บล๊อกของลุง กับป้า ที่ชอบการท่องเที่ยว
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2564
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
13 พฤศจิกายน 2564
 
All Blogs
 
ตอน 13 - 2 สถานีรถไฟ, Westminster Abbey และ 2 พิพิธภัณฑ์

 
บล๊อคนี้ เป็น 2 วันสุดท้ายของการแบกเป้ครั้งนี้  เราปักหลักที่ลอนดอนแล้วค่ะ  
หมุดหมายแรกของเราคือ St. Pancras  Station 


St. Pancras Station (สถานีรถไฟ St. Pancras) เปิดดำเนินการในปี 1868 ---
กล่าวได้ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของวิศวกรรม Victorian ทั้ง โรงแรม
Midland Grand Hotel
ก็ถือเป็นผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรม Gothic สไตล์ Victorian ด้วย --- ทำให้สถานี
St. Pancras เป็นหนึ่งในสถานีที่มีความหรูหราที่สุดในโลก




ปัจจุบันเป็นอาคารที่ได้รับการจดทะเบียนในเกรด I พร้อมกับส่วนที่เหลือของสถานี ที่ได้รับ
การยกย่องอย่างกว้างขวางในด้านสถาปัตยกรรม





สถานี St. Pancras สร้างขึ้นโดย Midland Railway (MR) ออกแบบโดย William Henry
Barlow
(
10 May 1812 – 12 November 1902)  วิศวกรชาวอังกฤษแห่ง ศต. ที่ 19

หลังจากเปิดตัวสถานี จึงได้สร้างโรงแรม Midland Grand (ดำเนินการจนถึง ปี 1935)
ที่ด้านหน้าของสถานี





อาคารทั้งหมด รวมทั้งอพาร์ทเมนท์ รู้จักกันในชื่อ St. Pancras Chambers และระหว่าง
ปี 1935 ถึงทศวรรษที่ 1980 ได้ใช้เป็นสำนักงานของสถานี





ปัจจุบันด้านหน้าของสถานี St. Pancras  คือ โรงแรม St. Pancras Renaissance London Hotel





สถานีรถไฟ
St. Pancras International Railway Station (สถานีรถไฟนานาชาติ
St. Pancras)  เปิดให้บริการในปี 2011 ---  เป็นหนึ่งในสถานีปลายทางหลักในลอนดอน
และเป็นสถานีสุดท้ายสำหรับรถไฟระหว่างประเทศ ที่จะออกเดินทางไปยังภาคพื้นทวีปยุโรป




สถานี St. Pancras  ยังเป็นหนึ่งในสถานีหลักของ Eurastars (รถไฟความเร็วสูง) ที่อังกฤษด้วย
 
 รายการต่อไป คือ  สถานี King's Cross ที่อยู่ไม่ไกลจาก สถานี St. Pancras  ราย
ละเอียดของสถานี ตามบล๊อคแม่เปี๊ยกเลยค่ะ  
(ตอนที่ 19 # ตอนจบแล้วจ้า)
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kapeak&month=11-2016&date=
11&group=41&gblog=40



ส่วนเราก็ไปสัมผัสบรรยากาศของสถานีที่ 9 3/4 ของเหล่าพ่อมด แม่มด ในเรื่อง Harry
Potter กันดีกว่าค่ะ 






สำหรับเมย์ อยากเห็น  ชานชลาที 9 3/4  สถานีรถไฟ King's Cross เป็นที่สุด  --  
แต่ความจริง คือ อยากนั่งรถไฟไป
Hogwarts มากกว่า ถ้าฝันเป็นจริง ฝันมาตั้งแต่ 
อ่าน Harry Potter  เล่มแรก ....อยากทะลุกำแพงไปเล้ยย...แต่ได้แค่นี้ก็เอาล่ะ





































จากสถานี King's Cross ​​​​​​ต่อไปที่
Westminster Abbey กันเลยค่ะ  เดินไปเรื่อย ๆ ก็ถึง 
หอนาฬิกา Big Ben คราวนี้ถ่ายรูปได้ชัดเจน ไม่มัว ๆ เหมือนวันแรกที่กว่าจะมาถึงก็มืดแล้ว







หอนาฬิกา Big Ben





หอนาฬิกา Big Ben และ Westminster Abbey  ด้านนอก





รายละเอียดของ Westminster Abbey --- แม่เปี๊ยกเอาไว้ในบล๊อคที่ #19 ลิงค์เดียวกับ
สถานี King's Cross ข้างต้นค่ะ






ด้านหน้าของ Westminster Abbey





ภายใน Westminster Abbey ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป ---ได้รับชุดหูฟัง และคู่มือ คนละชุด 
แล้วก็ไหลไปตามผู้คน  ฟังคำอธิบายแต่ละจุดไปเรื่อย ๆ จากหูฟัง (ซึ่งฟังไม่รู้เรื่อง มากกว่า
รู้เรื่องค่ะ)  จนจบสิ้นกระบวนการ ก็ออกมาด้านนอก เป็นอันเสร็จพิธี






หมุดหมายต่อไปของเรา คือ The National Gallery  จาก Westminster Abbey
เดินไปตามถนน St. Magaret  -- ไม่นานก็ถึง
ถนน Downing SW1





Downing Street SW1 เป็นถนนยาว 200 ม. เขต Westminster -- มีบ้านเลขที่ 10
Downing Street ที่โด่งดัง เพราะเป็นที่พำนัก และสำนักงานอย่างเป็นทางการของ
นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และ First Lord of the Treasury - เจ้ากรมธนารักษ์คนแรก 
หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งโดยปกติ ก็คือ คนเดียวกันกับนายกรัฐมนตรีอังกฤษ
นั่นเอง

อาคารนี้สร้างในปี 1680 โดย Sir George Downing ชาวไอริช






 
เลขที่ 11 Downing street  เป็นที่อยู่อาศัยอย่างเป็นทางการของ Second Lord of
the Treasury   - รองเจ้ากรมธนารักษ์ มาตั้งแต่ปี 1828  ที่พักนี้สร้างขึ้น สร้างขึ้นใน
ปี 1682 อยู่ถัดจากบ้านเลขที่ 10 ของนายกรัฐมนตรี

จากนั้นก็เดินต่อไปจนถึง 
จตุรัสทราฟัลการ์ (Trafalgar Square) 





Trafalgar Square เป็นจตุรัสขนาดใหญ่ใจกลางกรุงลอนดอน ตั้งอยู่หน้า The National
Gallery สร้างขึ้นในปี 1830  เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานของยุทธนาวึ Trafalgar และสงคราม
Waterloo ระหว่างอังกฤษ - ฝรั่งเศส ปี 1805






จุดเด่นของ Trafalgar Sq. คือ มีเสาหินที่เป็นอนุสาวรีย์ เนลสัน (พลเรือเอกเนลสัน -
นายทหารประจำราชนาวีอังกฤษ)  ตั้งอยู่บริเวณจุดศูนย์กลาง มีสิงโตโลหะ 4 ตัว ล้อมรอบ


 

หอศิลป์แห่งชาติ (The National Gallery) 



























หอศิลป์แห่งชาติ (The National Gallery)  อยู่ทางด้านเหนือของ จตุรัส Trafalgar 
กรุงลอนดอน  ก่อตั้งเมื่อปี 1824  เพิ่อแสดงและเก็บรักษาภาพจิตรกรรมยุโรปกว่า
2,300 ภาพ ที่สหราชอาณาจักรรวบรวมไว้  มีภาพตั้งแต่กลาง ศต. ที่ 13 จนถึงปี 1900 

 















นักเรียนเล็ก และนักเรียนโต มาหอศิลป์แห่งชาติ

มีภาพของจิตกรที่ยิ่งใหญ่มากมายหลายท่าน  เช่น Edouard Manet (1832-1883), 
Claud Monet (1640-1926),  Pierre-Auguste Renoir (1841-1919),  และ
Vincent van Gogh (1853-1890)

วันนั้นเมย์พาไปกินเป็ดย่างร้านดัง ที่
Four Seasons - London เลขที่ 11 Gerrand St.
ด้วย คงเป็นเวลาบ่ายแก่ ๆ แล้ว แล้วก็หิวกันงก โชคดีที่เมย์ถ่ายรูปนี้เอาไว้ เป็นพยานว่า 
เราไปกันมาแล้วค่า 



จำได้ว่า สั่งเป็ดย่าง หมูกรอบ และเกี้ยวน้ำ 3 อย่าง พร้อมข้าวเปล่า เป็นเงิน 
33 ปอนด์ (ราว 1,600.-) ทั้งเป็ดและหมูกรอบจานใหญ่ และหั่นมาอย่างใหญ่ด้วย
 
หลังจากนั้น เราก็ไปเรื่อย ๆ กันแล้ว แต่เนื่องจากวันรุ่งขึ้นเป็นวันกลับ ก็ขอรวบรัดเอา
รายการไป 
Victoria & Albert Museum มาไว้บล็อคนี้เลยค่ะ




 Victoria & Albert Museum ในลอนดอน เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะประยุกต์  
มัณฑนศิลป์ และการออกแบบที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีการรวบรวมศิลปวัตถุไว้อย่าง
ไม่มีที่ใดเทียบได้ ทั้งด้านขอบเขต  และความหลากหลาย --- ซึ่งแสดงถึงความคิด
สร้างสรรค์ของมนุษย์ ที่มีอายุมากกว่า 3,000 ปี




ด้านนอกของพิพิธภัณฑ์ 

พิพิธภัณฑ์สร้างขึ้นในปี 1852  ในชื่อ พิพิธภัณฑ์การผลิต (Museum of
Manufactures)  
และ ต่อมาเป็นพิพิธภัณฑ์ South Kensington ก่อนที่จะได้รับการ
ตั้งชื่อ
ตามสมเด็จพระราชินี Victoria และ เจ้าชาย Albert ในปี 1899






ส่วนหน้าอาคารหลักสร้างจากอิฐสีแดงและหินพอร์ตแลนด์ ทอดยาว 220 ฟุต (220 ม.) 
ไปตามสวน Cromwell -- ได้รับการออกแบบโดย Aston Webb หลังจากชนะการแข่งขัน
ในปี 1891 เพื่อขยายพิพิธภัณฑ์  การก่อสร้างเกิดขึ้นระหว่าง 1899 - 1901 









โถงแรกของพิพิธภัณฑ์


พิพิธภัณฑ์มีพื้นที่ถึง 12.5 เอเคอร์ (ราว 50,585 ตรม.)  -- มีห้องจัดแสดง 145 ห้อง โดย
เป็นที่เก็บศิลปะถาวรกว่า 2.27 ล้านชิ้น  ครอบคลุมผลงาน 5,000 ปี  ตั้งแต่สมัยโบราณ
จนถึงปัจจุบัน จากวัฒนธรรมของยุโรป  อเมริกาเหนือ  เอเซีย  และอาฟริกาเหนือ







 ตื่นตาตื่นใจ เมื่อเลื่อนไปตามบันไดเลื่อนสู่ "การกำเนิดของโลก"


















 
















พิพิธภัณฑ์ที่ดูสบาย ๆ  มีที่นั่งแบบนอนให้ชื่นชมศิลปะ เผลอ ๆ ก็หลับกันเลย








ห้อง Western Cast Court 






















ในหนังสือ "หน้าต่างสู่โลกกว้าง ฉบับประเทศอังกฤษ "(หน้า 136)   กล่าวว่า "พิพิธภัณฑ์ Victoria
& Albert  มีชื่อเสียงที่สุด ด้วยว่าแสดงผลงานศิลปกรรมทุกยุค ทุกแบบ
จากทุกประเทศ ---สถานที่นี้เรียกกันว่า เป็นกล่องใหญ่แห่งความสุขสันต์ -- เนื่องจาก
ภายในกำแพงแห่งนี้ มีทุกอย่าง สำหรับทุกคน 










ภายในมีลักษณะวกวน มีหลายห้องแสดงศิลปะจากเฟอร์นิเจอร์ ประติมากรรม เซรามิก
แฟชั่น อัญมณี งานโลหะ รวมทั้งภาพวาดไปจนถึงผ้า และอาวุธ โดยมี
ความยาวถึง 7 ไมล์ (11 กม.)"










พิพิธภัณฑ์ V&A นี้ใหญ่มาก ๆ ถ้าไม่ได้ไปเสียดายแย่ ใหญ่มาก -- เดินไปหลงไป -- พร้อม
กับพึมพำว่า  
"โอ้!! - พระนางท่านไปเอาสิ่งเหล่านี้มาจากที่ใด... ช่างมากมายอะไรอย่างนี้?"

ใคร ๆ ก็มาพิพิธพัณฑ์ มาให้ได้เห็น ได้ตื่นตลึง ได้พินิจพิเคราะห์ มานอน มาวาดรูป มาคลาน 



 
 

 
 
 







 
 











































Vitoria & Albert Museum - ลอนดอน นับเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ (หอศิลป์) ที่มีผู้เข้าชม
มากเป็นอันดับ 10 ของโลก ในปี 2018 มีผู้เข้าชม 3,967,566 คน -- ขณะอันดับ 1 คือ
พิพิธภัณฑ์ Louvre - ลูฟวร์ ที่ปารีส  มีผู้เข้าชม 10,200,000 คน 






จบท้ายด้วยโถงประชาสัมพันธ์ที่แม่เป๊๊ยกนั่งรออยู่ เพราะหมดสภาพไปก่อนหน้าแล้ว
ป้าหลานใช้เวลาพอควรที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้  แล้วก็หาทางออกไปไม่เจอ เดินวนไปวนมา
กันหลายรอบ
  








เหนือโถงประชาสัมพันธ์ ตรงโค้งเหนือลานระเบียง เขียนคำว่า
"ALL OF THIS
BELONGS TO ัYOU"
  ???? !!!!  ดูเหมือนจะเป็นการตอบคำพึมพำของเราข้างต้นได้บ้างล่ะ

จบ 2 วันสุดท้ายในลอนดอนแล้ว -- แต่ลอนดอนยังไม่จบ  บล๊อคหน้ามาดูภาพและ
เรื่องราวของ
 "Shuan the Sheep" ที่ปรากฏอยู่ทั่วลอนดอนช่วงที่เราไปกัน และไม่ลืม
เอกลักษณ์ของลอนดอนอย่าง คือ
London Buses และ London Cabs (Taxis) ค่ะ

ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ


 
ขอบคุณข้อมูลจากวิกิพีเดีย และ
https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=394
https://travelmedium.com/largest-museums-in-the-world
https://th.wikipedia.org/wiki/รายชื่อพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโลก
 



Create Date : 13 พฤศจิกายน 2564
Last Update : 14 ธันวาคม 2564 10:34:07 น. 1 comments
Counter : 778 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณhaiku, คุณหอมกร


 
2 อาทิตย์ ในการเดินทาง บางวันเดินตั้งแต่เช้ายันค่ำ กลับมาที่พักกลายสภาพเป็นซอมบี้ ขาแข็งไปหมด วันสุดท้ายจึงมีสภาพอย่างที่เห็น


โดย: พูดไม่เก่ง แต่เจ๋งทุกคำ วันที่: 27 พฤศจิกายน 2564 เวลา:16:01:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 1920579
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 1920579's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.