|
มีหมาเป็นเพื่อน ตอนฝันเล็ก ๆ #1
ฝันเล็ก ๆ
ฉันเคยเก็บความฝันเล็ก ๆ ไว้ว่าสักวันหนึ่งจะต้องมีหมาเป็นของตัวเองให้ได้ ในขณะที่คนอื่นฝันอยากมีบ้าน มีรถ แต่ฉันฝันว่าอยากมีหมา อย่าว่ากันนะ ฉันเคยใช้ชีวิตวุ่น ๆ อยู่ในกรุงเทพเสียหลายปีดีดัก ทำให้ความฝันเล็ก ๆ อันนี้ถูกเก็บไว้ลึกมาก ๆ เพราะหลายอย่างในการใช้ชีวิตในกรุงเทพ ไม่เอื้ออำนวยกับความฝันฉันสักเท่าไหร่ ก็จะเป็นไปได้ยังไงล่ะ อยู่กรุงเทพเป็นสิบกว่าปี ย้ายที่อยู่ยังกะผีตองเหลือง เพียงแต่ชีวิตจริง ๆ มันไม่มีตองให้เหลืองเท่านั้นแหละสำหรับการย้ายแต่ละที อยู่อพาร์ทเม้นท์บ้าง คอนโดบ้าง ทาวน์เฮ้าส์บ้าง หลากที่ หลายอารมณ์ แถมชีวิตก็ต้องดิ้นรนไปตามเมืองที่เราอยู่ แหม ใคร ๆ ก็พูดกันว่าชีวิตในกรุงเทพ ต้องแก่งแย่งชิงดี หาเวลาพักเวลาว่างไม่ค่อยจะได้ ถ้าว่างก็เป็นอันไปเที่ยวต่างจังหวัด ไปช๊อปปิ้ง ก็ต้องใช้ชีวิตเหมือนที่คนกรุงเป็นกันนั่นแหละ ไม่งั้นจะไม่อินเทรนด์
ในที่สุดฉันก็ได้มีโอกาสย้ายมาอยู่เชียงใหม่ เมืองที่ฉันเคยใช้ชีวิตในช่วงสั้น ๆ ไม่กี่ปี สมัยเรียน ฉันเองก็ต้องเป็นหนี้ ผ่อนบ้านเป็นของตัวเองสมใจ (แบบที่คนอื่นเค้าฝันอยากมีหนี้ประเภทนี้กันนักหนา) ตอนที่ย้ายมาอยู่ใหม่ ๆ ฉันก็เริ่มต้นสานต่อความฝันของฉันทันที (หลังจากที่ทิ้งร้างไปนานแสนนาน)
ฉันเริ่มต้นคุยกับคุณสามีอย่างใจกล้าในวันหนึ่ง เพื่อหยั่งใจว่าคุณสามีคิดเห็นตรงกันหรือเปล่า ที่ฉันใช้คำว่าใจกล้าเนี่ย เพราะฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าไอ้การที่เราอยู่ดี ๆ ก็ไปเอาภาระเข้ามาในบ้านเพิ่มขึ้นเนี่ย มันจะเป็นผลดีต่อชีวิตครอบครัวของเราหรือเปล่า
เธอ ๆ ฉันว่าเราเอาหมามาเลี้ยงซักตัวจะดีมั้ย จะได้เป็นเพื่อนแก้เหงา เพราะเราเองก็ไม่มีลูกด้วย? ฉันโยนหินถามทาง ทั้งที่รู้ว่าหมากับลูกเนี่ยมันคนละเรื่องกันเลย ตอนนี้อยู่ ๆ อย่างนี้ไปก่อนดีมั้ย เราก็เพิ่งย้ายมา อะไรหลาย ๆ อย่างในบ้านก็ยังไม่เรียบร้อย เอาเป็นว่าถ้าเจอหมาที่ถูกใจก็ค่อยว่ากันมั้ย
คุณสามีฉันคงหมายถึง สวนก็ยังไม่เรียบร้อย บ้านก็ยังตกแต่งไม่เสร็จ คงยังมีเรื่องวุ่น ๆ ให้สะสางอีกหลายอย่าง แต่ก็ถูกใจฉันตรงประโยคสุดท้ายเนี่ยแหละ ก็ได้ ๆ เอาไว้ถ้าเจอหมาถูกใจก็ค่อยว่ากันอีกทีก็ดีนะ ฉันก็ยอมรับนะว่าฉันใจร้อนไปนิด และก็เห็นด้วยที่สามีพูดทุกอย่าง
หลังจากวันนั้น ก็มีน้องที่ทำงานโทรมาบอกว่าที่บ้านเพิ่งเอาแม่พันธุ์โกล์ดเด้นท์ รีทรีฟเวอร์ ไปผสมกับพ่อพันธุ์มา แล้วก็คลอดออกมาแล้ว 4 ตัว แล้วก็โทรมาถามฉันว่า สนใจมั้ยจะขายให้ถูก ๆ พอฉันได้ยินอย่างนั้นก็รีบโทรหาคุณสามีในบัดดล ว่าจะไปดูหมากันเลยมั้ย อยู่ที่ลำพูนนี่เอง
ในขณะนั้นฉันเองก็ศึกษานิสัยและสอบถามกับเจ้าของหมาว่าเอามาเลี้ยงแล้วจะดีมั้ย จะเป็นไง เราจะมีความสุขหรือทุกข์กว่าเดิม เพื่อประกอบการตัดสินใจ น้องบอกว่า พี่ครับหมาพันธุ์นี้มันน่ารักมาเลยนะพี่ จะขี้เล่นหน่อยนะครับ เป็นมิตรกับทุกคน ชอบให้คนมาเล่นด้วย แล้วก็ชอบทำลายสนามหญ้า กัดต้นไม้ ขุดดิน ที่บ้านผมสวนพังไปหลายรอบแล้วครับ ถ้าเลี้ยงไว้ในบ้านก็จะกัดรองเท้า กัดโซฟา ยันไปถึงมุ้งลวดกับผ้าม่านโน่นเลยครับ เป็นไงล่ะ ขึ้นต้นก็ดูดี๊ดี แต่ตอนท้ายเนี่ยสิ ไม่น่าจะไหวเหมือนกันนะ ฉันเพิ่งให้คนสวนของหมู่บ้านเอาหญ้ามาลงได้ไม่นานนี้เสียด้วย ต้นไม้ใบหญ้าก็เพิ่งเริ่มผลิดอกออกใบ ผ้าม่านกับมุ้งลวดก็เพิ่งติด เลยคิดหนัก คิด ๆๆๆๆๆ แล้วก็ได้คำตอบว่า เอาไว้ก่อนก็ได้ ให้น้องเค้าขายให้คนอื่นไปก่อนละกัน เดี๋ยวทำใจได้ก็ค่อยว่ากันใหม่ ในใจก็ยังอดเสียดายไม่ได้ เพราะเป็นหมาพันธุ์ในดวงใจที่อยากเลี้ยงที่สุดแล้ว
หลังจากที่ฉันได้ฟังข้อมูลจากน้องที่ขายหมาให้ ฉันเลยต้องคิดตามว่าจะเลี้ยงหมาทีนึง มันมีเรื่องให้คิดมากกว่าที่เราคิดไว้อีกแฮะ ว่าแล้วเราสองคนผัวเมียได้เริ่มศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงหมากันอย่างจริงจัง ก็ได้ความประมาณว่า ถ้าเลี้ยงหมาพันธุ์ต่างประเทศก็ต้องทำใจกับหลาย ๆ เรื่องให้ได้ เช่น การดูแลเรื่องอาหารการกิน จะให้กินสุ่มสี่สุ่มห้าสุ่มหกไม่ได้ ต้องกินอาหารเม็ดยี่ห้อนั้นนะ ต้องบำรุงด้วยอาหารเสริมนี่ อาบน้ำต้องเป็นครีมอาบน้ำประเภทนั้นนี้ เวลาตัดขนก็ต้องพาไปที่ร้านเพ็ดชอบ โอกาสเป็นโรคสารพัดก็มีมาก เพราะเป็นหมาต่างบ้านต่างเมือง เฮ้อ....นี่ยังไม่นับอุปนิสัยและรายละเอียดปลีกย่อยของหมาแต่ละพันธุ์กันอีกนะ เช่นพันธุ์นี้ขนร่วงเยอะ พันธุ์นี้น้ำลายไหลย้อยตลอดเวลา พันธุ์นี้ตัวเหม็น ปากเหม็น เห็บเยอะ ฯลฯ ยิ่งศึกษามากก็ยิ่งประสาทมาก ทำให้รู้สึกทุกข์และกังวลล่วงหน้าไปแล้ว ตกลงจะเลี้ยงเพื่อทุกข์หรือเพื่อความสุขกัน(วะ)เนี่ย
พอศึกษาข้อมูลกันเสร็จ ต่างคน (ทั้งผัวทั้งเมีย) ก็ต่างยังทำใจไม่ได้ ไม่พูดถึงเรื่องจะเอาหมาพันธุ์นั้น พันธุ์นี้มาเลี้ยงอีก จนตอนหลังต่างคนต่างเฉลยความในใจว่า ถ้าจะเลี้ยงก็เอาหมาไทยพันธุ์ทางธรรมดา ๆ เรานี่แหละมาเลี้ยงจะได้ตัดปัญหาต่าง ๆ ออกไป...เป็นไงล่ะ ฝันเล็ก ๆ ของฉัน...ไหงสรุปออกมาเป็นแบบนี้ไปได้ ชั้นเองก็มึนไปเหมือนกัน พอเอาเข้าจริง ๆ ความจริงกับความฝัน ช่างห่างกันหลายโยชน์เหลือเกิน
Create Date : 23 มิถุนายน 2552 | | |
Last Update : 14 กรกฎาคม 2552 15:16:33 น. |
Counter : 396 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|