• DIY แต่งบ้านแบบงบน้อย
• ความรักของฉัน
• แฟนซีรี่ย์เกาหลี
• เบื้องหลังกว่าจะได้เป็นศิลปิน

คันฉ่องแบบดิบๆจากเศษไม้สน ปีนี้ตอนแรก กะว่าจะไม่ทำอะไรเพิ่มละ เพราะบ้านชักรกไม่ค่อยมีที่ว่างให้ทำอะไรแล้ว อีกอย่างเศษไม้เดิมๆที่เหลือยังอยู่ให้กังวลกลัวเจ้าปลวกจะมาเยือน แล้วโรคประจำตัว คือ ภูมิแพ้ ไซนัส ชักจะหนักขึ้นตามวัย ขลุกกับฝุ่น ขี้เื่ลื่อยมากๆไม่ค่อยได้  แต่ดันไปเห็นคันฉ่องไม้ยางในเนท น่ารักดี ชอบจัง แต่่ถามราคาไป ชะงักเลย 1 พันบาท   เสียดายเงิน เพราะรู้สึกว่ามันอันแค่นี้ ใช้ไม้นิดหน่อยเอง ทำไมแพงจัง แถมเราก็ไม่ใช่คนทีชอบส่องกระจกสักเท่าไหร่ด้วย จะคุ้มมั้ยเนี่ย แล้วก็ ไปเจอคันฉ่องไม้สัก ในเนทอีก ก็สวยดี ทำยากกว่าด้วย ออกแนวแบบคันฉ่องไทยโบราณเลย ราคา 450-800 บาท  แปลกจัง ที่ราคากลับถูกกว่าอีก ทั้งๆที่เป็นงานฝีมือมากกว่า แต่ส่วนตัว ไม่ค่อยชอบใช้เฟอร์แบบไทยโบราณ ถึงจะสวย แต่ชอบงานไม้แบบเรียบๆมากกว่า คงเหมือน ชอบดูชุดกระโปรงสวยๆ แต่ถ้าให้ใส่ ชอบเสื้อยึดเรียบๆมากกว่ามังคะ ไปรื้อๆกองไม้ดู เลยอดไม่ได้ เอาน่า งานเล็กๆ ลองทำดูขำๆ ได้ไม้นิ้ว สน มาทำกรอบ ได้ไม้สนหน้า 3นิ้ว ที่เหลือๆเอามาทำขา ร่วมกับเศษไม้โครง (เศษไม้ชิ้นเล็กชิ้นน้อยจะเยอะค่ะ เพราะเวลาตัดเหลือเศษ จะไม่ค่อยทิ้ง ชอบเก็บไว้ เผื่อทำมือจับตู้)  มาทำกรอบใส่กระจกกันค่ะ นำมาตัดตามรูปค่ะ เจาะรูใส่เดือย 6 มิล ทั้ง 4 มุม  ทากาวใส่เดือยประกบกันทั้ง 4มุม ทิ้งให้แห้ง แล้วยิงตะปู 2ซม ยิงย้ำ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงในการยึดติดอีกชั้นค่ะ เสร็จแล้ว อุดรู ตะปู ร่องรอยต่อด้วย ดินสอพองผสมสีฝุ่นสีเหลือง (ให้สีใกล้เคียงไม้ที่สุด) + กาวลาเทก+น้ ำ + ยูรีเทนนิดนึง  ทิ้งไว้ให้แห้งแล้วขัดให้เรียบด้วยกระดาษทรายค่ะ มาทำขาตั้ง กันต่อค่ะ ใช้ไม้สน หนา 10 มิล กว้าง 9 ซม ที่เหลือ เอามาตัดให้ได้ความยาวเท่ากัน 2ด้าน (ควากว้างไม้โครง + ครึ่งนึงของความสูงกรอบใส่กระจก + 3 ซม ) แบบตัดไม้1 เอาเศษไม้โครง มาตัดให้ยาวเท่ากัน 2 แท่ง และเซาะร่องเพื่อประกบขาตั้ง ตามแบบ (จะใช้เครื่องเราเตอร์ ทริมเมอร์ หรือสิ่ว ก็ได้ค่ะ งานนี้ เอ๋ใช้เลื่อยจิ๊กซอ ตัดถี่ๆก่อน แล้วถึงใช้สิ่วเซาะออกอีกทีแล้วก็ใช้เลื่อยจิ๊กซอแต่งอีกที เพราะเครื่องทริมเมอร์เจ๊ง หลังจากเซาะร่องไม้นิ้วทำกรอบ โชคยังดีที่ทำเสร็จก่อน มาเสียเอาตอนจะลบขอบไม้ เครื่องไหม้ซะก่อน เปิดไม่ติดเลย เปลี่ยนแปรงถ่านก็แล้ว ก็ยังไม่หาย จนปัญญาซ่อมเอง ยังหาที่ซ่อมไม่ได้ เลยค่ะ) ทากาวลาเทกแล้ว ประกบติดกัน แห้งแล้วยิงตะปูช่วยยึดอีกที ติดแกนกลาง โดยใช้ไ้โครง ยาวเท่ากับ ความกว้างกรอบกระจก+2 มิล  เจาะรูใส่เดือย 6 มิล ทั้ง 2 ข้าง ยึดติดกับตรงกลางขาตั้ง ตามรูป ทากาวใส่เดือย แล้วยึดติดกัน รอจนกาวแห้ง ตามรูป ติดแผ่นไม้ที่เหลือจากไม้แผ่น(หนา 10มิล กว้าง 9ซม) เพื่อช่วยประคองให้ขาตั้งแข็งแรง และเพื่อเอาไว้วางของด้านหน้ากระจกด้วยค่ะ  ***ตอนแรกก็อยากทำแบบมีลิ้นชักตามรูป ที่เห็นในเนท แต่พอมาคิดดูตามลักษณะการใช้ง่นของตนเองแล้ว ไม่เหมาะ เพราะลิ้นชักเล็กเกินจะใส่ของ  วางแบบตั้งไม่ได้  แล้วก็ไม่ได้มีของจุกจิ๊ก หรือเครื่องสำอางอะไรให้เก็บด้วย เพราะจะเอาไว้ใช้บนโต๊ะทำงาน ไว้ส่องดูความเรียบร้อยนิดหน่อย ส่วนใหญ่คงจะบีบสิวมากกว่า 55 เพราะเป็นคนไม่ชอบส่องกระจกเท่าไหร่ จะส่องแค่เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยมากกว่าค่ะ เลยารุปว่าจะทำแค่ที่วางของนิดหน่อย ที่หยิบใช้บ่อยๆ ไม่ต้องเก็บแอบอะไร ** ลองเอากรอบมาวางดูก่อน ยังไม่ต้องยึด ** ติดคิ้วไม้สักหน่อยเพื่อความเรียบร้อย **บอกแล้วว่างานแบบหยาบๆ ดูใกล้จะ เห็นรอยดินสอพองเพียบค่ะ เพราะเซาะร่องไม้ด้วยมือ ไม่มีทริมเมอร์ ร่องเลยไม่เรียบเท่าไหร่ ^^ ลงยูรีเทนให้ทั่ว สัก 2 รอบ  เจาะรูใส่กรอบกระจกเข้ากับขาตั้ง โดยวัดจาก ฐานขึ้นไป แล้วเจาะรูด้วยส่ว่าน 5มิล (ไม้โครงขอบบน สุดขึ้นไป (จากรูป แบบตัดไม้ 1 ด้านบน ) และเช่นกัน เจาะรู 5 มิล ตรงกึ่งกลางด้านข้างของกรอบรูปทั้ง 2 ข้าง  ยึดกรอบกระจกเข้ากับขา โดยในที่นี้ เอ๋ใช้ ปุ่มรับชั้น แบบตามรูปค่ะ มีขายทั่วไปเป็นห่อๆค่ะ  กรอบหมุนได้รอบ ทำแผ่นประกบหลังกระจก  ใช้ไม้อัดสนที่เหลือจากตอนทำตู้โชวแขวน หนา 10 มิล ตัดขนาดตามกรอบ  ** ลองใส่ดู ** พอดีมีแผ่นรูปทิชชู่ ที่ไว้ทำเคดูพาจ ซื้อมา 2 ปีได้แล้วค่ะ เห็นเค้าทำกันในเนท เลยอยากลองทำบ้าง แต่พอใช้ไม้จริงพวกไม้ สนไม้ยาง แทนไม้ MDF (งานชิ้นแรกๆ ทำ walk in closet ) ชอบลายไม้เลยไม่อยากทาสีทับ เลยเก็บไว้ไม่ได้หัดทำสักที ไหนๆได้โอกาสแล้ว เลยเอามาลองทำดู  แต่วิธีทำที่ถูกต้อง หรืออุปกรณ์ที่ต้องใช้นี่ (ที่เค้าใช้กัน) ไม่มีนะคะ ทำแบบตามใจคิดเอาเอง ว่าน่าจะได้เหมือนกันละมัง  ใช้กาวลาเท้ก ผสมน้ำให้ยาวกาวจางเป็นน้ำกาว เอาแผ่นเคดูพาจวางทับไปบนแผ่นไม้ ให้เรียบ แล้วใช้แปรงทาสีจุ่มกาวทาทับทิชชูไปให้ทั่ว  55..พลาดค่ะ มือหนักไปหน่อย รูปขาดเลย เอาใหม่ (เสียดายรูปที่ขาด เข้ากับไม้สนมากกว่า) เอารูปใหม่มาทำ ครานี้ใจเย็นค่อยๆทากาวทับเบาๆไล่ไปให้เรียบ แล้วก็ทิ้งไว้ให้แห้ง ใจร้อนเลยใช้พัดลม เครื่องเป่าลมร้อนเป่า พอแห้งก็ใช้คัดเตอร์ตัดขอบที่เกินออก ต่อมาก็ ทายูรีเทนทับ รอแห้ง ทาทับอีก 2 รอบ พอเคลือบยูรีเทนแล้ว ดูไม่ออกเลยแฮะว่าเป็นทิชชู่ เสร็จแล้วลองใส่กรอบดู ใส่แบบกลับหัวนะคะ เพื่อที่เวลาไม่ต้องการใช้กระจก ก็จะพลิกรูปมาด้านหน้าแทน แต่ถ้าจะใช้แบบวางโชว 2 ด้าน ก็ ใส่แบบปกติก็ได้ค่ะ ขั้นตอนสุดท้าย คือเอาไปร้านกรอบรูป ซื้อกระจกใส่ ให้เค้าตัดให้ 50 บาท  ใส่กระจกใส่รูปปิดด้านหลังเข้าไป เป็นอันเสร็จ อันนี้ ไม่ได้ใส่ตัวล็อคด้านหลังเหมือนกรอบรูปนะคะ เพราะไม้มันฟิตแน่พอดี ไม่หลุดค่ะ เสร็จแล้วค่ะ อันนี้ใช้งบ ประมาณ 50 บาท บวกแผ่นรูปเคดูพาท เท่าไหร่ จำราคาไม่ได้แล้วค่ะ ยังไงก็เก็บไว้ไม่ได้ใช้อยู่ดี *******************************************************************   Create Date : 20 มิถุนายน 2557     Last Update : 21 มิถุนายน 2557 5:44:17 น. Counter : 13572 Pageviews.   0 comment Share Tweet

ชั้นวางของคร่อมไมโครเวฟ ไม้สนแบบง่ายๆ อันนี้ ทำหลังจากทำตู้ยา ตู้โชวแขวน และโต๊ะข้างล้อเลื่อนแล้ว เอาไม้สนที่เหลือๆมาทำ โดยใช้วิธีเข้าเดือย เกิดจากติดใจการใช้จิ๊กเจาะเดือย แล้วก็ มีไมโครเวพเกินมา1 อัน (เคยเสีย รอส่งซ่อมนานมาก เลยซื้อใหม่ ตอนหลังซ่อมได้เสียได้ เลยเอามาใช้ 2 เครื่องไปเลย) บริษัทติดนานท่วม พอวางแล้วทำให้เนื้อที่ในการวางของอื่นๆไม่พอ ของที่ใช้ ก็มีแค่ไม้สนแผ่น และไม้สนโครง แล้วก็กระเบื้อง ที่เหลือจากปูผนัง 1 แผ่น วัดความหนาของแผ่นกระเบื้อง แล้วเซาะร่องไม้ที่จะเอามาทำกรอบ (ท๊อบ) แล้วลองวางกระเบื้อเพื่อตัดไม้ให้พอดี วัดได้แล้วก็เจาะรูใส่เดือย ทากาว เอามาประกอบกัน ตามรูป  เสร็จแล้วก็อุด ขัดให้เรียบร้อย ลงยูรีเทน ...ต่อมามาทำขา 2 ข้างค่ะ เช่นกัน ตัดไม้ แล้วเจาะรูใส่เดือยติดกาว รอแห้ง ขัด ลงยูรีเทน จากนั้นเอามาประกอบกันด้วยกาว แห้งแล้วยิงตะตูยึดจากด้านข้าง และใช้เหล็กฉากช่วยยึดด้านในเพื่อความแข็งแรง ใส่คานไม้โครงด้านหลัง ตามรูป  ขัดไม้ แล้วลงยููรีเทนซ้ำอีก เอากระเบื้องมาวาง ก็เสร็จแล้วค่ะ ด้านหน้า แต่งด้วยคิ้วไม้ เพื่อความเรียบร้อยสวยงาม ** ทดลองวางดู  ** ***ชั้นอันนี้ทำโดยวัดจาดขนาดของไมโครเวพเครื่องนี้เป็นหลัก ดังนั้นขนาดของไม้ที่ใช้ทำขา 2 ข้างจึงไม่เท่ากัน เพราะด้านซ้ายมีแทงก์ ใส่น้ำสำหรับอบ stream อยู่ด้านข้าง *********************************************************   Create Date : 17 มิถุนายน 2557     Last Update : 21 มิถุนายน 2557 6:18:50 น. Counter : 11462 Pageviews.   2 comment Share Tweet

ตู้เก็บของและวางของในครัว ดัดแปลงจากโต๊ะเก่า   อันนี้ทำตั้งแต่ปี 2013 เป็นงานโปรเจคต่อเนื่อง คือออกแบบทีหลายชิ้นงาน และลงมือทำทีเดียว ชิ้นนี้น่าจะเป็นชิ้นที่ 4 ของงานไม้หัดทำ โดยไอเดียมาจากโต๊ะไม่ยางเก่าตัวโปรด ที่อยู่ด้วยกันมานาน โต๊ะไม้ยางถอดประกอบได้ตัวนี้ แม่ซื้อให้ สมัยเรียนปี2 (ปี35)หอบหิ้วจาก กทมขค้น รถไฟไป มช แต่เดิม มันเป็นโต๊ะที่ปูท๊อบด้วยกระเบื้องสีน้ำเงิน เป็นกระเบื้องขนาด 8*8 นิ้ว ตอนแรก ก็ใช้เป็นทำอาหาร สมัยนั้นใช้หม้อ กระทะไฟฟ้า ตอนหลังเปลี่ยนมาใช้เป็นโต๊ะเขียนหนังสือ จนกระทั่งเรียนจบ ก็หอบหิ้วกลับมาไว้ที่บ้านที่กรุงเทพอีก ใช้เป็นโต๊ะเตรียมอาหารตามเคย  จนกระทั่งประมาณปี 50 ที่บ้านทำห้องครัวใหม่ ก่ออิฐเคาน์เตอร์และปูกระเบื้องใหม่ แต่ยังไม่มีงบทำตู้ใส่ใหม่ ก็ใช้ตู้เก่า เอามาทาสีใหม่เปลี่ยนมือจับใหม่แก้ขัดไปก่อน เจ้าโต๊ะตัวนี้ก็เช่นกัน  แตสีกระเบื้อน้ำเงินเข้มกับสีไม้ยางอ่อนๆตัวเดียว มันดูโดดๆ ก็เลยจับมาโมใหม่ โดยเลาะกระเบื้อเก่าออก และ ปูกระเบื้องใหม่ ใช้กาวปูกระเบื้องสำเร็จ และใช้กระเบื้องเซทเดียวกันกับที่ใช้ปูฐานเคาน์เตอร์ เพื่อจะได้เข้ากัน และใช้สีน้ำทาไม้ที่ใช้ทาตู้อื่นๆใหม่ เอามาผสมน้ำจางๆ ทาทับสีไม้อ่อนๆให้ดูเข้มขึ้น แต่ยังคงลายไม้ไว้ แล้วลงแลคเกอร์ทับอีกที   *และก็จับตู้เก่าของย่าที่ฟอรเมก้าลอกแล้ว เอามาลอกออกแล้วทาสีทับใหม่ ตัดขาทิ้ง แล้วจับยัดไว้ใต้โต๊ะอีกที เอาไว้เก็บของ ใช้งานแก้ขัด ตามรูปด้านล่าง **ในรูปเพิ่งถ่ายตอนก่อนจะโมล่าสุด ตอนแรกยังไม่มีตู้ไม้สนด้านข้าง เริ่มเลยค่ะ ออกแบบคร่าวๆ โดยวัดขนาดโต๊ะเก่าด้วย เพื่อให้ง่ายในการตัดไม้ แบบที่ตั้งใจจะอกมาประมาณนี้ ใช้ไม้ยางประสานหนา 20 มิล ตัดไม้ตามแบบ ตัดไม้ได้ตามแบบแล้ว ก็เริ่มประกอบ *ติดคานด้วยกาว แห้งแล้วค่อยยิงตัปูย้ำ เพื่อความแข็งแรง  **จากรูปจะเห็นร่องกลมที่เจาะไว้ ด้วยดอกเจาะบานพับถ้วย (ตามรูป ขนาด 35มิล ขนาดเดียวกับที่ไว้ใช้เจาะร่องใส่ล้อทำบานเลื่อนตู้ ) โดยใช้สว่าน เพื่อติดบานพับแบบซ่อน ติดบานพับลง2 บาน ติดลิ้นชักบนสุด และติดบานเปิดออก แบบทับขอบ ***คราวนี้มาทำขาโต๊ะเสริม ตามแบบ ที่เลื่อนเข้าออกได้ (ไม่ทันได้ถ่ายภาพเป็นขั้นตอนไว้ ทำคนเดียว แถมบางทีก็มือเปื้อนด้วยค่ะ อีกอย่าง งานแรกๆ ไม่ได้ตั้งใจว่าจะเอามาลงบล็อค ด้วย) ติดล้อด้วยค่ะ ยึดด้วยน๊อตและกาว แต่งเติมที่วางของ อันนี้ลองเอาที่เก็บมีดที่ทำมาใส่ดู แต่เอาออก เพราะก้มหยิบมีดไม่ถนัดมือ เสร็จแล้ว ก็เอามาประกอบกันดู **ด้านบนจะใช้ไม้ MDF ที่เหลือจากงานตู้เสื้อผ้า มาปิด เพราะเป็นส่วนที่ไม่ต้องโชว แค่ปิดกันฝุ่นเท่านั้น ต่อไปก็ถึงคิวโต๊ะเพื่อยาก ต้องเอาโต๊ะมาขัดสีที่ทาไว้ออกให้หมดก่อน เท่ากับได้กำจัดคราบน้ำมันที่ติดแล้วขัดไม่ออกทิ้งไปซะด้วยเลย ใช้เวลานานเอาการอยู่ ยากสุดคือคราบน้ำมันเพราะเคยวางไว้ข้างเตา ขัดเสร็จลงยูรีเทน แล้วเอามาประกอบร่างดูค่ะ ตกแต่งทายูรีเทน ติดมือจับเรียบร้อย คราวนี้ก็ยกไปไว้ในครัว (ตู้เกือบทุกใบที่เอ๋ทำ จะติดล้อหมด ไม่ติดแบบโชว์ ก็ซ่อนๆ เพราะจะได้เคลื่อนย้ายสะดวก ติด Option เสริม ใต้โต๊ะ เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ ***************************************************************   Create Date : 17 มิถุนายน 2557     Last Update : 21 มิถุนายน 2557 6:06:15 น. Counter : 17193 Pageviews.   3 comment Share Tweet

ทำโต๊ะข้าง หรือ โต๊ะวางของกินเล่นล้อเลื่อน จากไม้ที่เหลือ  งานนี้ เกิดจากคุณแฟน ชอบดื่มเบียรและกินกับแกล้มในห้อง ตอนนอนดูบอลเกือบทุกคืน (ไม่กินเค้านอนไม่หลับ) ในห้องนอนจะแคบมาก มีแค่ตู้หัวเตียง และโต๊ะคอมติดผนังปลายเตียง เวลาเสิร์ฟาหารเครื่องดื่มให้ ที่วางไม่ค่อยพอ แถมกลัวจะพลาดทำหกลงคอม สะอีก (คือโต๊ะคอมก็กว้างแค่ 50 ซม เองค่ะ เหลือที่ข้างๆคอมวางได้นิดหน่อย  ก็พอดีไปรื้อๆเจอแผ่นไม้ยางประสานที่เหลือ กว้างยาวประมาณ 32*50ซม หนา 2ซม  กับอีกแผ่นย่าวประมาณ70 ซม แต่กว้างแค่ 18 ซม นอกนั้นก็เป็นพวกแผ่นไม้สน (ไม้ลัง) เหลือๆ ช่วงนั้นพอดี ชอบเข้าไปอ่านเวบบอร์ดในเวบ Thaicarpenter ศึกษาข้อมูล และวิธีทำโต๊ะ โดยใช้เดือยไม้ เห็นแล้วเลยอยากลองดูบ้าง จะได้ไม่ต้องมาเซาะร่อง แบบตอนที่ทำบานตู้แขวนกระจก คงจะง่ายกว่า เพราะใช้สว่านเจาะรูและตอกเดือยเข้าไป แต่ ไม่มีจิ๊กเจาะ เหมือนที่ดูในวีดีโอ * จิ๊กแบบในรูปนี้ค่ะ ถ้ามี จะช่วยให้การทำงาไม้ง่ายขึ้นเยอะเลย  เช็คราคาแล้วแพงจัง พัน 5 แถมของหมด เสาะหาตามเวบต่งประเทศ ก็ยังแพง (ค่าส่งแพง) พอดีพี่สะใภ้จะกลับมาจากออสเตรเลีย เลยให้ลองหาตาม shop ที่นั่นมาให้ *** เคยลองเจาะรูฝังเดือยโดยไม่ใช้จิ๊กแล้วค่ะ ใช้วัดเอา กะว่ามันจะต้องตรงพอดี ใช้ได้แน่ๆ แต่เอาเข้าจริง มันไม่ตรงอ่ะ ต่อให้รูตรงกัน แต่องศารูไม่เท่ากัน ก็มีปัญหาแล้วค่ะ  ระหว่างรอตัวช่วย ก็ลองออกแบบคร่าวในคอมก่อนเช่นเคย ออกแบบตามวัสดุที่มี หรือพอหาได้ในบ้าน ออกมาประมาณนี้ค่ะ **สรุปเป็นแบบสุดท้ายนี่แหล่ะค่ะ ออกแบบไปหาไม้ในบ้านไปด้วย แก้แบไปแก้แบบมา ก็ได้ออกมาประมาณนี้ ที่น่าจะทำได้ ..................... พอได้จิ๊กมาแล้ว ก็เห่อเลยค่ะ อยากทดลอง แต่ที่ได้มา หน้าตาไม่เหมือนกัน พี่ชายบอกว่าทางร้านเค้าแนะนำว่าใช้ง่ายกว่า ยังไงก็ได้ ขอให้มีจิ๊กเหอะ (ฝากซื้อให้เป็นของฝากอ่ะ ของฟรี ยังไงก็ได้ ) เช่นเคยค่ะ เริ่มจากลองออกแบบคร่าวๆก่อน ตอนทำจริง ค่อยปรับแก้แบบตามเหมาะสม ก่อนอื่นก็ ทำคาน Top โต๊ะ  ...จริงๆแล้ว ไม่ต้องทำก้ได้ เพราะโต๊ะขนาดเล็กเองค่ะ แผ่นไม้หน้าโต๊ะก็หนา 2ซม แต่อยากเล่น หัดต่อไม้ด้วยการเจาะเดือย **วางจิ๊ก** **ใช้สว่าน 8 มิล เจาะลงไปในรูจิ๊ก ** ***ลองใส่เดือย 8 มิล ลงไป*** เอาไม้ที่จะต่อกันมาวางทาบ แล้วใช้จิ๊กทาบและจอรู ตามรูป เพื่อให้รูที่จะใส่เดือยตรงกัน * เสร็จแล้วจะออกมาตามรูปค่ะ  พอถูไถ (ไว้อาศัยการขัดช่วยอีกที) ทำไปจนครบ 4 มุม  ต่อไปก็ เจาะรูใส่เดือยที่สันไม้โครง เพื่อใส่เดือยติดกับแผ่นโต๊ะ  ใช้จิ๊กช่วยเจาะ มันจะช่วยให้เราเจาะได้ตรงกลางของความหนาไม้พอดีๆเลย เสร็จแล้วก็เอามาวางทาบกับแผ่นTOP โต๊ะ เพื่อใช้จิ๊กช่วยเจาะให้รูตรงกัน ตามรูปค่ะ แล้วทากาว ใส่เดือย แล้วประกบกัน ใช้แคลปช่วยล็อคให้แน่ ส่วนที่ต่อกันเป็นมุมฉาก ให้แน่ใจว่าได้ฉาก ก็ตามเคยค่ะ ใช้ตัวช่วยล็อคให้ได้ฉาก (เครื่องมือคู้ใจ) ...ทำไปถ่ายไป บางขั้นตอนก็ลืมถายบ้างนะคะ ทำคนเดียว  ...ตอนนี้มาทำขาโต๊ะค่ะ เอาไม้กว้าง 18 ซม ยาว 70 ซมมาตัดแบ่งครึ่ง  มีขาไม้ยางประสานเหลือ 1ท่อน ประมาณ 60 ซม เช่นกันค่ะ เอามาตัดแบ่งครึ่ง แล้วเจาะรูฝังเดือย ตามรูปค่ะ เสร็จแล้วใส่เดือยทากาว แล้วเอาประกบกันทิ้งไว้จนกาวแห้ง ทำเช่นเดียวกัน ด้านบนขา ด้วยไม้โครง ไว้สอดเข้ายึดใต้แผ่นโต๊ะ  ประกอบขาโต๊ะกับแผ่นโต๊ะ ด้วยกาว ยิงน๊อดสกรูเกลียว และเหล็กฉากยึด  จากนั้น.. เจาะรูฝังล้อ แบบเกลียว (ข้อดีขอการใส่ล้อแบบเกลียว หรือขาลองโต๊ะแบบเกลียว คือช่วยให้เราปรับระดับสูงต่ำได้ หากพื้นไม่ไดระนาบ หรือเราทำขาโต๊ะ หรือตัดไม้ไม่เท่ากัน โต๊ะจะไม่โยกเยกให้รำคาญ) ประกอบชั้นใต้โต๊ะ ใช้เหล็กฉากช่วยยึด แผ่นชั้น ใช้ไม้สนที่เหลือเอามาเพาะติดกันด้วยกาว ใช้แคลปฉากช่วยยึด ตามเคยค่ะ ตกแต่งด้วยไม้คิ้วเพื่อความเรียวร้อยอีกนิด ด้วยการทากาวและยิงตะปู  เสร็จแล้วอุจรูร่องด้วย ดินสอพองสผมสีฝุ่นคลุกด้วยกาวลาเทกและยูรีเทน (สูตรของตัวเอง) แล้วขัดให้เรียบเนียน ลงยูรีเทนทับสัก 3 รอบ ก็เสร็จแล้วค่ะ ***************************************************   Create Date : 15 มิถุนายน 2557     Last Update : 21 มิถุนายน 2557 6:13:07 น. Counter : 14165 Pageviews.   0 comment Share Tweet

ตู้โชว์แขวนจากไม้สน   งานนี้จริงๆแล้วเป็นตู้แขวนชิ้นแรก ก่อนทำตู้ยาซะอีกค่ะ เนื่องจากคุณแม่แฟนขอมา เอาหน่ะ ลองดู ที่คิดว่ายากและกลัวที่สุด ก็ตรงบานตู้กระจกนี่แหล่ะค่ะ ไมเคยทำมาก่อน งานไม้อื่นๆที่เคยหัดทำจะเน้นการใช้สอยมากกว่า เอ๋จะใช้พวกตัวฉาก ต่างๆเชื่อต่อเพื่อให้แข็งแรง  แต่กรอบบานกระจกต้องประกอบกรอบบานแบบเข้ามุมแถม ต้องเซาะร่องไม้ เพื่อใส่กระจกอีก กลัวที่สุดคือกรอบไม่แข็งแรง ปิดเปิดบานตู้แล้วกระจกหลุดร่วงมาแตกจะทำไงดี ก่อนอื่นก็ไปหาซื้อไม้ (ตู้ยา เป็นผลพลอยได้จากไม้ที่เหลือค่ะจากตู้แขวนโชวอันนี้แหล่ะค่ะ) ลองออกแบบโดยใช้ Google sketch up เพื่อคำนวนขนาดไม้ที่จะต้องใช้ และก็เป็นการศึกษาการประกอบตู้ การต่อไม้ไปด้วยในตัว เพราะได้จินตนาการและจำลองว่าจะตัดไม้ยังไง ต่อกันแบบไหน แบบแรก  กะจะใช้บานพับกระจกติดซะเลย น่าจะง่ายดี (เหมือนพวกตู้น็อคดาว) แบบที่2   ออกมาคล้ายที่ทำเสร็จมาได้มากที่สุด ตอนทำจริงต้องปรับเอาเองตามความเหมาะสมอีกทีค่ะ เพราะงานนี้ไม่ได้กำหนดขนาดไม้แน่นอนแล้วตัดให้ได้ตามแบบ  แต่ใช้ไม้สน ที่ซื้อมา มี3 ขนาด กว้างหนาไม่เท่ากัน ตัดแนวขวางเอาเท่านั้น (วัดความยาว แล้วตัด) ไม้สนค่อนข้างอ่อนกว่าไม้ยางเยอะเลยค่ะ แค่โดนหัวค้อนก็เป็นรอยละ แต่ก็ตัดง่าย ที่สำคัญคือ ยาวสีและลายหลังจากขัดแล้วจะเนียน และลายสวยค่ะ เริ่มจากทำตัวตู้ก่อน ใช้ไม้ขนาดกว้างและหนา อันดับ 2ที่มี มาทำโครงตู้ ตัดความยาวตามที่กำหนดไว้ เอามาประกอบโดยใช้กาวลาเทก และอุปกรณ์ช่วยล็อคยึดให้ได้ฉาก ตามรูป (มันเรียกว่าอะไรไม่รู้ แต่ชอบมากค่ะ ใช้ทุกงาน) พอกาวแห้งก็ใช้ปืนยิงตะปูไฟฟ้า ขนาดยาว 3ซม ยึดซ้ำอีกครั้งเพื่อความแข็งแรง เนื่องจากฝาแผ่นหลังตู้ ใช้ไม้อัดสน หนา 10 มิล (ไม้เก่า ขายขนาด 1*1 เมตร) แต่ตู้ต้องแขวน และของที่จะวาง แม่บอกว่าเป็นแก้วใบเล็กๆ ดังนั้นเลยใช้ไม้โครงช่วยยึด บน-ล่าง เพื่อเพิ่มความแข็งแรง และใช้พวกเหล็กฉากช่วยยึด ตามมุมอีกแรงกันเหนียว จะหวังพึ่งแค่กาวกับตะปูเล็กๆไม่ได้ (จริงๆอาจจะได้นะคะ แต่กันไว้ก่อน ไม่เคยทำ เดาไม่ออกว่าจะรับน้ำหนักได้แค่ไหน) ต่อไป ก็ติดคิวไม้เพื่อความสวยงาม อันนี้ตัด 45 องศา ต่อกัน 2 มุม ด้าน บน ใช้กาวแล้วยิงตะปูย้ำ ** ติดเสร็จแล้ว ** ตอนนี้คือขั้นตอนที่ยากสุดสำหรับเอ๋ค่ะ โดยทั่วไป เค้าจะประกอบแบบกรอบรูป โดยตัดไม้เฉียง 45 องศา (ดูจากในเวบช่างไม้ ไม่ก็ใน Youtube) แต่ ทักษะเรายังไม่แน่นพอนี่สิ เลื่อยมือก็มีเบี้ยวบ้าง ครั้นจะใช้โต๊ะเลื่อยวงเดือน ก็มีปัญหาตรงโต๊ะที่ใช้ ใบเลื่อยมันไม่ได้ฉาก เพราะติดตั้งเลื่อยเอง เลยเบี้ยวๆหน่อย ตัดแล้วองศาก็เพี้ยนอีก และไม่ค่อยมั่นใจเรื่องความแข็งแรง สรุปเลยทำแบบที่เห็นในรูปแทนค่ะ งานนี้ อาศัยการรื้อฟื้นวิชาแกะสลักสบู่ ตอนเรียนชั้นประถม เนื่องจากยังใช้เครื่องเซาะร่องได้ไม่ชำนาญ เครื่องมันไปไวมาก คุมไม่ได้กลัวจะเซาะเกินที่ต้องการ เสียหายใหญ่ เลยใช้ทั้งสิ่วและไม้แกะสลักช่วยๆกัน ไม่สวยไม่เป็นไร เพราะประกบกันก็ไม่เห็นแล้วนิ  ใช้ไม้คิ้วเล็กๆ มาตัดเอามาใส่แทนเดือย ตามรูปวาดประกอบค่ะ ออกมาเป็นแบบนี้ **อันนี้ลองวางๆดูก่อน  เพราะต้องเซาะร่องใส่บานพับตู้ด้วยค่ะ เพื่อที่เวลาปิดจะได้แนบสนิท จะติดบานพับแบบทับขอบ ( บานตู้ในขอบ สำหรับเอ๋ มันทำยาก เพราะต้องพอดีกรอบ ไม่หลวม ไม่ฝิตเกินไป ถึงจะสวยและใช้งานสะดวก) *เซาะไม้ มันไม่ง่าย เหือนสบู่เลยนิ ...ไม่เป็นไร ติดบานพับก็ไม่เห็นละ 55 **ในรูป ประกอบกรอบบานตู้แล้วขัดแล้วนะคะ สวยไม่สวย ตอนโป๊ะอุด ขัด ช่วยได้เยอะค่ะ ติดชั้นวาง ตามต้องการ อันนี้ เว้นห่าง 10 ซม ใช้ไว้สน ขนาดเล็กสุด หนา 11 มิล กว้าง 9 ซมเอง แล้วก็ใส่กระจก (ไปซื้อให้เค้าตัดตามขนาดตามร้านกรอบรูป) ใช้คิ้วไม้ขนาดเล็ก ตัดประกบมุม 45 องศา ปิดทับขอบกระจก วางเอียง แล้วก็ยิงตะปูเอียงให้ยึดติดกับกรอบไม้ (ถ้า ยิงตะปูตรงๆก็โดนกระจกนะคะ) * ที่เห็นแถบเหล็ก อันนี้ติดเพื่อไว้ยึดกับตัวแม่เหล็ก เพื่อไม่ให้บานตู้เปิดออเองง่ายๆ *ติดตัวแม่เหล็กตรงกลาง เสร็จแล้วค่ะ นอกนั้นจะเป็นการเก็บรายละเอียดเช่นอุดรูด้วยดินสอพองผสมสีฝุ่นผสมกาว การขัด และลงยูรีเทนใสด้าน **ด้านหลังติดตัวแขวน แบบเดียวกับตู้ยาเลยค่ะ แต่ประกบ 2 ชั้น เพื่อความแข็งแรง ..........................................จบ.......................................   Create Date : 14 มิถุนายน 2557     Last Update : 21 มิถุนายน 2557 6:17:29 น. Counter : 13963 Pageviews.   8 comment Share Tweet

• katie-thanika
• น้องปลาดาว
• กันต์นัทธ์
• interior-in-idea
• ko_mom earth
• dokjantana
• Webmaster - BlogGang