ไปชม "สมิงพระรามอาสา" Part IV - สมิงพระรามแต่งงาน
ความเดิมตอนที่แล้ว
ภายหลังจากเสร็จศึกพระเจ้ากรุงจีนแล้ว พระเจ้าฝรั่งมังฆ้องก็ต้องปูนบำเหน็จแก่สมิงพระรามตามที่ประกาศไว้
มาถึงฉากนี้แล้ว สมิงพระรามคนที่ 3 ก็เปลี่ยนมาเป็นพระเอกคนดังของกรมศิลป์ ปัจจุบันขึ้นดำรงตำแหน่งเป็น "ผู้อำนายการ" แล้ว ก็เลยแสดงในรอบ Premium นี้เพียงรอบเดียว รอบต่อๆ มาก็จะเป็นผู้แสดงที่ปั้นขึ้นมาใหม่ และตอนนี้ก้าวเข้าสู่ธรรมเนียบ "ดาราเด่น" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โปรดสังเกตว่า บนเวทีละครนาฎศิลป์นี้ มักจะกำหนดให้ตัวเอก "แต่งแดง" พระอภัยมณี อิเหนา พระลอ ในชุดทรงเครื่องมักจะเป็นสีแดง สำหรับคุณปกรณ์ในชุดแดงแบบนี้ เรากลับไม่รู้สึกติดตา ...เพราะจำภาพครูน้อย ศุภชัย มังตราชุดแดงได้ซะมากกว่า แต่ก็นั่นแหละ พอทรงชุดแดง นั่งตั่งกลางเวทีแบบนี้ ...เตะตาชะมัดเลย
ตามที่พระเจ้ามณเฑียรทอง (ยังจำได้นะว่า ตัวนี้ใช้ชื่อ พระเจ้าฝรั่งมังฆ้อง ด้วย) ได้ป่าวประกาศไป ใครอาสารบ แล้วรบชนะ จะตั้งเป็นที่อุปราช เป็นราชบุตรเขต ให้ครองกึ่งพระนคร ตอนรับอาสารบ สมิงพระรามคิดแต่ว่า ช่วยพม่ารบ ศึกจะได้ไม่เข้าถึงเมืองมอญของตัวเอง แต่พอเห็นหน้าพระธิดา ....ปฏิกิริยารักแรกพบก็บังเกิด
เมื่อนั้น............................................ฝ่ายสมิงพระรามงามศักดิ์ศรี คิดอาลัยอยู่ในพระบุตรี..................................แต่แสร้งทูลภูมีบ่ายเบี่ยงไป ขอเดชะพระองค์อาญาไม่พ้นเกล้า ...................อันข้าเจ้าต่ำศักดิ์ไม่มักใหญ่ มิกล้าเป็นเช่นเขยพระภูวนัย ...........................ให้เจียมใจเจียมตัวกลัวบารมี แต่สุดขัดทัดทานโองการตรัส .........................ด้วยเห็นชัดว่าพระโปรดเกล้าเกศี จึงน้อมรับพระบรรหารโองการนี้ ......................ขอแต่พระภูมีได้เมตตา โปรดประทานสัญญาแก่ข้าบาท.......................มิให้ใครบังอาจเรียกตัวข้า ว่าเชลยเย้ยหยันหวั่นวิญญา ...........................ได้โปรดห้ามชาวพาราทุกคนไป แม้นใครขืนเรียกข้าว่าเชลย ...........................เปรียบเปรยเยาะหยันข้าวันไหน ขอกราบบังคมลาคราไคล .............................กลับเวียงชัยหงสาธานี
นอกจากนั้นก็ยังต่อรองอีกว่า ถ้าพระเจ้าราชาธิราชยกกองทัพมารับกับเมืองอังวะ สมิงพระรามจะวางตัวเป็นกลาง ไม่รบให้กับฝ่ายใดทั้งสิ้น ทุกข้อคำขอ พระเจ้ามณเฑียรทอง ก็รับปากทั้งหมด
การเพียงนี้เรายินดีให้สัญญา ตามวาจาเจ้าประสงค์จำนงหมาย แม้นใครเอ่ยคำเชลยโทษถึงตาย จะป่าวร้องหญิงชายทั่วบุรี
พอตกปากรับคำกันแล้ว ก็กระทำพิธีจุดเทียนแว่นฟ้าทำพิธีแต่งงานให้กับสมิงพระรามและพระบุตรี
คู่ขวัญ ที่จับคู่กันมาหลายเรื่อง
ทรงประทานสุพรรณบัฎต่อหัตถา ทั้งเครื่องยศเครื่องทรงอลงการ์ ให้มหาอุปราชและบุตรี
แล้วจึงเป็นการแสดงเฉลิมฉลองงานแต่งงาน ในการแสดงชุด "ฟ้อนม่านมงคล"
การแสดงชุดนี้ ครูมนตรี ตราโมท เป็นผู้ประพันธ์บทร้อง และทำนองเพลง โดยมีครูลมุล ยมะคุปต์ และครูมัลลี คงประภัศร์ ประดิษฐ์ท่ารำ เพื่อใช้ประกอบในการแสดงตอนนี้ และเป็นชุดการแสดงที่มักตัดตอนมาจัดแสดงบ่อยๆ พอครูเสรีทำละครพันทางเรื่องผู้ชนะสิบทิศ
ก็เขียนบทร้องขึ้นใหม่ และใช้แสดงตอนแต่งงานจะเด็ดกับตะละแม่จันทราด้วย
โปรดติดตามตอนต่อไป
| Create Date : 21 พฤศจิกายน 2555 |
| Last Update : 21 พฤศจิกายน 2555 23:18:50 น. |
|
1 comments
|
| Counter : 9879 Pageviews. |
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [
