ชีวิตคนไทยธรรมดาในเบลเยี่ยม
Group Blog
 
All blogs
 
คนเบลเยี่ยมเหยียดผิว(หรือไม่?)

วันนี้พอดีผ่านไปเจอข่าวเกี่ยวกับความคิดของคนเบลเยี่ยมที่มีต่อชาวต่างชาติ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม โดยทำการสำรวจทางชาวเบลเยี่ยมจำนวน 1,392 คน

[caption id="attachment_495" align="aligncenter" width="468" caption="image from FlandersNews.be"]image from FlandersNews.be[/caption]

ที่เบลเยี่ยมเค้าทำโพลล์กันขึ้นมา ตั้งชื่อโพลล์ว่า "ฉันไม่เหยียดผิว แต่.." โดยจัดทำขึ้นโดย ศูนย์เพื่อความเท่าเทียมทางโอกาสและการคัดค้านการเหยียดผิว (Centre for Equal Opportunities and Opposition to Racism)​

ผลออกมาน่าสนใจว่า..

คนส่วนมากยอมรับว่าอยู่ในสังคมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม แต่จำนวนไม่น้อยก็มีปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่ว่านี้


มากกว่าครึ่งของชาวเบลเยี่ยมจำนวน 1,392 คนที่เค้าสำรวจมา ไม่เคยคบหาสมาคมกับคนต่างสีผิว แต่ก็ไม่เคยมีทัศนคติหรือประสบการณ์ในแง่ลบกับคนต่างชาติเช่นกัน

แต่ชาวเบลเยี่ยมที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ๆ (คิดว่าโพลล์นี้เค้าคงสำรวจสุ่ม ๆ ดูทั้งในชนบท และในเมือง)มีการติดต่อและมีทัศนคติที่ดีกับวัฒนธรรมต่างชาติ และเปิดกว้างยอมรับมากกว่าคนในแถบชนบท

คุณ โยเซฟ เดอ วิตต์, กรรมการของศูนย์เพื่อความเท่าเทียมทางโอกาสและการคัดค้านการเหยียดผิวออกมากล่าวอย่างชื่นบานว่า "นี่แสดงให้เห็นว่า ผลออกมาในแง่ที่ดีมาก ๆ เลยล่ะครับ"

ผลที่น่าสนใจอีกอย่างคือ คนเบลเยี่ยมนั้น ทำใจยอมรับได้มาก กับวัฒนธรรมต่างถิ่นที่ไหลเข้ามาในประเทศ ถึงแม้ว่าวัฒนธรรมเหล่านั้นจะเป็นกลุ่มน้อยและแตกต่างกับวัฒนธรรมของชาติตนเองก็ตาม โดย 55% มีความเห็นว่า การเข้ามาของวัฒนธรรมต่างถิ่นในเบลเยี่ยมนั้น เป็นเรื่องที่ดีต่อสังคมด้วยซ้ำ (เค้าใช้คำว่า enrichment for society)

ชาวเบลเยี่ยมสองในสามคน มีความเห็นว่าคนทุกเชื้อชาติมีโอกาสเท่าเทียมกัน หนึ่งในสามเห็นว่า เชื้อชาติบางเชื้อชาตินั้นมีสติปัญญาความสามารถเหนือกว่าเชื้อชาติอื่น ๆ

แต่ผลของโพลล์ที่เค้าบอกว่่า "cliché" มาก ๆ คือน่าเบื่อหน่ายซ้ำ ๆ ซาก ๆ (ไม่ว่าสิ่งนั้นจะจริงหรือไม่) คือชาวเบลเยี่ยมมากกว่าสามในสี่ คืดว่าคนต่างเชื้อชาติที่เข้ามาอยู่ในเบลเยี่ยม(ที่ไม่มีงานทำ)นั้นได้รับเงินสนับสนุน"ช่วยเหลือผู้ว่างงาน" จากรัฐบาลง่ายกว่าคนเบลเยี่ยมแท้ ๆ เสียอีก

และจำนวนครึ่งหนึ่งคนที่ให้ความเห็นกับโพลล์นี้ โทษว่าการพุ่งสูงของยอดอาชญากรรม มีผลมาจากการที่มีคนต่างเชื้อชาติเข้ามาอยู่ในเบลเยี่ยมมากขึ้น

คุณ โยเซฟ เดอ วิตต์ ไม่ได้ให้ความเห็นในความคิดดังกล่าว (จริงๆ ไม่รู้เค้าพูดอะไรหรือเปล่า แต่ข่าวไม่ได้บอก)

มันฟังดูขัด ๆ กันยังไงพิกลนิ ยอมรับวัฒนธรรมต่างชาติได้ แต่คิดว่าคนต่างชาติเป็นต้นตอของปัญหาอาชญากรรมและรอรับแต่เงินสนับสนุนจากรัฐ?

แต่เรื่องนี้อ่อนไหวมาก ๆ คนเบลเยี่ยมเองก็มักไม่ค่อยอยากจะคุยกันเรื่องนี้เท่าไหร่ จะให้คนเปลี่ยนความคิดเห็นก็ยาก เพราะคนต่างชาติที่เข้ามาอยู่ที่นี่แล้วไม่ทำงานแต่ขอรับเงินช่วยเหลือนั้นเยอะจริง ๆ แล้วคนเค้าก็ไม่รู้ว่าคนไหนมีงานทำ คนไหนไม่ทำงานแล้วนั่งรอเอาแต่เงินช่วยเหลือ บางคนไม่มีงานทำยังไม่พอ รับเงินช่วยเหลืออย่างเดียวยังไม่พอ แต่มีลูกออกมาอีกหลายคน แล้วพอมีลูก ก็ไม่ส่งลูกไปเรียนหนังสือหนังหา ลูกโตมา หางานทำไม่ได้ รอรับเงินช่วยเหลืออีก ฯลฯ

เป็นวงจรแบบนี้มานานมาก ไอ้ครั้นจะยกเลิก ก็มีคนเบลเยี่ยม(แท้ ๆ) บ่นอีกว่างานหาไม่ได้จะให้เค้าไปทำอะไร ซึ่งบางคนที่บ่นก็ไม่มีงานทำจริง ๆ แต่บางคนบ่น แต่แอบทำงานมืด (คือทำงานไม่เสียภาษี รับเงินสดอย่างเดียว) ซึ่งสิ้นเดือนก็ออกมาว่า รับทั้งเงินช่วยเหลือและมีรายได้(ที่ไม่เสียภาษี)อีกต่างหาก

เรื่องนี้ึคนเบลเยี่ยมทุกคนรู้ดียิ่งกว่าดี แต่ไม่มีใครทำอะไรได้ เพราะรัฐบาลไม่กล้า กลัวคน(ที่รับเงินช่วยเหลืออยู่)จะไม่เลือกพรรคตัวเองอีกเมื่อมีการเลือกตั้งครั้งต่อไป

เอาเข้าจริงๆ การเมืองมันก็ไม่ได้น้ำเน่าแค่ประเทศแถว ๆ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้บางประเทศหรอก..

แต่อย่างน้อยคนที่นี่ก็ยังดีใจหาย ถึงแม้จะคิดว่าคนต่างชาติเป็นต้นตอปัญหาบางเรื่อง แต่ก็ยังอุตส่าห์รับได้อีกนะ จะว่าไปก็คงเหมือนคนไทยที่เห็นคนประเทศเพื่อนบ้านบางประเทศเข้ามาสร้างปัญหา (ซึ่งบางคนมันก็เข้ามาสร้างจริง ๆ อ่ะ) แต่ก็ยังแบบว่าหยวน ๆ กันไป

เอาวะ ยังไงก็ดีกว่าอังกฤษก็แล้วกัน อ่านข่าว นสพ อังกฤษทีไร ก็เจอแต่ข่าวต่อต้าน immigrants (ซึ่งบางคนมันก็น่า.. จริง) อังกฤษมีปัญหาคนหลบหนีเข้าเมืองมาก ๆ ไม่รู้กี่หมื่นต่อปี ยิ่ง EU เปิดชายแดนแบบนี้ ไปไหนมาไหนก็ง่ายโคตร

ล่าสุดนีเค้าจับชาวตะวันออกกลางหลายคน ทำกันเป็นล่ำเป็นสัน คือเอาพวกไปดักรอกันแถว ๆ ท่าเรือ โกดังสินค้า ฯลฯ (ในข่าวที่ไปดักขึ้นมาจากฮอลแลนด์) เพื่อรอรถบรรทุก พอรถชลอ ๆ ก็วิ่งเข้าไปเปิดประตูหลัง ปีนเข้าไปในตู้คอนเทนเนอร์ และหลบอยู่ในนั้น พอรถบรรทุกมาถึงเกาะอังกฤษก็พาหลบกันออกมา

Image From Daily Mail UKRead full article by DailyMail.co.uk here

จุดตรวจเค้าตรวจรถบรรทุกสินค้าพวกนี้ 2 ใน 3 คันโดยประมาณ บางคันก็ไม่ได้ตรวจ เห็นว่าคนขับรถบรรทุกก็มีเอี่ยวด้วย ข่าวไม่ได้บอกว่าได้เท่าไหร่ แต่ถ้าโดนจับได้ เจอค่าปรับ 2,000 ปอนด์ต่อคนหลบหนีเข้าเมืองหนึ่งคน ขนมา 10 คนก็คูณไป (แปลกใจที่ไม่โดนหนักกว่านั้น)

คนอังกฤษเดือดดาลมาก ไม่ชอบใจมาก ๆ เกี่ยวกับคนหลบหนีเข้าเมืองแบบนี้ พาลให้เกลียดคนที่มีรูปร่างหน้าตาแบบตะวันออกกลางไปด้วย เพื่อนฉันคนหนึ่งไปทำงานอยู่อังกฤษแค่เกือบ ๆ ปี กลับมาเบลเยี่ยมก็บอกว่าอึดอัดบอกไม่ถูก เหมือนคนมองแบบมันเป็นผู้ก่อการร้ายหรือเป็นอาชญากร มันบอกว่าเซ็งมาก เพราะไม่ใช่ความผิดมันซักหน่อยที่หน้าเป็นตะวันออกกลาง ("โมครัน" มีเชื้อสายอียิปต์ แต่เกิดที่ปารีส พูดฝรั่งเศสตั้งแต่เกิด และภาษาที่สองถึงเป็นภาษาถิ่นของครอบครัวตนเอง พ่อของโมครันเป็นหมอ แม่เป็นทนายความ โมครันไม่เคยออกนอกยุโรปตั้งแต่เกิดมา)



[caption id="attachment_497" align="aligncenter" width="500" caption="เมืองดินองต์ ฝั่งวัลลูเนีย"]เมืองดินองต์ [/caption]

วันนึงโมครันกลับบ้าน เจอหน้าประตูคนเอาสเปรย์มาพ่นว่า "Paki get out!!" มันก็งงเลยดิ อะไร ใคร ปากีฯ แล้วถ้าตูเป็นปากีฯจริงแล้วจะทำไมฟระ มันโมโหมาก พองานหมดสัญญามันรีบกลับมาเบลเยี่ยมเลย เพราะใกล้ครอบครัวมากกว่า (ครอบครัวยังอยูปารีส) และที่สำคัญสบายใจกว่า

แต่ก็ไม่ใช่แค่ที่อังกฤษนะ "เซ็บ"เพื่อนที่ทำงานฉัน เป็นคนเบลเยี่ยมแท้ ๆ แต่มาจากฝั่งวัลลูน (พูดฝรั่งเศส) แต่ทำงานที่บรัสเซลส์ แฟนเซ็บเป็นหมวยฮ่องกงที่ไปเกิดที่ฮอลแลนด์ เลยเป็นอาหมวยที่พูดดัชท์เป็นภาษาแม่ และกวางตุ้งเป็นภาษารอง เนื่องจากทั้งคู่ทำงานที่บรัสเซลล์ แล้วเซ็บมันก็ไม่ค่อยชอบ ลิเอจ บ้านเกิดเท่าไหร่ ทั้งคู่เลยซื้ออพาร์ทเมนต์ที่ วิลวัลเดอร์ ซึ่งอยู่ในจังหวัดฟลามส์บราบัน เหมือนกัน (จริง ๆ บรัสเซลล์ก็อยู่ในฟลามส์บราบันนะ แต่ดันพูดฝรั่งเศส เรื่องนี้คนเฟลมมิ่งเคืองมากมาย)

เอาเถอะ..

วันนึงเซ็บกลับบ้าน เปิดประตูมา เจอบัตรสนเท่ห์ "ไอ้พวกวัลลูน กลับบ้านไป!" เซ็บ งง ทั้งงงทั้งโกรธว่าเฮ้ย มันก็ทำงาน เสียภาษีก็เสีย แล้วนี่ก็เบลเยี่ยม ทำไมมันจะมาอยู่ฝั่งฟลานเดอร์สไม่ได้ล่ะ แฟนมันก็ถอนหายใจแล้วบอกว่า "เพราะยูพูดดัชท์ไม่ได้ไงเซ็บ.."

เซ็บเข้าใจภาษาดัชท์ แต่พูดไม่คล่อง แล้วทุกครั้งที่พยายามพูดดัชท์ อีกฝั่งจับสำเนียงฝรั่งเศสได้ ก็พูดฝรั่งเศสกลับอยู่ดี (เกือบ ๆ 70% ของคนเบลเยี่ยมฝั่งฟลานเดอร์สพูดฝรั่งเศสได้อยู่แล้ว) เซ็บก็เลยไม่ได้เรียนซักที "พอชั้นพยายามพูดดัชท์ก็ไม่ยอมให้ชั้นพูด แล้วจะมาไล่ให้ชั้นกลับไปอยู่ฝั่งนู้น บ้าจริงๆ เซ็งว่ะ"

ยังไงก็พยายามเข้านะ ไอ้มดแดง...


Create Date : 22 มีนาคม 2552
Last Update : 22 มีนาคม 2552 18:53:16 น. 7 comments
Counter : 5323 Pageviews.

 


เคยโดนตะโกนด่า "ว่ากลับบ้านไป" ด้วยอ่ะ

เลยแกล้งทำเป็นกระเหรื่ยงฟังไม่รู้เรื่องแล้วเดินหนีอ่ะค่ะ


ตะโกนไม่ว่า อย่าเข้ามาประชิดตัวหล่ะกัน
ขี้เกียจวิ่งออกกำลังกาย แห่ะๆ



โดย: Papayahanaga วันที่: 22 มีนาคม 2552 เวลา:21:41:05 น.  

 
มาอ่านไว้ เผื่อว่าเราจะโดนเหยียดผิวไปด้วย 555
แต่ก็อยากรู้จริงๆว่าเบลเยี่ยมฝั่งดัชต์กับฝั่งฝรั่งเศสใครไม่ชอบใครมากกว่ากัน


โดย: kamaron วันที่: 23 มีนาคม 2552 เวลา:1:34:58 น.  

 
น่าสนใจนะคะ ไม่เคยทราบเรื่องราวแบบนี้ลึกๆว่ามี พอดีมีญาติอยู่ทางโน้นทั้งเบลเยี่ยมกับฮอลแลนด์ ก็เคยได้ยินเรื่องพวกตุรกีมาเป็นภาระประเทศเขาและตอนนี้พวกอีสยุโรปก็มาแย่งงานคนของเขาด้วยค่าแรงที่ถูกกว่าอะไรเถือกนั้น ปัญหาสังคมแก้ไม่ตก แต่เรื่องของเขากันเองเรื่องสองภาษาในประเทศเดียวฟังดูก็ยุ่งเหยิงน่าดูนะคะ น่าสนใจ สนุกดีค่ะ ชอบอ่าน มีไรเกี่ยวกับสังคมวัฒนธรรมอีก จะมาอ่านนะคะ


โดย: Nok (nokjeffus ) วันที่: 23 มีนาคม 2552 เวลา:2:48:10 น.  

 
Take care na ka.


โดย: CrackyDong วันที่: 24 มีนาคม 2552 เวลา:4:40:07 น.  

 
หวัดดีค่า ขอบคุณที่แวะมาเม้น อุๆ

เรื่องเหยียดผิวยังไม่เคยเจอกับตัว เจอแต่คนเมา ก็เลยไม่ถือสา

คิดว่าเบลเยี่ยมฝั่งดัชต์น่าจะไม่ชอบฝั่งฝรั่งเศสมากกว่านะ
(เท่าที่ฟัง ๆ ดูจากทั้งสองฝ่าย แต่ก็อีกแหละ ฝั่งฝรั่งเศส
อาจจะ(ยัง)ไม่ค่อยกล้าพูดอะไรมาก เพราะยังบ่จี๊ ยังต้องใช้กะตังค์ฝั่งดัชท์อยู่)

ไอ่ฝั่งดัชท์ก็ประมาณว่า แค้นฝังหุ่น เคยโดนไว้เยอะ อะไรทำนองนั้น อู๊ยยยย เรื่องนี้ ปัญหาโลกแตกมาก ๆ นี่พรุ่งนี้ไอ่พรรค ฟลามส์เบลัง พวกขวาจัด ก็สนับสนุนการเดินขบวนอะไรของมานอีกแล้วไม่รู้ จะแยกประเทศให้ได้ ว่างั้นเถอะ

ที่นี่นอกจากพวก เตอร์ก, โมรอคคัน ที่นำโด่งมาด้วยประชากรหนาแน่นในเบลเยี่ยมแล้ว ก็ตามตูดมาติด ๆ ด้วยโปแลนด์ และ รัสเซีย

โดยเฉพาะรัสเซีย ไปไหนมาไหน คนเบลเยี่ยมแตกตื่นมาก เพราะพวกหร่อน ๆ แต่งตัวเหมือนมีอาชีพพิเศษ (ทั้ง ๆที่เปล่านะ เป็นแม่บ้านนี่แหละ บางคนก็เห็นทำงานในซูเปอร์มาร์เก็ต ฯลฯ) เช่น เสื้อโค้ตขนสัตว์ฟูฟ่องสีม่วงแป๋นแหร๋น! เจอคนเบลเยี่ยมใส่อะไรแบบนี้เมื่อไหร่ วันนั้นเราคงถูกหวย 20 ล้าน (เพราะว่าไม่มีใครใส่น่ะ..)

เห็นอะไรแบบนี้ บอกได้เลย ในระยะ 3 กิโลเมตร รัสเซียน ชัวร์ ๆ ไม่รู้มาทำไรอะไรกันที่เบลเยี่ยมนิ

แต่หมอฟันเราก็เป็นคนโปแลนด์นะ อยู่มา 10 ปีแล้ว ภาษาอังกฤษหมอห่วยมาก แต่ภาษาดัชท์ชัดเป๊ะ

นี่รัฐบาลยังจำกัดจำนวนคนโปแลนด์ที่จะเข้ามาในเบลเยี่ยมอยู่นะ (ถึงแม้จะเป็น EU แล้วก็ตาม) เพราะคนโปลิชเยอะมากๆๆๆๆ เยอะมาตั้งแต่โปแลนด์ยังไม่เข้า EU อีก (อ่าว งั้นหมอฟันเราก็เข้ามาผิด กม ป่าวฟระเนี่ย)

เห็นว่าจะยกเลิกการจำกัดจำนวนคนโปล์

แต่เมื่อวานประกาศมาอีกแระ ว่า เอ่อ เราจะขอเลื่อนไปอีก 2 ปีละกัน เพราะลำพังคนเบลเยี่ยมเอง งานยังแทบจะหาไม่ได้เลย ให้คนยุโรปตะวันออกเข้ามาอีกเยอะๆ ประเทศเจ๊งบ๊งแน่นอน



โดย: beebah วันที่: 25 มีนาคม 2552 เวลา:8:15:54 น.  

 
ไม่ได้อ่านบล็อกคุณบีมานาน คุณบีย้ายไปอยู่เบลเยียมซะแล้ว

เรื่องคนต่างชาติก็น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ในยุโรปจริงๆนะคะ เปิดประเทศกันซะขนาดนี้


โดย: Thai Wahine วันที่: 27 มีนาคม 2552 เวลา:16:53:32 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณ beebah ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ วันนี้พอดี อินเทรนด์กับเรื่องการเลือกตั้งของเบลเยี่ยมเมื่อวาน เซิจเน็ตไปมา เลยได้แวะมาเจอเว็บคุณเข้า และบังเอิญเจอบล๊อกเรื่องนี้ เลยอดที่จะแอบ (สมรู้ร่วมคิด) เสริมคำเข้าด้วย เรื่องเหยียดสีผิว เราเองอยู่นี่นานหลายปีแล้วค่ะ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนเบลเยี่ยมเค้าคิดอะไรของเค้าจริงๆ แต่ ลึกๆ พอจะเดาออกถึงแม้เค้าจะไม่พูดความจริงออกมา

คือว่า ไม่ว่าคนชาติไหนมาอยู่เบลเยี่มประเทศเค้า ๆ ก็คงคิดว่า คนตกงาน มากินเงินฟรี ของพวกเค้าทำงานหนักและเสียภาษี โดยเฉพาะพวกโมร๊อก เราเห็นหลายคนแล้วค่ะ ที่บอกว่า ไม่ชอบพวกนี้ ออกลูกหลานเต็มบ้านเมือง บางที แต่งงานเอาคนมาอยู่ ทำไงได้ เค้าก็มีสิทธิ์อยู่และมีสิทธิ์

แต่คนต่างชาติบางคนก็พยายามหางานทำ เสียภาษีเหมือนกัน คนที่ไม่ทำแต่กินเงินตกงานน่ะสิ ก็สมควรให้เค้าว่า นะคะ

เบลเยี่ยมดูแลคนของเค้า(และที่ไม่ใช่ของเค้า)ดีมาก อยู่กันแบบ ช่วยเหลือพึ่งพากัน จนคนที่ช่วยเหลือเริ่มบ่นหนักขึ้น อิอิ

เฮ๊อจะว่าไป ก็สงสารทั้งคนบ่น และคนถูกบ่น ปัญหานี้คงแก้ยาก แต่ถ้าจะแก้ คงทำได้เพราะประเทศเบลเยี่ยม มีประชากรสิบล้านกว่าๆ ไม่เหมือน พี่ไทยเรา น่านแก้คงยากมากกก

ยอมรับว่าเราเองตกงาน ไม่มีสามี เราก็เรียนไป และหางานทำไปด้วย บางที เพื่อนหรือครู เค้ารู้ว่าเรากินเงินตกงาน บางคนเหมือนคุยดี แต่ หึหึ ลึกๆ เราไม่รู้ รู้แต่ว่า ก็เราภาษาไม่ดี เราอยากเรียนด้านนี้ก็ควรให้โอกาสเรา

จะว่าไป คนตกงาน (ซึ่งเคยทำงานและกินเงินด๊อป) และพยายามหางานใหม่ ก็ยังดีกว่า คนตกงาน (ซึ่งกินเงินรัฐ โอเซเอ็มเว) แลไม่หางานเลย

วันนี้เลยมาแวะ ออกความเห็นด้วยนะคะ นานๆจะ โพลิติก กับเค้าบ้าง
ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ คุณ beebah


โดย: apinya วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:0:27:39 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

beebah
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




คนไทย ธรรมด๊าธรรมดา เกิด และ โต ณ กทม. ปัจจุุบัน ทำงานในบรัสเซลส์ ยามว่าง(และยามไม่ว่าง แต่กระเสือกกระสนให้ว่าง) ชอบแบกเป้เที่ยวนู่นเที่ยวนี่ นี่ก็เหลืออีก ร้อยกว่าประเทศเองก็ยังไม่ได้ไป ฮ่าๆๆๆ ฮืออออ.. (T_T)
Friends' blogs
[Add beebah's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.