สงกรานต์ 52 เที่ยวยุโรป 6 ประเทศ ( ปราสาทไฮเดลเบิร์ก - เยอรมัน )







 
 
เยอรมัน

วันที่ 14 เมษายน 2552

หลังจากรับประทานอาหารเช้าแล้ว เราก็เดินเล่นรอบโรงแรมเพื่อเก็บรูปแม่น้ำเนคค่า (Neckar)ที่อยู่หลังโรงแรม

 
แม่น้ำเนคค่า



แม่น้ำเนคค่ายามเช้าบริเวณหลังโรงแรมที่เราพัก เมื่อเวลา 07.30 น

เดินทางเพื่อไปสู่ประสาทไฮเดลเบิร์ก

ปราสาทไฮเดลเบิร์ก อยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำเนคค่า สร้างด้วยหินทรายสีแดง โดยเจ้าชายเอเล็กเตอร์ รูเปรคท์ ที่ 3 (Elector Ruprecht III, 1398 - 1410) ได้มีการพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สมัยโกธิกในศตวรรษที่ 14 จนถึงสไตล์บารอก ปราสาทมีอายุ 900 ปี ด้วยผู้ครองเมืองแต่ละคนที่ขึ้นมามีอำนาจปกครองในตำแหน่ง Palatinate และได้มาอยู่อาศัยก็ต่างพยายามสร้างปราสาทย่อยๆเพิ่มเติมตามศิลปะที่ใหม่ล่าสุดในยุคนั้นๆเพื่ออวดอำนาจจารึกไว้

ปราสาทไฮเดลเบิร์กถูกทำลายตอนที่ฝรั่งเศลยึดเมืองได้ แล้วกษัตริย์ฝรั่งเศสในสมัยนั้นให้นำดินปืนมาจุดระเบิดเสียแม้กระทั่งป้อมที่หนาที่สุดนั้นก็ยังถูกทำลายเสียจนร้าวไปครึ่ง ปัจจุบันตัวปราสาทได้รับการอนุรักษ์ไว้ให้เป็นมรดกของเมือง

 
ปราสาทไฮเดลเบิร์ก




ทางเข้าประตูคืนเดียว หรือ Elizabeth Gate มีชื่อเสียงในด้าน "พลังแห่งความรัก" Prince Elector Frederic V มีบัญชาให้สร้างให้เสร็จภายในคืนเดียว เพื่อเป็นของขวัญวันเกิด Princess Elizabeth Stuart ผู้เป็นภรรยา

เมื่อมองไปรอบๆจะเห็นปราสาทอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์นัก เนื่องจากถูกการทำลายจากสงครามโลก

 
ปราสาทไฮเดนเบิร์ก


 
ปราสาทไฮเดลเบิร์ก



พวกเราเดินเข้าไปในอาคารเพื่อชมถังเบียร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ถังเบียร์ยักษ์ สร้างขึ้นเมื่อค.ศ 1751 ถังไวน์ยักษ์นี้ทำจากไม้โอ๊คจำนวนมากถึง 130 ต้น มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 8.5 เมตรและสูง 7 เมตร และบรรจุเบียร์ได้ถึง 220.017 ลิตร แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นกับถังยักษ์นี้คือการที่มันรั่วและต้องซ่อมแซมกันหลายครั้ง ในที่สุดก็เลิกใช้งานไป แต่เก็บรักษาไว้ให้นักท่องเที่ยวมาชม

 
ถังเบียร์ใหญ่ที่สุดในโลก




บริเวณด้านข้างมีบันไดวน พวกเรากุรีกุจอกันถ่ายภาพกับเจ้าถังเบียร์นี้ นอกจากถังเบียร์อันนี้แล้วยังมีถังเบียร์ขนาดเล็กลงมาอีก

จากนั้นพวกเราเดินต่อไปเพื่อไปยังระเบียงปราสาท

เมื่อมองจากระเบียงปราสาทออกไปจะเห็นวิวเมืองไฮเดลเบิร์ก แม่น้ำเนคการ์ และ สะพาน Karl-Theodor-Heuss Bruecke ที่เราชมเมื่อวานนี้

 
จุดชมวิว



ปราสาทประดับด้วยรูปปั้นของเหล่านักบุญชาวเยอรมัน และเทพเจ้าชาวโรมัน

 
ปราสาทไฮเดลเบิร์ก


 
รูปปั้นเทพเจ้าชาวโรมัน



พวกเราเดินออกมาจากปราสาท และแวะบริเวณนี้เพื่อเข้าห้องน้ำ ค่าบริการคนละ 0.40 ยูโร

 
ปราสาทไฮเดลเบิร์ก



โปรแกรมต่อไปที่ล่องเรือแม่น้ำไรน์ เนื่องจากรถติดมาก ทำให้เวลาคลาดเคลื่อนดังนั้น พวกเราจึงต้องไปขึ้นเรือที่เมืองบ๊อบพาร์ด

โดยทางทัวร์เลือกบ๊อบพาร์ค- เซ็นเกอร์ เพราะเป็นช่วงที่งดงามที่สุด เพราะเป็นช่วงที่แม่น้ำแคบและคดเคี้ยวไปมาในหุบเขา ที่มีสถาปัตย์ที่งดงามและไร่องุ่น

 
ท่าเรือ



พวกเรามาขึนเรือที่ท่าเรือเพื่อลงเรือชมแม่น้ำไรน์

เรือลำนี้พาพวกเรานั่งชมความงาม เป็นเรือ 2 ชั้นมีด้านในและนอก แต่ด้านนอกลมและแดดจะแรงเราก็สู้เพราะอยากเห็นธรรมชาติที่สวยงาม

 
เรือล่องแม่น้ำไรน์



แม่น้ำไรน์เป็นแม่น้ำที่ยาวและสำคัญที่สุดในทวีปยุโรป ยาวทั้งสิ้น 1,320 กิโลเมตร มีต้นน้ำอยู่ที่เทือกเขาแอลป์ทางตอนใต้ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ไหลผ่านประเทศสวิตเซอร์แลนด์ขึ้นไปทางเหนือ จนถึงพรมแดนระหว่างฝรั่งเศสกับเยอรมนีแล้วไหลต่อเข้าไปในประเทศเยอรมนีและประเทศเนเธอร์แลนด์ ไปออกทะเลเหนือ

 
วิวแม่น้ำไรน์



ผ่านบ้านเรือนรูปทรงน่ารักทรงเยอรมัน แต่วันนี้หมอกลงทำให้ทัศนียภาพไม่ค่อยชัดเท่าไหร่

เรือแล่นไปเรื่อยๆสักพักหมอกก็เริ่มจางลงพอจะถ่ายรูปได้ แต่อากาศเย็นมากเลย แต่เราก็ชมวิวที่ดาดฟ้าเรือเช่นเดิม ผ่านเนินเขาที่เลียงรายไปด้วยปราสาทเก่าแก่คลาสสิคบนยอดเขาและบ้านเรือนสมัยโบราณที่แสนงดงามราวกับเป็นเมืองในเทพนิยาย

 
วิวแม่น้ำไรน์



ชมซากปราสาทโบราณที่สร้างขึ้นในสมัยยุคขุนนางศักดินาและถูกปล่อยทั้งให้รกร้าง บางส่วนถูกทำลายในสงครามหลายๆ ครั้ง บางส่วนเป็นโรงแรมหรือพิพิธภัณฑ์
พวกเรานั่งเรือชมความงามของบ้านเรือนและปราสาทประมาณ 1 ชั่วโมง

 
ปราสาทเก่า



เรือมาชึ้นท่าที่เมืองเซ้นท์กอร์ จากนั้นพวกเราก็เห็นต้น cherry blossom เราก็รีบกระโจนเข้าใส่อีก

เมืองเกอร์เทอร์ เป็นศูนย์กลางการผลิตไวน์ที่ใหญ่ที่สุดและเป็นเมืองที่จัดงานเทศกาลการจุดพลุประจำปีริมฝั่งบนแม่น้ำไรน์

 
cheery blossom



พวกเรารับประทานอาหารกลางวันที่เมืองนี้ที่เวลา 13.30 น. รับประทานอาหารฝรั่งเมนูนี้เป็นสเต็กปลาแซลมอน และไอศครีม จากนั้นเราก็ไปดูร้านขายของที่ระลึก และเดินทางต่อไปยังเมืองโคโลญ

โคโลญ เป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ของเยอรมันและเป็นต้นกำเนิดน้ำหอม 4711 ในเมืองมีมหาวิหารโคโลญ

มหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral หรือ Kolner Dom) สร้างสำเร็จพร้อมกับมีพีธีวางหลักหินบันทึกข้อมูลการก่อสร้าง (foundation stone) โดยเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 1791 แต่มีปัญหาให้ต้องหยุดพักการก่อสร้างไปบ้าง จึงต้องใช้เวลากว่าหกร้อยปีจึงสร้างเสร็จสมบูรณ์ มหาวิหารโคโลญเป็นศาสนสถานของคริสต์ศาสนาโรมันคาทอลิก นับเป็นวิหารที่ใหญ่และสูงที่สุดในโลกในสมัยนั้น (แม้ปัจจุบันก็ยังติดอันดับต้น ๆ) ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบโกธิก (Gothic) เป็นหอคอยแฝดสูง 157 เมตร กว้าง 86 เมตร ยาว 144 เมตร สร้างเพื่ออุทิศให้ นักบุญปีเตอร์ (Saint Peter) และ พระแม่มารี (Blessed Virgin Mary) ปัจจุบันมหาวิหารโคโลญนับจุดหมายสำคัญของเมืองโคโลญและประเทศเยอรมนี และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี 2536

มหาวิหารโคโลญ



เป็นมหาวิหารที่ยิ่งใหญ่จริงๆ

รูปปั้นนักบุญและพระแม่มารีอยู่ด้านนอกวิหาร

 
มหาวิหารโคโลญ



บริเวณด้านนอกวิหารมีรูปปั้นแบบต่างๆ

 
รูปปั้น



ด้านในวิหารดูยิ่งใหญ่มาก มีการตกแต่งด้วยกระจกสี

มหาวิหารโคโลญ



ข้างในมีรูปปั้นทางคริสต์ศาสนามากมาย

มหาวิหารโคโลญ




ที่นี่มีเทียนให้จุดเพื่อขอพรพระเยชู และเราก็หยอดเหรียญใส่กล่องข้างๆเพื่อทำบุญได้ด้วย

 
จุดเทียน



มีเวลาเล็กน้อยพวกเราจึงเดินเล่นข้างๆโรงแรม

รอบๆวิหารมีร้านค้าจำหน่ายสินค้ามากมาย เช่น น้ำหอม 4711 , louis vuitton , lacose, มีด- กรรไกร ตราตุ๊กตาคู่ และร้านขายของที่ระลึก เราซื้อชุดกรรไกรตัดเล็บตราตุ๊กตาคู่ พวงกุญแจ และ แม่เหล็กติดตู้เย็นรูปนาฬิกากุ๊กกู

บริเวณรอบวิหาร




จากนั้นพวกเราก็เดินทางไปยังเมือง Duesseldorf เพื่อพักผ่อน

Renaissance Duesseldorf Hotel




โรงแรมไม่มีที่ shpping เลย และร้านที่เมืองนี้ปิด 18.00 น. ดังนั้น เราจึงไปพักผ่อนดีกว่าพักผ่อนดีกว่า


 



Create Date : 05 พฤษภาคม 2552
Last Update : 24 กรกฎาคม 2562 22:19:32 น. 1 comments
Counter : 3246 Pageviews.

 
น่าไปเที่ยวเนอะ


โดย: ปลาย IP: 125.26.230.62 วันที่: 26 มิถุนายน 2554 เวลา:15:22:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

goffymew
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




Flag Counter Welcome to Goffymew Blog
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add goffymew's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.