อลินน์ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
 
กรมพระราชวังหลังแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ บทที่ 3.3 กบถพระยาสรรค์ โดย อลินน์

3.3           กบถพระยาสรรค์

 

 

ในปลายปี พ.ศ. 2324 (เดือน 4) เกิดจลาจลขึ้นในกรุงธนบุรี พระยาสรรค์ยกกำลังเข้าล้อมกำแพงวังไว้โดยรอบ และส่งทหารเข้าไปพิทักษ์พระเจ้ากรุงธนบุรีซึ่งทรงพระผนวช ณ วัดแจ้ง แล้วจับกรมขุนอนุรักษ์สงครามไว้ พระยาสุริยอภัย (ทองอิน) ได้มีบทบาทอย่างมากในการช่วยรักษาความสงบเรียบร้อยในพระนครธนบุรี เมื่อทราบข่าวจลาจล พระยาสุริยอภัยก็ยกทัพมาจากเมืองนครราชสีมาในเดือน 5 คือต้นปี พ.ศ. 2325 พร้อมกับไพร่พลไทยลาวประมาณ 1,000 คนเศษเพื่อมาปราบจลาจล โดยมาตั้งอยู่ ณ บ้าน (วังสวนลิ้นจี่) เสมียนปิ่นได้ควบคุมกองกำลังใหญ่เป็นกองทหารได้ปีกหนึ่ง ยกมาสมทบกองทัพพระยาสุริยอภัยด้วย ในกรุงธนบุรีครั้งนั้น ข้าราชการก็แบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือ พระยาสรรค์ และพระยาสุริยอภัย (เสมียนปิ่นเป็นบุตรคนที่ 4 ของพระยาโชฎึกราชเศรษฐี (อ่อน)  ภายหลังเป็นเจ้าพระยาพลเทพ(ปิ่น) และเจ้าพระยามหาเสนาที่สมุหพระกลาโหม ที่ 2 ในรัชกาลที่ 1 และเจ้าพระยาอภัยราชา เอกอัครมหาเสนาบดี บรรดาศักดิ์สุดท้าย)

 

พระยาสรรค์ พระยามหาเสนา พระยารามัญวงศ์ คบคิดกันปล่อยกรมขุนอนุรักษ์สงครามออกจากเรือนจำ (ในบางเอกสารก็ว่า กรมขุนอนุรักษ์สงครามคบคิดกับกับพระยาสรรค์ และไม่ได้เพิ่งถูกจับในครั้งนี้ แต่ต้องโทษมาประมาณ 1 ปีก่อนหน้าเหตุการณ์นี้) ให้ไปตั้งค่ายวางคนโอบลงมาตั้งแต่วัดบางหว้า แล้วจุดไฟเผาตั้งแต่บ้านปูนลงมา ซึ่งแถบนั้น เป็นแถบนิวาสถานวงศาคณาญาติของเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกทั้งสิ้น

 

 

พระยาสุริยอภัยมิได้ตกใจกับอัคคีภัย สั่งให้ทหารเข้ารบต้านไว้ เมื่อไฟลามมาใกล้บ้านท่าน ก็ตั้งจิตอธิษฐานขอให้ลมพัดกลับไป อย่าพัดมายังทิศบ้านของท่านเลย จะด้วยบุญที่ท่านบำเพ็ญศีลหรือประการใด ท้ายสุด ลมก็เปลี่ยนทิศ การสู้รบมีต่อเนื่องหลายชั่วโมงจนท้ายสุด กองกำลังของกรมขุนอนุรักษ์สงครามก็พ่ายไป

 

 

ภายหลังที่พระยาสุริยอภัยปราบจลาจลได้เรียบร้อย เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกก็ยกทัพกลับมาจากเสียมราบ มาหยุดที่พลับพลาหน้าวัดโพธาราม ดังปรากฏในพระราชพงศาวดารว่า

 

 

ณ วันเสาร์ แรม 9 ค่ำ เดือน 5  เพลาเช้า 2 โมง เสด็จพระราชดำเนินทัพมาจากเสียมราบ ประทับ ณ พลับพลาหน้าวัดโพธาราม ฝ่ายข้าทูลละอองฯ ผู้ใหญ่ผู้น้อยพร้อมกันไปเชิญเสด็จลงเรือพระที่นั่งกราบข้ามมาพระราชวังสถิต ณ ศาลาลูกขุน มีหมู่พฤฒามาตย์ราชกุลกวีมุขเฝ้าพร้อมกัน จึ่งมีพระราชบริหารดำรัสปรึกษาว่า เมื่อพระเจ้าแผ่นดินอาสัจจะ สุจริตธรรมเสียประพฤติการทุจริตฉะนี้ ก็เห็นว่าเป็นเสี้ยนหนามหลักตออันใหญ่อยู่ในแผ่นดิน จะละไว้มิได้ ยอให้ปริวัตรออกประหารเสีย ฝ่ายทแกล้ว ทหารทั้งปวงมีใจเจ็บแค้นเป็นอันมาก ก็นำเอาพระเจ้าแผ่นดินและพวกโจทก์ทั้งปวงนั้นไปสำเร็จ ณ ป้อมท้าย            เมืองในทันใดนั้น แล้วสมณะชีพราหมณ์เสนาพฤตามาตย์ราษฎร์ทั้งปวง ก็ทูล อาราธนาวิงวอนอัญเชิญเสด็จขึ้นปราบดาภิเษก เป็นอิศวรภาพผ่านพิภพสืบไป ...

 

 

ครั้นเมื่อบ้านเมืองสงบลงแล้ว พระยาสุริยอภัย (ทองอิน) จึงได้รับมอบหมายหน้าที่ให้ควบคุมการลงโทษบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการจลาจลในครั้งนั้น

 

 

ครั้น ณ วันอาทิตย์ แรม 10 ค่ำ เดือน 5 พระเจ้าหลานเธอให้ตำรวจคุมเอาตัวขุนอนุรักษ์สงครามกับข้าหลวงซึ่งเป็นพรรคพวก                 40 เศษ มีอ้ายพระยาเพ็ชรพิชัย, พระยากลางเมือง, พระยามหาอำมาตย์ และพระมหาเทพเหนือ หลวงคชศักดิ์ ราชรินทร์เหนือ เป็นต้น เข้ามาหน้าพระที่นั่งแล้วกราบบังคมทูลความทั้ง         ปวง จึงดำรัสให้เอาพรรคพวกไปฆ่าเสีย แต่ขุนอนุรักษ์สงครามนั้นให้งดไว้พิจารณา จึงให้การถึง พระยาสรรค์, พระยามหาเสนา, พระยารามัญวงศ์ และพระยาวิชิตณรงค์ หลวงพัสดีกลาง พระเจ้าอยู่หัวทรงพระพิโรธให้ประหารเสีย

 




Create Date : 29 กันยายน 2555
Last Update : 29 กันยายน 2555 9:50:55 น. 0 comments
Counter : 2546 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

alynnbook
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ฝากผลงานนิยายเรื่องใหม่ ลำนำรักสายลม ด้วยนะคะ
[Add alynnbook's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com