ทำไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ หรือไม่ได้ทำ
ขอยืมคำโฆษณาของเหล้ายี่ห้อหนึ่งมาใช้เป็นการชั่วคราว
ชอบทั้งประโยคค่ะ นับตั้งแต่บัดเดี๋ยวโน้น (สมัยที่โฆษณาออกใหม่ๆ) จนมาถึงบัดเดี๋ยวนี้...ก็ยังชอบอยู่ มิรู้ลืม
ว่าแล้วก็มาเข้าเรื่องกันดีกว่า ว่าทำไมถึงจั่วหัวบล็อกเช่นนี้
ฉันมีลิสต์ในใจเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองคิดว่าชาตินี้คงไม่สามารถทำให้สำเร็จได้
โดยลิสต์ที่ว่านั้น ประกอบด้วย พูดภาษาอังกฤษ ว่ายน้ำ และขับรถ
ขอหมายเหตุว่า ทุกข้อมีความสำคัญเท่าเทียมกันหมด ไม่มีข้อใดข้อหนึ่งเป็นเบอร์หนึ่ง, สอง หรือสาม
และขออนุญาตแจกแจงแต่ละข้อว่าทำไม
ข้อแรก พูดภาษาอังกฤษ ตัวเองไม่เคยคิดว่า จะพูดสื่อสารภาษาอังกฤษได้ แหม มันยากเหลือเกิน กับสมัยที่เพิ่งจบมหาลัยมาใหม่ๆ ยากจนตัวเองคิดว่า ชาตินี้ คงไม่สามารถพูดคุยอย่างเข้าใจและรู้เรื่องกับชาวต่างชาติได้ แต่เมื่อมีหัวหน้างานใจดี ให้โอกาสทำงาน ที่มีเอี่ยวกับการต้องใช้ภาษาอังกฤษในการทำงานเยอะพอสมควร ทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษของฉันก็เริ่มได้รับการพัฒนาขึ้น ณ ที่แห่งนั้น
เริ่มจากทักษะการแปล อันนี้ เหมือนได้เข้าโรงเรียนการแปลโดยเฉพาะ (ซึ่งทักษะนี้ ก็ยังติดตัวจวบจนถึงทุกวันนี้)
ต่อมาด้วยทักษะการพูดและการฟัง สองอย่างนี้มาพร้อมกัน อย่างที่รู้ๆ ว่า โดยพื้นฐาน ฟังหน่ะพอเข้าใจ แต่พูดนี้ซิ ปัญหาใหญ่ น้ำท่วมปาก และพอมาต้องทั้งฟังทั้งพูดไปพร้อมๆ ก็เลยพาลสติแตกเอาได้ง่ายๆ ฉันใช้เวลาในการเรียนรู้ ปรับตัวเองในเรื่องนี้ นานพอสมควร แต่บอกได้คำเดียวว่าถ้าอยากให้ การพูด ฟัง อ่าน เขียน ภาษาอังกฤษของตัวเองดีขึ้น ต้องหาเรื่องใช้ให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วทุกอย่างก็จะไม่ยากอย่างที่คิด
ปัจจุบัน แม้ฉันจะลาออกจากงานมาเป็นแม่บ้านเต็มเวลาให้กับสามีต่างชาติ (ซึ่งถนัดฝรั่งเศลมากกว่าอังกฤษ) แต่ก็ได้ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันตลอด นอกจากจะได้ใช้ภาษาอังกฤษพูดคุยกับสามี และเรียนรู้ศัพท์แสงจากการดูหนังทางช่องทรูวิชั่นแล้ว ฉันยังเปิดร้านขายของบนอีเบย์ที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกับลูกค้าจากทั่วทุกมุมโลก
มาเข้าข้อสอง "ว่ายน้ำ" จะเป็นประเด็นที่โดนถามมาโดยตลอดว่า ทำไมเป็นคนใต้แต่ว่ายน้ำไม่ได้?? เรื่องของเรื่อง คือ ไม่เคยได้ฝึกเป็นจริงเป็นจัง (ข้ออ้าง) พี่ๆ น้องๆ ก็ว่ายเป็นกันหมด ยกเว้นอยู่คนเดียว ไม่เอาอ่าวเอาซะเลย
มีเรื่องเล่าขำๆ คือ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อนสามีมาเที่ยวไทย เธอมีลูกสาวอายุ 7 ขวบ และกำลังคลั่งไคล้การว่ายน้ำเป็นชีวิตจิตใจ พอทราบว่า ฉันว่ายน้ำไม่เป็นและเธอ(สาวน้อย) ก็อยากได้เพื่อนเล่นน้ำด้วย จึงจัดแจงสอนฉันแบบที่เธอได้เรียนรู้มาตั้งแต่เริ่มต้นจนเธอคาดเอาว่าฉันคงพอจะว่ายได้แล้วหล่ะ แต่ขอโทษ มันคงไม่เกิดปาฏิหารย์ในเวลาแค่ 10-20 นาที สรุปคือ ฉันก็ยังว่ายไม่ได้ แต่ได้วิธีการฝึกง่ายๆมาจากเธอ
สมัยทำงาน เคยคิดจะไปเรียนว่ายน้ำ (แน่นอน"ว่ายน้ำ"เป็นหนึ่งในลิสต์ที่ฉันอยากทำมาโดยตลอด) แต่ก็เหลวเป๋ว และจนถึงบัดนี้ ฉันก็ยังคงว่ายน้ำไม่ได้ แม้จะได้ลองทำไปบ้างแล้ว (แต่คิดว่ายังไม่เต็มที่)
ข้อสาม "ขับรถ" พี่ชายเคยหัดให้ ฉันเคยยอมเสียเงินหลายพันบาท เพื่อไปโรงเรียนสอนขับรถ ฉันสอบใบขับขี่ผ่านจนได้แบบตลอดชีพ แต่ฉันขับได้เฉพาะบนถนนที่รถไม่มาก ไม่เคยมีประสบการณ์ออกถนนใหญ่
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ฉันรู้ตัวเองดีว่า ไม่ได้เรื่องในการกะ คำนวณขนาดของตัวรถ จนไม่กล้าเสี่ยงที่จะเอารถ (ตัวเอง) ออกไปขับบนถนนใหญ่ ประกอบกับเคยมีประสบการณ์เอารถพี่ชายไปถอยหลังชนกับเสาไฟฟ้า และครูดกับรั้วลวดหนาม โดยนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฉันไม่เคยจับพวงมาลัยรถอีกเลย
แต่เร็วๆนี้ จะยอมเสียเงินให้โรงเรียนสอนขับรถอีกครั้ง เพื่อเรียนรู้เทคนิคต่างๆ และที่สำคัญเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนก็ไม่ใช่รถเรา เอิ๊ก (ที่สำคัญไม่ต้องฟังคำบ่นจากสามีให้เมื่อยหูด้วย)
ปิดท้ายกันอีกทีว่า สำหรับฉันเชื่อมาโดยเสมอว่า ถ้าคิดอยากจะทำอะไร (ที่ไม่เดือดร้อนใคร) ให้ลงมือทำ อย่ารอจนเวลาล่วงเลย แม้จะทำได้หรือไม่ได้ก็ตาม เพราะเราจะได้ไม่ต้องเสียใจภายหลังว่า "ไม่ได้ทำ"
Miscellaneous--->
IT Movement--->
Lifestyle--->
Entertainment--->
Impressive wordings---> |
Create Date : 24 กรกฎาคม 2550 |
Last Update : 3 สิงหาคม 2550 9:57:21 น. |
|
0 comments
|
Counter : 777 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|