห่ง Chen เป็นคนที่กล้าหาญและเชี่ยวชาญในธนูมาก เมื่อมีการก่อกบฏของโจรผ้าเหลืองในปี 184 Liu Chong นำกองทัพเข้าปราบปราม ทำให้ผู้คนต่างเกรงกลัวเขาและไม่มีผู้ใดกล้าที่จะก่อกบฏ Luo Jun แห่งห้อยแขก็เป็นขุนนางผู้หนึ่งที่มีความดีความชอบมากในอดีต

แต่ในเวลานั้น ไม่มีการมอบเบี้ยหวัดประจำปีให้แก่ท่านอ๋องหรือขุนนางต่าง พวกเขาจึงออกปล้นประชาชน ผู้คนต่างพากันเดือดร้อนล้มตายจำนวนมาก มีเพียงรัฐ Chen ที่ยังคงมั่งคั่งและแข็งแกร่ง ชาวบ้านหลายแสนจากหัวเมืองใกล้เคียงต่างอพยพมาที่นี่ เมื่อบรรดาเจ้าเมืองต่าง ๆ ตั้งตัวเป็นใหญ่ Liu Chong นำทัพไปตั้งค่ายที่ Yangxia และตั้งตัวเองเป็นแม่ทัพผู้สนับสนุนราชวงศ์ฮั่น

อ้วนสุดส่งคนไปขอเสบียงอาหารจาก Chen แต่ Luo Jun ปฏิเสธ อ้วนสุดโกรธมาก เขาส่งลูกน้องไปสวามิภักดิ์ต่อทั้งสอง แล้วให้ลูกน้องของเขาฆ่า Liu Chong และ Luo Jun ดังนั้นรัฐ Chen จึงล่มสลาย

ในฤดูใบไม้ร่วง เดือนที่เก้า โจโฉนำทัพไปตะวันออกโจมตีอ้วนสุด เมื่ออ้วนสุดรู้ข่าว เขาละทิ้งทัพของเขาหลบหนี ปล่อยให้ เตียวเสง และแม่ทัพคนอื่นต่อสู้กับโจโฉ ที่ Qiyang โจโฉโจมตีทัพ เตียวเสง สังหารทั้งกองทัพ อ้วนสุดหลบหนีไปจาก Huai

ต่อมาเกิดฝนแล้งในช่วงนั้น พืชผลได้รับความเสียหาย ผู้คนต่างได้รับความลำบาก หิวโหยและเหน็บหนาว อำนาจของอ้วนสุดจึงเริ่มที่จะเสื่อมถอยลง

โจโฉแต่งตั้ง He Kui แห่งรัฐ Chen เป็นขุนนางในสังกัดของเขา และถามเขาเกี่ยวกับอ้วนสุด

He Kui ตอบว่า ถ้าคนเราต้องการให้สวรรค์สนับสนุน เขาต้องทำตามลิขิตสวรรค์ ถ้าเขาต้องการให้คนช่วยเหลือ เขาต้องคู่ควรแก่ความไว้ใจของผู้อื่น อ้วนสุดไม่เชื่อลิขิตสวรรค์ และไม่ไว้ใจในลูกน้องตัวเอง เมื่อเขามองหาความช่วยเหลือ ผู้ใดจะมาช่วยเขา

โจโฉจึงว่า เมื่อบ้านเมืองสูญเสียคนดีมีฝีมือ แล้วเมืองนั้นจะอยู่ได้อย่างไร อ้วนสุดไม่เคยมอบตำแหน่งขุนนางให้แก่ท่าน มันจึงเหมาะสมแล้วที่เขาจะต้องพินาศ

โจโฉเป็นคนที่เคร่งครัดในกฏระเบียบ หลายต่อหลายครั้งที่เขาเฆี่ยนตีลูกน้องตัวเอง He Kuiจึงพกยาพิษติดตัวเสมอ สาบานว่าเขายอมตายดีกว่าที่จะได้รับความอับยศอย่างนี้ แต่โจโฉก็ไม่เคยลงโทษเขา

เคาทูแห่ง Pei เป็นคนที่กล้าหาญและแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป เขาได้รวบรวมคนหนุ่มหลายพันและคนในตระกูลเขาก่อตั้งกองทัพ พวกเขาสร้างค่ายและกำแพงที่สูงใหญ่ป้องกันพวกโจร ผู้คนในแถบ Huai Ru Chen และ Liang ต่างเคารพและเกรงกลัวเขา

เมื่อโจโฉมาถึงยังดินแดนนี้ เคาทูได้นำกองทัพเขามาร่วมกับโจโฉ โจโฉบอกว่าท่านคือ Fan Kuai ของข้า (Fan Kuai แม่ทัพที่มีชื่อเสียงของพระเจ้าฮั่นโกโจ) เขาแต่งตั้งเคาทูเป็นขุนพลและทำหน้าที่เป็นองครักษ์เขาในยามค่ำคืน และลูกน้องของเคาทูทุกคนได้รับแต่งตั้งเป็นทหารเสือ (ทหารในกององครักษ์ของโจโฉ)

เอียวปิว แม่ทัพใหญ่คนก่อนเป็นญาติกับอ้วนสุดโดยการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ โจโฉไม่พอใจมาก เขาแต่งข้อกล่าวหาว่า เอียวปิว วางแผนที่จะโค่นล้มฮ่องเต้ เขาแนะนำให้จับตัว เอียวปิว และส่งเข้าคุกข้อหากบฏ

เมื่อขงหยงรู้เรื่องจึงไปหาโจโฉพูดว่า ตระกูลเอียว นั้นแสดงความจงรักภักดีมากว่าสี่ชั่วคน และเป็นที่เคารพของคนทั้งแผ่นดิน ใน Book of Zhou ก็มีว่าไว้ว่า พ่อส่วนพ่อ ลูกส่วนลูก พี่และน้องต่างก็แยกจากกัน ความผิดของพวกเขาไม่เกี่ยวข้องซึ่งกันและกัน เหตุใดท่านจึงกล่าวหาท่าน เอียวปิว จากความผิดของอ้วนสุด

โจโฉว่า นี่เป็นความคิดของฮ่องเต้

ขงหยงตอบว่า อ๋อง Cheng ฆ่า Duke Shao แล้ว Duke Zhou จะบอกว่าตัวเองไม่รู้เห็นได้อย่างไร (Duke Zhou เป็นน้องของ อ๋อง Wu แห่งราชวงศ์ Zhou และเป็นผู้สำเร็จราชการแทนโอรสของอ๋อง Wu Duke Shao พี่น้องคนละแม่กับ อ๋อง Wu และ Duke Zhou เป็นผู้บริหารบ้านเมืองร่วมกัน)

โจโฉสั่งให้ หมันทอง เป็นผู้สอบสวน เอียวปิว ขงหยงและซุนฮกต่างพูดกับ หมันทอง ว่า แค่สอบถามท่าน เอียวปิว ตามปกติก็พอ ขออย่าได้เฆี่ยนตีในการสอบสวนเลย

หมันทอง ไม่ตอบ เขาดำเนินการสอบสวนทุกอย่างตามกฏ หลายวันผ่านไปเขาไปหาโจโฉพูดว่า เอียวปิว ได้ยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองไม่เปลี่ยนแปลง ชายผู้นี้เป็นที่เคารพทั้งแผ่นดิน ถ้าท่านลงโทษเขาโดยไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับความผิดเขา ท่านเองจะสูญเสียความไว้ใจจากคนทั่วไป ในความเห็นอันต่ำต้อยของข้า ท่านควรพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง ในวันเดียวกัน โจโฉก็ยกโทษให้ เอียวปิว และปล่อยตัวเขา

เมื่อซุนฮกและขงหยงได้รู้ว่า หมันทอง เฆี่ยนตี เอียวปิว ในการสอบสวน พวกเขาโกรธมาก แต่เมื่อรู้ว่า หมันทอง ขอร้องโจโฉให้ปล่อยตัว เอียวปิว พวกเขาก็แสดงความเป็นมิตรต่อ หมันทอง

เอียวปิว รู้ว่าราชสำนักฮั่นอ่อนแอและกำลังเสื่อมถอย การบริหารบ้านเมืองล้วนอยู่ในคำสั่งโจโฉ เขาจึงแกล้งเป็นอัมพาต ทำว่าเดินไม่ได้อยู่มากกว่าสิบปี เขาจึงพ้นปัญหามาได้

เมื่อศพของ ม้าหยิด ถูกนำกลับเมืองหลวง ทางการต้องการแต่งตั้งประกาศความดีความชอบให้เขา แต่ขงหยงท้วงว่า ม้าหยิด เป็นถึงราชครูมีอำนาจเทียบเท่าขุนนางระดับสูงทั้งสาม แต่เขาปล่อยให้ทรราชย์มาชักจูงเขาตามใจ ทั้งที่เขาเป็นขุนนางผู้ใหญ่ เราจะยอมรับข้อแก้ตัวว่าเขาโดนบังคับให้ทำตามได้อย่างไร

ฮ่องเต้อาจจะทรงเศร้าเสียใจในความตายของเขาและรู้สึกสงสาร จึงไม่อยากที่จะลงโทษคนที่ตายไปแล้ว ดังนั้นก็ไม่ควรมอบความชอบให้แก่เขาเช่นกัน ราชสำนักเห็นด้วยกับคำแย้งของเขา

ศพของ กิมเซี่ยง ถูกนำกลับเมืองหลวง มีราชโองการประกาศให้ขุนนางทุกคนไปร่วมในงานศพ Jin Wei ลูกชายของเขาได้รับแต่งตั้งเป็นขุนนางในวังหลวง

ในฤดูหนาว เดือนที่สิบเอ็ด โจโฉโจมตีเตียวสิ้วอีกครั้ง เขาบุก Huyang และจับตัว Deng Ji ลูกน้องเล่าเปียว และเข้าโจมตียึด Wuyin

หันเซียม และ เอียวฮอง อยู่ที่ แห้ฝือ พวกเขาออกปล้นทั่วมณฑลชีจิ๋ว และยังจิ๋วแต่กองทัพของเขาก็ยังขาดแคลนเสบียง พวกเขาจึงขออนุญาติไปเกงจิ๋ว แต่ลิโป้ปฏิเสธ

เอียวฮอง รู้ว่าเล่าปี่เป็นศัตรูของลิโป้ เขาจึงส่งสารลับให้เล่าปี่ส่งทัพมาช่วยโจมตีลิโป้ เล่าปี่แกล้งตกลง

เอียวฮอง จึงนำทัพไปที่ Pei เล่าปี่เชิญเขาเข้าเมือง ระหว่างทางไปงานเลี้ยงต้อนรับ เอียวฮอง ถูกจับและถูกสังหาร

หันเซียม เมื่อไร้ เอียวฮอง ก็ถูกตัดขาด เหลือทหารม้าไม่กี่สิบนาย เขาพยายามกลับไปมณฑล Bing แต่ถูก Zhang Xuan นายอำเภอ Shuqiu ฆ่าตาย

โฮจ๋าย และ ลิงัก ที่อยู่ใน โฮต๋อง นั้น โฮจ๋าย ถูกฆ่าตายจากการทะเลาะวิวาท ในขณะที่ ลิงัก เสียชีวิตจากโรคภัย กุยกีถูก งอสิบลูกน้องของเขาฆ่าตาย

โตสิบ เอียวหงัน และ Po Qin จาก Yingchuan ต่างหลบหนีภัยมาอยู่ที่เกงจิ๋ว เล่าเปียวต้อนรับพวกเขาอย่างดี

Po Qin ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี แต่ โตสิบพูดกับเขาว่า เมื่อข้าตกลงมาอยู่กับท่าน เราพยายามที่จะอยู่รอดในภาวะเช่นนี้และรอคอยโอกาสที่ดี ตัวท่านเองเชื่อว่าท่านเล่าเปียวไม่ใช่บุคคลที่จะขจัดปัญหาบ้านเมืองนี้ได้ ทำไมท่านจึงให้ผู้เฒ่าของท่านยอมรับคำสั่งเล่าเปียว ถ้าท่านยังแสดงความสามารถของท่านให้เขาประทับใจ ท่านก็ไม่ใช่เพื่อนข้าอีกต่อไป ข้าขอตัดขาดจากท่าน

Po Qin เห็นด้วยกับเขาบอกว่า ข้าจะขอเชื่อฟังคำแนะนำของท่าน

ไม่นานเมื่อโจโฉนำฮ่องเต้มาที่เมืองฮูโต๋ เอียวหงันบอกกับ Po Qin ว่า แม่ทัพรักษาความสงบตะวันออก ท่านโจโฉ สามารถปราบภัยพิบัติของแผ่นดินได้ ข้ารู้แล้วว่าข้าจะไปที่ไหน เขาจึงไปหาโจโฉ โจโฉจึงตั้งเขาเป็นเจ้ามือง Langling

ลิถอง ขุนพลแห่ง Yang’an เมื่อลุงของภรรยาเขาทำความผิด เอียวหงันจับตัวและสั่งประหาร ในเวลานั้นอำนาจในการตัดสินประหารชีวิตเป็นของเจ้าเมือง ภรรยา ลิถอง และลูก ร้องไห้วิงวอนขอให้ไว้ชีวิต แต่ ลิถอง ตอบว่า เราควรจะถวายความสามารถรับใช้ท่านโจโฉอย่างดี มันคงเป็นการผิดที่ข้าจะคิดถึงความรู้สึกส่วนตัวก่อนภาระหน้าที่บ้านเมือง เขายกย่อง เอียวหงันที่รักษากฏหมายบ้านเมืองและกลายเป็นเพื่อนกับเขา


Create Date : 23 พฤศจิกายน 2548
Last Update : 1 มีนาคม 2549 21:58:28 น. 2 comments
Counter : 886 Pageviews.

 
เมื่อโจโฉมาถึงยังดินแดนนี้ เคาทูได้นำกองทัพเขามาร่วมกับโจโฉ โจโฉบอกว่าท่านคือ Fan Kuai ของข้า (Fan Kuai แม่ทัพที่มีชื่อเสียงของพระเจ้าฮั่นโกโจ) เขาแต่งตั้งเคาทูเป็นขุนพลและทำหน้าที่เป็นองครักษ์เขาในยามค่ำคืน และลูกน้องของเคาทูทุกคนได้รับแต่งตั้งเป็นทหารเสือ (ทหารในกององครักษ์ของโจโฉ)

______

Fan Kuai = ฟั่นข่วย ครับ เป็นนักรบคู่พระทัยของฮั่นเกาจู่ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ฮั่น เป็นนักรบที่มักจะตัดหัวคู่ต่อสู้หิ้าให้ฮั่นเกาจู่เสมอ และยังเป็นแม่ทัพที่มีความกล้าหาญมากด้วยครับ


โดย: ผู้คลั่งสามก๊กและวรรณกรรมจีน IP: 58.136.11.60 วันที่: 12 พฤษภาคม 2549 เวลา:19:27:03 น.  

 
ตั้งแต่สมัยฮ่องเต้ Huan และ Ling

_____

ฮ่องเต้ Huan และ Ling ผมว่าน่าจะเป็น หวนตี้ กับหลิงตี้(เลนเต้) ครับ


โดย: ผู้คลั่งสามก๊กและวรรณกรรมจีน IP: 58.136.11.60 วันที่: 12 พฤษภาคม 2549 เวลา:19:28:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

kazama
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add kazama's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.