My 2015 K1 Visa Journey ♥ เมื่อฉันจะไปอเมริกาในฐานะคู่หมั้น!


Chapter 1 : เมื่อฉันมีคู่หมั้น




สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านที่รักยิ่ง

ได้โปรดอย่ามอง nakoze ด้วยสายตาแบบน้านนน

อิฉันสำนึกผิดแล้วที่ดองบล็อกข้ามศตวรรษ

เขียนเรื่อง Work and Travel ทั้ง 4 รอบยังไม่จบ

นี่อะไร๊ โผล่มาอีกทีนางมีคู่หมั้นแล้วจ้าอะไรจะปานนั้น

แถมนางยังมีหน้าอาจหาญมาเขียนเรื่องวีซ่า K1 แทนที่จะต่อเรื่อง Work and Travel ให้จบเสียนี่

แต่ช่างมันค่ะเบะปากรัวๆ 3 ทีครึ่งแล้วมาเริ่มบล็อกใหม่กันค่ะ

สัญญาด้วยเกียรติอดีตยุวกาชาดว่าอันเก่าก็จะเขียนต่อให้จบ


สำหรับเรื่องหลักๆของบล็อกนี้

ก็ตั้งใจจะเขียนเรื่องวีซ่า K1 หรือที่รู้จักกันดีก็คือวีซ่าคู่หมั้นอเมริกา

วีซ่า K1 นี้มีไว้สำหรับพลเมืองชาวอเมริกัน

ที่มีคู่หมั้นเป็นชาวต่างชาติและต้องการนำคู่หมั้นไปจดทะเบียนสมรส
เพื่อจะอยู่อาศัยในอเมริกาด้วยกันอย่างถูกต้อง

Nakoze ตั้งใจจะเขียนรีวิวละเอียดๆไปเลย ชนิดที่แบบ่วาไม่ต้องเสียเงินจ้างทนายทำให้

เพราะ ณ วันนี้ที่ทำอยู่ พยายามหาข้อมูลจากทั้งเวปไทย เวปเทศ

ก็ยังไม่เห็นรีวิวแบบละเอียดๆเสียที

วันนี้ได้ฤกษ์ดีกันแล้วก็มาลุยกันเลยค่ะ



วีซ่า K1 นี้มีข้อกำหนดว่า

1. ภายใน 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายต้องเคยพบหน้ากันอย่างน้อย 1 ครั้ง

ซึ่งหมายความว่าใครที่เดทหนุ่มออนไลน์อยู่นั้นก็ต้องรีบหาแผนบินมาเจอกันค่ะ

[ยกเว้นบางกรณีที่ศาสนาไม่ยินยอมให้หญิงชายพบหน้ากันก่อนแต่งงานอันนี้ก็เป็นข้อยกเว้น]


2. ทั้งสองฝ่ายไม่มีพันธะสัญญาใดๆ สามารถแต่งงานกันได้ตามกฏหมาย

พูดง่ายๆถ้าเคยแต่งงานมาก็ต้องหย่าเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้วนั่นเอง


3. ทั้ง 2 ฝ่ายต้อง”ยังไม่ได้แต่งงานกัน”

ชื่อก็บอกค่ะว่าเป็นวีซ่าคู่หมั้น

ถ้าแต่งงานกันไปแล้วนั่นไปทำวีซ่า CR1 หรือวีซ่าคู่สมรสแทนค่ะ

และเมื่อได้รับวีซ่า K1 แล้วเราต้องเดินทางไปอเมริกาภายในวันที่ๆระบุไว้บนวีซ่า

ซึ่งส่วนมากก็คงจะภายใน 6 เดือน ไม่ทราบมีใครน้อยกว่านี้ไหม

และต้องจดทะเบียนสมรสภายใน 90 วันหลังจากถึงอเมริกา

เหตุผลที่ให้เวลา 90 วันก็เผื่อคู่ไหนที่ยังไม่แน่ใจว่าจะอยู่กันรอดไหม

พูดง่ายๆอีกทางก็คือให้ไป ดูฐานะ ดูอาชีพ ดูนิสัย

เพราะก็ยังมีประชากรบนโลกแคบๆใบนี้ที่ยังไม่เข้าใจว่า

ฝรั่งไม่ได้รวยและเป็นพ่อบุญทุ่มไปเสียทุกคน

คนเหล่านี้เข้าใจว่าจะไปแต่งงานเป็นคุณนายฝรั่ง เหอะ!เสียใจเถอะย่ะ

ฝรั่งดอง ฝรั่งขี้นกก็มีถมเถ ระวังจะเจอแจ๊คพ็อตเสียเข้าให้

โดยเฉพาะพวกที่คุยกันผ่านเวปหาคู่ เวปแชท แล้วฝ่ายโน้นบินมาเที่ยวแค่อาทิตย์ สองอาทิตย์

ไม่เคยได้เจอ ไม่มีเวลามากพอที่จะดูนิสัยใจคอกันก่อน

ดังนั้นเวลา 90 วันนี้พูดง่ายๆก็คือให้มาเพื่อตัดสินใจกันอีกรอบ


และสุดท้ายรายได้ฝ่ายที่เป็น U.S citizen จะต้องถึง Poverty Guidelines

สำหรับปี 2015 ให้เข้าไปดูที่ตารางนี้ค่ะ

//www.uscis.gov/sites/default/files/files/form/i-864p.pdf

ถ้าฝ่ายชายไม่ได้เป็นทหารให้ดูที่ 125%

ส่วนตัวเลข household นั้นก็ตามจำนวนคนที่อยู่ในบ้านค่ะ

ถ้าโสดก็จะเป็น เรา+เค้า = 2 คน

ถ้ามีลูกหรืออะไรก็ต้องนับเพิ่มไปค่ะ

จริงๆแล้วรายได้ที่เค้ากำหนดมานี่ถือว่าต่ำมากแล้ว ต่ำสุดนี่คือยังแทบจะไม่พอยาไส้

นอกจากรักกันแล้ว คุณต้องพิจารณาตัวนี้ด้วยว่าเขาสามารถซัพพอร์ตในช่วงที่คุณไม่มีงานทำ

และรอกรีนการ์ดเพื่อจะหางานทำในอนาคตได้หรือเปล่า

ใครว่าเงินไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ไม่จริงค่ะ.....




ขั้นตอนการทำวีซ่า K1



ฝ่ายคู่หมั้นอเมริกันจะต้องส่งเอกสารที่เรียกว่า I-129F
ไปยัง USCIS (United States Citizenship and Immigration Services)

▽
▽
▽


เมื่อทาง USCIS ได้รับเอกสารแล้วก็จะส่งเคสเราไปดำเนินการต่อยัง Service center
ซึ่งหลักๆมี 2 ศูนย์ ได้แก่ California Service center กับ Texas Service center

▽
▽
▽

รอรับ 1st Notice of action (NOA1) เอกสารตัวนี้จะถูกส่งไปหาคู่หมั้นชาวอเมริกาของเรา
โดยจะส่งมาในอีเมล์-จดหมาย ตัวเอกสารไม่มีระบุว่าคือ NOA1
แต่จะระบุว่าเป็น I-797, Notice of action ซึ่งภายหลังเรามาเรียกกันเองง่ายๆว่า NOA1
เอกสารตัวนี้จะระบุว่า Receipt Notice พร้อมมีหมายเลข Receipt Number มาให้


Receipt number สามารถนำไปเช็คในเวปไซต์เพื่อดูว่าตอนนี้เคสของคุณ
ดำเนินการอยู่ในขั้นตอนไหนแล้ว
นอกจากนี้ Receipt number ยังแสดงให้เห็นว่าเคสของคุณถูกนำไปดำเนินงานโดยศูนย์ไหน
ถ้าหากขึ้นต้นด้วย WAC = California Service Center
ถ้าหากขึ้นต้นด้วย SRC = Texas Service Center

▽
▽
▽


รอ 2nd Notice of action [NOA2] เช่นเดียวกัน เอกสารตัวนี้ก็คือ I-797
มันจะถูกส่งไปที่อยู่คู่หมั้นอเมริกันของคุณ
โดยมีความแตกต่างจากด้านบนตรงที่เอกสารตัวนี้
จะระบุมาว่า Approval Notice นั่นก็คือเคสของคุณได้รับการตรวจสอบจาก USCIS เสร็จสิ้นแล้ว
ขั้นตอนต่อไปนั้น USCIS จะส่งเคสของคุณไปดำเนินงานต่อที่ NVC (National visa center)
ในระหว่างที่คุณรอให้ USCIS ส่งเอกสารไปยัง NVC คุณควรทำสิ่งต่อไปนี้


ไปขอใบรับรองความประพฤติไว้เนื่องจากเอกสารนี้ใช้เวลาประมาณ 3-5 สัปดาห์ในการรอคอย
จริงอยู่ที่มีคนบางส่วนจ่ายเงินเพิ่มเพื่อทำเอกสารแบบเร่งด่วน ซึ่งจะได้ภายใน 3-5 วัน
แต่เอกสารแบบเร่งด่วนนั้นมีราคาสูงถึง 1500 บาท
ในขณะที่ถ้าคุณทำแบบปกติ ราคาจะอยู่เพียงแค่ 100 บาทเท่านั้น
อีกทั้งยังไม่มีข้อสรุปแน่นอนว่าการขอแบบเร่งด่วนนั้น เป็นการกระทำอย่างถูกกฏหมายหรือไม่


ใบรับรองสถานภาพการเป็นโสด เรียกย่อๆว่าใบโสด
ตัวนี้ทำวันเดียวก็ได้ถ้าหากมีเอกสารพร้อม

▽
▽
▽


เอกสารจาก USCIS จะส่งถึง NVC โดยใช้เวลาคร่าวๆประมาณ 20-45 วัน
โดยนับจากวันที่คุณได้รับ NOA2 ซึ่งก็คือวันที่ USCIS อนุมัติเคสของคุณนั่นเอง
ณ ขั้นตอนนี้คุณหรือคู่หมั้นทางอเมริกาของคุณต้องโทรศัพท์หา NVC เพื่อรับ Case number


Case number ตัวนี้จะถูกออกให้ที่ NVC โดยสำหรับคนที่เข้ารับการสัมภาษณ์วีซ่า
ที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย (กรุงเทพมหานคร)
ตัวเลขดังกล่าวจะขึ้นต้นด้วย BNK แล้วตามด้วยตัวเลขอีก 10 หลัก
อย่าสับสนนะคะ Receipt number จะใช้ได้แค่การดำเนินการในส่วนของ USCIS
เมื่อส่งมา NVC แล้ว ก็จะได้หมายเลขใหม่ ไม่ใช่ตัวเดียวกัน
คุณสามารถใช้ Case number ของคุณเช็คผ่านทางเวปไซต์เช่นกันค่ะ


▽
▽
▽


เมื่อ NVC ดำเนินการกับเอกสารของคุณเรียบร้อยแล้ว
เคสและเอกสารของคุณจะถูกส่งต่อมายัง US Embassy (สถานทูตอเมริกา)
ซึ่งสำหรับวีซ่าถาวร คุณจำเป็นที่ตจะต้องเข้ามารับการสัมภาษณ์ที่กรุงเทพเท่านั้น
ที่เชียงใหม่นั้นเฉพาะวีซ่าชั่วคราวค่ะ เมื่อเคสของเราถึงสถานทูตแล้ว จะมีขั้นตอนการดำเนินงานดังนี้

▽


จดหมาย Packet 3 จะถูกส่งมาที่บ้านของคุณ
ในจดหมายจะมีรายละเอียดของ I-129F ที่คู่หมั้นฝ่ายอเมริกันส่งไปให้ USCIS
พร้อมกันนี้ยังมีจดหมายแนบให้คุณเข้าไปศึกษาวิธีการและเอกสารที่จำเป็นต้องส่งให้แก่สถานทูต
พูดง่ายๆก็คือมี Check list ให้ว่าต้องส่งเอกสารอะไรบ้าง
รวมถึงแผ่นพับเรื่องสิทธิต่างๆในการดำรงชีวิตที่อเมริกา

▽


เมื่อเอกสารของคุณเรียบร้อยทุกอย่างให้คุณส่งเอกสารทั้งหมดกลับไปยังสถานทูต
เพื่อรอวันนัดหมายสัมภาษณ์วีซ่า

▽


หลังส่ง Packet 3 ไม่เกิน 7 วัน
คุณจะได้รับอีเมล์ Packet 4 หรือโทรศัพท์นัดวันสัมภาษณ์วีซ่า
ซึ่งจะช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับความมาก-น้อยของเคสที่สถานทูตกำลังดำเนินการอยู่ในช่วงนั้น
ในอีเมล์จะระบุวันนัดสัมภาษณ์วีซ่าของคุณ
พร้อมทั้งรายละเอียดของการไปตรวจสุขภาพ

▽


คุณจำเป็นต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาลที่มีชื่อใน Packet 4
ซึ่ง ณ ปัจจุบันในกรุงเทพมีแค่ 2 แห่งคือ โรงพยาบาลบำรุงราษฎ์ และ โรงพยาบาลกรุงเทพ
ส่วนเชียงใหม่มีเพียงโรงพยาบาลแมคคอร์มิคเท่านั้น
โดยคุณจำเป็นที่ต้องต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพให้เสร็จสิ้นก่อนวันสัมภาษณ์วีซ่า

▽


ณ วันสัมภาษณ์วีซ่า คุณต้องเตรียมเอกสารทุกอย่างให้พร้อม
รวมถึงเอกสารแสดงความสัมพันธ์ระหว่างคุณและคู่หมั้น
พักผ่อนให้เต็มที่และเตรียมพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์ค่ะ

▽
▽
▽


เมื่อผลสัมภาษณ์ของคุณเสร็จสิ้น
คุณอาจได้รับการ Approve ซึ่งก็คือผ่านสัมภาษณ์เลยไม่ติดอะไร
หรืออาจติดเอกสารบางส่วนซึ่งเรียกว่าติด G
ก็ก็เพียงส่งเอกสารที่ทางสถานทูตต้องการให้ครบจากนั้นก็รอวีซ่าตามปกติค่ะ
เมื่อได้วีซ่าแล้วคุณจำเป็นต้องเดินทางไปอเมริกาก่อนวันหมดอายุในวีซ่าค่ะ



สำหรับขั้นตอนด้านบนนี้เป็นการดำเนินการคร่าวๆนะคะ

และไม่ใช่ว่า พอจบแล้วถึงอเมริกาแล้วไม่ต้องทำอะไร

ยังมีขั้นตอนอื่นๆรอเราอีกเพียบค่ะ

สำหรับวันนี้พอรู้ขั้นตอนคร่าวๆกันแล้ว

บล็อกหน้าจะมาอธิบายขั้นตอนแรกอย่างละเอียดเลยค่ะรับรอง


วันนี้ลาไปก่อน ราตรีสวัสดิ์ค่า



คลิกเพื่ออ่านบล็อกถัดไป : Chapter 2 : เตรียมเอกสาร I-129F