วิธีง่ายๆ เพิ่มสัญญาณWIFI ในบ้าน


Photo : Vox.com

เคยเจอปัญหาสัญญาณไวไฟ(WiFi)ในบ้านไปไม่ทั่ว มีจุดอับสัญญาณ แถมความรู้ ความชำนาญก็ไม่เยอะหรือเปล่า แล้วจะทำยังไงให้มีไวไฟ(WiFi)แรง ๆ ใช้ทั่วบ้าน

ปัจจุบันนี้คนที่ใช้คอมพิวเตอร์ที่บ้านต้องปวดหัวเนื่องมาจากสัญญาณไว ไฟ(WiFi)ที่ช้า หรือบางทีไม่วิ่งเลย ทำให้เกิดความรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาในหัวใจ บางทีคุณอาจจะได้รับสัญญาณไวไฟ(WiFi)ได้เต็มขีดที่ห้องนอน แต่พอคุณก้าวพ้นห้องนอนไปที่ห้องครัวเท่านั้น ตัวรับสัญญาณ WiFi บนไอแพดของคุณกลับเหลือ 2 ขีดซะงั้น เรามี 5 วิธีง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้เพื่อเพิ่มระยะทางและสัญญาณไวไฟ(WiFi)ให้กับบ้านของคุณ

1.เปลี่ยนเสาอากาศของเราเตอร์(WiFi Router Antenna)

เพราะ เสาอากาศที่ติดมานั้นถูกออกแบบให้ส่งสัญญาณได้รอบทิศทาง ซึ่งบ่อยครั้งที่สัญญาณจะไปชนกับผนังหรือตู้ ดังนั้น การเปลี่ยนเสาอากาศใหม่ที่สามารถเน้นไปในทิศทางที่คุณต้องการมากที่สุด หรือที่เรียกว่าเสาอากาศแบบ high-gain ซึ่งทั้งบริษัท D-Link Linksys และ Hawking ต่างมีเสาอากาศแบบนี้จำหน่าย

2.เพิ่มไวไฟรีพีตเตอร์(WiFi Repeater)

ตัว ไวไฟรีพีตเตอร์(WiFi Repeater)นี้จะเพิ่มระยะส่งสัญญาณไวไฟ(WiFi)ให้ไกลขึ้น คุณสามารถติดตั้งตัวนี้โดยไม่ต้องเดินสายเพิ่ม เพียงแค่ติดตั้งไวไฟรีพีตเตอร์(WiFi Repeater)ในจุดที่อยู่ระหว่างเราท์เตอร์และจุดที่คุณต้องการเพิ่มสัญญาณ โดยหลังจากติดตั้งไว-ไฟรีพีตเตอร์ คุณควรจะเห็นประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นในทันที

3.กำจัดสิ่งที่รบกวนสัญญาณไวไฟ(WiFi)ออกไป

สิ่ง ที่หนักและหนา เช่น กำแพงที่หนา ตู้ที่มีโลหะเป็นส่วนประกอบ และอื่นๆ ล้วนแต่เป็นอุปสรรคได้ พยายามที่จะย้ายเราเตอร์ของคุณให้ห่างจากสิ่งเหล่านี้ หรือตั้งมันให้อยู่ในที่สูงขึ้น เพื่อให้มันกระจายสัญญาณได้ดีขึ้น ในทางเดียวกัน ตัวส่งสัญญาณอื่นๆ เช่น โทรศัพท์บ้านแบบไร้สาย เครื่องมอนิเตอร์เด็กทารก และรีโมตเปิดประตูโรงรถสามารถส่งคลื่นรบกวนสัญญาณไวไฟ(WiFi)ของเราเตอร์ได้ ดังนั้นพยายามที่จะไม่ให้สิ่งพวกนี้อยู่ใกล้ๆ กับเราเตอร์ของคุณ

4.อัปเดตเฟิร์มแวร์ของเราเตอร์(Router)

โดย ปกติแล้วบริษัทผู้ผลิตมักจะให้อัปเดตเฟิร์มแวร์ของผลิตภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอ เข้าเว็บไซต์บริษัทเราเตอร์เพื่อทำการอัปเดต และถ้าคุณใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ของไมโครซอฟท์ ให้แน่ใจว่าคุณได้อัปเดตซอฟต์แวร์ของเน็ตเวิร์กล่าสุดสหรับระบบปฏิบัติการวิ นโดวส์(Windows) ตอนนี้ก็มีวินโดวส์ 10(Windows10) มาให้ลองใช้งานฟรีแล้ว

5.เปลี่ยนตัวรับสัญญาณ WiFi แบบ USB WiFi

ถ้าหากคุณมีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กรุ่นเก่าที่ไม่สามรถรับสัญญาณไวไฟ(WiFi)ในตัว ให้พิจารณาเปลี่ยนมาใช้ตัวรับสัญญาณ WiFi แบบ USB WiFi   แทนที่จะเป็นแบบการ์ด มันจะเพิ่มศักยภาพการรับสัญญาณของตัวโน้ตบุ๊กอย่างเห็นได้ชัด

และ สุดท้ายก่อนจบ ขอให้ตรวจเช็คว่าระบบไวไฟ(WiFi)ในบ้านคุณนั้นไม่มีเพื่อนบ้านแอบมาร่วมแจม อาจจะไม่เกี่ยวกับเพิ่มประสิทธิภาพเท่าไหร่นัก แต่มันทำให้คุณนอนหลับได้ ทำให้มั่นใจว่ามีแต่คุณและคนในครอบครัวเท่านั้นที่สามารถใช้ระบบไวไฟ(WiFi) ของบ้านคุณได้เท่านั้น

ระบบรักษาความปลอดภัยทางเน็ตเวิร์กโดยพื้นฐานแล้วมี 2 วิธี คือ WPA (wifi protected access) และ WEP (Wired Equivalent Privacy) ซึ่งทั้ง 2 วิธีต้องการพาสเวิร์ด(password)เพื่อใช้แสดงตัวในการผ่านเข้าระบบเพื่อใช้ งาน แต่ถ้าคุณไม่มีทั้งคู่ควรปรึกษากับผู้ให้บริการทางอินเทอร์เน็ตของคุณ

Cr.ผู้จัดการ




Create Date : 15 ธันวาคม 2559
Last Update : 15 ธันวาคม 2559 10:54:42 น.
Counter : 568 Pageviews.

0 comment
ก๊อกน้ำประปา แอลอีดี


ก๊อกน้ำประปา แอลอีดี

ก๊อกน้ำประปา แอลอีดี


นักออกแบบชาวเกาหลีใต้แหกกฎหยินหยางใช้นวัตกรรมเพื่อการผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ง่ายในชีวิตประจำวัน ด้วยก๊อกน้ำประปาอัจฉริยะที่ให้แสงสว่างแก่ หลอดไฟแอลอีดี(LED) เขาคือ "Ryan  Jongwoo Choi ไรอันชอย" ชาวเกาหลีใต้ผู้ได้ออกแบบ "ES Pipe Waterwheel" แนวคิดก๊อกน้ำให้พลังงานไฟฟ้าแก่หลอดไฟ ซึ่งช่วยประหยัดพลังงาน ด้วยการติดตั้งกังหันน้ำขนาดเล็ก ใช้แรงจากการหมุนเพื่อการผลิตไฟฟ้าใช้เองยามน้ำไหลลงมาตามก๊อกโดยไม่สูญเปล่า

นวัตกรรมน้ำ และ แสงสว่าง
น้ำที่มีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และเกือบตลอดเวลา ผ่านท่อประปาของบ้านและแหล่งธุรกิจชุมชน นั้นสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้เป็นอย่างดี เกิดแรงบันดาลใจให้ Ryan  Jongwoo Choi ไรอันชอย สร้างนวัตกรรมใหม่สู่ชาวโลก มันดูเหมือนโง่ที่ไม่มีใครได้ทำงานในวิธีการที่จะใช้ประโยชน์จากแหล่งพลังงานน้ำที่มีศักยภาพนี้เช่นกัน ดังนั้นเขาจึงสร้าง ES ท่อ Waterwheel, อุปกรณ์ก๊อกน้ำประปาอัจฉริยะเล็ก ๆ ที่จะทำให้คลื่นขนาดใหญ่ในโลกของการอนุรักษ์พลังงานน้ำเปลี่ยนเป็นพลังงานแสงสว่างด้วย หลอดไฟแอลอีดี(LED) สามารถทำเป็น ไฟอัตโนมัติ (Motion Sensor Light) ให้แสงสว่างได้

ก๊อกน้ำประปาอัจฉริยะ
นักออกแบบนวัตกรรมชาวเกาหลีได้ออกแบบ "ES Pipe Waterwheel" นวัตกรรมเพื่อการผลิตพลังงานแสงสว่างได้ง่ายในชีวิตประจำวัน ด้วยก๊อกน้ำประปาอัจฉริยะที่ประกอบไปด้วยกังหันที่หมุนผลิตไฟฟ้าเพื่อแสงสว่างแก่ หลอดไฟแอลอีดี(LED) ด้วยการติดตั้งกังหันน้ำขนาดเล็กบนท่อก๊อกน้ำ ที่ให้การหมุนพลังงานน้ำเพื่อการผลิตไฟฟ้ายามน้ำไหลลงมาตามก๊อกซึ่งติดตั้งบนท่อก๊อกน้ำ ที่สามารถให้การผลิตพลังงานทุกครั้งที่น้ำไหลเพื่อการใช้ดื่มหรืออาบ เก็บเป็นพลังงานสำรองไว้ใช้ภายหลังหรือจะนำพลังงานไฟฟ้ามาใช้ทันทีก็ได้

งานวิจัย เพื่อ แอฟริกา
แนวคิดนี้ Ryan Jongwoo Choi ไรอันชอย วิจัยในประเทศแอฟริกาที่หลายคนไม่มีไฟฟ้าและแสงสว่างใช้ แต่มีแหล่งน้ำและมีการการเข้าถึงการใช้น้ำมากกว่าการผลิตไฟฟ้า  เขาวาดภาพก๊อกน้ำประปาอัจฉริยะและกังหันน้ำเป็นวิธีที่จะช่วยให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ในชุมชนในประเทศแอฟริกาที่ไม่มีไฟฟ้าและแสงสว่างใช้ นำพลังน้ำที่เข้าถึงได้ง่ายปรับเปลี่ยนทรัพยากรที่พวกเขาใช้อยู่ประจำวันเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าและแสงสว่างด้วยหลอดไฟแอลอีดี(LED) แล้วยังสามารถทำเป็น หลอดไฟเปิดปิดอัตโนมัติ (Motion Sensor Light) เปิดปิดไฟยามคำคืนภายในหมู่บ้านชุมชน เป็นระบบอิสระที่สามารถให้การผลิตพลังงานทุกครั้งที่น้ำไหลเพื่อการใช้ดื่มหรืออาบ หรือสามารถเก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ใน แบตเตอรี่สำรอง เป็นพลังงานสำรองไว้ใช้ภายหลัง หรือจะนำมาใช้ทันทีก็ได้

รางวัลการออกแบบยอดเยี่ยม
ผลิตภัณฑ์ก๊อกน้ำประปาอัจฉริยะของ Ryan Jongwoo Choi ไรอันชอย ที่จะช่วยให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ในชุมชนในประเทศแอฟริกาที่ไม่มีไฟฟ้าและแสงสว่างใช้น้้นได้เข้าเคยเข้าส่งประกวดเข้ารอบสุดท้ายการออกแบบยอดเยี่ยมนานาชาติมาแล้วในสมาคมนักออกแบบอุตสาหกรรมของอเมริกาหลายปีที่ผ่านมา เป็นรางวัลการออกแบบยอดเยี่ยมระหว่างประเทศและในปัจจุบันได้จดลิขสิทธิ์เพื่อการผลิตเป็น แก็ดเจ็ต (Gadgets) ต่อไป หากใครสนใจนำไปใช้เพื่อช่วยเหลือชาวแอฟริกาก็ยินดี

Cr.บ้านเมือง




Create Date : 15 ธันวาคม 2559
Last Update : 15 ธันวาคม 2559 10:52:12 น.
Counter : 942 Pageviews.

0 comment
เครื่องตรวจโลหะแบบมือถือ ตรวจระเบิด ของมีคม ได้หมด

เครื่องตรวจโลหะแบบมือถือ
เครื่องตรวจโลหะแบบมือถือ

          สแกนพบโลหะได้ไวและแม่นยำ แม้นวัสดุมีขนาดเล็กเท่าคลิปหนีบกระดาษ จับความไวของสัญญาณได้จากหน้าปัดไฟ LED ที่เพิ่มขึ้นและเสียงเตือนที่ดังขึ้นเมือเข้าใกล้โลหะ เหมาะสำหรับ ตรวจสแกนโลหะ วัตถุต้องสงสัย อาวุธ อัญมณี เครื่องประดับ ทอง เงิน เข็มหมุด หรือ คลิปหนีบกระดาษ ทีซุกซ่อนอยู่ตามร่างกาย สแกนโลหะติดต่อกันนานถึง 6 วัน ชาร์ตไฟด้วยที่ชาร์ตอุปกรณ์มือถือผ่านพอร์ต USB  ด้ามจับกระชับมือสวยงามน้ำหนักเบาพกพาสะดวก มาพร้อมกับสายรัดข้อมือ วัสดุทำจากพลาสติกภาพสูง ABS  แข็งแรงทดทาน ไม่แตกหักแม้นตกลงพื้น สินค้าคุณภาพ มาตรฐานสากล

 

 

รีวิวการใช้งาน เครื่องตรวจโลหะแบบมือถือ ความไวสูง ใช้งานง่าย
ควรปรับคุณภาพวีดีโอเป็น 720P HD ในการรับชม

รีวิวการใช้งาน เครื่องตรวจโลหะ ความไวสูง ใช้งานง่าย

 

 

สั่งซื้อสินค้าได้ในราคา 2,180 บาท รวมภาษีแล้ว ฟรี่ค่าจัดส่งสินค้า EMS ทั่วประเทศ

ดูสินค้ารุ่นอื่นเพิ่มเติม >> เครื่องตรวจโลหะแบบมือถือ




Create Date : 24 พฤศจิกายน 2559
Last Update : 2 ตุลาคม 2566 16:40:57 น.
Counter : 295 Pageviews.

0 comment
ตรวจโลหะ รีไซเคิล นอกโลก


ตรวจจับโลหะ นอกโลก

ตอนนี้ญี่ปุ่นกำลังระดมสมองเกี่ยวกับการสร้างสนามใหม่ที่อาจจะนำโลหะรีไซเคิลมาใช้รวมถึงวัสดุอื่นๆ อีกไม่ว่าจะเป็น อลูมิเนียม, แก้ว และไม้ เพื่อลดต้นทุน ที่ประเทศญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬา โอลิมปิก ปี 2020 ระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม ถึง 9 สิงหาคม ผุดแนวคิดเด็ดเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนนี้อาจจะใช้เหรียญรางวัลที่ทำจากโลหะรีไซเคิลและสนามใหม่ที่อาจจะนำโลหะรีไซเคิลมาใช้

เกือบหนึ่งร้อยเปอร์เซนต์ของโลหะส่วนใหญ่สามารถนำมารีไซเคิลได้ การแยกโลหะและระบบคัดประเภทจะให้เศษส่วนของวัสดุโลหะขาวดำออกมา ในขณะที่วัสดุอื่นๆอีกมากแสดงการเสื่อมสภาพที่ชัดเจนเมื่อนำจะกลับมารีไซเคิลใหม่ การรีไซเคิลเศษโลหะแบบซ้ำไปซ้ำมาจะให้ผลทางผลิตภัณฑ์นั้นมีคุณภาพที่สูงเหมือนกัน ช่วยลดต้นทุนที่จะหาวัสดุที่นับวันจะมีจำนวนลดน้อยลงและหมดไปจากโลกนี้

ด้วยเหตุนี้ ฝ่ายจัดการแข่งขัน โอลิมปิก ปี 2020 ประเทศญี่ปุ่น เสนอแนวคิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ดังนั้นจึงต้องการทำเหรียญรางวัลจากโลหะรีไซเคิลที่ได้จากโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ที่ไม่ใช้หรือตกรุ่นแล้ว อย่างไรก็ตามต้องส่งให้คณะกรรมการจัดงานพิจารณาช่วงปลายเดือนม.ค.เพื่อขออนุมัติอย่างเป็นทางการ แต่ความคิดนี้อาจจะเปลี่ยนไป ถ้าหากมนุษย์เราสามารถหาทรัพยากรธรรมชาติได้ใหม่จากลูกอุกกาบาตที่ล่องลอยอยู่ในระบบสุริยะของเรา

เริ่มมีอีกแนวคิดหนึ่งที่อาจช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติประเภทแร่ธาตุโลหะต่างๆ ได้ระดับหนึ่ง ซึ่งต้องลงทุนมาก แต่ให้ผลตอบแทนมหาศาล นั่นคือการไปทำเหมืองแร่ในอวกาศ หรือพูดอีกอย่างคือ การไปขุดเอาแร่ที่มีมูลค่าสูงจากอุกกาบาตที่ล่องลอยอยู่ใกล้โลกนั่นเอง ก่อนอื่นต้องทราบรายละเอียดเกี่ยวกับอุกกาบาตสักนิดว่า เขาจำแนกเป็นกี่อย่าง อะไรบ้าง

นักวิทยาศาสตร์บอกว่าอุกกาบาตที่ล่องลอยอยู่ในระบบสุริยะของเรานั้นล้วนแต่มีองค์ประกอบคล้ายคลึงกับดาวเคราะห์ต่างๆ ที่เป็นบริวารของดวงอาทิตย์แทบทั้งสิ้น เพียงแต่มีความหนาแน่นที่ไม่เท่ากันเท่านั้น ซึ่งองค์ประกอบเหล่านั้นสามารถแยกออกได้ 3 กลุ่มใหญ่ คือ

กลุ่ม C (Carbon) อุกกาบาตที่มีองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นธาตุคาร์บอนนั่นเอง กลุ่ม S (Stone) จากชื่อก็คงเดาได้ไม่ยากว่าอุกกาบาตกลุ่มนี้ก็คือก้อนหินดีๆนี่เอง องค์ประกอบหลักของมันจึงเป็นแมกนีเซียม ซิลิเกต และ กลุ่ม M (Metal) อุกกาบาตกลุ่มนี้มีองค์ประกอบเป็นโลหะนานาชนิดที่ตรวจจับได้ด้วยเครื่องตรวจโลหะ (Metal Detector) ตั้งแต่โลหะที่ไม่ค่อยมีราคาเท่าไหร่ไปจนถึงโลหะที่หายากมีราคาสูงมาก เช่น ทองคำ แพลตินั่ม ฯลฯ อุกกาบาตกลุ่มนี้จึงเป็นที่หมายปองเป็นอันดับแรกของนักลงทุน

เมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้มีอุกกาบาตก้อนหนึ่งเคลื่อนเข้ามาใกล้โลกเรา ในระยะห่างประมาณ 1.5 ล้านไมล์ หรือราว 6 เท่าของระยะทางจากโลกไปดวงจันทร์ อุกกาบาตที่มีรหัสว่า 2011 UW-158 ก้อนนี้มีความกว้างราว 800 เมตร ซึ่งมันคงไม่น่าสนใจอะไรมากนักหากมันเป็นเพียงหินอวกาศขนาดใหญ่มากก้อนหนึ่ง แต่ค้นพบด้วยเครื่องตรวจโลหะ (Metal Detector)ว่ามีโลหะมากมายอยู่ในนั้น

แต่จากเทคโนโลยีสำรวจอวกาศที่มีในปัจจุบัน ทำให้นักวิทยาศาสตร์ทราบในเบื้องต้นว่าอุกกาบาตก้อนนั้นประกอบไปด้วยอะไรบ้าง (เหมือนกับการวิเคราะห์หาองค์ประกอบของดวงดาวที่อยู่ไกลออกไปมากๆ และยานสำรวจยังไปไม่ถึง) และผลจากการวิเคราะห์เชื่อหรือไม่ว่าหินก้อนนี้มีมูลค่าประมาณ 3.5 ล้านล้านปอนด์ เพราะเนื้อในของมันนั้นมีโลหะที่มีค่าซ้อนอยู่ สามารถตรวจได้จากเครื่องตรวจจับโลหะ (Metal Detector) คือทองคำขาวหรือแร่แพลตินั่มที่ราคาสูงลิบบนโลก อุกกาบาตก้อนนี้จะเคลื่อนเข้ามาใกล้โลกอีกครั้งในอีกสามปีข้างหน้า

ปัจจุบันนี้มีอุกกาบาตราว 9,000 ก้อนที่ล่องลอยอยู่ใกล้กับโลกและสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าการไปลงบนดวงจันทร์ด้วย นอกจากนั้นผู้เชี่ยวชาญด้านอวกาศของบริษัท ยังบอกว่า การหาโลหะทรัพยากรธรรมชาติจากอุกกาบาตนั้นเป็นทางออกที่ดีสำหรับมวลมนุษย์ เพราะยังมีอุกกาบาตอีกจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่ห่างออกไป โดยเฉพาะบริเวณที่เรียกว่า แถบดาวเคราะห์น้อย (Asteroid belt) ซึ่งอยู่ระหว่างดาวอังคารกับดาวพฤหัส

จริงอยู่ อุกกาบาตที่ล่องลอยอยู่ในห้วงอวกาศหรือดาวดวงใดดวงหนึ่งในจักรวาลย่อมไม่มีใครเป็นเจ้าของ แต่อาจมีคำถามว่า การที่มีนักดาราศาสตร์หรือองค์กรใดเป็นผู้ค้นพบและตั้งชื่อมันจะบอกว่าเขาย่อมมีสิทธิ์เหนือดาวหรืออุกกาบาตนั้นๆได้หรือไม่

ในปี 1967 มีสนธิสัญญานานาชาติฉบับหนึ่งที่แทบทุกชาติได้ลงนามร่วมกัน สาระสำคัญของสนธิสัญญาฉบับนั้นระบุไว้ว่า ห้ามไม่ให้ชาติใดครอบครองวัตถุที่มีอยู่ก่อนแล้วในจักรวาล เช่น ดวงดาว อุกกาบาต ฯลฯ แต่ข้อตกลงฉบับนั้นไม่ได้ระบุรวมเอาเอกชนเข้าไปด้วย ซึ่งอาจเป็นเพราะในเวลาที่ลงนามร่วมกันนั้น ผู้นำแต่ละชาติในเวลานั้นคงไม่มีใครคิดเผื่อไว้ว่าในอนาคตเอกชนก็อาจจะส่งยานและมนุษย์อวกาศออกไปนอกโลกได้

เมื่อเร็วๆนี้ เกิดบริษัทเอกชนในสหรัฐฯ ขึ้นมาสองบริษัท วัตถุประสงค์คือเพื่อการไปหาแหล่งทรัพยากรประเภทแร่โลหะมีค่าต่างๆ และน้ำในอวกาศ เมื่อหาพบก็เก็บเกี่ยวนำมาขายเพื่อสร้างผลกำไรให้บริษัทและผู้ถือหุ้นทั้งหลาย บริษัททั้งสองคือ Planetary Resources และ DSI หรือ Deep Space Industries Planetary Resources ตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2012 เพื่อการหาแหล่งแร่ธาตุโลหะในอวกาศโดยตรง

บริษัททั้งสองนั้นเกิดจากการรวมตัวของมหาเศรษฐีชาวอเมริกันทั้งสิ้น อาทิ ลาร์รี เพจ ผู้ก่อตั้ง Google, ปีเตอร์ ไดอาเมนดิส เจ้าของบริษัท X Prize, เจมส์ คาเมรอน ผู้สร้างและผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง และอดีตผู้บริหารระดับสูงของบริษัทยักษ์ใหญ่อีกหลายคน โดยมีซารา ซีเกอร์ นักดาราศาสตร์จาก MIT เป็นที่ปรึกษา

การมาของอุกกาบาตมูลค่าสูงกว่ามูลค่าเศรษฐกิจโดยรวมของญี่ปุ่นทั้งประเทศครั้งนี้ แม้จะไม่สามารถนำโลหะทองคำขาวที่อยู่ข้างในนั้นออกมาได้ แต่ก็เป็นโอกาสดีอย่างยิ่งที่บริษัทจะได้ทดสอบเทคโนโลยีที่มี ว่าจะสามารถไปหาแหล่งแร่โลหะสำคัญๆในอวกาศได้หรือไม่

ดังนั้นทางบริษัทจึงส่งดาวเทียมรหัส Arkyd-3R ดาวเทียมดวงนี้มีขนาดเล็กพอๆกับขนาดขนมปังปอนด์ก้อนหนึ่ง ออกจากโลกไปรอไว้ที่สถานีอวกาศนานาชาติตั้งแต่เดือนเมษายนปีนี้ เพื่อคอยให้อุกกาบาตเป้าหมายผ่านเข้ามาในระยะที่ต้องการ แล้วจึงค่อยส่งดาวเทียมดวงนั้นออกไปอีกครั้งในเดือนกรกฎาคม เพื่อโคจรรอบโลกเป็นเวลา 90 วัน

ระหว่างนั้นมันจะทำการทดสอบบางอย่างสำหรับงานในอนาคต ตามแผนดาวเทียม Arkyd-6R จะถูกส่งตามไปภายในปีนี้ บริษัทกำลังพัฒนากล้อง โทรทรรศน์ขนาดเล็กแต่มีกำลังสูง ซึ่งจะปล่อยออกไปไว้นอกโลก เพื่อใช้สอดส่องหาอุกกาบาตที่ต้องการในอวกาศรอบๆโลกเรา กล้องตัวนี้ชื่อว่า LEO

แม้ว่าเมื่อเริ่มก่อตั้งบริษัทขึ้นมานั้น Planetary Resources อาจมุ่งไปที่ การเอาแร่โลหะในกลุ่มแพลตินั่มเป็นหลัก (กลุ่มนี้ประกอบด้วย platinum, palladium, osmium และ iridium ปัจจุบันใช้ผลิตเครื่องมือแพทย์ เครื่องกรองไอเสียในรถยนต์ เซลล์เชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์สำหรับอนาคตที่ไม่ใช้น้ำมัน และอุปกรณ์สำหรับรีไซเคิลพลังงาน) จากอุกกาบาต เพราะมีโลหะราคาพอๆกับทองคำ

แต่ปัจจุบันเป้าหมายเริ่มเปลี่ยนไปแล้ว เพราะพวกเขาเห็นว่าต่อไปการออกไป สำรวจอวกาศจะมีมาก และสิ่งมีชีวิตก็ต้องการน้ำ แค่สถานีอวกาศที่มีมนุษย์อวกาศหมุนเวียนกันไปทำงานที่นั่นก็ต้องใช้น้ำตลอดเวลา ดังนั้น หากสามารถสกัดน้ำออกมาและสำรองไว้ขายในอวกาศ ก็สามารถทำเงินได้มหาศาลเช่นกัน

นอกเหนือไปจากนั้น บริษัทนี้ยังมีแผนที่จะตั้ง “ปั๊มน้ำมัน” หรือศูนย์บริการเติมเชื้อเพลิงและน้ำให้แก่ยานอวกาศอื่นๆ ที่จะเดินทางไปมาระหว่างดวงดาวต่างๆในอนาคต รวมทั้งพวกที่ต้องทำงานอยู่ในอวกาศต่อเนื่องเป็นเวลานานด้วย การตั้งฐานขุดเจาะบนอุกกาบาตที่อาจเกิดขึ้นจริงในอนาคต

ตามแผนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ยานอวกาศที่ทำงานได้คล้ายหุ่นยนต์จะถูกส่งไปยังอุกกาบาตที่เป็นเป้าหมาย เพื่อจับมันแล้วเปลี่ยนทิศทางหรือลากมันไปไว้ในระยะพอๆกับดวงจันทร์ของเรา เพื่อให้งานขั้นต่อไปทำได้ง่ายขึ้น  ไม่แน่ก็ได้ว่าเราอาจจะมีสนามโอลิมปิก ที่ได้วัสดุโลหะจากอุกาบาตนอกโลกก็เป็นได้

ทางด้าน DSI นั้นแม้ปัจจุบันยังไม่ได้ปล่อยยานสำรวจหรือดาวเทียมออกไปสู่อวกาศแต่อย่างใด แต่ก็เปิดเผยแผนในอนาคตที่ค่อนข้างจะเป็นแผนเชิงรุกออกมาให้ทราบแล้ว แผนที่ว่าคือ ขั้นแรก สร้างยานชื่อ Firefly ขึ้นมา ยานลำนี้เป็นยานสำรวจขนาดเล็กและมีต้นทุนต่ำ เพื่อส่งออกไปสำรวจหาอุกกาบาตที่มีคุณสมบัติ คือมีแร่ธาตุโลหะตามที่ต้องการ เมื่อพบอุกกาบาตเป้าหมายแล้ว ก็เริ่มแผนขั้นที่สอง คือ ส่งยานขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า Dra– gonfly ออกไปแล้วไปเก็บรวบรวมเอาอุกกาบาตนั้นมาไว้ยังจุดที่ต้องการ เพื่อขุดหรือแยกเอาแร่ธาตุโลหะนั้นๆออกมา

ในอนาคตการเดินทางไปมาระหว่างโลกกับดาวอังคารอาจเป็นเรื่องที่เห็นได้ในทศวรรษหน้า และหากนักลงทุนคำนวณดูแล้วว่าคุ้มค่าที่จะทำจริง การทำเหมืองแร่โลหะที่อุกกาบาตก็น่าจะเกิดขึ้นได้ในเวลาไล่เลี่ยกัน ถึงเวลานั้นก็จะถึงยุคที่มนุษย์บางกลุ่มต้อง “ไปทำงานต่างดาว” ไม่ใช่ “ไปทำงานต่างประเทศ” อีกต่อไป ส่วนจะเกิดกระแสต่อต้านจากผู้ไม่เห็นด้วยกับโครงการซึ่งอยู่นอกโลกนี้มากน้อยแค่ไหน ก็คงต้องรอดูกันต่อไป.

Cr.ไทยรัฐ




Create Date : 30 สิงหาคม 2559
Last Update : 30 สิงหาคม 2559 13:41:19 น.
Counter : 1041 Pageviews.

0 comment
รถตุ๊กตุ๊ก โซล่าเซลล์




รถตุ๊กตุ๊ก โซล่าเซลล์

รถตุ๊กตุ๊ก โซล่าเซลล์

รักโลก-รักษ์สิ่งแวดล้อม กำลังเป็นกระแสฮิต ปลูกจิตสำนึกไปทั่วโลก ส่วนเทคโนโลยียานยนต์ก็มุ่งพัฒนาไปในทิศทางดังกล่าว ดังนั้นถ้าองค์กร-สถานประกอบการใดอยากได้ภาพลักษณ์ หรือจำเป็นต้องวิ่งในพื้นที่ธรรมชาติปราศจากมลพิษทางกลิ่นและเสียง “รถตุ๊กตุ๊ก โซล่าเซลล์” พลังแสงอาทิตย์ ฝีมือนักศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล คงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ 

ผลงานสุดยอดของ นศ. ชาวฝรั่งเศส วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หลักสูตร Double Degree สร้างนวัตกรรม รถตุ๊กตุ๊ก โซล่าเซลล์ พลังแสงอาทิตย์ พลังธรรมชาติและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ทดลองวิ่งจริงจากกรุงเทพฯ สู่ฝรั่งเศส  ระยะทางประมาณ 20,000 กิโลเมตร ตะลุย 16 ประเทศ 120 วัน ขณะที่ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ชี้ มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม ตั้งเป้าเป็นมหาวิทยาลัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco University) และมุ่งสู่ มหาวิทยาลัยมหิดลแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน (Mahidol Sustainable University)

มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดตัวโครงการ Pilgreens project ของ 2 นักศึกษาหลักสูตร Double Degree ชาวฝรั่งเศส ระหว่างวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล กับวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยตูลูส ประเทศฝรั่งเศส โดยนักศึกษาทั้ง 2 คน จะขับ รถตุ๊กตุ๊ก โซล่าเซลล์ พลังแสงอาทิตย์ คันแรกของโลก ซึ่งจะออกเดินทางจากกรุงเทพมหานคร ไปยังเมืองตูลูส ประเทศฝรั่งเศสที่ผ่านมา ใช้เวลา 120 วัน ผ่าน 16 ประเทศ อาทิ ไทย ลาว จีน รัสเซีย ตรุกี ออสเตรีย เยอรมนี และ ฝรั่งเศส รวมระยะทาง 20,000 กิโลเมตร

รศ.นพ.ปรีชา สุนทรานนท์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมา ได้ดำเนินการนโยบายต่างๆ เพื่อทำหน้าที่ดูแลสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงาน เช่น ดำเนินการมหาวิทยาลัยได้มีนโยบาย เช่น การเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว โดยเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในมหาวิทยาลัยอย่างจริงจัง จนทำให้ในปี 2556 มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับการคัดเลือกเป็นสถาบันการศึกษาสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อันดับ 1 ของประเทศไทย อันดับ 4 ของเอเชีย และอันดับ 31 ของโลก

รวมถึงได้พยายามส่งเสริสนับสนุนบุคลากรและนักศึกษาให้หันมาใช้ พลังงานทดแทน พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานไฟฟ้า น้ำ และเชื้อเพลิงอย่างคุ้มค่า นำพลังงานแสงอาทิตย์เปลี่ยนเป็นแสงสว่างด้วย โคมไฟพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Lamp) เป็นต้น ดังนั้น มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะมหาวิทยาลัยที่มีบทบาทในการช่วยชี้นำสังคม จึงได้สนับสนุนโครงการดังกล่าว เพื่อเป็นการเผยแพร่ ส่งเสริมให้เห็นถึงประโยชน์ในการใช้พลังงานไฟฟ้า กระตุ้นให้เกิดการเห็นคุณค่าในการใช้พลังงานอย่างประหยัด คุ้มค่าโดยใช้ระบบความรู้ เข้ามาบริหารจัดการ โดย มหาวิทยาลัยมหิดล ตั้งเป้าเป็นมหาวิทยาลัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco University) และมุ่งสู่มหาวิทยาลัยมหิดลแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน (Mahidol Sustainable University)

“โครงการดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เกิดจากนักศึกษาของ มหาวิทยาลัยมหิดล แม้พวกเขาจะเป็นนักศึกษาจากประเทศฝรั่งเศส แต่การได้มาเรียนที่ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งมีการบริการหลักสูตร กิจกรรม ส่งเสริมการลดใช้พลังงาน และรู้จักใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า ทำให้พวกเขาเกิดแนวคิดใส่ใจปัญหาสิ่งแวดล้อม และยังเป็นการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ให้คนไทยและคนต่างชาติในแต่ละประเทศที่พวกเขาเดินทางเข้าใจและ ตระหนักในการดูแลใส่ใจสิ่งแวดล้อม และการใช้พลังงานทดแทน จึงอยากฝากคนไทยทุกคนติดตามและให้กำลังใจนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดลที่เดิน ทางโดย รถตุ๊กตุ๊ก โซล่าเซลล์ พลังแสงอาทิตย์ ในครั้งนี้” รศ.นพ.ปรีชา กล่าว

ด้าน รศ.ดร.อรรณพ ตันละมัย คณบดีวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า วิทยาลัยการจัดการ ได้จัดการเรียนการสอนในระดับปริญญาโท ซึ่งโครงการนี้ เป็นหลักสูตร Double Degree ความร่วมมือระหว่าง มหาวิทยาลัยมหิดล กับ มหาวิทยาลัยตูลูส ที่ได้ร่วมกันจัดการเรียนการสอน การเรียนรู้ผ่านกรณีศึกษา เพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความต้องการที่จะศึกษาค้นคว้าหาความรู้เพิ่ม เติม นำมาคิดวิเคราะห์แก้ปัญหา ซึ่งไม่ใช่การเรียนรู้เพียงองค์ความรู้เท่านั้น แต่ให้นักศึกษาได้รู้จักคิด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และนำสิ่งที่เรียนรู้ประยุกต์ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น 

นายลูดวิก แมร์ส นักศึกษาหลักสูตร Double Degree กล่าวว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาสำคัญที่ทุกคนในโลกต้องช่วยกัน ไม่เช่นนั้นอาจต้องเผชิญปัญหาภัยพิบัติอีกมากมาย โดยเฉพาะการใช้รถของผู้คนที่นับวันจะปล่อยมลพิษจากการใชัพลังงานเชื้อเพลิง มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งพวกเราเห็น รถตุ๊กตุ๊ก โซล่าเซลล์ พลังแสงอาทิตย์ ของไทยและเกิดไอเดียว่าจะพัฒนาเป็น รถตุ๊กตุ๊ก โซล่าเซลล์ พลังแสงอาทิตย์ และขับจากประเทศไทยไปประเทศฝรั่งเศส จึงเสนอไปยังมหาวิทยาลัย และรู้สึกดีใจที่มหาวิทยาลัยสนับสนุน

เพราะการขับ รถตุ๊กตุ๊ก โซล่าเซลล์ พลังแสงอาทิตย์ ครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงเผยแพร่ความเป็นไทยผ่านเท่า นั้น แต่ยังเป็นการแสดงให้คนทั่วโลกได้เห็นว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจะช่วยให้มนุษย์สามารถใช้พลังงานสะอาดจากธรรมชาติ ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นพลังน้ำ พลังแสงอาทิตย์ ที่สามารถนำมาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า พลังความร้อน และ พลังแสงสว่าง เก็บไว้เป็นพลังงานสำรอง หรือ นำประยุกต์ใช้เป็นโคมไฟโซล่าเซลล์ (Solar Lamp) รถตุ๊กตุ๊ก โซล่าเซลล์ พลังแสงอาทิตย์ เพื่อให้แสงสว่างในยามค่ำคืน

“กว่า 1 ปีที่มาเรียนที่วิทยาลัยฯได้ส่งเสริมให้ผู้เรียน เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง ผมและเพื่อนชาวฝรั่งเศสจึงได้เริ่มโครงการดังกล่าว เพื่อพิสูจน์และสำรวจว่าคนทั่วโลกมีความเข้าใจและสนใจการใช้รถพลังงานไฟฟ้า และพลังงานแสงอาทิตย์อย่างไร เป็นไปได้หรือไม่ที่จะใช้รถพลังงานไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์ข้ามประเทศ รวมถึงทำให้คนทั่วโลกตระหนัก และหันมาสนใจการใช้พลังงานทดแทนพลังงานเชื้อเพลิงที่ลดน้อยลงเรื่อยๆ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ไม่ต้องเผชิญมลภาวะที่ส่งผลต่อสุขภาพ และที่สำคัญ จะช่วยยืนยันว่าสามารถนำพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในการเดินทางคมนาคมขน ส่งได้จริง”นายลูดริก กล่าว

ทั้งนี้ สำหรับ รถตุ๊กตุ๊ก โซล่าเซลล์ พลังแสงอาทิตย์  ครั้งแรกของโลกที่เดินทางจากกรุงเทพฯไปฝรั่งเศส ได้มีการติดตั้งแผนโซลาร์เซลล์บนหลังคารถ โดยกักเก็บไว้ในแบตเตอรีลิเธียม 72 โวลต์ ความจุ 30 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง สามารถเดินทางได้ 200 กิโลเมตรต่อการชาร์ตไฟ 1 ครั้ง (6 - 8 ชั่วโมง) คิดเป็นค่าไฟ 0.7 บาทต่อกิโลเมตร หรือ 14,000 บาท ตลอดการเดินทางผ่าน 16 ประเทศ อาทิ ไทย ลาว จีน รัสเซีย ตรุกี ออสเตรีย เยอรมนี และ ฝรั่งเศส รวมระยะทาง 20,000 กิโลเมตร

Cr.ผู้จัดการ





Create Date : 16 สิงหาคม 2559
Last Update : 30 สิงหาคม 2559 13:45:59 น.
Counter : 1187 Pageviews.

1 comment
1  2  3  4  

สมาชิกหมายเลข 2905918
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



Good Idea, More choice, Best selection.