7.00 นัดกันเพื่อเช็คอินโดยทริปนี้เราเดินทาง ทั้งหมด 7 คน ค่ะ เป็นบล็อกเกอร์และผู้ติดตามทั้งหมดรวม6 คน และมีน้องณี ที่คอยดูแลพวกเราอีก 1 คน การเดินทางในครั้งนี้จึงทำให้เราไม่เหงาเลยแถมยังได้เพื่อนใหม่กลับมาอีกด้วยค่ะ ร่วมถ่ายภาพร่วมกันที่สุวรรณภูมิก่อนที่ต่อไปคงไม่ค่อยได้มาซะเท่าไหร่เพราะ Airsia หนีไปอยู่ดอนเมืองซะแล้วแฟนคลับอย่างเราเลยต้องหนีตามไปด้วย
ทริปนี้เป็นครั้งแรก ที่ใช้ FingerScan ค่ะทำให้ไม่มีการประทับตราทั้งขาเข้าและขาออก แต่ก้อสะดวกดีค่ะ เมื่อถ่ายภาพกันเป็นที่ระลึกแล้ว จากนั้นก้อแยกย้ายกันเดินเล่นก่อนไปเจอกันที่ Gate F1 เครื่องออก เวลา 10.00 เอาหล่ะ Shopping!!
ใกล้ได้เวลา Go Inter กันแล้วค่ะ
10.00 เรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องเป็นที่เรียบร้อยแต่กว่าจะบินมีดีเลย์นิหน่อย แต่พอขึ้นเครื่องมาแล้ว ไม่นานเท่าไหร่รัยก้อมีอาหารมาเสริฟท์ เป็น NasiLemak ซึ่งทางทีมงานจัดการสั่งเอาไว้ให้พวกเราแล้วค่ะ
เอาหล่ะสิอาหารมาเลย์มื้อแรก ตั้งแต่ขึ้นเครื่องเลยทีเดียว จะกินได้มั๊ยนะ พี่เต้ย สาวไกด์ใจซื่อ ที่นั่งไปด้วยกันคงเห็นหน้ามึน เลยถามว่ากินได้มั๊ย แต่มาทั้งทีต้องลองค่ะ คำแรกจัดเข้าปากไป อ้ำำำ!!!! แล้วก้อผิดคาดอร่อยดีค่ะ อร่อยกว่าที่คิดมากเอามาคลุกๆ รวมๆ กัน อร่อยดี กินไปเกือบหมดกล่องเลยเหอะ แต่ระหว่างจะเก็บกล่องทิ้ง สายตาดันไปเห็นข้อความบนกล่อง โอ๊ะ!! 567 kcal แว๊กซ์์ อะไรจะเยอะขนาดนี้เนี้ย หมดกันที่พยายามลดความอ้วนมาเพื่อ!!!! พี่เต้ยคงเห็นหน้ามึนๆ อีกรอบเลยเฉลยกับคนหน้ามึน ว่า kcal มันเยอะ เพราะมันหุงด้วยกะทิ ถึงว่าข้าวหอมเชียว กินซะเพลิน เง้อออออออ
อิ่มท้อง นอนหลับกันสักพัก ประมาณสองชั่วโมงก้อมาถึงมาเลเซียแล้วค่ะ เนื่องจากเป็นสายการบิน Low Cost เครื่องจะมาจอดที่ LCCT พอลงมาปุ๊บ! ไม่ต้องแปลกใจเลยนี้มันสนามบินของ Airasia ชัดๆ
ลงจากเครื่องแล้วไม่มีงวงช้างให้ขึ้นเริ่ด ๆ นะคะ เราจะต้องเดินไปตามทางแบบนี้ค่ะ ไม่หลงแน่นอนทุกคนต้องไปทางเดียวกัน
เครื่อง Air asia ที่เรานั่งมาสีฟ้าด้วยอ่ะ
พอเข้าอาึคารจะมีทางแยกให้สำหรับต่อเครื่องค่ะ แต่เราจะไป Immigration ก้อขึ้นบันไดเลื่อนไปโลด แต่ที่ฮานี้ ก้อตรงผ่าน ตม.นี่หล่ะ ไมู่รู้หูเราเพี้ยนหรือเปล่าได้ยิน ตม.พูดว่า ...
ตม.: เที่ยว!
เรา: หืมม ??? เค้าพูดไทยกะชั้นป่ะเนี่ย ส่วน ตม.คงเห็นยัยหน้ามึนนี่ คงจะไม่เข้าใจเลยส่งภาษาอังกฤษมา
ตม.: Holiday??
เรา : อ๋อ Yesssssssss อยากพูดไทยก้อไม่บอกจิได้สอนให้
ผ่านมาได้ พร้อมกับสติ๊กเกอร์ ติดPassport มา สวยดีแฮะ เอาไปเม้าท์กะเพื่อน ว่าสติ๊กเกอร์นี่มันสวย ดีนะ ทุกคนหน้างง ๆ แล้ว บอกอย่างพร้อมเพรียงว่า ทำไมเราไม่มี !!! อ้าวเวรๆๆๆ ชั้นมีรัยผิดปกติเนี่ย สักพักโอ๋ผ่าน ตม. มา เลยถามดู สรุปว่า มีแต่เรากะโอ๋ ถูกติดสติ๊กเกอร์มากันสองคน เอาฟร่ะ ถ้าติดอยู่ในมาเลเซีย ชั้นก้อมีเพื่อนหล่ะ แต่นะ ทุกวันนี้ยังงงอยู่ว่าเค้าติดทำไมหว่า ?? จะถามตอนขากลับ ยัยเอก้อบอกว่าแกอย่าถามเลยเดี๋ยวติดนานจะไม่ได้กลับเอานะ เลยไม่ได้ถาม เอาเป็นว่า ถ้าใครรู้ช่วยบอกทีน๊า ว่ามันหมายถึงอะไร
ถกเถียง กันเรียบร้อยก้อออกมาด้านนอกกันค่ะ ออกมาก้อเจอมทีมงานมารับเราที่สนามบิน และจัดแจงพาเราขึ้นรถตู้ ปฎิบัติการภารกิจแรกกัน!!! คือ พาไปกิน บักกุตเต๋ PAO XIANG BAH KUT THE @ PAVILION KUALA LUMPUR กัน ยังอิ่ม NasiLemak ทีมงานนี่เค้าดูแลดีจริงๆ ชมวิวระหว่างทางเข้าเมืองไปเรื่อยๆ ค่ะ สองข้างทางเค้าต้นปาล์มเยอะมาก แต่พอเข้าเมืองเท่านั้นหล่ะ คิดถึงกรุงเทพฯเลย รถติดมาก แต่ก้อดีนะ ยังไม่หิวเลยติดไปก่อนแล้วกัน haha
สักพักเราก้อมาถึงแล้วค่ะ Pavilion Kuala Lumpur เราขึ้นบันไดเลื่อนไปยังชั้น 6 เพื่อจะไปร้าน PAO XIANG BAH KUT THE
ทีมงานจัดการสั่งอาหารให้เราด้วย แป๊ปเดียวอาหารเต็มโต๊ะ จากที่ก่อนลงเครื่องยังอิ่มๆ ตอนนี้ท้องเริ่มร้องนิด ๆ แล้วหล่ะ แหมม ก้อมันน่ากินนี่นาาาา
บอกตรงๆ เลยว่า บักกุตเต๋นี่กินครั้งแรกกเลยค่ะงงๆ อยู่ว่ากินยังงัยมี เป็นถ้วยๆ เต็มไปหมด แถมมีปาท่องโก๋มาให้ด้วย ไม่รู้เอาไว้ทำอะไร แต่เห็นแล้วอยากได้นมข้นหวานขึ้นมาทันที แต่เค้าบอกว่าเอาปาท่องโก๋ จิ้มน้ำที่ตุ๋นเครื่องในมา อร่อยมาก มีพริกไว้แก้เลี่ยนด้วยนะ
ผัดผักที่สดแล้วก้ออร่อยดีค่ะ
เป๋าฮื้อ สุดอร่อย
ที่เห็นในถ้วยๆ นี่ก้อเป็นพวกซี่โครงหมู หมูสามชั้น กระเพาะหมู เปาฮื้อ ไส้หมู ทุกอย่างนี่ไม่เหนียวเลยค่ะ อร่อยมากกก
ทั้งหมดนีดื่มคู่กับชาร้อนนี่เข้ากันค่ะ แค่มื้อแรกก้ออิ่มกันจนแน่นเพราะพวกเราดันสั่งข้าวกันมาคนละถ้วย เง้ออออ
น่ากินทั้งนั้นเลยใช่มะหล่ะ บอกแล้วงานนี้จัีดเต็มตลอด อร่อยทุกอย่างเลยนะ แต่อะไรเป็นอะไร จำชื่อไม่ได้ แต่ไม่ลืมถ่ายเมนูมาฝากทุกคนน๊า อยากกินไร จิ้มๆ เอาหล่ะกันจ้า
อิ่มท้องแล้ว เตรียมตัวขึ้นรถ ไปเกนติ้งใน ตอนหน้ากันค่ะ จะสนุกยังงงัยค่อยติดตาม ตอนที่ 3 นะคะ Love U ค่ะ