|
เป็นคนช่างสงสัย ควรทำสมาธิแบบ "นึกนิมิตร"หรือไม่ ?
การทำใจให้หยุดนิ่งเฉยๆ ไม่กำหนดอะไรเลย เหมาะกับคนช่างสงสัย คือ ช่างสงสัยจริงๆ ว่าสิ่งที่เห็นนั้นเป็นจริงหรือว่า คิดไปเอง ดังนั้น เพื่อตัดความสงสัย ก็ไม่ต้องคิดอะไร แค่ทำใจนิ่งเฉยๆ และให้เข้าไปถึงเอง
หมายเหตุ
นิมิตรมี ๓ อย่าง
๑. บริกรรมนิมิต คือ นิมิตที่เราสร้างขึ้นมา เป็นมโนภาพ เช่น นึกถึงดวงแก้ว เราก็วาดมโนภาพเป็นดวงกลมๆ แม้จะเห็นลัวๆ ลางๆ เป็นเค้าโครงรูปร่างไม่ค่อยชัดเจนเท่าไร แต่ถ้าเราประคองไปเรื่อยๆ อย่างสบายใจ ภาวนา สัมมาอะระหัง ไปด้วย นึกถึงบริกรรมนิมิตไปด้วย ไม่ช้าบริกรรมนิมิตนั้นก็จะชัดเจนขึ้น
๒. อุคคหนิมิต คือ นิมิตที่เราจำลองจากข้างนอกเข้าไปสู่ข้างในได้ ลักษณะดวงแก้วข้างนอกเป็นอย่างไร ลักษณะดวงแก้ว ในขั้นอุคคหนิมิตก็จะเป็นอย่างนั้น คือชัดเจน ๑๐๐ % เหมือนลืมตาเห็นเลย ในขั้นที่ชัดเจนเหมือน ลืมตาเห็นนี้เรียกว่าอุคคหนิมิต เมื่อใจหยุดนิ่งเป็นอัปปนาสมาธินิ่งแน่น ร่างกายเหมือนถูกตรึงติดไว้กับพื้น ไม่ขยับเขยื้อนเลย ใจไม่ซัดส่าย ไม่คิดไปในเรื่องราวต่างๆ ตรึกติดกับภาพนิมิตนั้น จะเป็นดวงแก้วก็ตาม องค์พระก็ตาม ตรึงติดแน่นเลย
๓. ปฏิภาคนิมิต ถ้าใจละเอียดอย่างนี้เรื่อย ๆ ไป นิมิตนั้นจะนุ่มนวล พอถึงขั้นปฏิภาคนิมิต ดวงแก้วก็จะใส สว่าง มีแสงออก มีรัศมีออกมาสว่างเจิดจ้า นุ่มนวล ฟ่องเบา เหมือนฟองสบู่อย่างนั้น ถ้าหากเป็นองค์พระก็จะสุกใส ใสยิ่งกว่าเพชร สว่างจนกระทั่งดวงอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน หรือยิ่งกว่านั้น พอถึงขั้นนี้นิมิตจะขยายใหญ่ขึ้น จะนึกให้เล็กลง ก็เล็กได้ นึกขยายก็ขยายได้ นี้เรียกว่า ปฏิภาคนิมิต
//www.dmc.tv
Create Date : 08 ธันวาคม 2554 |
Last Update : 8 ธันวาคม 2554 15:03:26 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1444 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|