ฮวงจุ้ยกับความเชื่อ ตอน การตั้งหิ้งพระ
การจัดตั้งหิ้งพระที่ถูกต้อง และการเชิญพระเข้าบ้าน

  • การจัดตั้งหิ้งพระหรือหิ้งเทพ ควรหันหน้าพระประธานไปทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ (ทิศอิสาน เรียกว่า "ทิศเศรษฐี") หรือ ทิศตะวันออก หรือ ทิศเหนือ เป็นที่นิยมมาก เมื่อเราหันหน้าไปหาพระประธาน ด้านซ้ายมือของเราหรือเท่ากับด้านขวามือของพระพุทธรูปที่เป็นพระประธานควรจัดตั้งด้วยองค์พระสงฆ์ เช่น รูปปั้นของหลวงปู่แหวน รูปหลวงพ่อคูณ ส่วนทางด้านซ้ายขององค์พระประธานหรือขวามือของเรา ควรจะเป็นการตั้งรูปแบบของ องค์เทพต่างๆ ที่เราเคารพสักการะบูชา เช่น รูปของ องค์พระศิวะ องค์พระนารายณ์ องค์จตุคามรามเทพ และ องค์พระพรหมรูปพ่อแก่ฤาษี เป็นต้น

ควรตั้งให้องค์พระประธานดูสูงกว่ารูปขององค์เทพต่างๆ ถ้าหากว่าองค์พระประธานมีขนาดเล็กกว่าองค์เทพ ก็ควรจัดหาโต๊ะที่ตั้งแล้วมองดูสูงกว่าฐานที่ตั้งเทพ บ้านเรือนหลังนั้นก็จะเจริญรุ่งเรืองอยู่เย็นเป็นสุข

  • ไม่ควรหันหน้าพระประธานตรงกับแสงพระอาทิตย์ที่ส่องเข้ามา (ทิศตะวันออก) ไม่ให้หันหน้าสู่ตะวันตก ถ้าหากมีตำราพระธรรมให้ตั้งทางขวาของพระพุทธหรือพระประธาน

    การอัญเชิญพระเข้าบ้าน

    นิยมหาฤกษ์ดี วันพุธ วันพฤหัส หรือก็วันศุกร์ ฤกษ์ดี มักเป็นเวลา 9:09, 9:19 หรือ 9:29 หรือบางคนจะเริ่มเช้าตรู่เลยก็ได้ หรือก็หาฤกษ์สะดวกแล้วแต่ แต่ห้ามเชิญพระหลังเพลเด็ดขาด เมื่อได้ฤกษ์ ให้เจ้าบ้านอุ้มอัญเชิญพระประธานเข้าประตูบ้านแล้วตั้งไว้บนหิ้งพระที่เตรียมไว้ นำเครื่องบูชา ขันห้า มาถวายหน้าพระประธานแล้วจุดธูป บูชาพระและขอพรให้ท่านปกป้องคุ้มครองให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุขแคล้วคราดปลอดภัย

    ขันห้าถวายพระ

    เทียน ห้าเล่ม
    ธูป ห้าดอก
    เหรียญบาท ห้าเหรียญ
    ดอกไม้ห้าดอก
    ผลไม้ห้าอย่าง รวมในหนึ่งจานเล็ก จะอย่างละลูกก็ได้ หรือจะใช้เป็นเมล็ดพันธุ์ห้าชนิดก็ได้ จะได้มีแต่ความงอกงาม ถ้าเป็นคู่รักก็ใช้น้ำตาล ชีวิตคู่จะได้หวานชื่น

    วางขันห้าไว้หน้าพระพุทธแล้วจุดธูปบูชาต่างหากสามดอกอย่าใช้ธูปในขันห้านั้น เท่านี้ก็เสร็จพิธี ตั้งทิ้งไว้ทั้งวัน บางคนก็ทิ้งไว้ สามหรือเจ็ดวันก็ได้



Create Date : 14 มีนาคม 2551
Last Update : 3 เมษายน 2551 2:15:29 น.
Counter : 931 Pageviews.

0 comment
ผนังบ้าน กับ เรื่องของ สี
สี นี้ สำคัญไฉน

  • สีทาผนังบ้าน

    สำหรับผนังปูน ก็จะนิยมใช้สีน้ำพลาสติกที่มีส่วนผสมของอะคลีลิค 100% หรือที่เราเรียกกันว่า สีน้ำอะคลีลิค นั่นเอง มีทั้งชนิด ด้าน และแบบ กึ่งเงา

    สีด้าน จะดูสะอาด กระจ่างแต่ไม่กระจายแสง สีนวลใสแต่จะสกปรกง่าย

    สีกึ่งเงา จะดูนวลเมื่อโดนแสงไฟหรือแสงแดด เช้ดทำความสะอาดได้ เงาเล็กน้อย ลูบดูจะลื่นมือ ฝุ่นจะไม่ค่อยจับผนัง

    การทาสีผนังต้องมีการเตรียมพื้นผิวดังนี้

    ลอก ขูด หรือขัดทำความสะอาดสีเก่าออกให้หมดด่อน ใช้กระดาษทรายบางขัดเบาๆ แล้วปัดฝุ่นออกให้หมด บางทีก็สามารใช้น้ำฉีดได้

    ทาสีรองพื้นปูนเก่า สำหรับบ้านที่สร้างมานานกว่าห้าปี สีรองพื้นปูนเก่าจะออกใสๆ ทารองพื้นรอบหรือสองรอบแล้วแต่พื้นผิว

    ทาสีรองพื้นปูนใหม่ สำหรับบ้านที่สร้างมาไม่ถึงห้าปี สีรองพื้นปูนใหม่จะออกสีขาว

    ทาสีจริงอย่างน้อยสองรอบแล้วทิ้งไว้ให้แห้ง

สำหรับผนังไม้หรือส่วนที่สร้างจากไม้ ถ้าจะให้ทนทานรักษาง่ายก็มักทาด้วยสีน้ำมัน หรือเป็นสีทาไม้โดยตรง ซึ่งจะทาด้วยสีย้อมไม้ตามชอบก่อนแล้วจึงทาสีเคลือบเนื้อไม้อีกที สีทาไม้จะมีส่วนผสมที่จะรักษาเนื้อไม้ให้ปราศจาก ปลวก กันความชื้นและกันเชื้อรา

วิธีการทาสีไม้ ก็เริ่มจากการขัดเอาสีเก่าออกให้หมดแล้วทาสีย้อมไม้สองรอบ จากนั้นทาสีเคลือบทับให้เงาและเป็นการป้องกันเนื้อไม้ด้วย

  • สำหรับส่วนที่ทำด้วยเหล็ก จะใช้สีน้ำมันทา อันนี้ต้องทารองพื้นด้วยสีกันสนิมก่อนแล้วทาสีจริงตามชอบ

    วิธีทาสีเหล็กประตูหรือเหล็กดัด ก็ เริ่มจากการลอกสีเก่าออก ให้ใช้น้ำยาลอกสีเหล็ก หลังจากลอกสีแล้วให้ขัดส่วนที่เป็นสนิมออกให้หมดก่อน ล้างทำความสะอาดตากให้แห้ง จากนั้นก็ทาสีรองพื้นกันสนิม หรือถ้าสีที่ใช้มีส่วนผสมกันสนิมอยู่แล้วก็ไม่ต้องทาสีกันสนิมแต่ทาสีจริงได้เลย ทาอย่างน้อยสองรอบแล้วทิ้งไว้มากกว่า24 ชั่วโมงเพราะสีน้ำมันจะแห้งยากและมีกลิ่นเหม็นมาก

    อ้อ รอยร้าวต่างๆ ที่ไม่ได้มาจากโครงสร้างจะต้องทำการเซาะให้รอยแตกนั้นกว้างและลึกประมาณ 1 cm แล้วใช้อะคลีลิคอุดรอยร้าว จะออกเป็นหลอดที่เป็นครีมสีขาว บีบอุดรอยที่เซาะแล้วลูบให้เรียบไปตามแนวผนัง จากนั้นทิ้งไว้ให้แห้งสนิทแล้วจึงทาสีรองพื้นทับแล้วทาสีจริง เท่านี้รอยร้าวก็ถูกปกปิดแล้ว สีบางชนิดอาจช่วยปกปิดได้แต่ก็จะไม่มิดถ้าไม่มีการอุดฉาบเสียก่อน ถ้าฉาบทับอย่างเดียวหลังทาสีทับก็จะเห็นร่องรอย ฉะนั้นทำการอุดรอยร้าวก่อนทาสีจะได้ผลที่สุด

    สีที่มีคุณภาพและเป็นที่นิยมรวมทั้งราคาสมกับคุณภาพของสี ได้แก่

    TOA : TOA 7 in ONE, Super Shield Duraclean, Super Shield
    Captain : Parashield Studio Acrylic Semi-Gloss, Longlife
    ICI : Dulux



Create Date : 14 มีนาคม 2551
Last Update : 3 เมษายน 2551 2:15:49 น.
Counter : 554 Pageviews.

2 comment
ฮวงจุ้ยกับความเชื่อ ตอน การตั้งตี่จูเอี๊ย
ตี่จู้ ตี่จู่เอี๊ย ( ศาลเจ้าที่แบบจีน ) ตามหลักฮวงจุ้ย

ตี่จู้ เจ้าที่จีน เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ิ์ที่คนจีนในไทยนิยมตั้ง เพื่อให้เกียรติและแสงดความเคารพต่อ เจ้าที่ การตั้ง ตี่จูเอี้ย ศาลเจ้าที่จีน จะต้องพิจารณา 4 องค์ประกอบดังนี้

ชัยภูมิ - ตี่ลี่

ตี่แปลว่าดิน จู้แปลว่าเจ้า ดังนั้น ตี่จู้ ต้องติดดินจึงจะมีพลัง
หากยกฐาน ฐานนั้นต้องเป็นดินหรือหินและทึบตัน
ตี่จู่เอี๊ยะ ตั้งได้เฉพาะชั้นล่าง คอนโดที่สูงกว่าชั้นหนึ่งไม่ต้องตั้ง ชั้นดาดฟ้าไม่มีความหมาย

  • ศาลพระภูมิ คือ เจ้าที่ ( ภูมิ - ดิน ) มีความหมายและการปฏิบัติเช่นเดียวกัน พระภูมิ ต้องอยู่ติดดิน
ศาลพระพรหม ( มาจากสวรรค์ ) สามารถตั้งบนดาดฟ้าได้

ด้านหลัง ตี่จู้เอี้ย ควรเป็นที่นิ่ง
ไม่ควรเป็นบันได ห้องน้ำ ประตู ห้องครัวโดยเฉพาะตรงกับ เตาไฟ

ด้านหน้า ตี่จูเอี๊ย ควรเป็นที่โล่ง ( เหม่งตึ๊ง ) ไว้รองรับ ( โชคลาภบารมี )

หากตั้งอยู่ลึกเกินกว่า 8 เมตรเมื่อนับจากประตู ควรยกสูงขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ ตี่จู้ สามารถมองมาเห็นด้านหน้าได้สะดวกขึ้น

การยกฐานขึ้น ต้องเผื่อพื้นที่ด้านหน้าสำหรับเป็น เหม่งตึ๊งด้วย
( ลานที่ว่างด้านหน้า เพื่อรับโชคลาภ ขนาดประมาณวางจานของไหว้ได้ )

หากพื้นของ ศาลเจ้าที่ ต่ำกว่าถนน ให้ยกฐานขึ้นจนสูงเท่ากับถนน และเผื่อพื้นที่ด้านหน้า

หากวาง ตี่จูเอี้ย ลงในตู้โชว์ จะต้องมีพื้นที่ด้านข้างขอบซ้ายขวาและด้านบน ตี่จู้
หากขนาด ตี่จูเอี้ย ใหญ่ก็เว้นที่มากหน่อย

ด้านใต้ ตี่จู้เอี๊ย ไม่จำเป็นต้องใส่สิ่งใด
เพราะหากใส่เหรียญ อันมีพระบรมฉายาลักษณ์ของ พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นผู้ยิ่งใหญ่สุดในแผ่นดินสยาม ไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดกล้ามาอาศัยอยู่ หรือการใส่เมล็ดพันธุ์พืช หากมีการเจริญเติบโตก็จะกลายเป็นทิ่มแทง

ดังนั้นดีที่สุด คือฐานที่เรียบ ทำจากดินหรือหิน ( หินอ่อน/แกรนิต ) ทึบตันคือมั่นคง แต่ในบางกรณีที่นิยมใส่ แผ่นเงินแผ่นทอง เพชรนิลจินดา ซึ่งเป็นธาตุดิน ถือว่าใช้ได้ ขนาดที่ใช้ ให้เป็นไปตามความเหมาะสมของพื้นที่
ใหญ่เกินไปก็อึดอัด - เล็กเกินไปก็ไม่เหมาะสม ขาดบารมี

กรณีที่ ตี่จู่เอี๊ยะ พิงบันได ( เคลื่อนไหว )
สามารถแก้ไขได้โดยซื้อแผ่นหินแปะติดบันไดหลายแผ่น
( ประมาณ 3 - 5 แผ่น ) ลดหลั่นลงมา โดยแผ่นเล็กสุดอยู่หน้าสุดควรมีขนาดใหญ่กว่า ตี่จูเอี๊ย อย่างน้อยข้างละ 1 นิ้ว ( ด้านบน ซ้ายและขวา ) เปรียบเสมือนภูเขาคือมั่นคง แล้วจึงเชิญ ตี่จู้ วางไว้ด้านหน้าแผ่นหินนั้น


ตี่จู่เอี้ย สามารถวางไว้ด้านข้างซ้ายหรือขวาของบ้านก็ได้ โดยวิเคราะห์ร่วมกับ ดาว 9 ยุค

ตี่จู่เอี๊ย ไม่จำเป็นต้องเป็นสีแดงเสมอไป (ที่ใช้สีแดงเพราะตามความนิยมสืบต่อกันมา )

ศาลเจ้าที่หินอ่อน
ตี่จู้ สามารถทำมาจากวัสดุอื่นได้ เช่น หินอ่อน ซึ่งสอดคล้องกับธาตุดิน ( คือ ตี่จู้ )
บ้านสมัยใหม่ี่นิยมตั้ง ตี่จู้ เป็นหินอ่่อน


บ้านเรือนทั่วไปตั้ง ตี่จู้เอี้ย อย่างเดียวก็เพียงพอ (เหมือนเป็นผู้ใหญ่บ้าน )
ปึงเถ่ากง เหมาะกับการตั้งบ้านเรือนขนาดใหญ่มากหรือโรงงาน ( ผู้ว่า )
ตั้งมากเกินไปบ้านจะดูเป็น โรงเจ ศาลเจ้า

ทิศทาง - ดาว 9 ยุค
ตี่จู่เอี๊ย ควรตั้งในตำแหน่งลาภวิบัติ ลาภเสื่อม ( ทำให้สิ่งเลวร้ายนิ่งหรือหมดไป )
หรือตั้งตำแหน่ง บารมีประจำยุค บารมีหนุน บารมีรอ ( เสริมบารมี )

ห้ามตั้ง ตี่จูเอี้ย ในตำแหน่ง ลาภประจำยุค ลาภหนุน บารมีวิบัติ บารมีเสื่อม

หากเป็นทิศทางเจริญรุ่งเรือง ด้านหน้า ตี่จู้ ต้องมองออกไปตรงตำแหน่งประตูที่มีลาภ

หากเป็นทิศทางล้มเหลว ( คือบารมีอยู่หน้า ลาภอยู่หลัง )
ด้านหลัง ตี่จู่เอี๊ย ต้องเคลื่อนไหว ด้านหน้าต้องถูกปิดบัง

ตี่จู้เอี๊ย เป็นเพียงจุดยึดเหนี่ยวไม่ใช่ประธาน

ดวงชะตา - ดวงจีน
หากทิศทางที่ตั้งของ ตี่จู่เอี๊ย ถูกต้องกับ ธาตุสำคัญ
ให้ไหว้เป็นประจำจะช่วยส่งเสริม ดวงชะตา ( ดวงจีน )

ฤดูกาล - ฤกษ์ยาม
ควรเป็นฤกษ์ที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็น วันจิ้งซิ้ง ( เด่นดัง ) ได้ยิ่งดี

เป็นฤกษ์สี่ทิศก็ใช้ได้ เพราะเป็นฤกษ์ปลอดภัย วุ่นวาย ( เอี๊ยง )
ตี่จู้ คือนิ่ง ( อิม ) เมื่ออิมและเอี๊ยงมาบรรจบกัน ก็ก่อเกิดพลังสมดุล

วันแรกที่มีการทำพิธี ต้องจุดธูปจริง 5 ดอก
เพราะควันเป็นสื่อแสดงออกถึงความเคารพของเจ้าบ้านต่อ เจ้าที่

ของไหว้ ที่ควรเป็นคือ ผลไม้ 5 อย่าง ไม่ควรเป็นเนื้อสัตว์เพราะเท่ากับเบียดเบียนชีวิตอื่น
ขี้เถ้าที่ใช้ปักธูป ใช้ถ่านหรือดินที่เผาจนเป็นขี้เถ้า ( จะบริสุทธิ์ปราศจากสิ่งใด ๆ เจือปน )

การขยับย้าย การทำความสะอาดครั้งแรก ตี่จู่เอี๊ยะ ต้องดูฤกษ์เสมอ

ดีที่สุด ให้ใช้มือกด กระถางธูป แล้วเช็ดไปรอบ ๆ
ห้ามยกหรือเคลื่อนย้ายเรือนหรือกระถางธูปโดยเด็ดขาด



Create Date : 11 มีนาคม 2551
Last Update : 3 เมษายน 2551 2:16:07 น.
Counter : 1136 Pageviews.

5 comment
ฮวงจุ้ยกับความเชื่อ ภาค 2 ต้นไม้มงคล
ต้นไม้มงคลที่ควรปลูก

ดอกดาวเรือง

ดอกดาวเรืองมักนิยมปลูกไว้ภายในบ้านหรือริมรั้ว เป็นดอกไม้มงคลเสริมชะตาชีวิตให้รุ่งเรืองเจริญก้าวหน้า มีสีเหลืองทองคำอร่าม เหลืองเรืองรอง ก็เป็นมงคลหนุนให้มีเงินทองเต็มบ้าน สามารถตัดดอกมาบูชาพระได้อีกด้วย

ดอกบานไม่รู้โรย

ดอกบานไม่รู้โรยเป็นไม้มงคลนาม ตามชื่อก็ให้มงคลอยู่แล้ว จะช่วยเสริมดวงในเรื่องความรัก ความผูกพันของคู่สามีภรรยาปลูกบานไม่รู้โรยไว้ในบ้านหรือตามแนวรั้วจะให้มงคล ในด้านความมั่นคงยั่งยืนในรัก ปราศจากความโรยราผันแปรตลอดไป ตัดเอาดอกมาร้อยเป็นมาลัยบูชาพระได้อย่างสวยงาม

มะยม

คนไทยเรานิยมปลูกต้นมะยมไว้หน้าบ้านเพื่อเสริมมงคล ให้มีผู้นิยมชมชอบ เป็นที่ยกย่องยอมรับของคนทั่วไป ไม่มีผู้ใดมาคิดชิงชังเป็นศัตรู ปัจจุบันนี้พบเห็นน้อยกว่าแต่ก่อนแต่ถ้ามีโอกาสก็ควรเสาะหามาปลูกเพื่อเป็นสิริมงคลแก่โชคชะตา

กระดังงา

กระดิ่งหรือระฆังนั้นเป็นสิ่งที่ชาวไทยทุกคนรู้สึกคุ้นเคยมากเป็นอย่างดี เพราะมักจะได้พบเห็นเสมอ ตามอาคาร บ้านเรือน และวัดวาอารามต่างๆ กระดังงา คือ การทำให้ เกิดเสียงดังไปไกล เมื่อกระดังนั้น มีความคล้องจองกับ "กระดังงา" ชาวไทยโบราณ จึงเชื่อสืบต่อกันว่า ชื่อกระดังงานั้น มีความหมายที่ดี และยังถือได้ว่า เป็นต้นไม้ที่มีชื่อ เป็นสิริมงคลอีกชนิดหนึ่ง คนโบราณเชื่อกันว่าการปลูกต้นกระดังงา เอาไว้ภายในบริเวณบ้านนั้น จะช่วยให้สมาชิกในบ้าน รวมทั้ง วงศ์ตระกูล
มีชื่อเสียงโด่งดัง ก้องกังวานไปแสนไกล และมีลาภยศสรรเสริญ ผู้คนทั่วไปต่างก็รู้จัก และ นับหน้าถือตา ยังมีความเชื่ออีกว่า เสียงที่ดังนั้นมีความไพเราะ เพราะพริ้งมาก และดังก้องไปจนถึงสวรรค์ชั้นฟ้า ให้เทพบุตรเทพธิดาได้ยินเลยทีเดียว
นอกจากนั้น กระดังงายังเสริมมงคลในทางเสน่ห์ คือ จะเสริมให้คุณ มีเสนห์เป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไปและมีชีวิตที่งดงามหอมนวลตลอดไป กระดังงานั้นเหมาะที่จะนำมาปลูกทางทิศตะวันออกของตัวบ้าน เพราะจะช่วยเพิ่มสิริมงคล ให้แก่ บ้านเรือน ชื่อเสียง จะขจรขจาย ไปทั่วทุกทิศทางราวกับแสงอาทิตย์ที่สาดส่องไปทั่วพื้นดิน

กล้วยไม้

ดอกไม้ที่มีรูปทรงของกลีบสวยงาม และมีมากมายหลายพันธ์ อย่างเช่น กล้วยไม้ ก็จัดเป็นไม้มงคล ที่จะช่วยเสริม ในเรื่องของความมีคุณธรรม อันล้ำลึกได้อย่างมหัศจรรย์ คนโบราณเชื่อกันว่าถ้าบ้านใดปลูกกล้วยไม้คนในบ้าน ก็จะมีจิตใจสงบอ่อนโยน มีความสุขุมลุ่มลึก ที่ใจร้อนวู่วาม ก็จะเยือกเย็นลงได้ และมีความละเอียดลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น และยังจะเสริมให้ดวงชะตาดีคนในบ้านจะเป็นที่ยกย่อง
ยอมรับแก่คนทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “คัทลียา” จะเป็นกล้วยไม้ที่เสริมด้านเกียรติยศ และความสูงส่งได้เป็นอย่างดี นอกจาก คัทลียา แล้ว ยังมีกล้วยไม้พันธุ์ที่ช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลได้เช่นกัน คือ รองเท้านารี ฟ้ามุ่ย หวาย เอื้องกุหลาบ ช้างกระ พญาฉัททันต์ เข็มแดง แดงอุบล และพันธุ์เสือโคร่ง

กวนอิมเงิน-กวนอิมทอง

กวนอิมเงินและกวนอิมทอง เป็นไม้ยืนต้นที่มีชื่อใกล้เคียงกับเทพเจ้าที่ชาวจีน และชาวไทยให้ความเคารพบูชากันแพร่หลายทั่วไป เชื่อกันว่าต้นกวนอิมเงิน กวนอิมทองนั้นเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เพราะคนโบราณมักจะใช้ต้นไม้ทั้งสองชนิดนี้
มาประกอบในพิธีบูชาเทพเจ้า หรือนำมาประกอบพิธีมงคลทางศาสนาอยู่เสมอ คนโบราณกล่าวว่า ครอบครัวใดที่ปลูกต้นกวนอิมเงินกวนอิมทองเอาไว้ภายในบริเวณบ้าน ก็จะช่วยดลบันดาลให้ครอบครัวนั้น มีโชคลาภเพิ่มพูนทรัพย์สินเงินทองมีฐานะร่ำรวยยิ่งขึ้นกว่าเดิม หากทำมาค้าขายก็จะได้กำไรมั่งคั่งแน่นอน ต้นกวนอิมเงิน กวนอิมทองนั้นถือว่าเป็นต้นไม้ที่ช่วยเรียกทรัพย์สินเงินทองเข้ามาภายในบ้าน ดังนั้น ผู้ปลูกและสมาชิกในครอบครัวจึงมีทรัพย์สมบัติ ใช้จ่ายกันอย่างไม่ขาดมือเลยทีเดียว

กุหลาบ

กุหลาบเป็นต้นไม้ที่ผู้คนทั่วไปต่างรู้จักดี เพราะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากความงดงามของดอกกุหลาบนั้น ดึงดูดใจและยังมีกลิ่นหอมจับใจอีกด้วย กุหลาบเป็นต้นไม้ที่มีดอกหลายสีทั้งสีแดง สีขาว สีเหลือง สีชมพู สีแสด และสีม่วง
ดอกกุหลาบได้รับการขนานนามให้เป็น “ราชินีแห่งดอกไม้” เพราะมีรูปลักษณ์ และสีสันที่สวยงามจับตาของผู้พบเห็น คนโบราณเชื่อว่าหากครอบครัวใดปลูกกุหลาบเอาไว้ภายในบริเวณบ้าน ก็จะช่วยเพิ่มความสง่างามและโรแมนติกให้แก่บรรยากาศบ้านได้เป็นอย่างดี เพราะดอกกุหลาบที่ชูช่อบานนั้น จะสวยงามโดดเด่น
จนใครๆ ต่างก็ชื่นชม ยังเชื่อกันอีกว่าหากปลูกต้นกุหลาบ สมาชิกทุกคนภายในบ้านก็จะมีโชคลาภ มีชีวิตที่ดี มีความฉลาดปราดเปรื่อง มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

แก้ว

ต้นแก้วนั้นก็เป็นไม้มงคลอีกชนิดหนึ่ง ที่นิยมปลูกกันมาก เพราะดอกแก้วนั้นมักจะส่งกลิ่นหอมเย็นอย่างน่าชื่นใจอันเป็นเสน่ห์ของต้นไม้ชนิดนี้ แก้ว หมายถึง สิ่งที่ดีมีค่าสูงเป็นที่ยกย่อง ยอมรับของคนทั่วไป ดังที่เรามักจะได้ยินคนโบราณเปรียบ ของที่มีคุณค่าสูงว่าเป็น “ดั่งดวงแก้ว” แก้ว อาจจะหมายความถึง ความใสสะอาดและความสดใส ดังนั้น คนโบราณจึงเชื่อกันว่า ครอบครัวที่ปลูกต้นแก้ว ไว้ภายในบริเวณบ้าน สมาชิกทุกคนก็จะมีจิตใจบริสุทธิ์สะอาด เบิกบานแจ่มใสราวกับความใสของแก้วเลยทีเดียว และยังเชื่ออีกว่า การปลูกต้นแก้วนั้นจะช่วยเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้กับบ้าน เพราะคนในบ้านก็จะได้รับแต่สิ่งที่ดีงาม ประพฤติดีและได้รับการยกย่องจากคนทั่วไป เรายังมักจะนำดอกแก้ว ซึ่งมีกลิ่นหอมเย็นนั้นไปบูชาพระ และนำไปประกอบพิธีทางศาสนา จึงถือว่าเป็นดอกไม้ที่บริสุทธิ์ เหมาะสำหรับนำไปบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพิ่มความงดงามของจิตใจได้อีกด้วย

โกสน

โกสนเป็นไม้ยืนต้นที่ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากสีสันสวยสดของใบ และคุณสมบัติที่ช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับบ้านอีกด้วยพันธุ์ของต้นโกสนที่เชื่อกันว่า นิยมปลูกเป็นไม้มงคลนั้นก็มีรัตนโกสินทร์ เศรษฐีสุพรรณ เหรียญทอง ไกรทอง ทับทิมทอง หมื่นหาญ มหาราช ทองอุไร และผู้ชนะสิบทิศ โกสนเป็นต้นไม้เก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ที่นิยมปลูกกันในพระราชวัง และวัด เพื่อให้เกิด ความร่มเย็นเป็นสุข คำว่าโกสนนั้น มีความใกล้เคียงกับคำว่า กุศล ซึ่งหมายถึง การสร้างบุญ การสร้างแต่สิ่งที่ดีงามเป็นบุญเป็นกุศล ดังนั้น ชาวไทยโบราณ
จึงเชื่อว่า การปลูกต้นโกสนไว้ประจำบ้าน ก็จะช่วยเพิ่มบุญบารมีให้แก่ครอบครัว สมาชิกทุกคนจะเป็นคนดีซื่อสัตย์สุจริต ทั้งครอบครัวก็จะมีแต่ความร่มเย็นเป็นสุข โดยปราศจากความขัดแย้งใดๆ



Create Date : 11 มีนาคม 2551
Last Update : 3 เมษายน 2551 2:16:32 น.
Counter : 869 Pageviews.

0 comment
พื้นบ้าน คือ แสงนำทาง ตอน พื้นไม้ลามิเนต
เป็นพื้นที่มีผิวชั้นหน้าประกอบด้วยแผ่นวัสดุไฟเบอร์อย่างน้อยหนึ่งชั้น(โดยมากใช้กระดาษสีลายไม้) ย้อมด้วย อะมีโนพลาสติก เทอร์โมเซตติ้ง (โดยมากใช้เมลามีน) ชั้นเหล่านี้จะถูกอัดด้วยกรรมวิธีอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ HPL, CPL หรือ DPL บนอีกชั้นหนึ่งที่เป็นฐานรองรับ(โดยมากใช้ไม้) ผลิตภัณฑ์โดยมากจะมีชั้นด้านหลัง (Backing) เพื่อรักษาสมดุลย์ของวัสดุ”

HPL (High Pressure Laminate):
เป็นพื้นไม้ลามิเนตที่อัดเมลามีนด้วยแรงดันสูงบริเวณลายตกแต่งที่ผิวหน้า

CPL (Continuous Pressure Laminate):
เป็นพื้นไม้ลามิเนตที่อัดเมลามีนด้วยแรงดันอย่างต่อเนื่องที่ผิวหน้า

DPL (Directed Pressure Laminate):
เป็นพื้นไม้ลามิเนตที่อัดเมลามีนโดยตรงด้วยแรงดันในช่วงเวลาสั้นๆ (Short-cycle)


ก่อนการติดตั้งไม้พื้นลามิเนต

1. ก่อนการติดตั้งไม้พื้นลามิเนตทุกครั้ง ต้องมีการตรวจสอบบริเวณพื้นที่ที่จะติดตั้งไม้พื้นลามิเนตว่าทำจากวัสดุอะไร และพื้นผิวนั้นเรียบสม่ำเสมอกันหรือไม่

พื้นปูนซีเมนต์ แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ

- พื้นปูนขัดหยาบ เป็นการเทซีเมนต์ และเกลี่ยผิวหน้าให้เรียบและได้ระดับ แต่จะไม่เรียบสนิท มักจะมีสะเก็ดนูน และความชื้นค่อนข้างสูง ดังนั้น หลังจากเทพื้นควร

ทิ้งระยะให้ปูนแห้งสนิทประมาณ 1-2 สัปดาห์

- พื้นปูนขัดมัน ผิวหน้าพื้นปูนจะได้รับการขัดละเอียด จึงมีรูพรุนน้อยกว่า การซึมซับน้ำและความชื้นน้อยกว่า ดังนั้น ผิวหน้าจะเรียบสนิทมากกว่า ทำให้มีปัญหาใน

การปูน้อยกว่า และจะปูนไม้ลามิเนตได้ค่อนข้างดีกว่า อย่างไรก็ตาม ก่อนปูไม้พื้นซีเมนต์ทั้ง 2 ชนิด (พื้นปูนขัดหยาบ / พื้นปูนขัดมัน ) ต้องทำการปรับระดับพื้นให้สม่ำ เสมอกัน และไม่เป็นแอ่งนูน

พื้นหินอ่อน/พื้นหินขัด

อันดับแรก ต้องตรวจสภาพพื้นผิวที่จะทำการปูก่อนว่า พื้นหินอ่อนหรือพื้นหินขัดเป็นหลุมเป็นแอ่งหรือไม่ โดยมากมักเกิดกับพื้นหินอ่อน เนื่องจากแผ่นหินที่แตกลางแผ่นจะยุบตัวลง นอกจากนี้ ต้องตรวจสอบดูว่า พื้นหินที่จะทำการปูไม้พื้นลามิเนตนั้น ต้องแห้งสนิท เพราะหินอ่อนนั้นมีรูพรุน จึงสามารถซึมซับน้ำได้ดี ดังนั้นต้องทิ้งให้พื้นหินอ่อนแห้งสนิทประมาณ 2-3 วัน ก่อน โดยไม่มีเช็คทำความสะอาดด้วยน้ำ และเมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนการตรวจสอบความเรียบร้อยแล้ว สามารถปูรองพื้นต่อไปได้

พื้นไม้

หากพื้นผิวไม้เรียบ สามารถปูทับได้เลยทั้งไม้ใหม่ และไม้เก่า แต่หากเกิดปัญหาดังต่อไปนี้ ควรแก้ไขก่อนทำการติดตั้ง

- ปัญหาปลวกกัดกินพื้นไม้ ต้องทำการกำจัดปลวดก่อนทำการปู แต่หากพื้นไม้พรุนและยุบตัวลงเป็นจำนวนมาก ต้องรื้อออกก่อน แล้วจึงทำการกำจัดปลวกก่อนทำการปู

- ปัญหาพื้นไม้ชำรุด หลุดร่อน หรือหลุดบางส่วน ควรซ่อมแซมเฉพาะจุดที่ชำรุดก่อนเพื่อทำการปรับระดับของพื้นไม้ หากพื้นไม้หลุดเพียงชิ้นเล็กๆ พื้นที่ไม่เกิน 2 ตร.นิ้ว ก็สามารถปูทับพื้นไม้ได้

- ปัญหาพื้นไม้เป็นรอยขูดขีด และสีหลุดออก หากเป็นเพียงเล็กน้อย ก็สามารถปูทับได้เลย

- ปัญหาพื้นไม้โก่งบวม ต้องซ่อมและปรับระดับพื้นไม้เดิม โดยการขัดออก และเคาะลงให้เรียบเสมอกัน

2. ต้องการติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ Built-In

ก่อนการติดตั้งไม้พื้นลามิเนต ลูกค้าต้องรองไม้อัด ความหนา 10 มม. (หรือ17 มม.) ใต้เฟอร์นิเจอร์ประเภท Built-In แล้วร่นระยะด้านหน้าและด้านข้างเฟอร์นิเจอร์ 3 ซม. โดยรอบ เพื่อให้พื้นไม้สามารถสอดเข้าไปใต้เฟอร์นิเจอร์และขยายตัวได้

วิธีการติดตั้ง

พื้นคอนกรีตที่จะทำการติดตั้งพื้นไม้ ควรเป็นพื้นคอนกรีตขัดมันเรียบโดยมีความเรียบสม่ำเสมอตลอดพื้นที่ ไม่เป็นแอ่งหรือนูน ลดระดับประมาณ 1 ซม. ถ้าเทคอนกรีตใหม่ ควรมีอายุไม่น้อยกว่า 3 สัปดาห์

สำหรับการปรับปรุงพื้นที่ ควรตรวจสอบสภาพพื้นที่เดิม ต้องไม่มีน้ำรั่วซึมบริเวณพื้นด้านล่างและด้านข้างโดยรอบ ควรมีการซ่อมแซมปัญหาน้ำรั่วซึม และอัดน้ำยากันปลวกก่อนการปูพื้นไม้

สำหรับพื้นที่เดิมที่เป็นกระเบื้องเซรามิค พื้นหินขัด พื้นแกรนิต หินอ่อน พื้นกระเบื้องยาง สามารถปูทับได้ โดยไม่ต้องมีการรื้อถอน

การติดตั้ง ขั้นแรก ปูฟิล์มพลาสติกรองพื้นความหนา 0.2 มม. โดยบริเวณรอยต่อต้องวางเหลื่อมกันประมาณ 5 ซม. และติดด้วยเทปกาว แล้วปูทับด้วยโฟม หนา 2 มม. ปูทับเพื่อปรับระดับพื้นผิวเดิมให้สม่ำเสมอ และดูดซับเสียง แล้วจึงปูพื้นไม้
การวางพื้นไม้ แถวแรกเริ่มจากวางด้านข้างที่เป็นร่องขนานกับแนวผนัง โดยไม่ต้องใส่กาวและเว้นช่องว่างระหว่างพื้นไม้กับขอบผนังประมาณ 2 ซม. เพื่อการขยายตัวของพื้นไม้ภายหลังการติดตั้ง โดยใช้ลิ่มตอกยึดระหว่างพื้นไม้กับขอบผนัง

การปูพื้นไม้ต้องให้บริเวณรอยต่อแต่ละแถวเหลื่อมกันประมาณ 30 ซม. รอยต่อใช้การติดตั้งด้วยระบบ Click Lock ซึ่งน้ำไม่สามารถซึมผ่านได้ สำหรับการตัดสามารถใช้เลื่อยมือหรือเลื่อยไฟฟ้าฟันละเอียดเลื่อยพื้นไม้ ให้ได้ขนาดลงตัวตามพื้นที่ ส่วนที่เหลือสามารถนำไปใช้ในพื้นที่บริเวณใหม่ได้
การติดตั้งวงกบ ต้องทำการตัดตีนวงกบประตู เพื่อสอดพื้นไม้ไว้ใต้พื้นวงกบกันการขยายตัวของพื้นไม้
สำหรับบัวเชิงผนังควรมีความหนาไม่น้อยกว่า 3/4 นิ้ว เพื่อปิดช่องว่างระหว่างพื้นกับผนัง


ข้อจำกัดต่างๆ

<< โดยปกติแล้ว ไม้พื้นลามิเนต ยังคงมีอัตราของการหด และขยายตัวของเนื้อไม้อยู่ ( เนื่องมาจากปัจจัยหลายๆ ประการ เช่น สภาพอากาศ , ความชื้น , การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิเฉียบพลัน เป็นต้น )ดังนั้น เมื่อทำการการติดตั้งไม้พื้นลามิเนตทุกครั้ง จึงจำเป็นจะต้องเว้นระยะห่างจาก กำแพง หรือ ขอบทาง อย่างน้อย 1 ซม. ( ขึ้นอยู่กับพื้นที่เป็นสำคัญ ) เพื่อลดปัญหาการโก่งตัวของไม้พื้นที่จะตามมาภายหลัง >>

<< ปัญหาของการซึมของน้ำตามร่องไม้ หรือตามขอบที่ติดกับ หน้าต่าง , ธรณีประตู ห้องน้ำ อาจทำให้เกิดปัญหาไม้พื้นบวมน้ำได้ เนื่องจากมีน้ำขังอยู่ระหว่างชั้นพลาสติก กันพื้น หรือระหว่างแผ่นโฟม PE วิธีการป้องกันนั้นก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของช่างเป็นสำคัญ แต่หากเกิดปัญหาไม้บวมหรือพองน้ำ ก็จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนไม้พื้นลามิเนตที่มีปัญหาเป็นแผ่นๆไป>>



Create Date : 07 มีนาคม 2551
Last Update : 3 เมษายน 2551 2:16:57 น.
Counter : 1168 Pageviews.

2 comment
1  2  

gayer50
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]