Lilypie 6th to 18th PicLilypie 6th to 18th Ticker Lilypie 4th Birthday PicLilypie 4th Birthday Ticker
Group Blog
 
All blogs
 

HK Trip : last day - Ocean Park



เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันนี้วันสุดท้ายแล้วค่ะ ตื่นนอนสายกว่าทุกวัน (ประมาณ 7 โมงครึ่ง) เพราะสองวันที่ผ่านมาเหน็ดเหนื่อยเหลือเกิน ถึงโรงแรมเป็นสลบเหมือด

แต่เวลานัดหมายยังเหมือนเดิมนะ 9 โมงเช้าที่ล็อบบี้ หอบข้าวหอบของลงมาเช็คเอ้าท์เรียบร้อย เช้านี้เราจะไปทานอาหารเช้าแบบฮ่องกงกัน เป็นร้านขายติ่มซำ ซึ่งอยู่ระหว่างทางจากโรงแรมไปสถานีรถไฟฟ้า ชั้นล่างมีรูปอาหารกับตู้โชว์กุ้งหอยปูปลานิดหน่อย เราต้องเดินขึ้นไปอีกชั้นนึงถึงจะเป็นส่วนของห้องอาหาร สั่งกันไม่ค่อยรู้เรื่อง พ่อโหน่งกับลุง X เลยบุกไปที่ครัวเลย ได้อาหารอย่างที่อยากกิน มีทั้งโจ๊กไข่เยี่ยวม้า ซาละเปาไส้หมูแดง ซาละเปาไส้ครีม ฮะเก๋า (ประทับใจมาก กุ้งเป็นตัวๆ เนื้อกรุบกรอบ) ขนมจีบสาระพัดแบบ แล้วก็พวกของทอดนิดหน่อย (อันนี้ไม่ค่อยเวิร์ค อมน้ำมันเยอะ) กินๆๆๆ อย่างอิ่มและอร่อย ในราคาไม่แพงเลย ไม่มีรูป เพราะมัวแต่กิน

แล้วเราก็กลับมาโรงแรม เพื่อมารอรถบัสสาย K-6 ไปเช็คอินทาวน์ที่เกาลูน โหลดกระเป๋าและเอา boarding pass แล้วเดินตัวปลิวเที่ยวต่อ โหะๆๆ

วันนี้จะไปโอเชี่ยนปาร์ค ขึ้น MTR ไปลงที่แอดไมรัลตี้ แล้วก็ต่อรถบัสไปโอเชี่ยนปาร์ค ไปถึงโอเชี่ยนปาร์คประมาณ 11 โมง โชว์ปลาโลมาเริ่มพอดี เลยไม่ได้ดู รอบต่อไปจะเป็น 15.30 แต่เครื่องออก 18.40 ป้าหนิงบอกว่าทันๆๆ น่าจะไปถึงสนามบินแบบว่าเยี่ยวเฉี่ยวหัวพอดี (แปลว่าถึงแบบฉิวเฉียด 555) เอ้าทันก็ทัน งั้นเราเที่ยวกันก่อน

เดินเที่ยวตามประสา แม่ไม่ค่อยมีแรงถ่ายรูปแล้วค่ะ เหนื่อย

น้องบัวกับพี่ภู...


ขึ้นบันไดเลื่อนที่ยาวววววว มากกกกกก


ระหว่างทางก็แวะชม aquarium แต่แม่หมดแรงถ่ายรูปจริงๆ แค่จะลากสังขารให้เดินต่อไปก็ยากเต็มที งานนี้ใช้ใจล้วนๆ ร่างกายไม่ไหวแล้ว

นั่งกระเช้า น้องบัวไปนั่งกับพี่ภูแล้ว เหลือพ่อแม่และน้องบอนอยู่กัน 3 คน







โอเชี่ยนปาร์คคนไม่น้อยเลยค่ะ กว่าจะผ่านไปแต่ละด่านได้ ต้องเบียดเสียดกันน่าดู เด็กๆ อยากขับ (นั่ง) รถโกคาร์ท ต้องยืนรอคิวประมาณ 40 นาทีกว่าจะได้เล่น ป้าหนิงเลยได้นั่งเล่นสบายใจเฉิบ (เพราะไม่มีคู่ หุ หุ) แล้วก็ถ่ายรูปนักซิ่งไว้ให้ หน้าตาเคร่งเครียดกันทุกคน พวงมาลัยหนักมากกกก








แล้วก็เดินขึ้นมาหาอาหารกลางวันทาน ขณะที่ทานอาหารก็ได้ยินประกาศบอกว่า โชว์ปลาโลมารองบ่ายสามโมงครึ่ง ขณะนี้เต็มแล้ว ให้รอดูรอบถัดไปกี่โมงจำไม่ได้ แต่ไม่ดูแล้วค่ะ ไม่งั้นไม่ได้กลับบ้าน มีรูปอีกนิดหน่อยลงเลยละกัน








ทานข้าวเสร็จ ซื้อของกันนิดหน่อย แล้วก็กลับเลย มาถึงสนามบิน 1 ชม.ก่อนเครื่องออก แล้วก็ถึงเมืองไทยโดยสวัสดิภาพเวลา 20.30 น. จบทริปสั้นๆ แต่เพียงเท่านี้ งานนี้เที่ยวคุ้มค่าทุกนาที แต่ไม่มีเวลาช็อปปิ้งเลยยย แม่กลับมาตัวเปล่า เงินเหลือค่ะ เสียฟอร์มมั่กๆ กำลังพยายามหานัดล้างตาอยู่




 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2550 9:58:36 น.
Counter : 774 Pageviews.  

HK Trip : 2nd day - HK Disneyland 2



หลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว เราก็เดินเล่นย่อยอาหารในร้านขายของที่ระลึก ซื้อของมานิดหน่อย เพราะจากประวัติที่ผ่านมา ซื้อทีไร ไม่ใช้ซักที บรรยากาศในร้าน...




ไปเล่นของเล่นกันต่อดีกว่า นั่งช้างดัมโบ้ ขี่ม้าหมุน แล้วก็ไปทำ Fast pass บ้านหมีพูห์ เพื่อกลับมานั่งหลังจากชมขบวนพาเหรดจบ










ถึงเวลาพาเหรดมาแล้วค่ะ เด็กๆ ตื่นเต้นมาก ที่ได้เห็นตัวการ์ตูนในจอทีวี มาเดิน เต้น โบกมือทักทาย อยู่เบื้องหน้าเค้า
























รูปซินเดอเรลล่านี้พี่บัวประทับใจมาก บอกว่าซินเดอเรลล่าเค้าบ๊ายบายให้หนู


พาเหรดจบแล้ว เรากลับมานั่งไหน้ำผึ้งหมีพูห์ที่ทำ Fast Pass เอาไว้








แล้วไปดูโชว์ Golden Mickey เป็นการรวบรวมเพลงของดีสนี่ย์มาให้ฟังกัน เพลงเพราะทุกเพลง แม่ดูไปร้องไป ขัดใจอย่างเดียวที่มิคกี้เม้าส์ มินนี่เม้าส์พูดภาษาจีน 5555 ถึงตอนนี่ น้องบอนหลับแล้วครับ ก็ตะลุยมาทั้งวัน แถมตรงนี้เป็นห้องแอร์เย็น สบ๊าย สบายยยยย

ถ่ายรูปมาไม่เยอะ เพราะเค้าห้ามใช้แฟลช











กลับไปที่ Tomorrowland ค่ะ ผู้ใหญ่แบตใกล้หมดเต็มทีแล้ว แต่เด็กๆ ยังมีแฮง วิ่งซนได้ แรงดีไม่มีตก

นั่งรถซิ่ง





เด็กชายภู กับเด็กชายบอน คนละวัย (6ขวบ กับ 2ขวบ9เดือน) แต่ใจตรงกัน ทั้งหมวก และดาบเลเซอร์






แล้วเราก็ไปดูเจ้า Stich เป็น Interactive ระหว่า Stich กับคนดู เด็กๆ นั่งดูหน้าสลอน ฟังไม่รู้เรื่องสักคำ แต่ขำกลิ้ง หัวเราะดังลั่นห้อง ต่อด้วย Buzz Lightyear ตะลุยอวกาศ เป็นยานมีปืนเลเซอร์ ให้นั่งยิงๆๆๆๆ มีคะแนนขึ้นด้วย สนุกมาก ไม่มีรูปค่ะ มัวแต่ยิงปืนเลเซอร์

พอเราออกมาจาก Buzz ก็มีพาเหรดฮาโลวีน วิ่งๆๆ ไปดู ได้นิดเดียว ฝนก็ลงปรอยๆ นิดเดียว แต่เพื่อความสบายใจ เลยพาเด็กๆ เข้าร่มมาเล่น Buzz อีกรอบดีกว่า อีกอย่าง พาเหรดผีๆ เด็กๆ ไม่ค่อยอยากดูเท่าไหร่

แล้วก็ถึงเวลาเกือบ 3 ทุ่ม ทุกคนไปรวมตัวกันที่หน้าปราสาท เพื่อรอชมพลุ ประกอบเพลง อันสวยงามตระการตา น่าประทับใจมากๆๆๆ










และแล้ว...ก็ถึงเวลากลับโรงแรมสักที หลังจากใช้ชีวิตอยู่ในดีสนี่ย์แลนด์ตั้งแต่ 10 โมงครึ่ง เวลานี้ สามทุ่มครึ่งแล้วค่ะ 11 ชั่วโมงในดีสนี่ย์แลนด์ ดินแดนแห่งความฝันของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ถึงจะเหนื่อยแต่ก็สนุก และคุ้มค่ามาก สำหรับการท่องเที่ยวในงบประมาณที่มีอยู่นี้ บ๊าย บาย จ้า ดีสนี่ย์แลนด์




 

Create Date : 03 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2550 9:57:53 น.
Counter : 2068 Pageviews.  

HK Trip : 2nd day - HK disneyland



วันที่สอง เราตื่นกันประมาณ 7 โมงเช้า อาบน้ำแต่งตัว ทานอาหารเช้า (เป็นนมและขนมปังที่ซื้อจากซุปเปอร์ฯ เมื่อวาน) แล้วนัดเจอบ้านป้าหนิง 9 โมงเช้าที่ล็อบบี้โรงแรม แต่กว่าจะได้ออกจากโรงแรมก็เกือบ 9 โมงครึ่ง มัวแต่ตรวจเช็คข้าวของ ว่าพร้อมที่จะไปลุยดีสนี่ย์แลนด์หรือยัง ก็วันก่อนมาฮ่องกง พยากรณ์อากาศบอกว่ามีฝนตกปรอยๆ เล่นเอาแม่ใจเสียไปนี๊ดนึง ก็ไหน guide book ทั้งหลายบอกว่าเดือนตุลาอากาศดีสุดไง ยอมรอจนถึงเดือนตุลา ยอมเสียค่าเครื่อง ค่าโรงแรมในช่วงเวลาที่แพงที่สุด เพื่อมาเที่ยวแล้วเจอฝนงั้นเหรอ ?? บ่นไปก็เท่านั้น เตรียมอุปกรณ์ยังชีพให้พร้อมดีกว่า เสื้อกันฝน ร่มพับ เสื้อแจ็คเก็ตแบบมีฮู๊ดของเด็กๆ แบกกันหลังแอ่น

แล้วเราก็ออกเดินทางไปดีสนี่ย์แลนด์ ขึ้น MTR Prince Edward เหมือนเดิม แล้วไปเปลี่ยนสายที่ Lai King แล้วก็เปลี่ยนรถไฟอีกครั้งที่ Sunny Bay เพื่อนั่งรถไฟสายสีชมพู ไปดีสนี่ย์แลนด์ค่ะ

รถไฟเรามาแล้ว.....







เด็กๆ หน้าระรื่น



ในรถไฟ อะไรๆ ก็ดูน่ารักไปหมด ที่โหนก็ยังเป็นหัวมิคกี้เม้าส์ เด็กจะไม่อยากโหนได้ไง







ถึงแล้วคร๊าบบบบบ





ขณะนี้เวลา 10.30 น. ดีสนี่ย์แลนด์เปิด 10.00 น. คนกำลังทยอยๆ เข้ามา เด็กๆ ตื่นเต้น ตื่นตาตื่นใจ กับทุกอย่างที่เค้าได้พบ ได้เห็น ได้สัมผัส












เรามานั่งรถไฟชมดีสนี่ย์กันก่อนครับ เพื่อบรรยายให้เด็กๆ ได้รับทราบว่ามีอะไรในดีสนี่ย์แลนด์บ้าง แล้วก็ได้นั่งชมวิวโดยรอบ อื้อ..มันเล็กดีจังแฮะ







เดินเล่นชมวิวในดีสนี่ย์แลนด์ไปเรื่อยๆ ช่วงนี้เป็นทเศกาลฮาโลวีน ดีสนี่ย์แลนด์ก็ตกแต่งเป็น Theme Halloween ด้วย แต่น้องบอนไม่ปลื้ม ร้องไห้กลัวปีศาจหัวฟักทอง 5555

เรามาที่นี่ก่อนค่ะ Adventureland ขึ้นแพ ไปเที่ยวบ้านบนต้นไม้ของทาร์ซาน

*โค้กที่นี่ ขวดละ 20 เหรียญฮ่องกง เพื่อความสบายใจ เราเลยเรียกกันว่า 20 บาทค่ะ












แล้วก็ไปต่อคิว เพื่อรอชมโชว์ Lion King โชว์เริ่มประมาณเที่ยง เป็นการแสดง มีคนเป็นผิวดำร้องเพลง เสียงดีมากกกก ฟังแล้วขนลุก นักแสดง dancer แสง สี เสียง เพอร์เฟ็กท์มาก สมกับเป็น Disney



โชว์ประมาณครึ่งชั่วโมง ออกมาแวะกินไอติมรองท้องกันก่อน แท่งละ 10 บาท เอ๊ย... 10 เหรียญ






แล้วก็ไปเล่น Jungle Cruise ประมาณล่องเรือไปเจอสาระพัดสัตว์ สนุกดีค่ะ เค้าบอกมาว่า ถ้าไม่อยากเปียกให้นั่งแถวกลาง งั้นเรานั่งแถวกลางดีกว่า ให้พ่อโหน่งนั่งริม 555



ออกจาก Jungle Cruise เราไปชม Disney Philharmonic กันต่อ ไปหนัง 4 มิติ เพราะนอกจากจะมีภาพการ์ตูน 3 มิติแล้ว ยังมีลมพัด มีละอองน้ำกระเด็นโดนหน้า มีกลิ่นแชมเปญ ฯลฯ คือสัมผัสได้ด้วย ไม่มีรูปนะคะ เด็กๆ สนุกมากกก หัวเราะกันเสียงดังเชียว

แล้วเวลาก๋ล่วงเลยมาเกือบบ่าย 2 โมง ถึงได้หาข้าวทาน มี Food Center อยู่ที่นี่เป็นระยะๆ อาหารรสชาติใช้ได้ค่ะ ราคาประมาณ 50-55 เหรียญ

บล็อคนี้ชักยาวแล้ว ขอจบไว้ตรงนี้ก่อนนะคะ

ปล. ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ อากาศดีมาก มีแดดอ่อนๆ ไม่ร้อนเลยค่ะ




 

Create Date : 03 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2550 15:54:52 น.
Counter : 496 Pageviews.  

HK Trip : 1st day



เราวางแผนกันไว้นานมากสำหรับทริปนี้ เพราะแม่อยากพาเด็กๆ ไปเที่ยวไกลๆ แปลกหูแปลกตาดูบ้าง เวลาพี่บัวเห็นรูปดีสนี่ย์แลนด์ทีไรก็อยากไปทุกที แต่ติดที่น้องบอนยังเล็กอยู่ เราเลยต้องรอๆๆ เรื่อยมาจนกระทั่งถึงวันที่ได้ไปจริงๆ 12-14 ตุลาคม 2550

ทีแรกกะว่าจะไปช่วงวันหยุดปิยะมหาราช 4 วัน 3 คืน เราก็ใจเย็นมัวแต่รอแพคเกจทัวร์ กว่าจะไหวตัวทัน ตั๋วเครื่องบินเต็ม แบบต้อง wait wait wait ขนาดจองล่วงหน้าวันเดินทางไป 2 เดือน สุดท้ายเลยต้องเลื่อนวันเดินทาง เป็น 12-14 ตุลา เป็นทริป 3 วัน 2 คืน แบบสั้นๆ แต่คุ้มค่าทุกนาที ต้องให้คุ้มค่าที่สุด เพราะเดือนนี้เป็นเดือนที่ค่าเครื่องบิน ค่าโรงแรมในฮ่องกงแพงที่สุดในรอบปีก็ว่าได้

นับเป็นโชคดี ที่ป้าหนิง ลุง X และพี่ภู มาร่วมเป็นสมาชิกทัวร์ตะลอนในครั้งนี้ ป้าหนิงไปฮ่องกงมาหลายครั้ง พวกเราเลยไม่ต้องมะงุมมางาหรา วางแผนเรื่องการเดินทางมากนัก ยิ่งใกล้วันเดินทาง น้องบัว น้องบอน ก็ยิ่งตื่นเต้นที่จะได้ไปดูมิคกี้เม้าส์สักที แม่ก็ตื่นเต้นจ๊า เพราะตั้งแต่มีลูก แม่ก็ไม่ได้เดินทางต่างประเทศอีกเลย

เราต้องบินมาถึงกรุงเทพตั้งแต่เย็นวันที่ 11 ตุลา ที่ลำปางไม่มี Low cost Airline ค่ะ มีแต่ Very Expensive Airline เดินทาง 4 คนพ่อแม่ลูก ค่าเครื่องบินปาดเหงื่อเลยค่ะ



คืนนี้เราพักที่โรงแรมไม่ไกลจากสนามบิน เข้านอนแต่หัวค่ำ เพราะวันรุ่งขึ้นต้องตื่นตี 5 แต่งตัวไปโรงแรม ด้วย shuttle bus ของโรงแรม เดินทางประมาณ 15 นาทีก็ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ (เพิ่งมาเมื่อวานเย็นเอง เช้านี้มาอีกละ 555) เจอป้าหนิง ลุง X พี่ภู รออยู่ที่เคาน์เตอร์เช็คอิน ดีที่เราทำ online check in และเลือกที่นั่งไว้เรียบร้อย เลยได้นั่งติดกันเลย หลังจากได้ boarding pass แล้ว ก็แยกย้ายไปหาอาหารเช้าทานรองท้อง แล้วก็ไปขึ้นเครื่อง

เครื่องบินออก 8.20 กว่าจะทานอาหารเช้าเสร็จก็ 7 โมงเศษ ผ่าน ตม. คิวยาววววว มากกกก คนเดินทางกันเยอะจริงๆ แม่เลยมีเวลาเดินเล่นที่ duty free แป๊บเดียวเอง ขณะที่กำลังดูกระเป๋า เจ้าบอนก็ปวดท้องอึ แหงะๆ ต้องเอาลูกไปอึอีก พออึเสร็จ ก็ได้ยินเสียง "ประกาศครั้งสุดท้าย ของสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิก เที่ยวบินที่..." ไอ๊หยา ไฟล์ทชั้นนี่หว่า ว่องเลยลูก เด๋วตกเครื่องบิน ก้าวเดินจ้ำอ้าวๆๆๆ เดินผ่านร้านรวงอันงดงาม แต่ไม่มีโอกาสได้เข้าไปชม

ขึ้นเครื่องเรียบร้อยค่ะ นั่งรอตั้ง 20 กว่านาทีกว่าเครื่องจะออก เซี๊ยดายจัง เครื่อง 777 ใหม่ดีค่ะ มีทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง


ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 40 นาที ก็ถึงฮ่องกงแล้ว เวลาที่ฮ่องกงประมาณ 11 โมง 45 เย้ๆๆ เด็กๆ เริ่มวิ่งกันให้พล่าน ดันมาเจอตัวเร่งปฏิกิริยาอย่างพี่ภู บัวบอนทวีความซนเป็น 2 เท่า คนที่สนามบินก็เยอะมั่กๆๆๆๆ เด็กๆ เนี่ย ไม่กลัวอะไรเล๊ย...


เรานั่ง Airport Express มาส่งที่ Kowloon แล้วต่อรถบัสสาย K-6 ซึ่งรถมาเกยที่หน้าโรงแรมที่เราพักพอดี ถึงโรงแรมประมาณบ่ายสองโมง ทางโรงแรมบอกว่าห้องยังทำไม่เสร็จ คงจะเช็คอินได้ประมาณ 3 โมงครึ่ง อย่ากระนั้นเลย ไปเที่ยวกันดีก่า ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม ค่ำๆ ค่อยกลับมาเช็คอิน

จากโรงแรมเดินไปสถานี MTR Prince Edward ประมาณ 5-6 นาที วันนี้เราจะไปนั่ง tram ขึ้น The Peak กันค่ะ

ระหว่างรอรถไฟใต้ดิน




โผล่จากสถานีรถไฟใต้ดิน เจอสวนสาธารณะ จับเด็กๆ ถ่ายรูปกัน ยังเกร็งๆ อยู่ ทำท่าเหมือนกันเด๊ะ ยืนตรงเคารพธงชาติ


แม่ขอถ่ายมั่ง


ทีแรกกะว่าจะนั่งรถเมล์ แต่ชาวคณะคิดว่าเดินเล่นชมบ้านเมืองเค้าดีกว่า โหย...แทบตาย ทางขึ้นเขา แถมต้องกระเตงลูกด้วย แฮ่กๆๆ แต่ก็ดีที่ได้ถ่ายรูปเล่นระหว่างทางที่เดินผ่าน






และแล้ว...เราก็ได้นั่ง Peak Tram ค่ะ











พอลงจาก tram ก็เดินเข้าตึก ขึ้นบันไดเลื่อนหลายชั้นมาก จนกระทั้งถึงชั้นบนสุด ที่เป็นจุดชมวิวฮ่องกง อากาศเย็นสบาย ลมแรง (หัวแม่กระเซิงซะ) แต่ฟ้าวันนี้ไม่ค่อยสดใสมีหมอกลง เลยได้วิวแบบนี้มา





พอลงจาก The Peak เราจะไปที่ Ocean Terminal ซึ่งมีร้านขายของเล่นชื่อดัง Toysrus อยู่ การเดินทางก็คือ นั่งรถเมล์ 2 ชั้น ไปที่ท่าเรือ แล้วนั่งเรือข้ามฟากไปฝั่งกระโน้น เดินต่ออีกนิดนึงก็ถึงจุดหมายปลายทาง

สรุปว่าวันนี้ เด็กๆ ได้เดินทางด้วยยานพาหนะหลากหลายมาก ตั้งแต่นั่งเครื่องบิน ต่อรถไฟความเร็วสูง รถบัส รถไฟใต้ดิน นั่ง Tram นั่งรถเมล์ 2 ชั้น เรือข้ามฟาก สิริรวมแล้ว 7 อย่างค่ะ

พอรถเมล์มาถึง พุ่งขึ้นชั้นบนทันทีค่ะ รถเมล์ 2 ชั้นแบบเปิดประทุน ได้บรรยากาศเที่ยวฮ่องกงมั่กๆๆๆ มองไปทางไหนก็เห็นแต่ตึกสูง สูงกว่า สูงที่สุด ซู๊งสูง ต่างกับลำปางบ้านเราที่มีแต่ทุ่งนา สนามหญ้ากว้างๆ







ตรงนี้วิวคุ้นตาไม๊คะ ถ่ายละครทีไร พระเอกนางเอกต้องมาเดินแถวนี้ ไม่งั้นไม่รู้ว่ามาถ่ายฮ่องกง



ช่วงที่ไปเป็นเดือนตุลา ที่ฮ่องกงจัดเทศกาลฮาโลวีนกันค่ะ ได้รูปมารูปเดียว เด็กๆ ไม่ค่อยให้ความร่วมมือในการถ่ายรูป เพราะอยากไปถึงร้านของเล่นไวๆ




แล้วเราก็ไปถึง Toysrus ได้ของเล่นกันมาคนละนิดหน่อย พี่บัวได้ตุ๊กตาบาร์บี้ (ตัวที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย ซื้อแต่ตุ๊กตา) ส่วนน้องบอนได้ set รถ จากเรื่อง CARS แม่แอบเห็นรางรถไฟไม้ อยากได้มาเพิ่มสต็อกจังเลย แต่เป็นห่วงสวัสดิภาพตัวเอง เพราะต้องหิ้วรางรถไฟไม้หนักๆ เดินไปอีกหลายที่ ไหนจะลูกอีก เลยถอดใจไม่เอาดีกว่า พอออกจาก Toys ก็เจอร้านหนังสือเด็ก ได้หนังสือนิทานแบบรวมเล่มของ Richard Scarry แม่เลยคว้าหมับ แล้วรีบจ่ายตังค์ เพราะขณะนี้ทุ่มกว่าๆ แล้ว ยังไม่ได้กินข้าวเลย โอ้...เวลาผ่านไปไวจริงๆ

หลังจากนั้นก็หาอาหารทาน แวะซุปเปอร์ซื้อนม ขนมปัง ผลไม้ สำหรับมื้อพรุ่งนี้เช้า แล้วกลับโรงแรม กว่าจะถึงโรงแรมก็สามทุ่มกว่าแล้วค่ะ เดินกันขาลากเลย วันนี้แค่ warm up นะคะ พรุ่งนี้เราจะไป Disneyland กัน อันนี้แหละของจริง

ปิดท้ายด้วยรูปนี้ที่ป้าหนิงเป็นคนถ่าย ได้บรรยากาศคำว่ากระเตงลูกเที่ยวดีจัง




 

Create Date : 03 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2550 13:37:59 น.
Counter : 468 Pageviews.  

ไปเต๊อะไปแอ่ว จังหวัดเจียงฮาย 12-14 เม.ย. 50



สงกรานต์ปีนี้แม่คิดว่า เราควรประหยัดๆ หน่อย เลยไม่ไปเที่ยวไกลๆ เหมือนปีอื่นๆ แม่เลยเลือกจังหวัดเชียงราย ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ้านเรา ขับรถ 3 ชม. ก็ถึงแล้ว แต่เพื่อไม่ให้ธรรมดาจนเกินไป แม่เลือกภูใจใสรีสอร์ท เป็นที่พักของเรา กว่าจะชวนบัวไปเที่ยวได้ ก็ทำเอาแม่เสียน้ำตาไปหลายแหมะ จนแม่เกือบจะยกเลิกโรงแรมเค้าไปแล้ว แต่เอาเถอะ...ในที่สุดเราก็ได้ไปจนได้

ออกบ้านแปดโมงแวะกินข้าวมันไก่ ได้ออกลำปางจริงๆ ก็ 9 โมงเช้า ขับรถยังไม่พ้นเขตอำเภอเมือง น้องบัวก็ถามว่า "ถึงเชียงรายยัง" และก็ถามๆๆๆ อย่างนี้ไปตลอดทาง เฮ้อ....

ถึงเชียงรายก็เที่ยงพอดี แวะทานข้าวที่สลุงคำ ทานข้าวเสร็จทีแรกว่าจะขับรถเล่นในเมืองเชียงรายหน่อย แต่คุณลูกบังเกิดเกล้าบอกว่าอยากว่ายน้ำ อยากไปรีสอร์ท เลยเข้าภูใจใสเลยดีกว่า ขี้เกียจฟังเสียงมันบ่น ไปถึงภูฯ ประมาณบ่ายสองโมง โอ้...มันช่างแสนโรแมนติก อากาศดี๊ดี

ทุกห้อง หันหน้าออกไปยังภูเขาอย่างนี้ เราได้อยู่เฟสที่สร้างใหม่เนื่องจากไฟไหม้เมื่อปีก่อนโน้น ใช้ปูนมาผสมด้วย แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติได้เป็นอย่างดี ระเบียงก็กว้าง เด็กๆ เอาสมุดระบายสีไปนั่งระบายกัน แล้วก็ลงไปสระว่ายน้ำ แบบว่าว่ายกลางหุบเขาเลย





ในห้องพัก แม่ลืมขอเตียงแบบ double เลยได้ twin มา แต่ก็โอเค แม่กับบัวนอนเตียงนึง พ่อนอนอีกเตียง ส่วนน้องบอนนอนที่ daybed สบายๆ




ห้องน้ำ พร้อมนางแบบและนายแบบ ขวดๆๆ ที่วางตรงอ่างอาบน้ำ เป็น Bath salt, Bath oil, Bath Foam, Shampoo น้องบอนชี้ๆๆ ถาม นี่อารายๆๆ พอถึงกระปุก bath salt แม่บอกว่าเกลือ น้องบอนเปิดกระปุก เอานิ้วจิ้มแล้วเอาเข้าปาก แง๊...


และแล้วก็ถึงเวลาที่เด็กๆ รอคอย ว่ายน้ำในสระคร๊าบ สระที่นี่เล็กกระทัดรัด แต่บรรยากาศดีมาก ดูหน้าตาเด็กๆ เริงร่า ทำแม่หายเซ็งเป็นปลิดทิ้ง







รถไม้ไผ่ ... อีกสัญลักษณ์ของภูใจใส




 

Create Date : 21 เมษายน 2550    
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2550 12:57:55 น.
Counter : 527 Pageviews.  


คำไหม
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




บล็อคของแม่ เพื่อบันทึกเรื่องราวของลูกๆ

○ สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด ○

Friends' blogs
[Add คำไหม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.