Group Blog
 
All blogs
 

Review: บีบีตัวใหม่ของThe Body Shop Moisture White SHISO BB Serum Inside+Mini Howto










 photo DSC08387copy_zps7fcc2310.jpg



รีวิววันนี้เป็นบีบีครีมตัวใหม่ล่าสุดจากThe Body Shopค่ะ ทรายได้มาลองก่อนที่จะวางขาย
จริงในเดือนมีนาฯ เค้าเป็นบีบีครีมที่มีส่วนผสมของเซรั่มเข้มข้นด้วย จริงๆคือเป็นผลิตภัณฑ์
ชิ้นใหม่ล่าสุดในสกินแคร์กลุ่มไวเทนนิ่งที่มี SHISO เป็นส่วนผสมหลักนะคะ ทรายเคยเห็นว่า
มีการวางขายสกินแคร์กลุ่มนี้ตั้งแต่ปี 2553แล้ว ปีนี้มีบีบีครีมออกมาใหม่เติมเต็มให้ไลน์นี้ด้วย
บีบีตัวนี้ชื่อยาวหน่อยว่า The Body Shop Moisture White SHISO BB Serum Inside


แบรนด์เค้าเคลมคุณสมบัติไว้ว่า :


ส่วนผสมของเค้าจะมีทั้งสารสกัดที่ได้จากใบ SHISO ยังมีพวกส่วนผสมธรรมชาติอย่างอื่นอีก
เช่นตัวของ อโลเวร่าบริสุทธิ์ (ว่านหางจระเข้) ซึ่งเค้านำมาจากโครงการการค้าชุมชน เป็นการ
สนับสนุนการสร้างรายได้แก่ชุมชนด้วย แล้วก็มีวิตามินซี และดอกลิโคริช ที่จะช่วยควบคุม
กระบวนการ การผลิตเม็ดสีเมลานินได้ล้ำลึก ถึงผิวชั้นเอพิเดอมิส ผลคือ จะช่วยให้ผิวหน้า
สว่าง กระจ่างใสขึ้น เนียนนุ่ม และชุ่มชื่นขึ้นค่ะ มีความสามารถในการปกป้องแสงแดดได้ถึง
SPF25 PA+++ คือช่วยได้ทั้ง UVA และ UVB ด้วยค่ะ



 photo DSC08391copy_zpsff90ae4c.jpg


ขวดเค้าจะเป็นหัวปั๊มนะคะ ใช้งานง่าย มีปริมาณ 30ml. ราคาอยู่ที่ 1,090 บาท



 photo DSC08398copy_zps0fc57633.jpg


เนื้อผลิตภัณฑ์ไม่เหลว เป็นสีเนื้อ ไม่ออกเทา หรือชมพูจัด เหมือนบีบีครีมทั่วไป
สำหรับทรายมองว่าเค้าเนื้อเหมือนรองพื้นมากๆ จริงๆบีบีครีมมันก็คือรองพื้น
แล้วก็เบสบวกกัน โดยที่มีส่วนผสมของบำรุงเยอะกว่าปกติใช่ไหม? ตัวนี้ยิ่งไม่
ปกติเข้าไปใหญ่เพราะใส่เซรั่มมาเลย สีออกแนวเหมาะกับคนผิวสว่างหน่อยนะ


 photo DSC08403copy_zps40e3dc65.jpg


ทรายชอบเนื้อเค้าค่ะ เวลาที่ตบๆให้มันแตกตัว เนื้อมันดีมาก ทรายลองป้ายที่
กระดาษทิชชู่สีขาวให้ดู จะเห็นชัดเลยว่าไม่เทา ไม่ชมพูเยอะ จริงๆ ออกเนื้อเบจเลย


 photo DSC08407copy_zps9f175508.jpg


วิธีใช้คือ:


ลงหลังจากทาสกินแคร์เสร็จแล้ว ลงเป็นเมคอัพตัวแรกเลย ตีเนื้อครีมให้แตกที่มือ
แล้วจากนั้นเกลี่ยเบาๆด้วยปลายนิ้ว เริ่มจากหน้าผากไปทีละส่วน ลูบเป็นวงกลม
ให้ทั่วใบหน้า ใช้ได้กับผิวรอบดวงตาด้วย


Tips:
ข้อแนะนำจากแบรนด์คือ ให้รอหลังจากลงบีบีเซรั่มเสร็จแล้วประมาณ2นาที
ถึงจะเริ่มแต่งหน้าในขั้นตอนต่อไปนะ


ความเห็น:

สำหรับทรายแล้ว เนื้อเค้าดูเหมือนจะเกลี่ยยาก แต่พอได้เกลี่ยๆ แตะๆจริงๆ
คือใช้เวลานิดหน่อย แต่เกาะติดผิวดีมาก ดูดกับผิวแล้วก็ปกปิดอยู่ในระดับที่สูงเลย
ถ้าเทียบกับบีบีครีมทั่วไป แต่มันต่างกับบีบีครีมที่ปกปิดได้ดีระดับเดียวกันตรงที่
พอทาเสร็จแล้วเราไม่รู้สึกหนักหน้า มันเบาๆ เป็นความรู้สึกใหม่สำหรับทรายนะ
กับการปกปิดและมีสารกันแดดระดับนี้ พัฒนาได้ดีเลยทีเดียวค่ะ

คือ จากประสบการณ์ปกติแล้ว สังเกตเองว่าบีบีของฝรั่ง จะเนื้อไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่
ต้นฉบับจากเกาหลีจะดีกว่าถึงแม้จะติดเทาซะส่วนใหญ่ ของฝรั่งถ้าไม่บางจ๋อย
ก็จะหนามาก ชมพูมาก ตัวนี้ของเดอะบอดี้ช็อปถือว่าให้ประสบการณ์ใหม่กับทรายเลย

แต่ข้อด้อยก็ยังมีนะคะ คือสีค่อนข้างสว่าง อย่าลงหนักมือ ให้ลงเป็นเลเยอร์ดีกว่า
เนื้อออกแนวแมต ไม่เงาเหมือนบีบีเกาหลีทั่วไป มองไปแล้วไม่มีชิมเมอร์ค่ะ
ต้องให้เหงื่อออก หรือหน้าผลิตน้ำมันเล็กน้อย มันถึงจะจับตัวเป็นสีใสๆ ดูแล้วมี
ผิวเปล่งๆ อธิบายยังไงดี ดูในวีดีโอจะเห็นชัดอ่ะค่ะ แบบช่วงทาเสร็จใหม่ๆกับสักพัก
จะเห็นว่าผิวมันดูเงาขึ้น เค้าไม่ได้ควบคุมความมันนะ แต่ก็ไม่ได้ทำให้มันเพิ่มมากขึ้น
ถ้าเค้าคุมมัน ทรายคิดว่าทรายใช้ไม่ได้ เพราะพื้นฐานผิวขาดน้ำ มันจะรู้สึกแห้ง
ไม่สบายผิว ตามมุมเล็กๆของหน้าอาจจะทายากนิดนึง ช่วงซอกปีกจมูกจะมีเป็นคราบ
ได้เป็นส่วนแรกของใบหน้า ทรายชอบอีกอย่างตรงที่เวลาที่เริ่มเยิ้มแล้ว มันจะไม่
เป็นคราบแบบคลื่นๆย้อยๆรูๆ เอาทิชชู่หรือกระดาษซับมัน แตะเบาๆ แล้วก็เอานิ้ว
กดๆเบาๆ มันจะกลับมาดูดีเกือบเหมือนเดิมได้ค่ะ


 photo DSC08409copy_zpsd9c3849f.jpg


ดูจากรูปจะสามารถสังเกตเห็นผิวบริเวณที่ทาบีบีครีม และตรงที่ไม่ทาว่าต่างกัน
อย่างชัดเจนในเรื่องของความเนียน ความกระจ่าง


 photo IMG_0254_zps8322aa31.jpg


รูปด้านบนนี่คือผิวหน้าทรายก่อนลองทาบีบีตัวนี้ค่ะ คือทรายไม่มีปัญหาอะไรมาก
เป็นสิวบ้างประปราย ในรูปมีสิวอักเสบยังไม่ตุ่ยขึ้นมา เป็นสีแดงใหญ่โตมากที่คาง
ตรงอื่นก็รอยแดงทั่วๆไปปกติ


จากนั้นทรายลองทาบีบีครีม แล้วก็ไม่ได้ใช้คอนซีลเลอร์เลย และตบทับด้วยแป้งฝุ่น
ไม่มีสีเบาๆ เพียงเล็กน้อย แล้วก็ลองแต่งหน้าแบบเต็มๆดู ได้อย่างที่เห็นในรูปค่ะ


 photo IMG_0344_zpsef667d5e.jpg


ในรูปก็ใช้เมคอัพของ The Body Shop นะ มีHow to เล็กๆอยู่ในคลิปด้านบน
คือถ้าชอบดูแบบชัดๆวีดีโอ ทั้งเนื้อสี วิธีทา และฮาวทูแต่งหน้า ก็กดเปิดวีดีโอ
ไปดูได้เลยค่ะ ชัดแจ๋วแหว๋วทรายอัดเป็นHDเลยให้เห็นชัดๆ


 photo IMG_0327_zps0906f194.jpg


อย่างไรเสีย รีวิวของทรายก็เป็นไกด์ไลน์คร่าวๆ ถึงคุณสมบัติและความคิดเห็น
ส่วนตัวที่ได้ลองใช้ทั้งในอุณหภูมิปกติและในห้องแอร์ ก่อนตัดสินใจซื้อก็ลองแวะ
ไปทดลองก่อนนะคะ ว่าชอบไหม? เหมาะไหม? ที่เคาเตอร์เค้ามีให้เทสได้ค่ะ


 photo IMG_0384copy_zps5f0d768f.jpg





Disclaimer: Sponsored Content by The Body Shop Thailand
Information: //www.facebook.com/TheBodyShopTH





 

Create Date : 04 มีนาคม 2556    
Last Update : 4 มีนาคม 2556 1:49:13 น.
Counter : 15892 Pageviews.  

Swatch/Review: illamasqua ตา แก้ม ปาก สะสมไว้หลายนานๆเขียนที





สวัสดีค่าวันนี้ฟินน์มากอีกแล้ว เพราะว่าวันนี้จะเขียนบล็อกถึงเมคอัพแบรนด์โปรด
illamasqua (อิลลามาสก้า) หรืออิหล้าที่ทรายเรียกมานานอ่ะนะ (เสียหมดเยยย)
เค้ามาเปิดเคาเตอร์ที่ไทยเมื่อปลายปีนะคะ ทรายดีใจมากเพราะว่าจะได้ไม่ต้อง
คอยเดาอีกแล้วว่า ซื้อมาแล้วสีมันจะเหมือนที่เราเดาไว้ไหม? ตอนนี้ไปลองได้ที่
เคาเตอร์เลย ไม่ต้องกังวลไม่ต้องเกร็งว่าจะโดนภาษีไหม?เหมือนที่ผ่านมาด้วย


 photo DSC08222_zpsd1609a75.jpg


เคาเตอร์ตอนนี้มี2ที่นะคะ เซ็นทรัลชิดลม กับเซ็นทรัลลาดพร้าว เผื่อใครอยากจะ
ไปเดินดูเคาเตอร์สีดำๆ ตีมเหมือนโรงละคร ตั้งแต่มาตั้งที่เซ็นลาดฯ ทรายแวะ
ทุกครั้งที่เข้าห้างเลยอ่ะ - -’ รู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยกระเป๋าเท่าไหร่ แต่บีเอน่ารัก
อยากเล่นอะไรก็ได้สบายๆ ถึงเค้าจะใส่ชุดดำๆแต่งหน้าจัดเต็มกัน แต่ก็ไม่ได้มี
กริยาดำๆเหมือนชุดนะ ลองเข้าไปดู


วันนี้ทรายมีมาอวดเยอะเลย มีทั้งของทตัวเองเสียเงินซื้อมาเอง และแบรนด์ให้มา
ในฐานะที่ทรายชื่นชอบเค้ามานานมากอ่ะนะคะ >/////< เดี๋ยวแจกแจงให้อ่านนะ


 photo DSC08218_zps3d589690.jpg


ก่อนอื่นพูดถึงสิ่งที่ทรายไปเลือกที่เคาเตอร์เค้ามาก่อนนะ (อันนี้ฟรี)

Pure Pigment 2 สี
Lipstick 2 สี
Sealing Gel 1 กล่อง
แปรง Blending Brush I

ส่วนที่เหลือสิ่งที่ทรายซื้อเองมีตามนี้ค่ะ

Nail Varnish สี Rampage
Powder Blusher สี Sophie
Lipstick 1 สี #Box
Pure Pigment 1 สี


ทีนี้ทรายจะกระหน่ำโพสรูปแล้วนะคะ เอารูปรวมไปก่อนว่าอะไรเป็นอะไรบ้าง


 photo DSC08323copy_zps9a62dd7b.jpg


ชิ้นแรกเลยทรายขอเริ่มที่แก้มแล้วกันเนอะ เพราะเป็นสิ่งที่ทรายมีเยอะที่สุดในบรรดา
เครื่องสำอางทั้งหมดของอิลลามาสก้าที่ทรายมี ตลับนี้มาอยู่กับทรายเป็นลำดับที่ 14ละ


 photo 7_zps36add045.jpg


Illamasqua Powder Blusher # Sophie ตัวนี้เป็นบลัชตัวที่2ของอิลลามาสก้าที่มี
ส่วนผสมชิมเมอร์ในสีด้วย ปกติแล้วทั้งไลน์จะเป็นเนื้อแมตหมดเลย ยกเว้น Ambition
สีนี้ในเว็ปอธิบายว่าเป็นสี Golden Coral Shimmer (สีส้มทองชิมเมอร์ประกายทอง)
สีน่ารักมากๆ เวลาปัดลงไปแล้วมันจะให้สีแบบก่ำๆวิ๊งค์ๆ ดูสดใส ซนๆ


 photo 17_zpsb7f9a0df.jpg


ชิ้นต่อไปทรายขอพูดถึง Sealing Gel ค่ะ มันเป็นน้ำยาที่เอาไว้หยดผสมกับพวกเพียวพิกเมนต์
อายแชโดว์, ที่เขียนคิ้วแบบเนื้อเค้ก, หรืออายแชโดวแบบเนื้อเค้ก เพื่อทำให้ได้สีชัดขึ้น ติดแน่นขึ้น
ทนนานมากขึ้น มันไม่เยิ้มนะคะ มันเป็นน้ำใสๆเลยแล้วก็ช่วยให้พวกนั้นแห้งเร็วหลังจากที่เสร็จแล้ว
ในกล่องจะมี2ขวดฮะ ใช้แค่หยดเล็กๆ 1หยดนะ เดี๋ยวมีวิธีใช้กับเพียวพิกเมนต์ให้ดูด้วย


 photo 1_zps05843583.jpg


แน่นอนว่าสิ่งที่จะพูดถึงต่อไปก็คือ Pure Pigment สีมันสวยมากกกกกกกกกก
ทรายมีของตัวเองอยู่สีนึง ชื่อ Furore เคยเขียนถึงไปครั้งนึงแล้วแต่ไหนๆก็มีเพื่อน
มาอยู่อีก 2สี เลยจับมารวมกันทำรีวิวอีกทีเลยดีกว่า เจ้าพวกนี้สามารถใช้ได้กับ
ทุกส่วนของร่างกายเลย เอาไปผสมกับอะไรก็ได้ค่ะ ขออธิบายสีก่อนแล้วกันนะ

Furore = Champaign Peach Shimmer
Alluvium = Iridescent Midnight Blue
Fervent = Reddish Brown with Blue, Green & Silver Shimmer


 photo 10_zps1015e4e2.jpg


ทดลองสีที่กระดาษทิชชู่ให้ดู เพราะพื้นมันขาวเนอะ จะเห็นชิมเมอร์วิ๊งค์ชัดเลย


 photo 11_zpsf6c0f00e.jpg


ชัดๆแต่ละสี จะเห็นว่ามันมีมิติของมันเอง โดยเฉพาะ Alluvium กับ Fervent


 photo 12_zps571c79de.jpg


ภาพด้านบนนี้ทรายอยากให้เห็นเวลาที่แสงปกติ กับแสงน้อยแล้วมันเล่นประกาย สวยมาก


 photo 8_zps8307dd55.jpg


ทีนี้อย่างที่บอกไปว่า Sealing Gel สามารถนำมาผสมแล้วเปลี่ยนให้สีชัดขึ้น คมขึ้น
และติดทนขึ้นได้ ทรายหยด 1 หยดผสมกับ Pure Pigment ให้ดู ทำเป็นอายไลเนอร์ได้


 photo 9_zps6630fd37.jpg


ทีนี้ขอไปที่Applicator นิดนึง ทรายเอาแปรงมา จริงๆทรายเป็นแฟนแปรงของ
อิลลามาสก้าด้วยนะ ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่มาไทย ทรายซื้อแปรงมา2ด้าม เป็น
แปรงแก้ม Blusher Brush I กับ แปรง Highlighter Brush วันที่ทรายไปเทส
สีลิป พี่BA เอาแปรงตัวที่ทรายจะเขียนถึงนี้ Blending Brush I มาแต้มเจ้า
ผง Pure Pigment แล้วขยี้มันบนแขน OMG!!!!! มันเริศมาก พี่เค้าบอกว่า
เพราะแปรงถึงตบสีออกมาชัดแบบนี้ กรี๊ดฮะ ทนมิได้ = =’ (นางเป็นเหยื่อจริงๆ)


 photo 2_zpsb206d88f.jpg


มาต่อกันที่ลิปนะคะ มีทั้งหมด 3 สี อิลลามาสก้าเนี่ยมีลิปสีแปลกๆเยอะมาก
แต่ก็มีสีธรรมดาที่เหมาะสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันเยอะเหมือนกัน ทรายไปลอง
เทสสีลิปแล้วก็เลยถ่ายรูปเอาไว้ แต่ว่าด้วยไอแพด มันก็เลยอาจจะไม่ชัดเท่าไหร่
แปะไว้ให้ดูแล้วกันนะคะ เป็นสีที่ทรายเลือกมาว่าอยากลอง แล้วก็ทาเลย

สีเรียงแบบนี้นะคะ

แถวบน Obey - Brink - Fable - Test
แถวล่าง Sangers - Salacious - Growl - Utopia


 photo illatest_zps9529b977.jpg


กลับมาที่สี 3 สีที่บอกไปข้างต้นนะ จะมีสีตามนี้ค่ะ เป็นเนื้อแมตทั้งหมดนะคะ

Box = Deep Scarlet Red, Matt Finish
Salacious = Matt Raspberry Red
Growl = Rich Mahogany Brown, Matt Finish


 photo 5_zpsc0b9d206.jpg


ทรายชอบลิปแบรนด์นี้มาก เพราะเป็นเนื้อแมตที่ไม่แห้งจนทำให้ปากทรายพัง
แต่มันก็อาจจะอยู่ที่พิกเมนต์ของสีแต่ละสีด้วย ลิปเนื้อแมตนี่ทรายแนะนำเลยนะ
คือใครที่อยากดูปากสวยแบบคลาสสิคเลยควรมีมาก สีเข้มๆถ้าอยากให้สวยควร
เป็นเนื้อแมต พออยู่บนปากเขียนเต็มๆอิ่มๆ มันแบบว่าโอ๊ยจะเป็นลม ทรายทาไป
ที่ไหนก็มีแต่คนทัก มีแต่คนถาม ว่าสีอะไร ของอะไร แซ่บมากกกก


 photo 6_zps49432a09.jpg


ขอเริ่มที่สีแดงสดของเราก่อนนะ คือลิปสติกสีแดงเนี่ย มันมีหลายเฉดนะคะ
อย่าเห็นว่าเป็นแดงแล้วมันจะเหมือนกันไปหมด คุณต้องลอง ต้องทา แค่มัน
มีส่วนผสมสีต่างกันนิดหน่อย มันก็กลายเป็นอีกเฉดนึงแล้ว อีกลุคนึงแล้ว

สีในรูปด้านล่างนี้คือ Box ค่ะ ทรายทาเมื่อวันวาเลนไทน์ คอมเมนต์กระจายมาก
มันเป็นสีแดงเข้ม แดงสการ์เร็ต สวยมากกกกกกก

 photo 13_zps6ea09408.jpg



สีถัดไปเป็นสี Salacious ออกเป็นแดงราสเบอรี่ คือออกแนวแดงอมชมพูตุ่นๆ
สีนี้วันก่อนทา ก็กรี๊ดแตกกันไปอีกเช่นเคย ทรายทาในคลิปงานลีวายส์


 photo 14_zpsa54a1a58.jpg


และสีสุดท้าย สี Growl เป็นสีที่เชื่อว่าหลายคนไม่กล้าหยิบ เพราะในแท่งมันดู
แบบว่าทะมึนทึมมาก เป็นสีน้ำตาลแดงมะฮอกกานีเข้ม ตีสีให้แตกจะเห็นว่า
มันไม่ได้ทึมอะไรขนาดนั้น สวยพอตัว ในรูปทรายปากแตกแห้งนะคะ (ที่บ่นว่า
ไม่รู้กินอะไรผิดเข้าไป พอมันเลิกบวมมันจะแตกแบบนี้T_T แล้วพอทาลิปทับจบเลย)


 photo 15_zpsf9c452df.jpg


หมดละ มาถึงสิ่งสุดท้ายกันแล้ว วันนี้เป็นสีเล็บที่เห่อมากกกกกกกกกกกกกกกก
ใส่ลากเสียงยาวๆเลยชอบ คือปีนี้เค้าบอกสีเขียวมรกตมาแรงมาก ทรายก็บ้าทุกอย่าง
เห็นเล็บเขียวไม่ได้ คือตอนแรกทรายตั้งใจจะไปซื้อสี Elope ที่เห็นกูรูยูทูปทาแล้วแบบ
เห้ย เอา!!! จะเอา!!! มันเป็นเขียวสดใสสวยมาก ปรากฎว่ามัน Discontinue ไปแล้ว - -’

เสียใจอ่ะ มาแล้วไม่ได้อะไรที่ต้องการ เลยกวาดตามองไปทั่วชั้นที่โชว์ยาทาเล็บ อุ๊บร๊ะ!!
เจอแล้ว สิ่งที่ต้องเสียเงิน (พฤติกรรมน่ากลัวเนอะ -*-) เจอยาทาเล็บสีมรกตเข้มจริงจัง
พี่คะเอาอันนี้ รีบทำบิลค่ะ!!!! Nail Varnish สี Rampage ค่ะ


 photo 3_zps8d69fa0f.jpg


ทรายผิวค่อนข้างขาว พอทาปุ๊ป มันขับผิวขึ้นไปอีก โอ้ววว เลอค่าาาา ฉันรักเธอว์


 photo Rampage_zpsa1258bfd.jpg


หมดละบล็อกนี้ ทรายคิดว่าไหนๆก็หยิบมาเล่นจนเละไปหมดแล้ว ก็เลยเอาPure Pigment
ทั้งหมดมาลองทาหน้า แต่งหน้าแปลกกว่าปกติดู คือทรายจะเป็นคน Play-Safe ตลอด
เรื่องของการแต่งหน้า จะแบบเบสิค หรือ แบบที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้ อันนี้คือเสี่ยงตาย
เอาSealing Gel ผสมสี Fervent มาทาที่คิ้ว วาดขึ้นเป็นคิ้วเลย แล้วก็เอาผสมกับสีน้ำเงิน
Alluvium มาทำเป็นไลเนอร์ เส้นหนาๆ แล้วที่หน้าเงามากนั่น ทรายเอา Furore ปัดทั้งหน้า
ส่วนปาก ก็สีเดียวกับคิ้วคือ Fervent แต่ทรายทาลิปสีทึมๆดำๆไว้ก่อน แล้วเอานิ้วจิ้มพิกเมนต์
แล้วแตะๆที่ปากให้ติดกับลิปสติกที่ทาไว้ ออกมาเป็นแบบนี้ 555 มีแต่คนบอกว่าดูนางมารมาก
ปกติไม่เห็นทำอะไรแบบนี้ ก็นะ เมคอัพเราลบกันได้ อยากทำอะไรก็ทำเถอะ ไม่เดือดร้อนใคร









Disclaimer : Sponsored Content by illamasqua
Information : //www.facebook.com/Illamasqua.th
Information : ผลิตภัณฑ์ที่มีสปอนเซอร์และไม่มีแจกแจงไว้ในบทความค่ะ











 

Create Date : 01 มีนาคม 2556    
Last Update : 1 มีนาคม 2556 22:19:24 น.
Counter : 37438 Pageviews.  

Review: Dr.Pharm Multi-Function BB Cream บีบีน้องใหม่จากเกาหลี






ก่อนจะพูดถึงตัวบีบีครีม ทรายเล่าถึงแบรนด์ก่อนแล้วกันนะคะ เพราะว่าเป็นแบรนด์ใหม่
อาจจะยังไม่คุ้นหูคนไทยเท่าไหร่นัก ทรายรู้จักกับแบรนด์นี้ตั้งแต่3-4เดือนก่อน ถ้าจำไม่ผิด
ได้รู้จักเพราะผู้นำเข้าดร.ฟาร์มในไทย เค้ามาแนะนำตัว แล้วก็เอาโปรดักส์มาแนะนำให้รู้จัก
ภรรยาเค้าเป็นชาวเกาหลี ซึ่งย้ายมาอยู่ประเทศไทยกับสามี และเป็นลูกค้าของDr.Pharm
ที่เกาหลี ใช้จนรักจนชอบพอวันนึงมีโอกาสที่เมืองไทย จึงคิดนำเข้าแบรนด์ที่ตัวเองชอบ
มาเปิดตลาดที่ไทยค่ะ





ที่เกาหลีแบรนด์Dr.Pharm จะมีเคาเตอร์อยู่ที่ดิวตี้ฟรีในเมืองเท่านั้น คือพวกล็อตเต้ ทงฮวา
แต่ว่าทรายไปเกาหลีล่าสุดได้เจอเคาเตอร์เค้าที่ล็อตเต้เมียงดงไม่ได้เข้าอีกที่นึงเลยไม่แน่ใจ
ว่ามีไหม แบรนด์เค้ามีสกินแคร์เป็นหลัก ไม่มีเมคอัพ มีแต่เบสเมคอัพพวกบีบีครีม แป้ง
อะไรทำนองนี้ ส่วนตัวแล้วทรายปลาบปลื้มกับพวกมาส์กของเค้ามาก ซึ่งเค้าเองก็บอกว่า
มาส์กเป็นสิ่งที่คนเกาหลีใช้กันเป็นประจำ ใช้กันเหมือนเป็นกิจวัตร การแข่งขันเรื่องมา์ก
ที่เกาหลีจึงมีสูง และมีให้เลือกหลากหลายมาก มาส์กของเค้าจึงมีแต่ตัวเด็ดๆที่ส่วนผสม
หลักเป็นตัวที่ยอดนิยมในระดับเข้มข้นทั้งนั้น เอาไว้ทรายค่อยเล่าอีกทีแล้วกันเดี๋ยวยาว
ตอนไปเกาหลีล่าสุดทรายก็จัดมาส์กเค้ามาเยอะเลยเหมือนกัน เพราะได้ลองตัวอย่างที่
ทางไทยให้มาลองแล้วปลื้ม ไปถึงถิ่นก็เลยไม่พลาด


Photobucket


สกินแคร์เค้ามีไลน์ที่จัดอยู่ในระดับพรีเมี่ยมเทียบเท่าแบรนด์ดังมากที่เพิ่งเปิดตัวในไทยด้วย
แต่วันนี้ทรายขอพูดถึงแค่เรื่องบีบีครีมก่อนแล้วกัน เพราะสกินแคร์เค้าเอามาให้ลองเทส
ตอนที่พบกันแต่ว่าไม่ได้เอามาทดลองใช้ แล้วก็ยังไม่เข้าวางขายในไทย


Photobucket


BB ตัวที่เห็นวางขายอยู่จะมีอยู่ 2 ตัว คือ สีแดงกับดำ ส่วนตัวสีทองเป็นตัวที่ยังไม่วาง
แต่ทรายได้มาลองเทสเป็นตัวแรกเลย เพราะว่าชอบเนื้อมากตอนเจอกันครั้งแรก
เค้าก็เลยให้เอามาใช้ มันมีส่วนผสมของเมือกหอยทาก ที่เกาหลีฮิตมากๆ และก็แพงนะ
เป็นตัวบีบีพรีเมี่ยมของเค้า ทรายออกนอกเรื่องอีกละ 555 กลับมาที่ตัวสีดำสีแดงก่อน
อันนี้เป็นระดับกลางของเค้า สูตรเดียวกันแตกต่างกันที่สี


Photobucket


Photobucket


เบอร์ 01 คือหลอดสีดำ เป็นสี Natural ออกเหลือง ไม่มีชิมเมอร์
เบอร์ 02 คือหลอดสีแดง เป็นสี Pearl-Shine ออกชมพู มีประกายมุก

ทั้ง2หลอดเนื้อต่างกันเล็กน้อย สีแดงจะเหลวกว่าดำนิดหน่อย ส่วนตัวแล้ว
ทรายใช้สีแดง สีดำนี่ลองครั้งเดียว สีแดงใช้มาตลอดตั้งแต่ได้มา คือวันไหน
ที่ไม่แต่งหน้า ขี้เกียจทาอะไรเยอะแยะก็ปาดตัวนี้แล้วก็ตบแป้งฝุ่นเบาๆไป

ทรายใช้ได้ทั้ง2สีนะ ถึงสีดำจะเข้มกว่าแดงนิดหน่อย แต่มันเป็นสีที่มาตรฐาน
มันออกเหลือง ซึ่งคนเอเชียใช้ได้หมดแหละ แต่ทรายเลือกใช้สีแดงเพราะว่า
ชอบตรงที่มีประกายชิมเมอร์ คือทรายไม่ค่อยชอบให้ผิวดูแมต จริงๆดำมันก็
ไม่ได้แมตมากหรอก มันเหมือนบีบีปกตินั่นแหละ แต่เค้าชอบวาวนิดฉ่ำๆน่ะ55
ทั้ง2ตัวดีมากตรงที่ไม่มีตัวไหนมีสีออกเทาเลย


Photobucket


Photobucket


ตัวนี้มันจะเหมาะกับคนที่ผิวไม่ค่อยมีปัญหานะ เพราะมันไม่ค่อยปกปิด เป็นแนว
แบบว่าเผยผิวมากกว่า เกลี่ยง่าย เนื้อเบาๆ เวลาทาเค้าแนะนำว่าให้ค่อยๆแตะๆกดๆ
มันจะอัดลงผิวแล้วอยู่ติดทนนานกว่า มีเป็นคราบที่ซอกจมูกบ้างพอเวลาผ่านไป
แต่ว่าสีไม่ดร็อป เป็นบีบีที่มีค่า SPF สูงถึง 43 PA+++ แต่ไม่หนัก ไม่หนา
แล้วก็มีคุณสมบัติอื่นๆที่ช่วยบำรุงในตัวด้วย อย่างที่หน้าหลอดเขียนไว้หลายข้อ

- ปกป้องและลดการเกิดริ้วรอย
- ให้ผิวกระจ่างใส
- คุมมัน
- มีการบำรุงให้ความชุ่มชื้น
- เป็นเมคอัพเบสและรองพื้นในตัว
- มีกันแดด spf 43 PA+++

ทรายแนะนำว่าสีแดงเหมาะกับคนที่ขาวหน่อยนะคะ เพราะทรายทาแล้วก็ยังรู้สึกว่า
สีค่อนข้างขาว ถึงมันจะทำให้ดูหน้ากระจ่างใส แต่ถ้าไม่ได้เป็นคนที่สีผิวใกล้เคียง
กับสีบีบี มันจะดูโดดไปหน่อย แต่ถ้าบีบในปริมาณน้อยๆก็โอเคอ่ะค่ะ เหมาะกับใช้
ในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่ออกงานนะคะ ออกงานคงต้องไปพึ่งพวกรองพื้นที่มีการปกปิด
หนักๆกว่านี้ จะได้กริ๊บๆ อันนี้เหมาะกับวันชิลๆ สวยเบาๆ สบายๆ ในรูปจะยังเห็นอย่าง
ที่บอกไปว่ารอยสิวปิดไม่ได้เด้อ ต้องเอาคอนซีลเลอร์ช่วย


Photobucket


Photobucket



*Tipเล็กน้อย*


เท่าที่ใช้มาคือสังเกตว่ามันจะอยู่ได้ประมาณ 5-6ชั่วโมง แต่มันจะเริ่มความสวยลดลง
เรื่อยๆเหมือนเวลาใช้รองพื้นทั่วๆไปนึกออกป่ะคะ ที่จะแนะนำก็คือ ลองพกติดตัวออก
ไปนอกบ้านด้วย แล้วเวลาที่ต้องการเติมก็บีบออกมาเล็กน้อย ค่อยๆเอานิ้วกดๆเกลี่ยๆ
ทีละเลเยอร์บางๆ มันสามารถเติมได้ไม่เละค่ะ เพราะมันเป็นบีบีที่เนื้อค่อนข้างบาง
วิธีนี้จะช่วยยืดเวลาออกไปอีกหน่อย กรณีที่ต้องใช้หน้านั้นเกินเวลาที่บอกไป ^^




Disclaimer:
Sponsored Content by Dr.Pharm Thailand
Information: //www.facebook.com/Dr.pharm.thailand
Information: มีจำหน่ายที่ร้านวัตสัน, ร้านบู้ทส์ , Tsuruha และ Dr.Pharm Facebook








 

Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2556    
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2556 14:19:19 น.
Counter : 8979 Pageviews.  

เห่อย้อนหลังCHANELไฮไลต์สุดงาม Poudre Signee de Chanel


เห่องวดนี้ย้อนหลังไปไกลมากหน่อย ทรายซื้อไฮไลต์ตัวนี้มานานแล้วตั้งแต่มันวางขาย
แล้วก็กรี๊ดกร๊าดไปในIG/FB แต่ไม่ได้เขียนลงบล็อกสักที วันนี้โอกาสดีมามาเขียนเก็บ
เอาไว้เชยชมในภายภาคหน้าเนอะ มันเป็นลิมิเต็ดน่าจะขายหมดไปแล้วหละ (ไม่แน่ใจ)


Photobucket


Photobucket


Photobucket


ปกติแล้วไฮไลต์ชาแนลจะออกมาพร้อมกับแปรงขน แต่ตลับนี้เป็นแปรงหัวฟองน้ำแบนๆ
ขนาดใหญ่พอตัว ทรายใช้แล้วไม่ชอบนะ เพราะว่าเมื่อปีก่อนก็เคยมีออกมาครั้งนึง
มาคู่กับไฮไลต์นี่แหละ ใช้แล้วมันไม่ฟินน์ แบบแปรงดีกว่า


Photobucket


ตอนแรกทรายกรี๊ดเพราะลวดลายบนเนื้อไฮไลต์ คือแบบว่า งดงามมมม เลอค่าาาาา
พอมันวางขายปุ๊ป บล็อกเกอร์ต่างชาติก็รีวิวกันใหญ่ แล้วแบบว่าเห้ยยยย สวยยยยยย
เลยพุ่งตัวไปเคาเตอร์ลองที่มือ OMG!!!! มันสวย มันสวย มันสวย เลยได้เสียเงินทันที


Photobucket


ตัวนี้มันให้สีวาวๆไปทางโทนมุกๆ ชาแนลชอบทำโทนนี้ ใจจริงทรายชอบสีทอง
ไฮไลต์หนังกบสีทองของชาแนลที่ออกมาสองสามปีก่อน ทรายยังชอบเป็นที่1
ในใจเสมอ มันสวยมากจริงจัง อยากให้มีทำออกมาอีก


Photobucket


แบบว่าแทบไม่กล้าใช้เลย >////< ไม่อยากให้ลายมันหายไป เก็บไว้บูชา


Photobucket



ลงที่หน้าแล้วทรายว่าไม่สวยนะ มันไม่ดึงดูด บางมุมดูเหมือนทำให้หมอง
ทำไมตอนลองกับมือมันถึงสวยจัง -*- ผิดหวังนิดหน่อย เลยว่าจะเก็บไว้
เอาไว้ปัดตัวแทน หรืออาจจะต้องลองหาวิธีปัดหน้าใหม่ นี่ทากับแปรงฟองน้ำ
อาจจะไม่ได้แบบที่ชอบ ไว้ลองอีกที






Photobucket



มีเรื่องนึงอยากเล่าแล้วก็อยากรู้ว่าใครเป็นคนส่งมาให้ด้วย ช่วงเวลาใกล้เคียงกับ
ที่ทรายซื้อไฮไลต์ตัวนี้ ทรายได้รับพัสดุไม่ระบุชื่อคนส่งมาเป็นหน้ายิ้ม พอเปิดออกมา
เป็นไฮไลต์ชาแนลคอลเลคชั่นก่อนตัวนี้ โอ้วววววพระเจ้า!!!! ช็อคมากๆ


Photobucket


คือทรายอยากทราบ อยากขอบคุณจริงๆนะคะ ทรายยังไม่รู้ว่าใครส่งมาให้
หรือว่าถ้าไม่อยากเผยตัวจริงๆ ขอขอบคุณผ่านตรงนี้เลยแล้วกันนะ
ตื่นเต้น แล้วก็ตกใจมากๆ เพราะมันค่อนข้างมูลค่าสูงเลยขอบคุณจริงๆนะคะ ^^



Disclaimer : ไม่มีสปอนเซอร์ค่ะ




 

Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2556    
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2556 0:16:37 น.
Counter : 9380 Pageviews.  

Review: MAC VIVA GLAM I & III ลิปสติกสีแดงที่พึงมีติดบ้านไว้ทุกนาง






ขอออกตัวล้อฟรีก่อนว่า ปกติแล้วไม่ใช่แฟนลิปแม็ค เพราะว่าเมื่อหลายปีก่อนสมัยยุคบุกเบิก
เคยบ้าซื้อมาหลายแท่งแล้วปรากฎว่าทาแล้วแพ้ (ริมฝีปากแห้ง แตก ลอก ผื่นขึ้น) ก็เลยถูกตัด
ออกจากกองมรดก ไม่สนใจซื้อลิปแม็คมาหลายปีแล้ว (ฝังใจ) แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ก็มีการ
ติดตาม อัพเดตข่าวสาร ดูนั่นนี่โน่น ของแม็คอยู่ตลอดเวลา ก็แหมกูรูฝรั่งเนี่ย นางข่าวไว
และรีวิวกันไวมากๆ กิเลสก็เกิดกันแบบว่ารายวันเลยทีเดียว

ทีนี้ทำไมหลวมตัวพุ่งไปสอยลิป2แท่งนี้มา ต้องบอกว่าได้เห็น และได้ยินกิตติศัพท์ความงาม
ของนางๆทั้ง2มานานแล้ว เวลาเห็นน้องนางแบบทาปากแดงสวยๆ เห็นบิวตี้กูรูฝรั่งทาลิปสีโดน
มากๆ ก็ไปตามถาม ตามหา ว่ามันคือสีใด ยี่ห้อใด ถามหลายที หลายนาง ก็บอกว่าแม็คๆๆๆๆ
อิชั้นก็ด้วยความที่เป็นชะนีหัวโปกคนนึง อดใจไม่ได้จริงๆ ล่าสุดเห็นน้องในเฟสบุคนางนึงทา
ก็พุ่งไปถามอีกว่าลิปนางสีอะไร นางบอกว่า MAC ViVa Glam I ค่าาาา อิชั้นก็ทนไม่ได้พุ่งค่ะพุ่ง

ตามประสาชะนีไซเบอร์ ก่อนจะซื้อจะสอยอะไรก็ต้องหาข้อมูลออนไลน์ก่อน ที่ไทยมีไหม?
แล้วไอ้วีว่าแกลมเนี่ย มีสีอะไรโดนๆอีก ก็ไปป๊ะ จ๊ะเอ๋ กับ2อนงค์นี้เข้า เลยไปเผชิญหน้าท้าแอร์
ที่เคาเตอร์พารากอน (เพราะดิฉันมีบัตรแพตตี้ลดได้10% ทุกอย่างจึงไม่ค่อยไปสอยที่อื่น)
พกความมั่นใจไปเต็มร้อย อยากซื้ออะไรพุ่งเข้าไปบอกชื่อเสร็จศัพท์ บีเอคงอึ้ง ชะนีเทรนด์มาดี
ข้อมูลนางแน่น เทคแคร์ได้น่ารัก นางบอกว่าซื้อลิปวีว่าแกลมวันนั้น เท่ากับเงินที่ซื้อทั้งหมด
ไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆเลย จะเป็นเงินบริจาคให้โครงการการกุศลอะไรสักอย่างจำไม่ได้แล้ว
อุ๊บร๊ะ!!! ได้ลิปถูกใจ ได้ทำบุญด้วย จัดไปงามๆ เอามา2แท่งเลยคร่า (ก่อนจ่ายขอให้เค้าเปิด
กล่องลิปเช็คสี เช็คความเรียบร้อยด้วย ชะนีข้อมูลแน่นเห็นมะ?)


Photobucket



Photobucket



Photobucket



Photobucket


ตระกูล VIVA GLAM เค้ามีหลายสี มีหลายเนื้อลิป 2 สีที่ทรายเลือกมาเป็นโทนแดงเนื้อแมต
กลัวจับใจว่าจะใช้ไม่ได้ เพราะความที่เนื้อแมตนี่แหละ ปากทรายแห้งอยู่แล้ว แต่ว่ายอมค่ะ
ความอยากลอง อยากครอบครอง มันมากกว่า



Photobucket


คำอธิบายสีจากเว็ปMAC เค้าบอกแบบนี้ค่ะ

Viva Glam I : Intense brownish blue-red (Matte)
Viva Glam III : Muted brownish-plum (Matte)

Credit : //www.maccosmetics.com/product/shaded/168/966/Products/Lips/Lipstick/Viva-Glam-Lipstick/index.tmpl


สีที่ถ่ายบนมือทรายจะได้แบบนี้ค่ะ มองจากแท่งเราจะเห็นว่าแทบไม่ต่างอะไรกันมาก
แต่เมื่อได้เทสสีแล้ว ทั้งคู่แตกต่างกันชัดเจน


Photobucket



สำหรับสีบนปาก ตัวนี้คือ Viva Glam I เป็นสีแดงเฉดที่สวยมากจริงๆ ทาแล้วเรียกความมั่นใจ
ในตัวเองขึ้นมาได้มาก ในรูปอาจจะดูสดเพราะทรายถ่ายกับแสงไฟส่องตรงๆ ถ้าเป็นช่วงกลางวัน
แสงธรรมชาติ สีนี้จะคล้ายสีปากพลอย ในโฆษณาคอลเกตค่ะ งามแงะ



Photobucket


Photobucket



Photobucket



สีต่อไปเป็น Viva Glam III สีนี้จะเป็นแดงเข้มอมพลัม ทาแล้วจะไม่สดใสแบบสีเบอร์ I
เพราะโทนนี้ค่อนข้างดาร์ค แต่ไม่ถึงกับเข้มจนดำมาก ทาแล้วจะให้อารมณ์คลาสสิค
ดูสุขุมขึ้น ดูมีลับลมคมในมากขึ้น ดูเป็นหญิงที่เดาใจยาก แอร๊ยยยยยยยยย



Photobucket



Photobucket



Photobucket


Photobucket


ก็ประมาณนี้ค่ะสำหรับสีของ 2 แท่งนี้ ส่วนปัญหาใหญ่คือ ตกลงทรายทาได้ไหม?
ต้องบอกว่า ทาได้แล้ว กรี๊ดดดดดดดดดดด ทาไปงานแต่งเพื่อนมา ชีวิตปากสบายดี
ไม่มีปัญหาอะไร ดีใจมาก แต่ก็เสียใจไปในตัว แปลว่าต่อไปอาจจะต้องเสียเงินอีกมาก
ที่อัดอั้นมากนาน เฮือกกก!!! แต่ก่อนลงลิป คือก่อนแต่งหน้าเลย ทรายทาลิปบาล์ม
พอกปากเอาไว้ก่อนไม่ให้ปากแห้ง แล้วพอทุกขั้นตอนเสร็จถึงทาลิปเป็นสิ่งสุดท้าย
อาจจะเพราะงี้หรือเปล่า มันเลยช่วยให้โอเคขึ้น เอาไงก็เหอะ ใช้ได้แล้วดีใจ ^^


สีที่แนะนำให้มีคือ Viva glam I ค่ะ คิดว่าเข้ากับทุกคน และเป็นโทนแดงที่สวยจริงๆ
ลองกูเกิลดูสีบนปากของคนอื่นๆทั่วโลก รูปเยอะมาก ทรายว่ามันเกิดมาก ควรมึจริงจัง



Disclaimer : ไม่มีสปอนเซอร์ค่ะ ซื้อเองทั้งหมด




 

Create Date : 04 ธันวาคม 2555    
Last Update : 4 ธันวาคม 2555 0:58:00 น.
Counter : 22233 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  

feonalita
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 908 คน [?]




 photo icon_facebook_48_zpsb497412b.png photo icon_instagram_48_zps84436242.png photo icon_youtube_48_zpsfc801391.png photo icon_twitter_48_zps6e17cf8d.png photo icon_pinterest_48_zps16047ffb.png

FEONALITA: Beauty & LifeStyle Blog✰
คำว่า"สวย"ของแต่ละคน มีคุณค่าไม่เท่ากัน
∙•The Beauty of an Individual◀•∙

บล็อคนี้เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 22-11-2006 ค่ะ

feonalita@gmail.com feonalita@gmail.com





Golden Rose Liquid Matte Lipstick “London
“Citra THREE 4D-Plus Eye Palette พาเลทอายแชโดวซัมเมอร์ครบทุกสี
Canmake New Collection ฟรุ้งฟริ้งหลายสิ่งน่ารักจากญี่ปุ่น Winged Liner & Chocolate Lips Inspired by Kylie Jenner
No 7 Matte Lip Crayon & Precision Lips Pencil 9สี LANCOME Juicy Shaker Full Collection










New Comments
Friends' blogs
[Add feonalita's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.