Nankyoku Tairiku (Antartica) Review


นี่คือเรื่องรองสุดท้ายละที่เป็น “A must” ของทาคูยะ ก็ไม่รู้ว่าจะต้องเขียนถึงซีรีย์ป๋าอีกกี่เรื่องกันนะเนี่ยเรื่องนี้ก็ไม่คิดอีกอะแหละว่ามันจะซึ้งกันได้ทุกเอพพิโสด ก็คิดว่าเป็นการผจญภัยไปที่แอนตาร์กติกา ซึ่งการดูเรื่องนี้ทำให้สงสัยว่าอะแล้วมันขั้วโลกเหนือหรือขั้วโลกใต้ เลยได้ไปค้นหาและพบว่ามันคือขั้วโลกใต้ที่มีแต่นกเพนกวิน และหนาวกว่าขั้วโลกเหนือซึ่งมีแต่หมีขาวมาก (ความรู้ใหม่เอามาใส่สมองโง่ๆอีกนิด)

ไม่รู้สิสำหรับซีรีย์ญี่ปุ่นส่วนใหญ่เราสามารถดูต่อไปได้เรื่อย ๆ แบบไม่มีเบื่อ แม้ว่าเรื่องมันจะเรื่อย ๆ เรียบ ๆ และเรื่องนี้ก็เช่นกันเรื่องไม่ได้หวือหวาแต่อย่างใดเป็นเรื่องสร้างความสำนึกรักชาติซึ่งญี่ปุ่นก็รักอยู่แล้วแต่เอามาตอกย้ำลิ่มทิ่มประตูกันเข้าไปอีก เค้าเนี่ยเก่งนัก เรื่องนี้กล่าวถึงยุคที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่แพ้สงคราม ทำอย่างไรจึงจะทัดเทียมประเทศอื่น ๆ ได้ การไปสำรวจก็อาจกู้ศักดิ์ศรีให้ประเทศชาติได้ประกอบกับเป็นความฝันชายชื่อ คุโรมาจิ ทาเคชิ ซึ่งทาคูยะ สวมบทนั่นเอง พ่อของเค้าอยากกลับไปที่นี่ที่ แอนตาร์กติกกาเพื่อปืนภูเขา Bouthun  ก็เลยเป็นความฝันของคุโรมาจิ

การจะไปก็ไม่ได้ง่าย ๆ เลย ต้องให้รัฐสนับสนุน และผู้คนรอบข้างก็มีดูถูก เราก็ได้แต่ลุ้นที่ขอบคอมว่าจะไปกันได้อย่างไร และแล้วด้วยความพยายามหรือจะเรียกว่าปฏิหาริย์หรือโชคชะตาก็ตาม ทำให้เกิดความเป็นไปได้ ท่ามกลางความสิ้นหวังของคุโรมาจิ กลับมีแสงสว่างเล็ก ๆ ของเด็ก ๆ ในการร่วมบริจาคในกล่องทีละร้อยเยนและได้ขยายวงกว้างออกไปสู่ประชาชนและไปจนเป็นกระแสระดับประเทศ อะพอได้ไปตัวคุโรมาจิก็ดีใจมากที่จะได้มีโอกาสทำความฝันของพ่อให้เป็นความจริง แต่ก็นะ จะง่าย ๆ เดี๋ยวมันไม่มาม่ามั้ง คุโรมาจิ มีประวัติเคยปืนเขาเป็นผู้นำแต่ทำให้คนในทีมตาย เลยจะโดนตัดสิทธิ์อีก เอออินี่ก็ไม่เป็นไรขอเป็นแค่ส่วนหนึ่งขอเป็นแค่คนฝึกสุนัขที่จะไปก็ได้ตัวเองไม่ได้ไปก็ได้ คือแค่อารมณ์นี้เราก็แย่แล้วอะมันลึกซึ้งกินใจได้โล่ห์อีกแล้วอะพี่ยุ่น ทำไมเก่งจังในการบิ้ว เค้าดูแล้วน้ำตาคลอๆสามเอพฯติดเลยอ่ะ แต่ในที่สุดก็ได้ไปจากการช่วยเหลือของศาตราจารย์ที่เห็นความมุ่งมั่นของคุโรมาจินั่นเอง



























คือชอบอิตรงเหมือนได้ไปด้วยในการเสพซีรีย์...คือแบบว่าชีวิตนี้ไม่คิดจะไปทรมานตัวเองอย่างนี้แน่นอนบทใส่ใจในการลงรายละเอียดถึงน้องหมาแต่ละตัวที่ไปเอามาเลยนะ ปูกันถึงความสัมพันธ์ของคุโรมาจิกับหมามาก ดูมันสำคัญมาก เราไม่รู้เลยว่าเรื่องนี้น้องหมาได้กลายเป็นตัวละครที่สำคัญที่สุดไปจนตอนสุดท้าย บทค่อย ๆ ทำให้คนดูรักตัวละครน้องหมาทุกตัวแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ตัวละครที่เรารักอีกแล้วในเรื่องนี้น่าแปลก ไม่ใช่คุโรมาจิที่ทาคูยะสวมกลับเป็น ริกิ หมาจ่าฝูง นั่นเอง ทาคูยะอาจเป็นนักแสดงเคมีสาธารณะตัวจริงเพราะกะน้องหมาเธอก็สามารถ แต่ที่จับใจเรามาก ๆ ก็ตอนที่ไปรับตัวทาโร่กะจิโร่ที่เกือบโดนขายไปที่ตลาด ยืนมือให้กัดกันเลย

กะริกิ


กะทาโร่ จิโร่



กะชิโระ



ภาพนี้สวยมาก น่าจะกะทาโร่



อีกตามเคยที่อุปสรรคหลายครั้งหลายคราในเรื่องนี้ทำให้เราตามเอาใจช่วย มีความเครียด มีความเศร้า ของตัวละคร แต่ละคนก็มีปมของตัวเองแตกต่างกันไป แต่พออยู่ด้วยกันนานเข้ากลับทำให้เห็นความจริงใจของแต่ละคนและกลายเป็นพลังในการไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคใด ๆ ที่เข้ามากระทบ ความสัมพันธ์ ความอบอุ่น ของตัวละครในสถานการณ์นี้อบอุ่นได้ใจมาก



เพื่อนของคุโรมาจิเป็นอีกตัวละครนึงที่เรามั่นไส้ในตอนแรกและรักเค้าขึ้นมาบ้างในตอนหลัง ฮิมุโระ ผู้เคยไปปีนเขากะคุโรมาจิ และเป็นผู้บาดเจ็บในขณะนั้น ด้วยการตัดสินใจของคุโรมาจิทำให้มีสมาชิกในการปีนเขาตายไป เลยเป็นปมในใจเรื่อยมา ไม่อยากเจอหน้าแต่แล้วโชคชะตาก็ทำให้ต้องมาเจอแถมพี่แกเป็นคนคอยพูดขัด ทำลายกำลังใจหลายต่อหลายครั้งกันด้วยแต่พอเราดูไปเรื่อย ๆ จนถึงตอนหลังๆ กลับพบว่ามันคือความรัก มิตรภาพของเพื่อนที่มีให้อย่างจริงใจ เป็นห่วงเลยคอยห้ามนั่นเอง (แอบคิดว่ามันรักป๋าเราป่าวว่ะอินี่) สรุปซีรี่ย์เค้าไม่มีตัวร้ายเลย



น้องหมาคือพระเอกตัวจริงในเรื่องนี้ ความหวังที่ริบรี่บางทีก็ได้พวกน้องหมานี่แหละคะมาช่วยจุดไฟสร้างความหวังกันขึ้นมา ฉากช่วยชีวิตในซากท้องปลาวาฬก็สุด ๆ ดราม่าของน้องหมามีให้เห็นเป็นระยะ ๆ เริ่มจากริกิที่ตำแหน่งเป็นจ่าฝูงแต่ถูกคุมากัด เลยไม่เลยกลัวและไม่สามารถนำฝูงได้อีกต่อไป ทำให้ในตอนแรกลากรถเลื่อนไม่ได้ แต่ต่อมาสัญชาตญานการเป็นหัวหน้าฝูงทำให้ริกิกัดคูมากลับในการห้ามการต่อสู้ของคุมากะชิโระ จุดนี้เองที่ทำให้ริกิเป็นผู้นำโดยเต็มตัว น้องหมาไม่ใช่แค่หมาแต่เป็นหนึ่งในสมาชิกสำรวจครั้งนี้ด้วยเพราะมีส่วนช่วยให้คนรอดหลายต่อหลายครั้ง แต่ตอนหลังกลับต้องถูกทิ้งไว้ที่สถานีโชวะเพราะสภาพอากาศเลวร้าย ทำให้ไม่สามารถบินมารับได้ บทเค้าตัดไปตัดมาแบบเหมือนนั่งในใจคนดู คือในขณะที่เราเห็นว่าสถานการณ์ตัวละครคนเป็นยังไงไปถึงไหนจะกลับไปช่วยมั๊ย ก็ตัดกลับมาที่พวกหมา ที่มันนั่งรอ จนกินอาหารหมด บางตัวตายบ้าง และค่อย ๆ หายไปบ้าง (โอ้ชิโร่กลับไปตายที่ซากท้องปลาวาฬ นอนดมผ้ากอตจนตาย T T ) ที่เหลือก็เอาตัวรอดช่วย ๆ กัน ช่วยปลอกคอให้ขาด ที่เราอึ้งมากคือ ปลอกคอคุมานั้นไม่ขาดริกิเลยช่วยกัดจนโซ่ขาด (คือเหมือนสองตัวนี้มีชะตาต้องกัน เคยกัดกัน ก็มาช่วยกันตอนหลัง หลายครั้ง) ปลายโซ่ยาวนั้นเราไม่เคยคิดเลยว่ามันเป็นตัวช่วยอยู่หลายครั้งที่คุมาตกน้ำ ตกเหว ริกิก็ช่วยคาบลากกันขึ้นมา แต่ท้ายที่สุดปลายโซ่ที่ยาวกลับเป็นสาเหตุให้คุมาต้องแยกจาก ทาโร่ จิโร่ ริกิ เพราะก้อนน้ำแข็งหนีบปลายโซ่ไว้ ทำให้ขยังตัวไม่ได้ในขณะที่แผ่นน้ำแข็งแยกจนทำให้ทุกตัวต้องหนีเอาตัวรอดก่อน จำต้องทิ้งให้คุมาติดอยู่บนก้อนน้ำแข็งเพียงลำพังและแยกชะตากรรมกันตรงนี้ บทเทพมาก ไอ้โซ่ขาด ไม่ใช่แค่ขาดแต่มันมีผลในฉากต่อ ๆ มา ด้วยนะพี่น้องคร๊าบบบบบบ



ตลอดตอนหลังที่สรุปว่าจะมีโครงการสามที่จะกลับไปแอนตาร์กติก ภาระกิจสำคัญหนึ่งในนั้นคือการไปช่วยน้องหมา แต่ที่มันเศร้าคือคุโรมาจิ ไม่ได้คิดว่าจะเป็นแบบนี้ คิดว่าเดวมารับแต่มารับไม่ได้ เค้าได้เลื่อนปลอกคอให้แน่นเพื่อให้น้องหมาไม่หนีไปไหน แต่กลายเป็นว่าบางตัวต้องตายจากการกระทำนี้ด้วยอะดิ เอาละพอจะได้กลับไปช่วย บทยังคงทำหน้าที่ตัดไปตัดมา เราได้แต่ภาวนาให้พวกมันรอดนะ รอก่อนนะ อย่าตายเพิ่มอีกนะ (คือแบบว่าอินมาก) คุโรมาจิมาถึงสถานี ค่อย ๆ ดึงโซ่ที่ล่ามไว้ ต้องคอยลุ้นว่าจะเป็นปลอกคอขาดหรือจับเจอเป็นศพ ฉากนี้ช่างสะเทือนใจมาก แต่แล้วคนเขียนบทเค้าก็ใจร้ายกะเราอีกตามเคย คุโรมาจิ กลับมาที่สถานีพบร่างไร้วิญญาณของริกิ โอ้ยชั้นจะเป็นลมซะให้ได้ ตอนแรกคุโรมาจิไม่เห็นริกิหรอก แต่มองไปเห็นจุดดำ ๆ เหมือนหูมาแค่นั้นเค้าก็จำริกิได้แล้ว บทเทพมากขยี้อารมณ์ได้สุดทีนจริง ๆ แต่เหมือนมาช้าไปนิดเดียวจริง ๆ เพราะ ริกิ ตัวยังอุ่น คือวิ่งกลับมานอนรอที่สถานี บางที่กล้อง close up ที่ตาริกินะ เราอึ้ง คือหมา มันแสดงได้อ่ะ มีอารมณ์ มีน้ำตา คือแบบว่าดูแล้วรู้สึกว่าจะบี้ เค้น หรือจะฆ่าคนดูหรืออย่างไรคะ คุณผู้ผลิตดราม่าสัญชาติซามูไร ทำดีเกินไป เอารายละเอียดมาขยี้เก่งสุด ๆ เห้ออออ ยังโชคดีที่ ทาโร่ กะ จิโร่ รอดมาได้ ยังพอทำให้รู้ว่าโลกนี้ไม่ได้โหดร้ายเกินไป แถมมีอนุสาวรีย์ของทาโร่ กะ จิโร่ด้วย อะแล้วริกิล่ะอีกทีเหลือไม่มีเหรอพี่น้อง ??คำถามสุดท้าย ทำไม ทำไม ต้องให้ริกิตายด้วย....... เค้าไม่ยอม T T ตอนที่ดูบางทียังแอบหวังว่าริกิที่ตายแล้วจะลืมตาขึ้นมาราวปาฏิหาริย์ แค่ในละครก็ทำให้เราไม่ได้ใจร้ายมากทีเดียว



ริกิ เลยไม่ได้กลับไปเจอเด็ก ๆ ที่เฝ้ารอที่บ้าน มาช้าไปนิดเดียว นิดเดียวจริง ๆ เด็กอุตส่าห์พับนกพันตัวให้แล้วเชียวตอนวางบนศพ ก็ยังแอบหวังว่าอาจะฟื้น อยู่ในกล่องจะลอยทะเลแล้วใจกูยังหวังอีกว่าจะตะกุยกล่องไม้ คืออาจแค่หมดสติ แต่ก็ไม่มีได้เห็นกัน เค้าก็จบแบบสรุปว่าญี่ปุ่นก็เจริญก้าวหน้าไป และยังคงสำรวจที่นี่ต่อถึง 52 ครั้งแต่เค้าค้างกะริกิจนพูดไม่ออก...เค้าขอเบรกในการดูซีรีย์เศร้า ๆ ไปอีก 1 ปี ไม่ไหวจริง ๆ ...ยิ่งถ้าเป็นของญี่ปุ่นเค้าขอบายไปเลยขยี้เก่งเกิน ดูละครไทย เกาหลีเศร้า ๆ ยังไม่เคยร้องไห้มากเท่าของญี่ปุ่นเลยอ่ะ



Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 6 พฤษภาคม 2557 22:14:58 น.
Counter : 1364 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

deepfaithful
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]