♥CrEAtE mY Own mIrAcLE....ArOUnD thE wOrLd ♥
Group Blog
 
All blogs
 
การตั้งครรภ์ในแดนแกะ - ตรวจUltra Sound และตรวจเลือดที่Labtestครั้งแรก



คราวที่แล้วเราเล่าเรื่องที่ไปเจอคุณหมอGPไปแล้ว สิ่งที่ต้องทำหลังจากการพบคุณหมอก็คือจองคิวตรวจอัลตร้าซาวด์ และตรวจเลือด ก่อนจากคุณหมอ แฟนสอบถามว่าไปตรวจตรงไหนได้บ้าง คุณหมอก็เลยแนะนำให้ไปตรวจที่ Auckland Radiology Group ที่อยู่ในเมือง เดินจากคลินิคคุณหมอไปไม่ถึง 3 นาทีก็ถึงแล้ว ก่อนขับรถกลับบ้าน เราก็เลยแวะไปเพื่อนัดตรวจสักหน่อย โชคดีที่วันรุ่งขึ้นตอนเช้ามีคนยกเลิกนัดพอดี เราก็เลยไม่ต้องรอนานเพื่อลุ้นมากนัก


ขอคั่นด้วยระบบแพทย์ของที่นิวซีแลนด์นิดนึงค่ะ อย่างที่พูดไว้ในการหาหมอในแดนแกะแล้วว่าที่นี่จะต้องลงชื่อที่คลินิกหรือศูนย์แพทย์ที่ไม่ไกลจากบ้าน ถ้ามีปัญหาอะไรก็นัดเวลาช่วงจันทร์ถึงศุกร์เพื่อหาหมอ แล้วถ้าคุณหมอตรวจแล้วคิดว่าต้องส่งต่อก็จะส่งเรื่องไปให้ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ รวมถึงพวกการตรวจเลือด ตรวจอัลตร้าซาวด์ด้วยค่ะ เนื่องจากที่นี่คนไม่ได้เยอะเหมือนที่ไทย รวมถึงระบบการจัดการที่เป็นรัฐสวัสดิการจึงทำให้ในเมืองใหญ่ๆ เช่นอ็อคแลนด์ก็มีโรงพยาบาลใหญ่ๆอยู่ไม่กี่แห่งค่ะ ถ้าต้องการการตรวจเฉพาะทางเราก็ต้องไปที่ศูนย์เฉพาะทางอีกทีค่ะ จะหน้าตาคล้ายๆ คลินิกที่บ้านเราค่ะ


ปกติการนัดหมายตรวจอัลตร้าซาวด์ คุณหมอจะมีใบส่งตัวให้ค่ะ จะเดินไปขออัลตร้าซาวด์เองไม่ได้ ซึ่งปกติจะมีแค่ชื่อกับวันเดือนปีเกิด เราจะต้องกรอกข้อมูลที่เหลือในใบส่งตัวให้เรียบร้อยค่ะ อาจจะเป็นที่อยู่ อีเมล เบอร์ติดต่อ พอยื่นใบส่งตัวให้เจ้าหน้าที่แล้วตามปกติแล้วเจ้าหน้าที่จะต้องให้เราบอกชื่อนามสกุล(และอาจจะมีถามวันเดือนปีเกิด แต่ไม่ทุกที่)อีกครั้ง เพื่อเป็นการเช็คว่าเราเป็นคนๆที่อยู่ในใบแจ้งชื่อจริงๆ หรือคุณหมอไม่ได้ยื่นใบผิดให้อะไรประมาณนั้น ข้อมูลเพิ่มเติมที่เขาจะขอคือวันครบกำหนดคลอด(Due Date) เพื่อจะใช้พิจารณาในการนัดค่ะ


คำถามที่มักจะเจอก็คือ

- May I know your surname? 

- What is your date of birth? / When is your birthday?

- When is your due date? หรือ Do you know your due date? 


พอขับรถกลับถึงบ้านสักพัก คุณหมอก็โทรศัพท์เข้าที่เบอร์บ้านบอกว่าเบอร์มือถือที่เราให้ไว้ติดต่อไม่ได้ คุณหมอลืมเอาใบส่งตัวสำหรับตรวจเลือดมาให้ ถ้าเราสะดวกให้เราแวะกลับมาเอาแล้วก็ไปตรวจเลือดทิ้งเอาไว้ก่อนที่จะไปเจอ Midwife เราก็เลยขับรถไปรับใบส่งตัวแล้วก็เลยไปตรวจเลือดด้วยเลย 


เราไปตรวจที่ Labtest เพราะว่าใกล้บ้านค่ะ มีสาขาอยู่เยอะมากทั่วAuckland เราไม่แน่ใจว่าเมืองอื่นๆจะมีเหมือนกันรึเปล่านะคะ ที่Labtest ก็จะมีการตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ ถ้าเราไม่เข้าใจหรือทำไม่เป็นก็ถามได้ค่ะ พนักงานใจดีมากๆ เวลาที่เข้าไปถึงที่ตรวจแล้ว ให้เดินเข้าไปที่counter แล้วหยิบบัตรคิวที่มีหมายเลข จะเบอร์ไหนก็ได้ค่ะ จากนั้นเราเอาบัตรคิวหงายด้านที่มีบาร์โค้ดขึ้นแล้วก็ยิงเข้าเครื่องแสกน (หน้าตามันคล้ายๆกับที่พนักงานเก็บเงินในซุปเปอร์มาร์เก็ตใช้ยิงสินค้านั้นแหล่ะค่ะ) พอยิงเสร็จจะมีเสียงติ๊ด ดูที่หน้าจอจะมีเบอร์ที่เราเลือกขึ้นแล้ว เท่านี้เราก็ไปนั่งรอเรียกเบอร์ค่ะ ซึ่งจะเป็นพนักงานใส่ชุดกาวน์ผลัดกันออกมาเรียก ซึ่งเขาจะถามว่าวันนี้มาทำอะไร เราก็แค่ยื่นใบให้เขาดูค่ะ อีกอย่างธรรมเนียมที่นี่ก็จะทักทายกันว่า How are you? เราอย่าลืมตอบกลับนะคะจะได้ไม่เสียมารยาท (บางทีเราเครียดๆก็ลืมตอบกลับค่ะ >_< ) แล้วเขาก็จะพาเราเข้าห้องเล็กๆที่ว่างอยู่ค่ะ


มาถึงก็จะยิงคำถามเพื่อตรวจดูว่าเราคือคนตามใบส่งตัวไหม คำถามที่มักจะเจอก็คือ

- May I know your surname? หรือ Can you spell your name for me? เพราะว่าเขาออกเสียงชื่อเราไม่ได้ 555

- What is your first name?

- What is your date of birth? / When is your birthday?(เจอน้อยกว่าอันแรกค่ะ)


ในห้องก็จะมีเก้าอี้นั่งอยู่ นั่งได้เลยค่ะ เราแนะนำว่าไม่ต้องเอาของไปเยอะเพราะไม่ค่อยมีที่วางของ แล้วก็ปกติเราจะถอดเสื้อตัวนอกออกตั้งแต่ก่อนเข้าห้องเพื่อที่พนักงานจะได้ไม่ต้องรอเราถอดออกให้เสียเวลาเขาค่ะ พอดูใบส่งตัวเราแล้วก็จะอธิบายว่าวันนี้จะทำอะไรบ้าง ถามว่ากลัวรึเปล่า ถ้ากลัวก็บอกเขาได้นะคะ ปกติแล้วพนักงานจะชวนเราคุยเพื่อให้เราไม่เครียดค่ะ ของเราก็ถามว่าแฟนมารอหรอ เราก็บอกว่าใช่ เขาก็ถามว่าต้องให้แฟนเข้ามาด้วยไหม เราก็ว่าไม่เป็นไร เขาก็ถามว่านี่ถามได้ไหม มาตรวจเพราะตั้งครรภ์รึเปล่า เราก็ว่าใช่ แล้วก็คุยกันสักพัก ระหว่างคุยก็จะตรวจความดันเลือดด้วย  แล้วก็จะถามว่าอยากให้เจาะข้างไหน ถนัดมือไหน ปกติเราเลือกด้านซ้าย เพราะว่าเราถนัดขวาค่ะ แต่ที่นี่เรายื่นแขนให้เขาเลือก ด้านขวาเห็นเส้นเลือดชัดแล้วก็มีรอยเข็มจากการบริจาคเลือดหลายรู เขาก็เลยบอกว่าเจาะด้านขวาแล้วกันนะ ถ้าต้องเอาหลายหลอดเขาก็จะคาเข็มไว้แต่เปลี่ยนหลอดเหมือนที่ไทยค่ะ ที่นี่เจาะไม่เจ็บจริงๆ น่าจะเป็นเพราะว่าพนักงานที่นี่เจาะกันวันๆนึงหลายคนค่ะ พอเจาะเสร็จเขาจะไปปริ๊นท์ป้ายชื่อนามสกุลและวันเดือนปีเกิดเราแปะทุกหลอด ให้เราอ่านเช็คอีกทีค่ะ เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ ออกมาแล้วพนักงานก็ให้เรากลับบ้านได้เลยค่ะ ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพราะตัวเราอยู่ในข้อยกเว้นค่ะ


วันรุ่งขึ้น 15 มีนาคม เราก็ตื่นแต่เช้ามาตรวจอัลตร้าซาวด์ตื่นเต้นมากๆ เพราะว่าจะได้รู้แล้วว่าท้องจริงรึเปล่า มาถึงก็ยื่นใบส่งตัวให้พนักงานค่ะ บางครั้งพนักงานก็อาจจะให้ชำระเงินเลย เพราะว่าตอนเราตรวจเสร็จเขาอาจจะยุ่งค่ะ ปกติที่นิวซีแลนด์จะมีพนักงานไม่เยอะในแต่ละคลินิก พนักงานจะเป็นทั้งคนต้อนรับ รับโทรศัพท์เพื่อจองคิว รวมถึง เก็บเงินด้วยค่ะ  เมื่อวานตอนที่มาจองคิวเอาไว้เจ้าหน้าที่แจ้งไว้แล้วว่าต้องการกระเพาะปัสสาวะมีปัสสาวะเต็ม คือให้ปัสสาวะก่อนล่วงหน้าไปสักชั่วโมงนิดๆ แล้วดื่มน้ำ 750 ml. หนึ่งชั่วโมงก่อนตรวจค่ะ (แล้วก็ห้ามเข้าห้องน้ำแล้วนะคะ) อั้นไว้จนมาตรวจค่ะ

เรานั่งรออยู่ที่ตรงแผนกต้อนรับสักพัก เพราะเรามาก่อนเวลาประมาณ 15 นาที เจ้าหน้าที่ก็ออกมาเรียกชื่อ พอเข้าห้องตรวจ เจ้าหน้าที่ก็จะสอบถามชื่อเราอีกครั้งนึง จากนั้นก็ให้เรานอนลงบนเตียง ส่วนแฟนเราก็มีเก้าอี้จัดไว้ให้นั่งข้างๆค่ะ เจ้าหน้าที่เอาผ้าขนหนูผืนเล็กให้เหน็บตรงขอบกางเกงด้านหน้าเพื่อกันกางเกงหรือกระโปรงของเราเลอะ ก่อนที่จะบีบเจลลองบนหน้าท้อง เจ้าหน้าที่ก็จะชวนคุยนิดหน่อย เนื่องจากแฟนทำท่าจะถ่ายภาพ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่านั่งเถอะ เดี๋ยวsaveให้ในThumb drive เลยไม่ต้องห่วง แล้วก็บอกให้แฟนดูจอใหญ่เหนือศีรษะ จะได้เห็นชัดๆ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็คอยถามว่าเจ็บรึเปล่า ถ้ารู้สึกไม่ดีให้รีบบอกนะ ตอนที่เห็นถุงตั้งครรภ์ (Gestational sac: GS) เขาก็บอกว่าเล็กๆที่กระพริบๆอยู่คือหัวใจ แล้วก็เปิดลำโพงให้ฟัง แฟนเราก็ถามอีกทีว่าท้องแน่แล้วนะ เจ้าหน้าที่บอกว่าใช่เลย ยินดีด้วยนะ จากนั้นก็จะวัดขนาดของตัวอ่อน แล้วก็มีrecord เป็นclip สั้นๆให้เราด้วย พอตรวจทุกอย่างเรียบร้อย เขาก็ให้thumb drive กับ รูปที่เด็กมา 3 รูป แล้วเราก็ออกมาจ่ายค่าตรวจ 40$ พร้อมกลับบ้านได้ 




ไฟล์ที่มีอยู่ในthumb drive ซึ่งเราเปิดมานั่งดูว่ามีข้อมูลอะไรอีกบ้าง

ไฟล์ข้อมูลที่มีในthumb drive จากการUltrasound


ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวันที่ตื่นเต้นที่สุดในชีวิตเลยตอนที่ได้เห็นหัวใจเล็กๆกับเสียงหัวใจเต้นรัว :) 


สิ่งที่เราได้จากการตรวจครั้งนี้ คือ

1. รู้ว่าเราท้องโดยที่ยังมีตัวอ่อน มีการเจริญเติบโตของตัวอ่อนเพราะมีหัวใจเต้น ไม่ใช่ท้องลม ท้องหลอก (blighted ovum)แบบที่เห็นเป็นถุง แต่ข้างในไม่มีอะไร

2. รู้ว่าอายุครรภ์ของเราคือเท่าไร กำหนดคลอดเมื่อไร จากการวัดขนาดของตัวอ่อน

3. มีตัวอ่อนกี่ตัว จะมีแฝดรึเปล่า 

4. ดูว่ามีอะไรผิดปกติรึเปล่า


ตัวย่อที่พบบ่อยในการตรวจอัลตร้าซาวด์:
CRL มาจาก Crown-rump length คือ ความยาวตัวอ่อนจากหัวถึงก้น
GA มาจาก Gestational age from คือ อายุครรภ์(กี่สัปดาห์กี่วัน)
LMP มาจาก Last menstrual period คือ วันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้าย
AUA มาจาก Actual ultrasound age คือ อายุครรภ์ที่คำนวณได้จากการตรวจอัลตร้าซาวด์
EDD มาจาก Estimated date of delivery คือ วันครบกำหนดคลอดที่อายุครรภ์ 40 สัปดาห์
Fetuses Count คือ จำนวนทารกในครรภ์





Create Date : 01 กรกฎาคม 2561
Last Update : 3 กรกฎาคม 2561 10:28:10 น. 0 comments
Counter : 1097 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

avadar
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Welcome all of you to my Bloggang! It has been a long time since I didnt update my Blog. Time flies... now the wind blows me to this SHEEP country.
Friends' blogs
[Add avadar's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.