Group Blog
 
All Blogs
 

แผนที่สามก๊ก



จากสามก๊กฉบับพระยาคลังหน




 

Create Date : 13 มีนาคม 2549    
Last Update : 13 มีนาคม 2549 19:56:55 น.
Counter : 17909 Pageviews.  

ยศทหารและขุนนางในสามก๊ก

มาแปะไว้ก่อน ค่อยมาเรียบเรียงวันหลัง

General Supreme แม่ทัพสูงสุด (Wushang Jiangjun) ฮ่องเต้เลนเต้ตั้งตำแหน่งนี้ให้ตัวเองเพื่อให้มีฐานะในกองทัพเหนือโฮจิ๋น
Colonel of the First Army (shangjun xiaowei) ขันที Jian Shi ได้รับตำแหน่งนี้สมัยฮ่องเต้เลนเต้ ซึ่งตำแหน่งนี้สูงกว่ายศแม่ทัพใหญ่
General-in-Chief แม่ทัพใหญ่ (Da Jiangjun 大將軍)

General of Agile Cavalry (Jiangjun) Piaoji Jiangjun 骠骑将军 - Cavalry General
General of Chariots and Cavalry (Juji Jiangjun) Cheji Jiangjun 车骑将军 - Chariot General
สองตำแหน่งนี้ส่วนใหญ่จะมอบให้แก่เชื้อพระวงศ์หรือขันทีคนสนิท แต่ในภายหลังกบฏผ้าเหลือง ก็มีขุนนางหลายคนที่ได้ยศนี้

General of the Guards (Wei Jiangjun)
General of the Van (Qian Jiangjun)
General of the Rear (Hou Jiangjun)
General of the Left (Zuo Jiangjun)
General of the Right (You Jiangjun)
ตำแหน่งห้าทหารเสือ
General who Crosses the Liao (Du-Liao Jiangjun)
General**
General of the Gentlemen of the Household ตำแหน่งรองจาก แม่ทัพ บางทีก็ใช้ Lieutenant-Generals (pian jiangjun) และ Major-Generals (pi jiangjun) แต่สองตำแหน่งหลังไม่มีบันทึกอย่างเป็นทางการในระบบ
Chief Commandant of Cavalry (Ji Duwei) ตำแหน่งเทียบเท่า General of the Gentlemen of the Household

Captain of the Centre of the Northern Army (beijun zhonghou) นายทหารควบคุมขุนพลทั้งห้าหน่วย ได้แก่ the Archers Who Shoot at a Sound (shesheng), the Footsoldiers (bubing), the Elite Cavalry (yueji), the Garrison Cavalry (tunji) and the Chang River Regiment (Changshui) แต่ไม่มีอำนาจสั่งการ อำนาจสั่งการเป็นของ Da Jiangjun

Colonel ขุนพล (Xiaowei)
Colonel Director of Retainers ขุนพลที่มีอำนาจทหารสูงสุดในเมืองหลวง (Sili Xiaowei 司隸校尉) มีอำนาจปกครองเจ็ดหัวเมือง ได้รับเงินเดือนสองพัน Shi และยังมีหน้าที่ดูแลเสบียงอาหารในคลังหลวงและการซื้อขายในเมืองหลวง
Colonel of the City Gate ขุนพลผู้รักษาประตูเมืองทั้งสิบสองของเมืองลกเอี๋ยง (Chengmen Xiaowei)
The Bearer of the Gilded Mace (zhi jinwu) ตำแหน่งเทียบเท่า Chengmen Xiaowei มีหน้าที่ดูแลคลังอาวุธ
the Commandant of the Guards (weiwei) หนึ่งในเก้าเสนาบดี มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในเมืองหลวง โดยเฉพาะกำแพงและประตูเมือง มีทหารในสังกัดสองพันนาย
the Superintendent of the Imperial Household (guanglu xun) หนึ่งในเก้าเสนาบดี มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยขององค์ฮ่องเต้

senior Majors with a Separate Command (biebu sima)
Major (Sima)




ต่อด้วยยศขุนนางชั้นสูงแบบคร่าว ๆ

The Emperor [huangdi] ฮ่องเต้
Three Excellencies [san gong: Three Dukes] ซานก๋ง
the Grand Commandant [taiwei] ไท่เว่ย
the Excellency over the Masses [situ: Minister over the Masses] ซือถู
the Excellency of Works [sikong: Minister of Works] ซือคง
รองจากซานก๋งก็เป็นเสนาบดีทั้งเก้า Nine Ministers [jiu qing]
the Minister of Ceremonies [tai chang: Grand Master of Ceremonies], รับผิดชอบเรื่องพิธีการต่าง ๆ
the Minister of the Imperial Household [guangluxun: Superintendent of the Imperial Household], รับผิดชอบความปลอดภัยของฮ่องเต้
the Minister of the Guard [wei wei: Commandant of the Guard] รับผิดชอบความปลอดภัยในวังหลวง
the Minister Coachman [tai pu: Grand Coachman], รับผิดชอบม้าศึกและรถศึกของฮ่องเต้และกองทัพ
the Minister of Justice [ting wei廷尉: Commandant of Justice] รับผิดชอบเรื่องคดีความต่าง ๆ ในศาล
the Minister Herald [da honglu: Grand Herald] รับผิดชอบเรื่องความสัมพันธ์กับชนเผ่าอื่น ๆ ที่ไม่ใช่คนจีน ประมาณรมต. ต่างประเทศ
the Minister of the Imperial Clan [zong zheng: Director of the Imperial Clan] รับผิดชอบเรื่องทะเบียนของเชื้อพระวงศ์และธรรมเนียมปฏิบัติ
the Minister of Agriculture [da sinong: Grand Minister of Agriculture] รับผิดชอบการจ่ายเบี้ยหวัดแก่แม่ทัพนายพลและคลังเสบียงอาหาร
the Minister of the Privy Treasury [shao fu: Privy Treasurer] รับผิดชอบกิจการภายในของฮ่องเต้ รวมถึงการประกาศรับสั่ง วังนางสนม กรมราชอาลักษณ์ กรมประชาสัมพันธ์???

Grand Tutor [tai fu: Senior Tutor], ราชครู ตำแหน่งนี้ถือเป็นรางวัลที่ทรงเกียรติมอบให้กับขุนนางอาวุโส มีหน้าที่คอยให้คำแนะนำ แม้แต่ฮ่องเต้ก็ยังต้องเคารพ
***************************************
Citizen (Shumin 庶民 )
Magistrate (Xianling 县令)
Prefects (Taishou 太守)
Provincial Governor (Cishi/Dudu 刺使/都督)
Commandant (Shi Chijie 使持节)
Chief Commandant (Jie Dushi 节度使)
Minister of the Guard (Hujun Zhongwei/Jinjun Tongshuai 护军中尉/禁军统帅)
Imperial Inspector (Jian Yushi 监御史)
Grand Mentor (Taishi 太师)
Grand Guardian (Taibao 太保)
Grand Tutor (Taifu 太傅)
Undersecretary (Shangshu Lang 尚书郎)
Chief State Secretary (Shangshu Ling 尚书令)
Supreme Censor (Da Sikong/Yushi Dafu 大司空/御史大夫)
Grand Marshal (Da Sima/Taiwei 大司马/太尉)
Prime Minister (Situ/Chengxiang 司徒/丞相)
Emperor (Huangdi 皇帝)

อีกแหล่งหนึ่ง เขาใช้ ไท่เว่ยเป็น Grand Marshal ไม่ใช่ Grand Commandant


(1) ChengXiang (丞相) สมัยฮ่องเต้ Ai ตำแหน่งนี้เปลี่ยนชื่อเป็นDaSiTu (大司徒)
(2) YüShiDaFu (御史大夫) สมัยฮ่องเต้ Cheng ตำแหน่งนี้เปลี่ยนชื่อเป็นDaSiKong (大司空)
(3) TaiWei (太尉) สมัยฮ่องเต้ Wu ตำแหน่งนี้เปลี่ยนชื่อเป็น DaSiMa (大司马)




 

Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2549    
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2549 16:45:56 น.
Counter : 14437 Pageviews.  

ประวัติขงหยง

ขงหยง (153-208) ชื่อรอง Wen Ju
ขงหยงชาวเมืองซีฟู่ในเขตแคว้นหลู่โก้วะ (โลก๊ก) เป็นทายาทรุ่นที่ 20 ของขงจื้อ ได้ฉายาว่า อุ๋นจวี ขงหยงเคยเป็นเจ้าเมืองปักไฮ และได้รับตำแหน่งขุนนางมากมาย เนื่องด้วยขงหยงเป็นคนที่มีจิตใจดีและชอบพบปะต้อนรับผู้คน บ้านของเขาจึงเต็มไปด้วยแขกมามาย ขงหยงยังเป็นกวีที่มีชื่ออีกด้วย ถูกเรียกเป็นหนึ่งใน เจ็ดคนผู้มีชื่อเสียงแห่ง jian an (เจ็ดนักปราชญ์ของเจี้ยนอัน) บทกวีของขงหยงนั้นมีชื่อเสียงว่าสั้น รวบรัด เนื้อหาตรงไปตรงมา หลังจากพ่ายแพ้ต่ออ้วนถำ ก็ไปรับใช้โจโฉ ความหมาย ในบทกวีของเขามักจะเยาะเย้ยถากถากโจโฉ จนถูกโจโฉฆ่าในที่สุด

ในวัยเด็ก ขงหยงเป็นที่ชื่นชอบของครูบาอาจารย์และเหล่าเพื่อน เพราะขงหยงมีอุปนิสัยใจคอโอบอ้อมอารี ขงหยงมีชื่อเสียงมากตั้งแต่เด็ก จากความสามารถที่โดดเด่นของเขา เมื่อขงหยงอายุได้สี่ขวบ ขงหยงก็รู้จักแบ่งปันของกินให้ผู้อื่น ขงหยงเป็นลูกชายคนที่หกจากพี่ชายผู้ชายทั้งหมดเจ็ดคน เมื่อครอบครัวของเขากินลูกแพร์ บรรดาพี่ชายของเขาต่างพากันหยิบลูกใหญ่ที่สุด แต่ขงหยงมักจะหยิบลูกเล็กเสมอ เมื่อถูกถามขงหยงตอบว่าเขาเป็นน้องคนเล็ก ดังนั้นเขาควรจะหยิบลูกเล็ก การรู้จักคิดเช่นนี้ในวัยสี่ขวบทำให้ขงหยงมีชื่อเสียง

เมื่ออายุได้ 10 ขวบ ขงหยงเดินทางมาลกเอี๋ยงพร้อมพ่อของเขา ในเวลานั้นหลี่อิ๋ง เจ้าเมือง He Nan ซึ่งเป็น คนที่เข้าพบด้วยยากมากจนถึงกับพูดกันว่า ใครที่เขายอมให้พบด้วย จะถูกเรียกว่าเป็น ผู้ถูกเลือก เขาจะไม่พบแขกที่ไม่ได้นัดหมายมาก่อน และจะไม่พบคนที่ไม่มีชื่อเสียงหรือเป็นญาติของเขา อย่างไรก็ตาม ขงหยงได้พยายามที่จะเข้าพบหลี่อิ๋ง โดยบอกกับทหารยามหน้าประตูว่า ข้าเป็นญาติของท่านเจ้าเมืองลิ ช่วยบอกท่านเจ้าเมืองด้วยว่าข้าขอเข้าพบ เมื่อขงหยงได้รับเชิญเข้าไป หลี่อิ๋งถามขงหยงว่า เรากับเจ้าเป็นญาติกันทางไหน ขงหยงตอบว่า
บรรพบุรุษของข้า ท่านขงจื้อ กับบรรพบุรุษของท่านเล่าจื้อ (หลีเอ๋อ)เคยมีสัมพันธ์อันดีในฐานะศิษย์อาจารย์ และยังคบหาในฐานะมิตรสหายอีกด้วย ดังนั้นถือว่าครอบครัวของท่านกับของข้าจึงมีความสัมพันธ์เหมือนเป็นญาติกันมาหลายชั่วรุ่น เหล่าคนในที่นั้นต่างพากันสรรเสริญความเป็นอัจฉริยะของขงหยงจากคำกล่าวอ้างของเขา ตันวุยขุนนางผู้ใหญ่คนหนึ่งซึ่งมาสายเลยไม่ได้เห็นความสามารถของเขา เมื่อเห็นทุกคนยกย่องความฉลาดของขงหยง ก็บอกว่า คนเราแม้ว่าจะฉลาดหลักแหลมเพียงใดในวัยเด็ก ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นคนฉลาดเมื่อโตขึ้น ขงหยงก็ตอบกลับไปว่า ตัวท่านตอนเด็กก็ฉลาดหลักแหลมเช่นกันใช่หรือไม่ ตันวุยก็จนคำพูดที่จะพูดต่อ หลี่อิ๋งหัวเราะอย่างชอบใจและทำนายว่า เด็กคนนี้จะเติบโตเป็นคนที่ยิ่งใหญ่

ครั้งหนึ่งเมื่อโจโฉต้องการฑูตไปเกลี้ยกล่อมเล่าเปียว ขุนนางหลายคนเสนอชื่อขงหยง แต่ขงหยงปฏิเสธไม่ทำหน้าที่นี้ แต่แนะนำยีเอ๋งเพื่อนสนิทตัวเองให้ทำหน้าที่นี้แทน

ขงหยงอาศัยชื่อเสียงในความสามารถของเขา เขามักจะทำให้โจโฉเป็นตัวตลกหรือกล่าวหาโจโฉต่าง ๆ นา ๆ เขาชอบใจกับการพูดถึงโจโฉในเรื่องที่ผิดปกติและยังไม่เชื่อฟังและไม่มีมารยาทกับโจโฉ แต่เพราะว่าเขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงมาก โจโฉจึงอดทนและแกล้งว่าเขารับเรื่องพวกนี้ได้ แต่ที่จึงเขาเกลียดที่ขงหยงทำเช่นนี้

ต่อมาขงหยงส่งบันทึกมาว่า ฮ่องเต้ควรจะยึดถือตามธรรมเนียมปฏิบัติแต่โบราณ โดยไม่ประทานพื้นที่พันลี้รอบเมืองหลวงให้แก่ขุนนางคนใด โจโฉรู้สึกว่าขงหยงเริ่มที่จะทำเกินไป เขาจึงไม่ชอบขงหยงมากขึ้น

ขงหยงเคยทะเลาะกับ Chi Lu มาก่อน ในปี 208 ด้วยการสนับสนุนของโจโฉ Chi Lu แจ้งข้อหาความผิดขงหยง Chi Lu นั้นให้ Lu Cui ขุนนางผู้เตรียมพิธีกราบไหว้ของกองทัพเฉิงเซี่ยงส่งบันทึกฟ้องร้องว่า เมื่อครั้งขงหยงเป็นเจ้าเมืองปักไฮ เขาเห็นว่าราชสำนักกำลังวุ่นวายจึงซ่องสุมผู้คนเพื่อเตรียมก่อกบฏ เขาคิดก่อการเรื่องนี้กับซุนกวนและยังใส่ร้ายป้ายสีราชสำนัก

ยิ่งไปกว่านั้น เขายังโอ้อวดตัวเองกับยี่เอ๋ง บัณฑิตที่ไร้ค่า พวกเขายกยอปอปั้นอีกคนอย่างไม่เจียมตัว ยี่เอ๋งพูดกับขงหยงว่า Zhongni (ขงจื้อ)ยังไม่ตาย ส่วนขงหยงก็พูดว่า Yan Hui กลับมามีชีวิตอีกครั้ง นี่เป็นการดื้อดึงและยกตนอย่างใหญ่หลวงโดยขาดความเคารพปราชญ์ชื่อดังในอดีต ควรที่จะลงโทษอย่างรุนแรง

แล้วโจโฉก็จับกุมขงหยงและสังหารเขา พร้อมด้วยภรรยาและบุตรของเขา
มีคำพูดที่กล่าวไว้ว่า พ่อเป็นเยี่ยงไร บุตรก็เป็นเช่นนั้น ถ้าพ่อเป็นเสือ บุตรย่อมไม่มีทางเป็นสุนัข เมื่อขงหยงถูกโจโฉจับกุมและกำลังจะถูกประหาร คนในบ้านของขงหยงต่างพากันวิตกว่าตัวเองจะต้องถูกลงโทษตามไปด้วยพากันหลบหนี แต่บุตรชายสองคน (เก้าขวบและเจ็ดขวบ) ของขงหยงกลับเล่นโกะกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พวกเขาไม่มีความรู้สึกกลัวแม้สักนิด ขงหยงบอกกับผู้นำสารมาจับกุมขอให้จับเขาคนเดียวและไว้ชีวิตบุตรชายทั้งสองของเขา บุตรทั้งสองของเขาตอบกว่า ใต้เท้าท่านเคยเห็นไข่นกที่สมบูรณ์ในรังที่ถูกทำลายหรือไม่ (เมื่อรังนกถูกทำลายทิ้งแล้ว ไข่นกจะยังสมบูรณ์ได้อย่างไร)

หลังจากขงหยงถูกประหารพร้อมกับครอบครัว ศพของเขาถูกทิ้งประจานไว้ข้างถนน ไม่มีขุนนางคนไหนกล้านำศพของเขาไปทำฝัง นอกจาก ชีสิบ ชีสิบนั้นเมื่อเจอศพของขงหยงก็ร้องไห้ข้างศพของขงหยงหลางกล่าวว่า บัดนี้ท่านทิ้งข้าไปหาความตายแล้วต่อไป ใครจะเป็นคนที่ข้าจะสามารถพูดคุยด้วยและเข้าใจความคิดข้าได้




 

Create Date : 30 กันยายน 2548    
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2549 23:07:28 น.
Counter : 3534 Pageviews.  


kazama
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add kazama's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.