'What a treacherous thing it is to believe that a person is more than a person'
Group Blog
 
All blogs
 

Did you just say 'backpacking' ?!



เมื่อตอนทานกลางวันกันพี่ชายทูนหัวของเพย์ตั้นประกาศว่า เขากำลังวางแผนจะไป “Backpacking” ฤดูร้อนนี้กับเพื่อนๆ ของเขาอีกสองสามคน


Ha, lol.


Smiley


เชื่อไหมคะ ว่าทุกๆคนที่นั่งร่วมโต๊ะรวมถึงพ่อแม่และพี่น้องของเขาอึ้งกันไปเลย พูดไม่ออกไม่รู้จะต้องมีปฏิกิริยาเช่นไรกับข่าวนี้ของลูกชายคนรอง


แต่เพย์ตั้นน่ะ สำลักน้ำส้มเลย โพล่งออกมาว่า “WHAT?”


“Why are you so shocked ?” คุณชายเธอถามค่ะ มีการทำหน้างงด้วยนะ


ก็จะไม่ตกใจได้ยังไงเพราะถ้าใครรู้จักแฮร์รี่ดี จะรู้ว่าเขาไม่เหมาะกับการ backpack เลยสักนิด นี่ถ้าไม่รู้จักเขาดีกว่านี้ก็คงแอบคิดว่าพี่ชายทูนของเพย์ตั้นต้องเป็นเกย์แน่ๆ แต่ไม่ค่ะ เขาแค่เป็นพวก metrosexual เป็นผู้ชายแท้ๆ ที่รักความสะอาดมากและความสะดวกสบายเป็นชีวิตจิตใจ ขาด luxury ไม่ได้ และชอบ fine dining เป็นที่สุด 


มีอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อประมาณสองสามปีก่อน เรานั่งเครื่องบินจากเยอรมันไปเมืองไทยกัน ไปกันสองคน


สายการบินไทย ชั้นประหยัด แต่ก็ไม่มีจอทีวีส่วนตัว ชั้นประหยัดมันก็ไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไรเท่าไหร่นะคะ  นั่งได้อยู่ แต่ถ้าต้องนั่งกับแฮร์รี่ที่ซึ่งตั้งแต่เกิดมาเนี่ยบิน economy แค่ short range flight (ที่ไม่เกิน 3 ชั่วโมง) เท่านั้น แล้วยังเป็นพวกสมาธิสั้นมาก (อันนี้เพย์ตั้นสรุปเอาเอง) เสียอีกด้วยเนี่ย มันทรมานมากๆ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเพย์ตั้นก็อยากจะเอาไอ้หมอนเล็กๆ นั่น smother แฮร์รี่สุดๆ


เพราะเขา บ่น บ่นบ่น และบ่น จนต้องแปลกใจว่าผู้โดยสารคนอื่นๆ ทำไมไม่ลุกมาช่วยต่อว่าแฮร์รี่ให้เพย์ตั้นสักที เป็นสิบสองชั่วโมงของการเดินทางที่โหดที่สุดในชีวิตเพย์ตั้นเลยค่ะ


“ยูล้อเล่นใช่ไหม”


“ไม่เลย ซีเรียสที่สุด”


“เขาไม่ใส่สูท Hugo Boss เวลาไปแบ็กแพ็กหรอกนะ แฮร์รี่”


“เสื้อโปโลจากบอส ไอก็มีเยอะนี่”


Oh, ok then... 


Smiley


แต่ก็อดไม่ได้ที่จะถาม


"รู้ใช่ไหม ว่ามันไม่เหมือน Darjeeling Limited น่ะ" 


เงียบค่ะ ก่อนจะโวยวายวใหญ่ ย้ำว่า รู้ๆ Smiley


ไม่ค่อยอยากจะเชื่อแฮะ แถมยิ่งรู้ว่าเพื่อนร่วมทางทั้งหมดเป็นใครด้วย เอ้อ ดูๆ แล้วเหมือนจะเป็นอย่างในหนังมากกว่า


//i1099.photobucket.com/albums/g393/pp_etoile/rtuk_feature_wes_anderson_03_zps0dc18e3c.jpg



และนี่จะเป็นครั้งแรกที่แฮร์รี่จะต้องพักใน Hostel พวกเราทุกๆ คนเลยพนันกันว่าจะทนได้สักแค่ไหนเชียว ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนเป็นโรงแรมหรือไม่ก็Holiday Apartment


เขาชวนเพย์ตั้นไปด้วย ทั้งๆที่รู้อยู่ว่าเพย์ตั้นไม่มีทางถูกอนุญาตให้พัก hostel แค่ชวน แม่ของแฮร์รี่ หรือแม่ทูนหัวเพย์ตั้นนั่นเองยังหันมามองลูกชายดุๆ  รีบบอกเลยว่าไม่ได้เด็ดขาดและถ้าเพย์ตั้นไปด้วย ก็แปลว่าเขาต้องพักโรงแรมเท่านั้น 


เอ๊ะ หรือนั่นเป็นแผนการของพี่ชายทูนหัวฉันนี่


แต่ที่สำคัญคิดหรือจะว่าข้าพเจ้าจะไป -_________- คือเพย์ตั้นดู hostel ที่พวกเขาเลือกแล้วก็สงสัยว่าอยู่กันได้ยังไง เพย์ตั้น pack light ไม่เป็น แค่กระเป๋าเดินทางธรรมดายังแทบแย่ แล้วเป็น backpack จะรอดไหม


อีกอย่างเขาไม่ได้ทำหนังสยองขวัญเลือดสาดเกี่ยวกับพวก hostel กันหรอกหรือ ^^?


แถม Budapest ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ที่เพย์ตั้นชอบมากที่สุดในยุโรปเนี่ย  พอหยิบไอแพมาเปิดๆ ดู Hostel เพราะอยากรู้ว่าเป็นยังไง แฮร์รี่ก็ลองบอกๆ ชื่อสถานที่ที่เพื่อนๆ เขาพูดๆ ไว้ อันแรกที่ดู Grand Party Hostel หรืออะไรสักอย่าง มีตัวเลือกเป็นห้องน้ำแบบ ‘en suite’ ด้วย ผิวเผินดูเหมือนว่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้วค่ะ ตอนได้ยินคำว่า En Suite ครั้งแรกก็ อืม เหมือนจะดูดีอยู่นะ ไอ้เราก็ไม่ได้รู้เรื่อง hostel มากมาย แต่สักพักก็เข้าใจว่าทำไมมันถูก เพราะ เอ่อ คุณจะต้องไปแชร์ห้องนอนและไอ้ห้องน้ำในตัวนี่กับคนอีก18 คนน่ะสิคะ


โอย สู้ไปกระโดดลงแม่น้ำ Danube ไม่ดีกว่าหรือคะ เหมือนจะสะอาดกว่าเยอะเลยนะ


พอถาม (ล้อนั่นล่ะค่ะ) เรื่องการเดินทางว่าลอนดอนไปมิวนิกเนี่ย backpacker เขาทำกันอย่างไรหรือ ได้ข่าวว่าเขาเลือกรถบัส หรือไม่ก็รถไฟนะ ไม่นิยมเครื่องบินหรอก แฮร์รี่ก็ยิ้มแบบ sheepish ทันทีบอกว่า เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ เขาถือว่า ‘backpacking’ จะเริ่มก็ตอนเขาถึงที่นัดหมายซึ่งก็คือมิวนิก เพราะฉะนั้นแปลว่า “I get to fly Business”


นั่นไงล่ะ ขนาดบินไม่ถึงสามชั่วโมงนะเนี่ย!


แถมยังเสริมอีก “And we could always swap hostels for one of those 2-3 star hotels. Same difference!”


อ๋อ เหรอคะ


แล้วเขาก็กินอาหารต่อไปไม่สนใจสีหน้าของของทุกๆ คน


เพย์ตั้นล่ะหัวเราะเข้าใจทันที 


“I think you meant to tell us you were going Poshpacking, Harry!”


Poshpacking หรือ flashpacking ก็คล้ายๆ กับ backpacking นี่ล่ะค่ะ แต่ดูแล้วคงจะเหมาะกับพี่ชายทูนหัวเพย์ตั้นหน่อย ฮ่าๆ


//i1099.photobucket.com/albums/g393/pp_etoile/tumblr_lwl169DSeq1qj8vl2o1_400_zpsd12472fb.jpg

 





 

Create Date : 22 มกราคม 2556    
Last Update : 6 มีนาคม 2556 9:41:20 น.
Counter : 770 Pageviews.  

Winter Winds



And your eyes,they feel like home.

Westminster is wildly cold. Wildly. (What else is new?) Although perhaps not as cold as St.Moritz... Yeah, we were at Charles de Gaulle, ready to wrap up our spontaneous, last-minute trip that had the two of us (occasionally, with others) flying in and out of France, into Germany, to Barcelona and then back to France. James actually almost got me to Morocco at one point. That failed somehow and we ended up on a 9 hour ride on the Eurolines from Barcelona to Lyon instead. I may have looked calm, but in my head I killed him at least five times.

Anyway,then James announced that he wanted to go snowboarding at Sankt Moritz because his (equally crazy) friends were all there, then promptly asked the lady at the counter – in perfect French– if there were any business or first class tickets left to Zurich – Geneva even.Fortunately for him but unfortunately for me, there were. Plenty.

I think I died at that point. Quite literally.

All I wanted to do was board the damn flight, get back to England and sleep. So yeah I reminded him that this time last year he and his friends were at St. Moritz. His reply? “Exactly! It was amazing.”

He even used Carlton [Hotel] as a bait. Tempting, but ...no.

So look,if he wanted to go, then be my guest. I was honestly fine to head back to London without him. We are honestly that couple. Hahaha I wasn't angry, just exhausted. And he knew it. So he relented and parted ways with his snowboarding dreams (such a good boyfriend haha). Uh ... pretty sure, he was just at Colorado skiing before he came over in December. I secretly wanted to hit him to oblivion with my Berkin but sadly the social setting prohibited that.


Well, no way in hell was I missing out on Passenger’s show on Thursday, and my grandparents would probably definitely kill me if I dared miss the opera on Friday. I was also pretty keen on finishing all my Oscar films. Not to mention, my book orders (which were sitting beautifully, like some sort of immaculate art work, in my bedroom when I got there). I don’t know what I’m more excited about Dave Mitchell, Daphne du Maurier or Murakami. Still, excitement.




 




 

Create Date : 13 มกราคม 2556    
Last Update : 13 มกราคม 2556 21:36:25 น.
Counter : 534 Pageviews.  

Play me, I'm Yours

The night is the hardest time to be alive.
And 4 am knows all my secrets.


Yours Truly,
P.

 













 

Create Date : 23 ธันวาคม 2555    
Last Update : 23 ธันวาคม 2555 21:33:49 น.
Counter : 852 Pageviews.  

Baby, it's cold outside.

ฮา เปิดมาแบบอารมณ์หวานจนน่ากลัวเลย หายไปซะนาน แต่ช่วงนี้เข้ามาพันทิปบ่อยนะคะนี่อันที่จริง คือว่างจัด --- นานทีจะได้ใช้คำนี้ โอ๊ย น้ำตาจะไหล

ก็เลยฉลองด้วยการทาเล็บสี "Holiday" รับช่วงวันหยุด ตอนแรกกะจะทาสีแดงเขียวแต่เกรงใจครอบครัว ฮ่าๆ







คือเรื่องของเรื่อง กำลังติดกระทู้ของคุณแนวนิ้วนิ้วแนวที่เล่าเรื่องราวความรักของเขากับคุณชายตรรกะ แบบงอมแงม อ่านไปกรี๊ดไปจนได้รู้ความหมายของคำว่า “ฟิน” (ก็ยังไม่แน่ใจว่ามันแปลว่าอะไรหรอกค่ะแต่เดาๆ มั่วๆ ไป เหอๆ )

ใกล้คริสต์มาสแล้ว เย้ ส่วนตัวเรียกมันว่าเทศกาลเพิ่มน้ำหนักค่ะที่บ้านล้อเพย์ตั้นประจำ ทุกปี ทุกฤดูกาล น่าเศร้าจังเลย อากาศก็ช่างไม่เป็นใจ เพย์ตั้นเลยไม่ค่อยได้ออกไปวิ่ง(เอ่อได้ยินว่าข้ออ้างนะนั่น) ปกติก็ต้องบังคับตัวเองออกไปวิ่งกันอยู่แล้ว พอเจออากาศหนาวจัดแบบนี้เข้าไป เหอะ ๆขอยอมนอนอืดบนเตียงดีกว่าเนอะ

เมื่อเช้าขึ้นชั่งน้ำหนักเป็นครั้งแรกของเดือน… โอ้ พระเจ้าช่วยโอย 54.2 กิโลกรัม ขึ้นมาสองกิโลฯ ! เกลียดอากาศหนาวเป็นที่สุดก็เพราะเหตุนี้

แต่ก็เอ่อ มันคือเรื่องปกติค่ะพอพ้นเทศกาลไปก็ลดเหมือนเดิม ชิลๆ แต่จริงๆ นั้น งานหนักสำหรับข้าพเจ้าเลยนะเนี่ย กว่าจะลดได้นี่แทบตาย น้ำหนักพอขึ้นแล้วก็ไปรวมตัวที่ก้น ที่สะโพกแต่พอลดนี่แหม หน้าอกไปก่อนทุกที แฟร์ไหมเนี่ย

อิจฉาเจมส์ชะมัด เอ้อไม่ใช่เรื่องหุ่นค่ะ (โธ่ตายละ ผู้ชายนะนั่น) ตอนนี้เขาอยู่ออสเตรเลียนู่น ถึงจะไม่ร้อนอะไรมาก แต่ 23 องศามันก็เหมือนจะชนะ 7 องศาของเพย์ตั้นเลยนะ โหยหาความอบอุ่นเหมือนกัน


เขาชอบส่งรูปมากวนประสาทกันทุกนาที จาก "Cherry Christmas" ฮึ่ม ! จนถึง นี่ค่ะ สวนคริสต์มาสที่พวกเขาเตรียมกันไว้ สำหรับวันพรุ่งนี้ฉลองก่อนวันจริงค่ะ แถมเมื่อวันก่อนนี้ก็ฉลองวันเกิดปีที่ห้าสิบของแม่ทูนหัวของเจมส์ไป เค้กธีม Tiffany & Co. ...expected nothing less hahaha




แต่เคืองนานไม่ได้ค่ะไม่ได้เจอหน้ากันมาตั้งแต่ตอนฉลองคบรอบเมื่อเดือนสิงหาฯ วันเกิดก็ skype กันเอา -*- ปกติเราสองคนไม่อะไรมากมายนะคะ เพราะยิปซี เร่ร่อนพเนจรทั่วโลกกันประจำอยู่แล้ว ห่างกันนี่ก็ไม่ได้โหยหาอาลัยอาวรกันเหมือนชาวบ้านชาวช่องเขา เพื่อนสนิทคนนึงเพย์ตั้นนี่เพิ่งกลับจากแลกเปลี่ยนที่เนเธอแลนด์ปีนึง พอกลับมาปุ๊บแฟนก็จะบินไปแลกเปลี่ยนที่มิลานอีกหนึ่งปีเต็มๆอันนั้นก็เกินไปเหมือนกันค่ะ

เพื่อนๆ เคยถามบ่อยๆ ว่าไม่กลัวใจตัวเองหรือใจเขาบ้างเหรอแต่ไม่ค่ะ ถือว่าอะไรมันจะเกิดก็เกิด มาถึงจุดนี้แล้วถ้าระยะทางจะเป็นอุปสรรคก็อาจจะแปลว่าเราไม่ใช่คู่กันก็ได้ เนอะ

ปกติเดือนธันวาคมก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันหรอกค่ะยกเว้นช่วงปีใหม่ แต่หนนี้อาจจะเป็นเพราะไม่ได้เจอกันนานมั้ง แถมปัจจัยหลักเลยคือว่าเจมส์ไม่ใช่ผู้ชายที่ sweet หวานแหววอะไรเลยสักนิด เขาจะโรแมนติกเงียบๆ อธิบายยากแฮะ คือเขาไม่พูดจาหวานหูให้ได้ยินบ่อยนัก ไม่มีคำว่ารักกรอกหูทุกวันวันละหลายๆ รอบ อะไรแบบนั้น (ดีแล้วล่ะค่ะ เพราะส่วนตัวไม่ค่อยชอบ ฮ่าๆ) เขาเลือกที่จะแสดงออกด้วยการกระทำมากกว่า เพราะเพย์ตั้นเคยพูดเสมอตั้งแต่เป็นเพื่อนกันแล้วว่าคำพูดมันไม่มีค่าเท่าการกระทำหรอก ถ้ารักก็แสดงออก คำพูด พูดซ้ำๆ มันก็จะหมดค่า ข้อความ ฯลฯ เวลาส่งหากันเลยมักจะเป็นการแหย่ แบบคุยกันธรรมดามากกว่าอะไร วันวาเลนไทน์ยังฉลองอยู่ที่บ้านเลยค่ะ คิดดู ! เพย์ตั้นยิ่งแล้วใหญ่ ชอบอ่านชอบฟัง ชอบรับรู้เรื่องราวหวานๆของใครต่อใครเขานะคะ แต่ตัวเองนี่ไม่กล้าทำอะไรเลย เก้อเขินจนหมดความหวาน ฮ่าาา

แต่เมื่อตอนเช้าเขาทำเอาเพย์ตั้นสะอึกไปเลย


…นั่งจ้องโทรศัพท์จนเขาต้องโทรฯ มาหา นั่งเงียบใส่กันอยู่นาน

“So…how about an 'I miss you too' huh? ”เขาพูดขึ้นมาก่อนแบบติดตลก

"I do...like crazy."

“I wasn't going to tell you but...I'm coming over.”

Huh? มาหา หาใคร ที่ไหน เขาพูดต่อไปค่ะ ไม่ได้สนใจเพย์ตั้นที่นั่งงงเลย

"I can't take it anymore. I need to see you. "

เอ้อ...

“ไม่ต้องไปรับที่สนามบินนะ เช่ารถไว้แล้ว เดี๋ยวขับไปหาเอง ปีใหม่ไปปารีสกันนะ” อะไรนะ ทำไมเป็นแบบนี้ อะไร ยังไง ไม่เข้าใจ งง กรี๊ด!

“เพย์ตั้น ?”

เรายังนั่งอึ้ง

“หัวใจวายไปแล้วเหรอ” แน่ะมีการมาแช่งอีกนะ ตาบ้า

เอ้อ ตอนแรกว่าจะไม่ร้องก็ตกใจจนร้องไห้ไปเลยค่ะ บ้ามากๆ เขาบอกว่าเก็บความลับไม่ไหวแล้วอที่บ้านเพย์ตั้นก็รู้กันหมดทุกคน มีเราเอ๋ออยู่คนเดียว แย่จริง เอาเป็นว่าตื่นเต้นและดีใจที่จะได้เจอกันสักที รู้ละว่าทำไมปีนี้ครอบครัวเจมส์ถึงรีบฉลองคริสต์มาสกัน อิอิ

ไปละค่ะ เมื่อกี๊ไปหยิบ Boomerang ของ Michael Lewis ของคุณปู่ขึ้นมาเปิดอ่านเล่น แต่ดันวางไม่ลงเลย ที่อพาร์ตเมนท์เพย์ตั้นก็มี ซื้อตั้งแต่วันแรกที่วางจำหน่าย แต่กลับยังไม่ได้อ่านสะงั้น ฮ่าๆ

สุขสันต์วันคริสต์มาสค่ะ ทุกๆ คน :) เจ้านี่ตั้งอยู่บนโต๊ะกาแฟในห้องนั่งเล่น ชิ้นโปรดของคุณแม่เลย ตัวกวางเป็นช็อกโกแลตจริงค่ะ กับ icing เพื่อนของครอบครัวทำมาให้ และไอ้เจ้าต้นคริสต์มาสที่เพย์ตั้นมัวแต่ไปอินกับกระทู้ของพี่นิ้วเขาจนไม่ได้สนใจช่วยคุณย่าแต่ง ฮ่าๆ




 

Create Date : 22 ธันวาคม 2555    
Last Update : 15 มกราคม 2556 21:30:25 น.
Counter : 1185 Pageviews.  

Oh, damn.

โอ เน่าหรือยังนะ ปัดฝุ่นๆ เสียหน่อย ปล่อยร้างไว้ตั้งนาน

หายไปเลยจนข้าพเจ้าเองก็เกือบลืมแล้วว่าพาสเวิร์ดกับยูสเซอร์เข้า blog คืออะไร

พอดีมหาวิทยาลัยปิดฤดูร้อนค่ะ ออฟฟิศเพย์ตั้นปิดอยู่นานเหมือนกัน ก็เลยว่างงานแต่ที่ไม่ว่างเพราะเที่ยว ฮ่าๆ

ก็ทำงานเก็บเงินมาทั้งปี เที่ยวนิดเที่ยวหน่อยไม่ได้เชียวหรือ

ตอนต้นธันวาเพย์ตั้นบินไปอังกฤษกับคุณพ่อคุณแม่มาค่ะไปฉลองวันคริสต์มาสและปีใหม่กับครอบครัวฝั่งคุณพ่ออยู่ราวๆ สองอาทิตย์กว่าๆก็พักผ่อนแบบครอบครัวๆ ค่ะ :)

ปกติคุณปู่คุณย่าเพย์ตั้นจะพักที่บ้านใน Alderley Edge อาจจะเคยได้ยินกันว่ามีนักฟุตบอลทีม ManchesterUnited อาศัยอยู่แถวนี้ก็เป็นความจริงค่ะแต่เพย์ตั้นไม่แน่ใจว่าใครบ้าง ครอบครัวไม่ได้ซัพพอร์ตทีมนี้ค่ะ หุหุ

คุณปู่และคุณย่าของเพย์ตั้น take pride ดีอกดีใจกันเหลือเกินค่ะว่า Alderley Edgeตามสถิติแล้วเป็นเมืองที่คนในโลคอลดื่มแชมเปญกันมากที่สุดในUK ฮ่าๆ ที่บ้านแกรมพ์กับแนนนามี wine cellar ใหญ่เชียวเพย์ตั้นมั่นใจเลยว่าคง contribute สถิติไปเกือบครึ่ง ฮาาา

แต่ช่วงก่อนคริสต์มาส พวกเราลงไปพักกันที่town house ในลอนดอนกันค่ะ เหตุเกิดขึ้นวันที่คุณย่ากับเพย์ตั้นไปชอปปิ้งกัน‘last minute Christmas shopping’ ก็ว่าได้ แต่อันที่จริงชอปปิ้งวันเกิดย้อนหลังให้เพย์ตั้นต่างหากค่ะ555

เพย์ตั้นโดนสปอยล์ตามระเบียบค่ะ คุณแม่อุตส่าห์ขอแนนนาไว้แล้วว่าห้ามตามใจเพย์ตั้นมากจนเหลิงฮ่าๆ เพราะไปกับแนนนาทีไร เหมือนไปเหมาร้านมาทุกที แต่มีหรือจะสำเร็จ กลับถึงบ้านคุณแม่ถอนหายใจยาวเฟื้อยยย เอือมระอาแต่ว่าอะไรไม่ได้ เลยได้แต่หัวเราะแบบเนือยๆฮ่าๆ

แต่มื้อค่ำวันนั้นเพย์ตั้นโดนประจานเสียหมอไม่รับเย็บ เพย์ตั้นขอเถียงไว้ก่อนว่ามีอะไรมาทำให้เสียสมาธิมากไม่อย่างนั้นมันคงไม่เกิดขึ้น แต่ทุกๆ คนในครอบครัวหัวเราะเยาะกันใหญ่บอกว่าเลิกอ้างนู้นอ้างนี้ได้แล้ว

โห ใจร้ายกันจัง

ก็นั่งกันอยู่ค่ะ จู่ๆ แด๊ดก็หัวเราะขึ้นมาคนเดียวจนทุกๆคนหันไปมองอย่างงงๆ คิดว่าดื่มไวน์มากเกินไปแล้ว

แด๊ด: เพย์ตั้นส่งข้อความมาบอกว่าซื้อ“Helmut” มาให้ แต่กลับมาบ้านพร้อมกับ “Helmet” (หมวกนิรภัย)

เพย์ตั้น: ???

ก็งงสิคะ เพราะคุณพ่อชอบปั่นจักรยานมาก แล้วเพย์ตั้นก็เห็นหมวกกันน็อกมันสวยดีก็เลยซื้อมาฝากตลกตรงไหน

แด๊ด:คือเธอซื้อไอ้เฮ็ลเม็ตสำหรับใส่ปั่นจักรยานมาจริงๆ

เพย์ตั้น: ประเด็นของยูคืออะไร

แด๊ด:*ถอนใจยาวเหยียด* ยูสะกด H-E-L-M-U-T ยูรู้หรือเปล่าว่ามันควรจะเป็น E-T แล้วก็ไม่ได้สะกดผิดครั้งเดียวด้วย

เคยไหมคะเวลาที่เริ่มประมวลในสมองได้แล้วว่า ฉันปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่อนั่นล่ะเพย์ตั้นเลย

แนนนา:ฉันไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกยังไงดีนะ แต่ฉันเชื่อว่าเพย์ตั้นคงกำลังนึกถึงHelmut Lang อยู่ตอนที่ส่งข้อความมาให้ยูน่ะจอนใช่ไหมเพย์ตั้น

เพย์ตั้น: ไม่นะแนนนา ไม่จริง (ยังปฏิเสธหัวชนฝาไม่เชื่อคุณพ่อจนกว่าจะเห็นหลักฐาน)…*เช็กโทรศัพท์* Oh. *หัวทุบโต๊ะ*

คุณปู่เพย์ตั้นได้ทีทำท่าจะล้มโต๊ะเลยค่ะ โบกไม้โบกมือให้วุ่นวายไปหมดแกล้งไล่เพย์ตั้นซะงั้น

แกรมพ์:ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้เลย ฉันรับไม่ได้!

เพย์ตั้นเริ่มเคือง หน้ามุ่ยย้อนกลับจนท่านเงียบทันที “But you likeHelmut Lang!!!”

คือสรุปเนี่ย Helmet;หมวกนิรภัย ส่วน Helmut(Lang) น่ะดีไซเนอร์ชาวออสเตรียค่ะ

เล่าให้เจมส์ฟัง เขาบอกว่าฝากบอกจอนด้วยว่า เขาขอรับหน้าที่ปล่อยข่าวเอง หัวเราะกลิ้งเชียว “Oh how the mighty has fallen”

กรี๊ดดดด ฉันพลาดนิดเดียวเองย่ะ ทีใครทีมันเถอะ เชอะ

หลังจากฉลองคริสต์มาสเสร็จ คุณพ่อกับคุณแม่เพย์ตั้นก็กลับไปลุยงานกันต่อที่สิงคโปร์ค่ะเพย์ตั้นอยู่กับคุณปู่คุณย่าอีกสักพักแล้วค่อยบินไปเจอเจมส์ที่แคนาดาพอดีเขากับครอบครัวบินไปเยี่ยมน้องสาวที่กำลังเรียนอยู่ที่ UBC

ไปถึงมีแต่คนล้อเรื่องเฮลมัตกับเฮลมิตทั้งนั้น ไม่รู้มุขนี้จะเก่าเมื่อไหร่ -___-"


ช่วงปลายๆ เดือนมกราคม เดินทางไปล่องเรือแถวมหาสมุทรแปซิฟิกกับสาวๆ มาค่ะสนุกสุดเหวี่ยงกันไปเลย แต่ละคนโสดบ้างไม่โสดบ้าง อยากจะลืมคนที่ทิ้งไว้ข้างหลังกันเพราะหนุ่มๆ บนเรือแต่ละคนหล่อใช่ได้เชียว พนักงานก็อาหารตาสุดๆ ฮาาาแต่เพย์ตั้นเฉยๆ ค่ะ เพราะคนข้างๆ ก็ใช่ย่อย บินไปสวิตเซอร์แลนด์กับเพื่อนๆ เขาเหมือนกัน เกิดไปท้าทายกันอะไรยังไงก็ไม่รู้เลยยอมควักกระเป๋าบินไป snowboard กันอย่างไม่ได้แพลนเอาไว้ บัดเจ็ตไม่มี มีแต่ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายที่กินแทนข้าวได้เท่านั้น

มันน่าไหมล่ะ

คุณแม่ของเจมส์บ่นใหญ่ว่า ช่างเป็น expensive spontaneity เสียเหลือเกิน

อันนี้เห็นด้วยค่ะ ตามที่อิงกริดบอก “A lot of shoes could have beengifted to me instead.” ฮ่าๆ

ยังดีว่าเขาหิ้วอะไรติดไม้ติดมือมาฝากบ้าง ส่วนใหญ่ยังเป็นของแม่หนูเกรซ หลานสาวเหมือนเดิมค่ะ เป็นเด็กที่น่าตาน่ารักมากกก ชาวบ้านชาวเมืองหลงกันเป็นแถว

สรุปว่าเป็นซัมเมอร์ที่เดินทางบ่อยอีกเช่นเคย นับๆ ดูแล้วเพย์ตั้นใช้เวลาเป็นอาทิตย์ๆ เลยมั้งคะบนเครื่องบินในแต่ละปีๆ แต่คงไม่มากเท่านายเจมส์นะคิดๆ ดูแล้วเนี่ย ฮึ่ม


อ้อๆ อีกเรื่อง เพย์ตั้นขอนินทา(ด้วยความเอ็นดู)สักนิด ฮ่าๆ เมื่อวานซืนไปงานแต่งงานลูกพี่ลูกน้องของเจมส์มาค่ะ ขาไปพี่ท่านบอกเป็นมั่นเป็นเหมาะเชียวว่า 

“Nah, notgonna drink too much today” ไม่ขอดื่มหนักแน่นอน เพราะตอนไปกับหนุ่มๆ ที่สวิตฯ รู้สึกว่าจะเต็มที่มาแล้วจนตับไตไส้พุงแทบรับไม่ได้

แต่เพย์ตั้นไม่อยากจะบอกเลยว่า หลังจากส่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวไปฮันนีมูนยังไม่ถึงเที่ยงคืนดีลูกกะตาพี่แกก็เริ่มลอยไปลอยมา เดินโซซัดโซเซเต็มทีจนเพย์ตั้นคิดว่าจะเดินทะลุผนังกระจกตกลงอ่าวไปเสียแล้ว 

ไม่รู้จะขำหรือสมเพชดี 555 เอ้าๆ ก็ขำดีค่ะ หนุ่มๆ ตระกูลนี้พากันชนแก้วเพลิน

อยากเอารูปมาประจานแต่ก็สงสาร ฮ่าๆ


ว่าแต่ช่วงนั้นของปีอีกแล้วค่ะที่เพย์ตั้นจะเกิดอาการไม่อยากนอนเท่าไหร่เพราะสมองคิดโน่นคิดนี่สารพัด เวลาง่วงๆ ก็มักเกิดอาการนึกอะไรขึ้นได้ลุกขึ้นมาทำงาน มาอ่านหนังสือเรียน ดูทีวี ดูหนัง ทำความสะอาด สารพัด ยกเว้นเขียนบล็อกฮ่าๆ ไฮเปอร์ก็ว่าได้ค่ะ คือร่างกายน่ะง่วง ปากก็หาววอดๆ แต่สมองบอกว่า ไม่ไอไม่ยอมไปนอนเด็ดขาดอะไรประมาณนั้น เชื่อว่าอีกนิดเดียวก็คงเกือบๆจะเป็นนกฮูกแล้ว

เซ็งเล็กน้อยถึงปานกลางและถึงมากที่สุดค่ะเนื่องจากขอบตาเริ่มคล้ำ โอย กลัวตีนกาจะขึ้นเสียเหลือเกินเพราะปกติถ้าวันไหนไม่ต้องตื่นไปเรียนหรือไปทำงานตอนเช้าๆ เนี่ยเพย์ตั้นนอนวันละประมาณ10 ชั่วโมงค่ะ น้อยสุดก็ 8 แต่ช่วงนี้เฉลี่ยลงเหลือประมาณ 5 ถึง 6 ชม. เอง

ก็ดีอยู่อย่างที่ว่างานเดินบ้านก็สะอาด ฮาาา

แต่ปัญหาที่ตามมาก็คือพองานอื่นๆ ไม่มีเหลือให้ทำ ก็เลยติดทีวีค่ะ คือหนังและซีรีย์บ็อกเซ็ตที่ดองๆไว้มานานก็ได้ฤกษ์งามยามดีเปิดมาเชยชมเสียที ก็นอนขดอยู่หน้าทีวีอยู่เรื่อยค่ะเพื่อนๆ พากันถามว่า

“You’ve rediscovered television again haven’t you?”

ก๊ากก็จริงค่ะ ปฏิเสธไม่ได้เลย

นี่ก็ได้อ่านหนังสือไปหลายเล่มเหมือนกันค่ะแต่นิยายไทยนั้นเพย์ตั้นได้แต่นั่งมองปกตาปริบๆ เพราะมัวแต่เคลียร์ reading list ของคลาส กับนวนิยายและวรรณกรรมภาษาอังกฤษที่กองพะเนินอยู่

แต่เมื่อบ่ายเพิ่งอ่านเรื่อง รักแท้น้ำตาลวง ของ บุหลัน ลันตาไปค่ะ มีคนแนะนำให้อ่าน ก็เลยสั่งซื้อมาหลังจากที่ไม่ได้ซื้อนิยายไทยมาสะสมไว้เสียนาน

อ่านไปทำเอาเจมส์ปวดหัวไปด้วย เพราะเขามักโผล่มาตอนเพย์ตั้นอ่านนิยายเรื่องนี้ทุกที แต่ด้วยเพราะอะไรก็ว่ากันอีกทีค่ะ เดี๋ยวจะเปิดอีกหน้าสำหรับเม้าท์นิยายเรื่องนี้โดยเฉพาะแล้วกัน

ตอนนี้เล่มที่ยังไม่ได้หยิบจากชั้นมาอ่านน่ะมีเยอะเกินจะนับได้ค่ะ หากว่างๆ ก็คงจะหยิบสุภาพบุรุษจุฑาเทพ เล่มที่ยังไม่ได้เม้าท์กระจายมายลอีกรอบ ได้ข่าวว่าวางตัวนักแสดงกันแล้ว ทำเพย์ตั้นช้ำใจเชียวค่ะ จุ๊ๆ เอาไว้เม้าท์กันตรงหน้าอื่นแล้วกันเนาะ


ว่าแต่สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะเพย์ตั้นเพิ่งจะฉลอง Easter ไปจะว่าฉลองก็ไม่ถูกเพราะเพย์ตั้นไม่ได้นับถือศาสนาคริสต์ก็เลยได้แต่นั่งหม่ำไข่ช็อกโกแลตไปตามเรื่อง ฮ่าๆ




 

Create Date : 09 เมษายน 2555    
Last Update : 15 มกราคม 2556 21:35:31 น.
Counter : 501 Pageviews.  

1  2  

les-bisou
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add les-bisou's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.