Lilypie 6th to 18th PicLilypie 6th to 18th Ticker Lilypie 4th Birthday PicLilypie 4th Birthday Ticker
Group Blog
 
All blogs
 
เมื่อน้องบัวเรียนดนตรี...(ตอนที่ 3)



แม่กับพ่อนั่งปรึกษากัน เรื่องการเรียนดนตรีของน้องบัว แล้วลองแยกสาเหตุออกมาหลายๆ ประเด็น ได้แก่
1. การเรียนดนตรีมันยากเกินไป
2. น้องบัวไม่ชอบเรียนดนตรี
3. ครูสอนไม่รู้เรื่อง
4. น้องบัวตั้งใจเรียน อาจเป็นโรคสมาธิสั้น
5. น้องบัวซ้อมดนตรีน้อยไป
6. แม่คาดหวังในตัวลูกมากเกินความสามารถลูก

ข้อ 1 ที่ว่าเรียนดนตรียาก ก็อาจเป็นไปได้ แต่หลักสูตรนี้ มันสำหรับเด็ก 4-6 ขวบ ก็อยู่ในช่วงอายุลูก แต่ลูกจะอยู่ในกลุ่มอายุน้อยในชั้นเรียน เลยทำให้การเรียนรู้จะช้ากว่าเด็กโตกว่า

ข้อ 2 น้องบัวไม่ชอบเรียนดนตรี แม่กับพ่อเห็นพ้องกันว่าเราไม่น่าเอาประเด็นนี้มาคิด เพราะเท่าที่สังเกตบัวในชั้นเรียน หนูจะสนุกสนานเอ็นจอยมาก โดยเฉพาะเวลาออกไปร้องเพลง เต้นรำ กับคุณครู หนูจะมีปัญหาเฉพาะตอนเล่นคีย์บอร์ดเท่านั้น แม่ถามหนูหลายๆ ครั้งว่าชอบเรียนดนตรีไม๊ หนูก็ตอบว่า "หนูชอบเรียน ชอบร้องเพลง แต่เวลาเล่นเปียโนมันยากกก"

ข้อ 3 ครูสอนไม่รู้เรื่อง จริงๆ ครูนายมีประสพการณ์ในการสอนวิชานี้มาสิบกว่าปีแล้ว เด็กๆ ผ่านมือมามากมาย เจอเคสแตกต่างกันไป เพื่อนๆ ร่วมชั้นน้องบัว ก็เรียนกันได้ไม่มีปัญหา แม่เลยคิดว่าไม่ใช่เรื่องของตัวครูอีกเช่นกันจ้า

ข้อ 4 น้องบัวเป็นสมาธิสั้น ข้อนี้แม่กังวลเป็นที่สุด เพราะถ้าเรายังไม่สามารถตัดประเด็นนี้ เราก็ไม่สามารถฟันธงหาสาเหตุจริงๆ ได้ และถ้าเพิกเฉยต่อเรื่องนี้แล้วเกิดเป็นจริงขึ้นมา แม่เป็นห่วงว่ามันจะมีผลกระทบไปยังเรื่องอื่นๆ ของหนูต่อๆ ไปด้วย แม่เลยไปขอคำปรึกษากับครูพรวลัย ซึ่งเป็นนักจิตวิทยาเด็ก เชี่ยวชาญเรื่องการดูแลเด็กพิเศษ ครูพรให้แม่พยายามลองสังเกตพฤติกรรมของน้องบัว และแนะนำให้แม่ค่อยๆ ฝึกน้องบัวให้ทำอะไรๆ ให้ได้ตามเวลาที่เรากำหนด เช่น ระบายสี ทำแบบฝึกหัด และค่อยๆ เพิ่มเวลาให้นานขึ้นๆ หากทำไม่ได้ให้พาน้องบัวมาหาครู ครูจะช่วยดูให้

กลับบ้านไป แม่ทดลองให้น้องบัวทำแบบฝึกหัดอย่างง่ายๆ หนูสามารถทำได้นาน 10-15 นาที ตอนค่ำๆ ให้น้องบัววาดรูประบายสี หนูนั่งวาดรูปได้ร่วมครึ่งชั่วโมง อย่างนี้หนูก็ไม่น่าจะเป็นสมาธิสั้นนะ เพราะเด็กสมาธิสั้นจะทำอะไรนานๆ อย่างนี้ไม่ได้ แม่มานึกถึงที่ครูพรพูดว่า "บางทีถ้าเค้ารู้สึกว่ามันยากเกินไป เค้าทำไม่ได้ เค้าก็ไม่อยากทำ ก็จะออกอาการแบบนั้นได้" เออ...หรือว่าเป็นเพราะเรื่องนี้นะ

ข้อ 5 น้องบัวซ้อมดนตรีน้อยเกินไป อันนี้แม่ตอบแบบไม่ต้องคิดเลยว่าจริง และการเรียนดนตรีมันจำเป็นต้องซ้อมอย่างสม่ำเสมอด้วย เพราะสัปดาห์หนึ่งเราเรียนดนตรีเพียง 1 ชม. อีก 167 ชั่วโมงที่เหลือ เราต้องแบ่งเวลาซ้อม เด็กเล็กๆ อย่างนี้ได้วันละ 10-15 นาทีก็พอแล้ว แต่น้องบัวแทบจะไม่ซ้อมเลย เวลาซ้อมก็ไม่ตั้งใจ แล้วมันจะทำได้อย่างไรล่ะ

ข้อ 6 แม่คาดหวังในตัวลูกมากเกินไป อันนี้แม่ยอมรับจ้า ว่าแม่คาดหวังในตัวลูก ใครๆ ก็อยากให้ลูกเก่งทั้งนั้น แต่แม่ก็ผิดที่เอาลูกไปเปรียบเทียบกับเพื่อนร่วมชั้นที่โตกว่า ซึ่งมันไม่สามารถเอาไปเทียบกันได้ พอความคาดหวังสูง แล้วทำไม่ได้ตามนั้น ก็ทำให้ผิดหวัง ออกอาการแว๊ดๆ เครียด โมโห ซึ่งแม่ไม่ควรทำกับลูกเลย ต่อจากนี้แม่จะลดพฤติกรรมเหล่านี้ลง เพราะมันไม่เกิดประโยชน์กับใครเลย แว๊ดแล้วลูกจะเล่นได้ดีขึ้นก็ไม่ กลับทำให้เสียบรรยากาศไปทั้งบ้าน

จากการวิเคราะห์สาเหตุทั้งหลาย แม่กับพ่อคิดว่าสาเหตุหลักน่าจะมาจากการ "อ่อนซ้อม" ของหนู ถ้าน้องบัวซ้อมมากขึ้น น้องบัวน่าจะทำได้ดีขึ้น หากน้องบัวทำได้ดีขึ้น ก็จะทำให้อาการเหม่อ ไม่สนใจเรียนในชั้นเรียนน้อยลง เพราะทำได้แล้วไง เพราะฉะนั้น เราจะเริ่มแก้ไขปัญหานี้ด้วยการ ขยันซ้อม ซ้อมแบบสม่ำเสมอทุกวัน ส่วนแม่ก็จะไม่เอาลูกไปเทียบกับเด็กคนอื่น แต่จะให้ลูกแข่งกับตัวเอง ว่าเดือนนี้ลูกเก่งกว่าเดือนที่แล้ว เดือนหน้าลูกต้องดีกว่าเดือนนี้

เขียนมาถึงตรงนี้ คนอ่านบางคนอาจจะคิดว่า เราทำไมเป็นแม่ที่ช่างบังคับลูกจัง เค้นจะเอากับลูกให้ได้ จะเอาอะไรกันนักหนากับเด็ก 5 ขวบ ขอบอกว่า ได้คิดพิจารณาเป็นอย่างดีแล้วค่ะว่า น้องบัวชอบเรียนดนตรี ก็อยากให้เค้ามีอะไรๆ ติดตัวเค้าสักอย่างนึง แล้วน้องบัวเค้าเป็นเด็กที่มีความมั่นใจในตัวเองค่อนข้างสูง ในชั้นเรียนถ้าครูขออาสาสมัครออกไปเล่นดนตรีหน้าชั้นเรียน น้องบัวจะออกไปอยู่เสมอ แม้ว่าฝีมือจะห่วยมากเค้าก็จะเล่นอย่างภูมิใจ แม่เลยคิดว่าหากเราช่วยพัฒนาให้ลูกเป็นคนเก่งได้ มันจะเป็นประโยชน์กับตัวเค้าเอง บวกกับความมั่นใจที่เค้ามีอยู่ มันจะทำให้เค้าไม่ด้อยไปกว่าใคร แต่ถ้าเราละเลยปล่อยให้เค้าเป็นไปอย่างนี้ มันจะทำให้ความมั่นใจที่เค้ามีอยู่หายไปด้วยค่ะ

อีกประการหนึ่ง แม่ไม่อยากให้ลูกเป็นคนทำอะไรไม่สำเร็จตั้งแต่เล็กๆ จึงพยายามหนุนให้เค้าทำในสิ่งที่ชอบอย่างต่อเนื่องและสุดกำลัง หากได้พยายามเต็มที่แล้ว เค้าทำไม่ได้ ไม่ชอบ ก็ไม่เสียใจค่ะ เพราะถือว่าได้ทำเต็มที่แล้ว

ดังนั้น เราจึงได้จัดเวลาซ้อมดนตรี ทุกวันหลังทานข้าว เป็นเวลา 5-10 นาที และทำตารางควบคุมความประพฤติ เป็นตารางสะสมสติ๊กเกอร์ หากน้องบัวซ้อมแล้วจะได้สติกเกอร์ 1 ดวง สะสมครบ 10 ดวงมีของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ให้เค้า วิธีนี้...สอดคล้องกับทาง รร.ดนตรีด้วย เพราะครูนายจะให้สติกเกอร์เด็กๆ เป็นรางวัลเวลาออกไปเล่นดนตรีหน้าชั้นเรียน ซึ่งได้ผลกับน้องบัว แม่เลยเอามาใช้มั่ง และในวันเรียนดนตรี หากน้องบัวตั้งใจเรียน ทำได้ดีในชั้นเรียน กลับบ้านมาแม่ก็ให้สติกเกอร์พิเศษอีกค่ะ

เมื่อถึงเวลาซ้อม แม่จะแยกเอาน้องบอนไปเล่นของเล่นอีกห้องนึง (ไม่งั้นมีป่วน) แล้วให้พ่อดูน้องบัวซ้อม ส่วนแม่เล่นกับน้องบอนไปก็เงี่ยหูฟังไปว่าที่พี่บัวเล่นๆ หนะมันถูกหรือเปล่า ถ้าไม่ถูกก็บอกพ่อ แล้วให้พ่อสอนพี่บัวอีกทีนึง รู้สึกว่าพ่อลูกเค้าจะเข้ากันได้ดีกว่าแม่นะ

วิธีสะสมสติกเกอร์ได้ผลกับน้องบัวค่อนข้างดี เพราะทำให้น้องบัวตั้งใจซ้อมทุกวัน ผ่านไปเพียง 2 สัปดาห์ก็เริ่มเห็นผล ว่าน้องบัวมีพัฒนาการที่ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก น้องบัวเริ่มสนุกกับการเรียนและซ้อมดนตรี และมันก็ค่อยๆ ดีขึ้นๆ จนมาถึงทุกวันนี้ ในระยะเวลาเพียงแค่ 3 เดือนที่เราตั้งใจซ้อมกันอย่างจริงจัง หนูออกไปเล่นหน้าชั้นเรียนได้อย่างสง่าผ่าเผย เพราะนอกจากหนูจะมีความมั่นใจในตัวเองอย่างเต็มล้นแล้ว หนูยังมีความสามารถอีกด้วย จนครูนายออกปากชม แม่ภูมิใจในตัวหนูมากจ๊ะ คนเก่งของแม่

กับอิเลคโทนมรดกตกทอดจากแม่สู่ลูก อายุอานามก็ 17 ปีแล้วค่ะ แต่ยังใช้งานได้เป็นอย่างดี ถ้าเล่นเก่งๆ แม่จะหาตัวใหม่ๆ เจ๋งๆ ให้หนูนะ





ไปไหนก็อยากซ้อม อยากโชว์ เมื่อเดือนเมษาไปภูใจใส ก็ไปเล่นเปียโนที่นั่น คนเดินผ่านไปมาแอบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่



อยากลงวิดีโอที่หนูเล่นดนตรีจัง แต่ทำไม่เป็น ใครผ่านมาช่วยแนะนำหน่อยค่ะ

ตารางสะสมสติ๊กเกอร์ ที่ทำให้น้องบัวค่ะ บอกเค้าว่า ถ้าได้ครบ 100 ดวง จะมีรางวัลใหญ่ให้




Create Date : 22 พฤษภาคม 2550
Last Update : 26 พฤษภาคม 2550 15:03:59 น. 8 comments
Counter : 762 Pageviews.

 
ว้าเก่งจังค่ะ ตั้งใจโตมาจะให้ลูกสาวไปเรียนเหมือนกันค่ะ


โดย: namfonJC วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:10:33:53 น.  

 
มาเยี่ยมช้าไปนิ้ดส์ค่ะ พอดีพาลิงสองตัวไปสะเมิงมาค่ะ

น้องบัวน่ารักจังค่ะ คุณแม่ก็เก่งเข้าใจคิดวิเคราะห์ถึงปัญหาของลูกสาวค่ะ เห้นด้วยค่ะ ว่าน่าจะเป็นจากข้อที่ใช้เวลาซ้อมน้อยไปหน่อย วิธีการสะสมสติ๊กเกอร์น่าสนใจดีค่ะ เดี๋ยวขอยืมไปใช้กับน้องนุ่มด้วยนะคะ

ดีใจด้วยนะคะที่หาพรสวรรค์ของน้องจนเจอ เก่งจริงๆค่ะ นี่กำลังมองๆเจ้านุ่มอยู่เหมือนกัน รายนี้เค้าชอบแต่งเพลงเอง คิดทาเต้นเอง เลยว่าอาจจะพาไปเรียนบัลเล่ย์หรือรำไทยค่ะ รอสักสี่ขวบก่อน

เอาไว้อาจจะมาปรึกษาคุณแม่คำไหมเรื่องเรียนดนตรีนะคะ ขอแอดไว้ก่อนค่ะ


โดย: หมูเหมียว วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:15:02:26 น.  

 
วิธีลงวีดีโอนะคะ คุณแม่สามารถเข้าไปที่เวบ
//www.vimeo.com/ นะคะ หรือ //www.photobucket.com ก็ได้ค่ะ แล้วก็สมัครสมาชิกฟรีค่ะ แล้วก็เข้าไป upload วีดีโอของเราค่ะ หรือรูป หรือทำสไลด์ก็ได้นะคะ พอทำเสร็จแล้วจะมีcode ให้เราค่ะ เราก็ก๊อป code มาใส่ในหน้าบล็อกที่เราเขียนอะค่ะ
ลองดูนะคะ


โดย: อิจิโงะจัง วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:15:29:35 น.  

 
ตามลุ้นตอนที่ 3 อยู่เหมือนกันค่ะ ว่าผลจะเป็นยังไงน้อ อ่านแล้วดีใจจังเลย แสดงว่าคุณแม่หาวิธีจูงใจน้องบัวได้ถูกทางนะคะเนี่ย ยินดีด้วยค่ะ

น้องบัวน่ารักจังค่ะ


โดย: พู่ระหง วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:20:17:17 น.  

 
เมื่อวานพยายาม comment แต่ไม่สำเร็จค่ะ อิอิ

จะบอกว่าคุณหนึ่งเป็นแม่ที่มีเวลาให้ลูกมากและมีคุณภาพที่สุดค่ะ คอยสังเกตว่าเค้าชอบหรือไม่ชอบอะไร และส่งเสริมให้เค้าทำในสิ่งที่ชอบ พอลูกมีปัญหาก็สังเกตเห็นได้เร็ว และก็แก้ไขปัญหาได้ในที่สุด

อยากเป็นแม่คุณภาพบ้างค่ะ ตอนนี้กำลังปรับปรุงตัวอยู่


โดย: นุ่น IP: 202.57.179.147 วันที่: 23 พฤษภาคม 2550 เวลา:10:01:34 น.  

 
ตามไปอ่านเรื่องเก่าๆมาค่ะ อยากถามคุณหนึ่งนิดนึงว่าพาน้องบัวไปเรียนว่ายน้ำตอนกี่ขวบอะคะ


โดย: พู่ระหง วันที่: 23 พฤษภาคม 2550 เวลา:21:54:47 น.  

 
ขอบคุณทุกท่านที่มาคอมเม้นท์นะคะ

คุณนุ่น - จริงๆ แล้วไม่ได้อยากเป็นคุณแม่คุณภาพอะไรหรอกค่ะ เพียงแต่เขียนไปรษณียบัตรบอกในหลวงไปว่า จะเลี้ยงดูลูกทั้ง 2 คนให้เป็นคนดีมีคุณภาพ เป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติต่อไป เลยต้องทำตามที่สัญญาเอาไว้ค่ะ ตามโครงการทำความดีถวายในหลวงค่ะ

ขอบคุณ อิจิโงะจัง ด้วยค่ะ จะลองทำตามที่วิธีที่แนะนำนะคะ

คุณภู่ระหง - น้องบัวไปเรียนว่ายน้ำตอน 5 ขวบค่ะ เพิ่งเรียนเมื่อเดือนมีนาที่ผ่านมานี้เองค่ะ วัตถุประสงค์หลักคืออยากให้เค้าได้ออกกำลังกาย เพราะเป็นภูมิแพ้หอบหืด ว่ายน้ำได้เป็นผลพลอยได้ค่ะ


โดย: คำไหม วันที่: 24 พฤษภาคม 2550 เวลา:9:55:13 น.  

 
น้องบัวเก่งจังเลย

โกะว่าเก่งนะ อายุขนาดนี้เอง เล่นดนตรีได้เป็นเรื่องเป็นราวแล้ว

เจ้าไอซ์ ยังไม่รู้เรื่องเลย.....


โดย: ป็อกกี้อัลมอนด์ (soopara ) วันที่: 25 พฤษภาคม 2550 เวลา:12:06:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คำไหม
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




บล็อคของแม่ เพื่อบันทึกเรื่องราวของลูกๆ

○ สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด ○

Friends' blogs
[Add คำไหม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.