บอกเล่าเรื่องเที่ยวสก็อตแลนด์ ปราสาทเอดินเบิร์ก-คาลตันฮิลล์









คลิกก่อนหน้านี้ ทะเลสาบวินเดอร์เมียร์


เช้าวันนี้เราไปชมปราสาทเอดินเบอระ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมเท่าไหร่ เรานั่งชมทิวทัศน์ของเมืองก่อนจะถึงปราสาท





Edinburgh เอเดนเบิร์ก แต่ชาวสก็อตแลนด์เรียก เอดินเบอระเป็นเมืองหลวงของประเทศสกอตแลนด์ สหราชอาณาจักร ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของสก๊อตแลนด์ ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงอยู่กลางเมือง  เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยกลาง เป็นที่ตั้งของปราสาทเอดินเบอร เป็นทำเลที่ได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์ในสมัยก่อน พื้นที่รอบนอกเป็นคูเมืองเพื่อประโยชน์ทางทหาร ปัจจุบันได้ถมคูเมืองแล้ว





เมืองเอดินเบอระเป็นเมืองศูนย์กลางทางการเงินที่ใหญ่เป็นอันดับสองของสหราชอาณาจักรรองจากลอนดอนและใหญ่เป็นอันดับห้าของยุโรป และมีมหาวิทยาลัยชือดังคือ  มหาวิทยาลัยเอดินเบอระ









Greyfriars Bobby ใครมาสก็อตแลนด์ก็ต้องมาแตะจมูกเจ้าหมาตัวนี้ หมาตัวนี้มีชื่อเสียงในเรื่องรักเจ้านายมาก พอเจ้านายเสียเขาก็มาที่สุสานทุกวัน ซึ่งสุสานเจ้านายก็ฝังอยู่ข้างหลังตึกโดยปกติสุสานเขาไม่อนุญาติให้หมาเข้า แต่มันก็แอบเข้ามา จนลูกของเจ้านาย สงสารน้องหมาจึงสร้างบ้านเล็กๆขึ้นมาให้มันมาเฝ้าได้  และมันก็ยังคงเฝ้าเจ้านายอยู่เรื่อยๆ จนมันมีเจ้านายใหม่เป็นผู้ที่ยิง one o'clock gun บนปราสาทเอดินเบอระ พอเขายิงทุกบ่ายโมง บ้อบบี้ ก็จะออกมาทานขนม และร้านที่อยู่ข้างหลังนี้จะเป็นผู้ให้ขนมเจ้าบ๊อบบี้ จากนั้นทุกคนก็จะมาชม  bobby เพราะถึงแม้เจ้านายเก่าจะจากไปเขาก็ยังมีความภักดี และกับเจ้านายใหม่ เขาก็ติดตามไปดูเขายิง one o'clock gun อยู่





เนื่องจากยังเช้าอยู่พวกเราจึงขึ้นคาลตันฮิลล์ ( calton hill ) มองจากบนนี้จะเห็น รัฐสภาแห่งใหม่ของสกอตแลนด์ (เพิ่งแยกออกมาจากรัฐสภาของสหราชอาณาจักร) ตั้งอยู่บนถนนสายหลักของเอดินเบอระ คือ รอยัลไมล์ (The Royal Mile)ที่เรียกชื่อนี้เพราะ เป็น ระยะทางจากพระราชวังฮอลลีรูด (Holyrood Palace )กับปราสาทเอเดนเบอระ มีระยะทาง 1 ไมล์พอดี จึงเรียกว่าเป็น royal mile เป็นทางสเด็จของกษัตริย์ และมีสวนพฤกษศาสตร์ตั้งอยู่ระหว่างกัน





The National Monument on Calton Hill จำลองมาจากแบบวิหาร Pathenon ของกรีซ เพื่อระลึกถึงทหารที่ทำสงครามกับนโปเลียน แต่ทำสร้้างไม่สำเร็จเพราะมีปัญหาในเรื่องเงินบริจาค







Nelson Monument อนุเสาวรีย์นายพลเนลสัน ในสงครามนโปเลียน ที่ตราฟัลการ์ (Trafalgar ) นายพลเนลสันได้พาอังกฤษไปรบ มีข่าวส่งมาจากลอนดอนให้ยกทัพกลับ แต่นายพลเนลสัน เป็นคนที่ดื้อรั้นมาก แต่ท่านยกกล้องขึ้นมาส่องจากในตาในข้างที่บอดแล้วบอกว่าไม่เห็นอะไรที่มัน่ากลัว และจะต้องเอาชนะนโปเลียนให้ได้ สุดท้ายท่านก็จบชีวิตโดยโดนกระสุนยิงตัดขั้วหัวใจ และคนอังกฤษก็สดุดีในความกล้าหาญของท่าน จึงสร้างอนุเสาวรีย์ให้ท่านเป็นรูปคล้ายกล้องส่องทางไกลที่ท่านใช้ส่อง







Arthur Seat เป็นหน้าผาทรงแบน เหมือนพระที่นังพระเจ้าอาเธอร์ แห่งอังกฤษ



เมืองสก็อตแลนด์แบ่งเป็นส่วนของ Old Town เมืองเก่าและ New  Town เมืองใหม่ (New Town) ที่สร้างขึ้นในภายหลังเพื่อรองรับประชากรที่ขยายตัวมากขึ้น





ข้างบนมีปืนใหญ่ด้วย







 Dugald Stewart Monument เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อรำลึกถึงนักวิชาการ นักปรัชญา คนหนึ่งในศตวรรษที่ 18-19








พวกเราลงจาก Calton Hill และเดินทางไปยังปราสาทเอดินเบอระ



ปราสาทแห่งเอดินเเบอระ (Edinburgh Castle)ตั้งอยู่บนเขาหินภูเขาไฟที่ปะทุขึ้นเมื่อประมาณ 350 ล้านปีที่ผ่านมา บนแผ่นหินที่เรียกว่า Castle Rock ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองเอดินเบิร์ก สร้างขึ้นโดยเดวิด ที่ 1 เมือ่ศตวรรษที่ 12 เคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์สก็อตหลายต่อหลายพระองค์ เคยถูกทำลายลงหลายครั้งแต่ทุกครั้งก็ได้รับการบูรณะและสร้างใหม่ให้กลับคืนสู่ความสง่างามดังเดิม ปราสาทเอดินเบอระ ยังใช้เป็นสถานที่เปิดตัวของหนังสือเรื่องแฮรี่ พอตเตอร์ เนื่องจากมีลักษณะใกล้เคียงฉากเมืองแม่มดในท้องเรื่อง









ด้านหน้าปราสาทมีรูปปั้นสองวีรบุรุษผู้ปกป้องแผ่นดินสก็อตแลนด์เป็นผู้เฝ้าประตูอยู่ ชื่อพวกเขาคือ William Wallace (ขวา) และ Robert Bruce  (ซ้าย )พวกเขาทั้งสองต่างต่อสู้กับการรุกรานของชาวอังกฤษและการต่อสู้เพื่อรักษาเอกราชของชนชาติสก็อตเอาไว้  เขาถูกพระเจ้าเอ็ดเวิ์ดที่ 1 กลาวหาว่าเป็นกบฐต่ออังกฤษ เขาตัดหัวและแบ่งตัวเป็น4 ส่วนและนำไปเสียบประจานแยกเป็นส่วนๆ และมีส่วนหนึ่งนำศีรษะไปเสียบไว้ที่สะพานลอนดอน เพื่อเป็นตัวอย่างเพื่อไม่ให้ใครแยกตัวออกจากอังกฤษอีกต่อไป



แต่ความตายของวอลเลซได้จุดประกายความกล้าในหมู่ชาวสก็อตและนำไปสู่การลุกฮืออีกครั้งและอีก 9 ปีต่อมา โรเบิร์ต เดอะ บรูซ ได้นำทัพชาวสก็อตเข้ารบกับทัพอังกฤษที่แบนนอคเบิร์นและได้รับชัยชนะ ทำให้สก็อตแลนด์ได้เป็นเอกราช จากนั้นโรเบิร์ต บรูซได้ขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งสก็อตแลนด์


และนำได้นำประวัติของ William Wallace นำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์เรื่อง brave heart  โดยเมล กิ๊บสัน รับบทเป็น William Wallace





การเดินผ่านประตูปราสาท จะมีทั้งหมด 7 ประตู ทางเดินปราสาทจะเป็นวงกลม เดินไม่ยาก



จากประตูปราสาทมองเห็น Scott Monument







ตัวปราสาทและกำแพงเป็นหิน...เขาบอกว่าหลังสงครามนโปเลียนมีการนำเชลยสงครามชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ที่เรียงหินเหล่านี้





Scottish National War Memorial เป็นห้องที่เก็บ Coat of arms เป็ที่เก็บตราสัญญลักษณ์ของอัศวิน ที่ร่วมรบในสงครามนโปเลียนกับฝรั่งเศส เขาห้ามถ่ายรูปด้านใน





ด้านหน้าประตูทางเข้ามีรูปปั้นหินสิงโตและยูนิคอน

สิงโตเป็นตัวแทนของกษัตริย์อังกฤษ ส่วนตัวยูนิคอนคือสก็อตแลนด์ถือว่าเป็นสัตว์ของเทพเจ้า





ถัดออกมาอีกอาคาร Royal Hall เป็นที่เก็บเครื่องราชกกุธภัณฑ์ อาคารนี้เขาห้ามถ่ายรูปด้านใน



ภายในมีห้องต่างๆ เช่นห้องเก็บเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ห้องประสูติของกษัตริย์เจมส์ที่ 1 ของอังกฤษและกษัตริย์เจมส์ที่ 6 ของสก็อตในยุคนั้นเรียก  The Union of the Crowns  มีกษัตริย์องค์เดียวครอง 2 ประเทศ ซึ่งพระองค์เป็นพระโอรสในเฮนรี่ สจ้วดลอร์ดแห่งดานเลย์ และสมเด็จพระราชินีนาถแมรี่ที่ 1 ของสก็อตแลนด์ (Mary Stuart) ซึ่งเป็นห้องเล็กๆในอาคารหลังนี้





บนอาคารมีป้ายติดสัญญลักษณ์ของเครื่องราชกกุธภัณฑ์ และตัวอักษร ER

  E มาจาก ควีน Elizabeth  R มาจาก  Regina มาจากภาษาลาติน แปลว่าราชินี เราจะเห็นสัญญลักษณ์ ER จากหลายๆที่





ชาวสก็อตแลนด์มีความภาคภูมิใจมากที่เก็บซ่อน เครื่องราชกกุธภัณฑ์ 3 สิ่งได้แก่ ดาบ คทา มงกุฎ ซึ่งเป็นของที่เก่าแก่ที่สุดจากโอลิเวอร์ ครอมเวลล์ ( Oliver Cromwell ) ผู้ที่เปลี่ยนแปลงการปกครองของอังกฤษเป็นแบบสาธารณรัฐ และเครื่องราชราชกกุธภัณฑ์ 3 สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ใช้ประกอบพิธีราชาภิเษก



นอกจากเเครื่องราชราชกกุธภัณฑ์ 3 สิ่งแล้วจะเห็น stone of destiny  ก้อนหินนี้ ถ้าเกิดอังกฤษมีการขึ้นครองราชของกษัตริย์องค์ใหม่ จะต้องเอาก้อนหินนี้ไปวางที่ใต้บังลังก์ ของกษัตริย์องค์ใหม่นั่ง เพื่อจะย้ำเตือนว่าสก็อตแลนด์ยังเป็นของอังกฤษต่อไป







ตราสัญญลักษณ์สก็อตแลนด์ มีสิงห์โต ม้ายูนิคอน และดอกทิสเทิล (Thistle) ดอกไม้ประจำชาติสก็อตแลนด์ เหมือนดอกสัปปะรด มีเรื่องเล่าว่า ในศตวรรษที่ 13 ชาวไวกิ้งย่องเข้ามายึดครองอังกฤษและสก็อตแลนด์ พอมาถึงฝั่งสก็อตแลนด์ พวกเขาค่อยๆย่องเข้ามาตอนกลางคืน และดอกชนิดนี้ขึ้นตามชายหาด ชาวไวกิ้งจึงเหยียบดอกนี้ซึ่งมันมีหนามแหลมคมมาก ทำให้ชาวสก็อตรู้ว่ามีชาวไวกิ้งบุกมา และดอกทิสเทิลนี้ช่วยให้พวกเขารอดจากการรุกรานของชาวไวกิ้ง ชาวสก็อตแลนด์จึงนำดอกนี้มาเป็นสัญญลักษณ์ของประเทศ





ห้องรับรองทูตและแขกเมือง หรือ Great Hall

ห้องนี้ใช้จัดงานเลี้ยงและงานพิธีมาจนถึงปัจจุบัน



ด้านในแสดงชุดเกราะ ดาบและอาวุธของอัศวิน



จากนั้นพวกเราก็ขึ้นไปชมปราสาทด้านบน



มองลงมาเห็นฝั่ง New Town







ลงมาข้างล่างถ่ายรูปกับปืนใหญ่บ้าง  ปืนใหญ่่อายุกว่า 200 ปี ทุกบ่ายโมงของทุกวันจะมีการยิง one o' clock gun ยกเว้นวันอาทิตย์









หลังจากชมวิวถ่ายรุปกันประมาณ 1 ชั่วโมง พวกเราก็ออกจากปราสาทกัน



บริเวณลานหน้าปราสาทมีรถขายกาแฟ พวกเราจิบกาแฟร้อนๆคลายความหนาวกัน



Statue of Frederick Duke of York and Albany ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าปราสาท



เดินจนเหนื่อยแล้ว พวกเราก็ไปรับประทาอาหารเที่ยงกัน..ื้อนี้เป็นอาหารจีน



พวกเรามีเวลาเหลือจึงไปเดิน shopping กันที่ถนน Princes Street



จากปราสาท เอดิเบอระ เดินลงมาจะมีสวนสาธารณะ Princes Street Garden





ตรงข้ามสวนสาธารณะจะเป็นถนน Princes Street มีร้านค้ามากมาย มีทั้งZara, North face, Superdry, River Island ,Prima, Mask And Spensor แยะแยะหลากหลายไปหมด





ร้านค้าเยอะจนเวลา 2 ชั่วโมงที่เดินเล่นแทบไม่พอ



เราเดินมาจุดนัดพบบริเวณห้าง Jenners (ห้างเก่าแก่ของเมือง)ก็เห็น Scott Monument ศิลปะสไตล์ Gothic ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ Sir Walter Scott นักเขียนที่มีชื่อเสียงของ Scotland  อนุสรณ์สูงเสียดฟ้า ที่เขาสร้างสูงๆเพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกับพระเจ้า







หลังจากนั้นพวกเราก็ต้องเดินทางต่อไปยังเมืองแคร์นไรอัน ( Caimryan ) ซึ่งเป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆของสก็อตแลนด์ชายฝั่งตะวันออก เพื่อขึ้นเรือเฟอรี่ ข้ามไปไอร์แลนด์เหนือ ( Northern Island)



ใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมงในการเดินทางไปยังเมือง แคร์นไรอัน



เรือล่องสู่เมืองเบลฟาสต์ ( Belfast )ใช้เวลาเดินทาง 2.15 ชั่วโมง



เรารับประทานอาหารบนเรือ เมนูที่ต้องลองทานคือ fish&chip...อร่อยดีคะ



กิจกรรมบนเรือ นอกจากนั่งๆนอนๆแล้วมี เกมส์, โรงภาพยนตร์, และถ้าอยาก shopping ต่อก็มีร้านปลอดภาษีให้ shopping  ด้วยคะ



ตอนต่อไป ไอร์แลนด์เหนือ Carrick-a-Rope







Create Date : 22 มกราคม 2562
Last Update : 24 มกราคม 2562 2:13:23 น. 3 comments
Counter : 997 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณKavanich96


 
โหยยย โหวตให้อย่างเต็มใจมากๆ เลยค่ะ

ได้ความรู้มากๆ เลย ทำเอาอยากไปมั่ง

ทั้ง ER ทั้งดอกทิสเทิล แล้วก็ได้เห็นวิลเลียม วอลเลซแล้วววว จากที่ได้ดูหนังมานาน

ขอบคุณรีวิวดีๆ นะคะ

โหวตให้ด้วยความเต็มใจอย่างยิ่ง

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
Chocolate Raizin Movie Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
เกศสุริยง Education Blog ดู Blog
goffymew Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 22 มกราคม 2562 เวลา:10:48:11 น.  

 
ขอบคุณมากคะ


โดย: goffymew (goffymew ) วันที่: 24 มกราคม 2562 เวลา:2:08:03 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 24 มกราคม 2562 เวลา:2:27:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

goffymew
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




Flag Counter Welcome to Goffymew Blog
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add goffymew's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.