Group Blog
 
All blogs
 
ทำอย่างไร ให้ดวงตาสดใสน่ามอง





     ใครๆ ก็บอกว่า ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ซึ่งก็คงไม่ผิดอะไรนัก เพราะแววตานั้น บ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกได้หลากหลาย แม้เจ้าตัวจะไม่ได้เอ่ยปากพูดออกมา แถมคุณผู้ชายหลายๆ คนยังยอมรับว่า สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้หญิงดูเซ็กซี่ดึงดูดสายตาก็คือดวงตานี่เอง ดวงตาเป็นประกาย และแพขนตาหนาสวยทำให้ผู้หญิงดูน่ามองน่าค้นหา






การเลือกทานอาหารเพื่อความสดใสของดวงตา

     การบริโภคอาหารให้ได้รับสารอาหารและวิตามินอย่างพอเพียง เป็นปัจจัยสำคัญที่บำรุงจากภายใน ส่งผลให้คุณมีดวงตาที่สดชื่นและแววตาที่สุกใส สำหรับดวงตานั้น ต้องการวิตามินสำคัญเพื่อช่วยบำรุง อย่างวิตามิน เอ, บี และ ซี



     วิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันอาการตามัวในที่มืด ทำให้ดวงตาสดใส หากคุณตื่นขึ้นมาพบกับดวงตาคล้ำบวมในยามเช้า นั่นแสดงว่าร่างกายและดวงตาของคุณต้องการวิตามินเอ เข้าไปเสริมอย่างเร่งด่วน โดยวิตามินเอสามารถพบได้มากในแครอท ผักขม ตำลึง คึ่นไช่ ฯลฯ ส่วนผู้ที่มีรอยคล้ำจนเห็นเป็นสีม่วงอมเขียวใต้ดวงตา ควรเน้นบริโภคผักใบเขียว



     วิตามินบี ช่วยเรื่องประกายสุกใสมีชีวิตชีวาในดวงตา กล้วย ผักกะหล่ำ อะโวคาโด จมูกข้าวสาลี จะช่วยเติมวิตามินบีที่ร่างกายต้องการได้



     วิตามินซี ช่วยเรื่องการทำงานของกล้ามเนื้อตาให้เป็นไปอย่างปกติ ซึ่งวิตามินซีพบได้ในผักผลไม้ทั่วไป โดยเฉพาะฝรั่ง ส้ม และผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว



     ทั้งนี้การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ ช่วยให้ดวงตาสามารถทำความสะอาดตัวเองจากน้ำตา ที่คลออยู่ในดวงตาได้ดียิ่งขึ้นด้วย




ผ่อนคลายความเมื่อยล้าให้กับดวงตา

     เมื่อใช้สายตาหนักเกินไป จากอ่านหนังสือ ใช้คอมพิวเตอร์ หรือจ้องมองสิ่งใดเป็นเวลานาน จะทำให้ดวงตาเกิดอาการอ่อนล้า วิธีผ่อนคลายความเมื่อยล้าของดวงตา ทำได้โดยพักสายตาด้วยการหลับตาหรือมองออกไปที่ไกลๆ อาจนวดบริเวณเปลือกตาเบาๆ โดยการหลับตาแล้วใช้ปลายนิ้วนวดวนเบาๆ เป็นวงกลม หรือวางฝ่ามือทั้งสองทาบปิดดวงตาไม่ให้แสงลอดเข้ามาเป็นเวลา 1-2 นาที



     ถ้าหากใช้สายตามากจนเกิดอาการล้าและเกิดรอยคล้ำรอบดวงตา ให้ใช้ชา เช่น ชาคาโมมายล์ ชงแก่ๆ แล้วแช่เย็น จากนั้นนำสำลีมาชุบน้ำชาแล้วแปะทิ้งไว้ที่ดวงตา จะช่วยคืนความสดใสให้ดวงตาได้ หรือใช้มันฝรั่งหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ หรือบดให้แหลก แล้วนำมาพอกรอบดวงตาประมาณ 15 นาที สารจำพวกคาร์โบไฮเดรทในมันฝรั่ง สามารถบรรเทาอาการอักเสบของผิวบริเวณรอบดวงตาได้ ส่วนวันที่ตื่นมาพร้อมดวงตาบวมตุ่ย อันเนื่องจากอาการบวมน้ำใต้ผิวหนัง ให้ใช้เกลือละลายน้ำอุ่น นำสำลีชุบให้ชุ่มแล้วแปะทิ้งไว้ที่ดวงตา 20 นาที จากนั้นล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง




บริหารกล้ามเนื้อดวงตา

     กล่าวได้ว่ากล้ามเนื้อดวงตาหรือกระบอกตา เป็นกล้ามเนื้อส่วนที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดอาการเมื่อยล้า การบริหารกล้ามเนื้อดวงตาเป็นประจำทุกวัน จะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดได้ โดยคุณสามารถบริหารกล้ามเนื้อดวงตาได้ดังนี้



     >>  กะพริบตาถี่ๆ ติดต่อกันติดต่อกัน 10-12 ครั้ง
     >>  ตั้งศรีษะให้ตรงแล้วกลอกตาไปมาซ้าย-ขวา ขึ้น-ลง หรือสมมุติว่ากำลังวาดรูปสี่เหลี่ยมในดวงตา โดยพยายามวาดรูปสี่เหลี่ยมให้ได้ใหญ่ที่สุด
     >>  เหลือกตามองขึ้นด้านบนให้มากที่สุด และทำสลับกันโดยมองลงด้านล่าง
     >>  เบิกตาให้กว้างที่สุด เพื่อให้กล้ามเนื้อได้ยืดตัว




เติมสเน่ห์ให้ดวงตาคู่สวยสดใสน่ามอง

     เมื่อเรามีดวงตาที่สดใสจากการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี คราวนี้มาถึงการเติมสเน่ห์ให้ดวงตาน่ามองมากยิ่งขึ้น โดยการเติมแต่งสีสันให้กับดวงตาแล้วค่ะ



   คิ้ว
     แม้จะไม่ใช่ส่วนหนึ่งของดวงตาโดยตรง แต่ก็อยู่ใกล้ดวงตา และคิ้วที่โค้งสวยได้รูปสวยจะส่งให้ดวงตาดูงามน่ามองได้อีกทางหนึ่ง การเขียนคิ้วนั้น วาดให้หัวคิ้วอ่อนจางกว่าหางคิ้วเสมอ แล้วใช้แปรงปัดขนคิ้วเกลี่ยให้เนียน จากนั้นจึงใช้มาสคาร่าสำหรับคิ้ว ปัดให้ขนคิ้วเรียงตัวสวยอีกครั้ง โดยมาสคาร่าสำหรับคิ้วยังช่วยเพิ่มประกายเงางามได้อีกด้วย



   อายแชโดว์
     ก่อนทาตาด้วยอายแชโดว์ ให้เขียนขอบตาด้วยอายไลน์เนอร์ชนิดกันน้ำ โดยใช้สีโทนธรรมชาติ อายไลน์เนอร์ที่มีประกายเล็กน้อย จะช่วยให้ดวงตาดูเย้ายวนกว่าสีแบบแมทท์หรือสีด้าน จากนั้นทารองเปลือกตาด้วยอายแชโดว์สีอ่อน หรือแบบไม่มีสีแต่มีประกายแวววาว ซึ่งจะทำให้ดวงตาดูสดใส จากนั้น จึงใช้อายแชโดว์ในเฉดที่คุณเลือกมาแต่งตาให้ดูมีมิติอีกครั้ง ทั้งนี้ควรเลือกใช้อายแชโดว์แบบผงเพื่อความติดทนนาน



   มาสคาร่า
     ไม่มีอะไรที่จะทำให้ขนตาให้ยาวหนาเป็นแพได้ดีเท่ามาสคาร่า เลือกใช้มาสคาร่าสูตรกันน้ำ โดยมาสคาร่าสีน้ำเงินดำหรือน้ำตาลเข้ม จะทำให้ดวงตาดูสดใสน่ามองในยามกลางวัน ส่วนสีดำสนิทนั้น เหมาะจะใช้ในการไปงานกลางคืนหรือใช้เพื่อให้ได้ลุคสวยแบบคมเข้ม และหากต้องการใช้มาสคาร่าสีแฟชั่นสดใส ให้ใช้ทาเฉพาะช่วงปลายขนตา และลงทับด้วยมาสคาร่าสีดำหรือน้ำตาลอีกครั้งหนึ่ง

 



     หากคุณปฏิบัติข้อแนะนำเหล่านี้ให้ได้เป็นประจำ รับรองว่า ผู้คนรอบกายของคุณ จะต้องประหลาดใจกับดวงตาที่ดูสดใสน่ามองของคุณแน่นอนค่ะ





ที่มา : www.doctorskinhouse.com


Create Date : 08 กรกฎาคม 2554
Last Update : 8 กรกฎาคม 2554 13:16:22 น. 1 comments
Counter : 474 Pageviews.

 
แวะมาทักทายจ้ะ rassapoom rassapoom clinic รัสมิ์ภูมิ รัสมิ์ภูมิ คลินิก Ultraformer ยกกระชับ ลดริ้วรอย สลายไขมันใต้ชั้นผิว ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม Drakarian สลายไขมันใต้ผิว ฉีดฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ปาก เลเซอร์กำจัดขน เลเซอร์ขน กำจัดขน Hair Removal ฉีดฟิลเลอร์น้องสาว ฟิลเลอร์น้องสาว ดูดไขมันเหนียง คางสองชั้น FaceTite AccuTite Hifu Super Hifu มาส์กหน้า ตาสองชั้น ทำตาสองชั้น ศัลยกรรมตาสองชั้น ฟิลเลอร์สะโพก ฟิลเลอร์เสริมสะโพก ฉีดฟิลเลอร์สะโพก ฉีดฟิลเลอร์เสริมสะโพก Morpheus Morpheus Pro ยกกระชับผิว ฟิลเลอร์คาง โปรแกรมฟิลเลอร์คาง Exosome Exosome Plus Exosome Plus+ กระชับช่องคลอด ช่องคลอด Vaginal Vaginal Reju Skin Quality ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ใต้ตา Ultracol ไหมน้ำ Allergan โบ Allergan ฉีดโบ Allergan Super Skin Laser ฝ้า กระ ฝ้า กระ จุดด่างดำ Picocare 450 Laser ร้อยไหม ร้อยไหมคืออะไร Lenisna JUVELOOK สารเติมเต็ม REVIVE BELOTERO REVIVE Rejuran Gouri คอลลาเจน กระตุ้นคอลลาเจน Juvederm Juvederm Volite New Juvederm Volite Radiesse Radiesse Filler Sculptra คอลลาเจน เสริมจมูก ศัลยกรรมเสริมจมูก ปลูกผม FUE ฟิลเลอร์ Filler ฉีดฟิลเลอร์ Thermage Thermage FLX ยกกระชับ ยกกระชับผิว Ulthera EMFACE ยกกระชับ ยกกระชับกล้ามเนื้อ ฉีดแฟต สลายไขมัน ฉีดแฟตสลายไขมัน CoolSculpting Elite CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น สลายไขมัน BodyTite ดูดไขมัน Emsculpt สร้างกล้ามเนื้อ ลดไขมัน สอนฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ สอนฉีดฟิลเลอร์ ฉีดฟิลเลอร์ ให้ใจ สุขภาพ


โดย: teawpretty วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:14:55:58 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

YangJing
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]







Friends' blogs
[Add YangJing's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.