ผจญไต้ฝุ่น @ Hong Kong : Part IX
ความเดิมตอนที่แล้ว
ใช้เวลานั่งรถชมวิวประมาณ 45 นาที (ไม่ถึง 1 ชั่วโมงตามที่คู่มือบอก) พวกเราก็มาถึงจุดหมาย คือ วัดโป่วหลิน ที่จุดนี้มีพระใหญ่เทียนถาน มีเสาไม้สัจธรรม และมีหมู่บ้านนองปิง ซึ่งเป็นหมู่บ้านโบราณจำลองให้เดินเที่ยวชม แต่ .....ที่เราได้เห็นก่อนอย่างอื่นคือ
หมอกหนาทึบ ที่ทำให้เรารู้สึกเย็นยะเยือก ....รู้ตัวเลยว่า แต่ตัวผิดฤดูกาลซะแล้ว มองขึ้นไปด้านบน เห็นองค์พระใหญ่ในสายหมอก ส่วนเบื้องล่างระดับสายตา ก็หมอก
มีสายลมหนาวพัดผ่านตัว...ดีว่าไม่มีสายฝนลงมาผสมด้วย เราพากันเดินผ่านแถวหินสลักเทพพิทักษ์ 12 ราศี เข้าไปยังด้านใน ตั้งใจขึ้นไปสักการะองค์พระก่อน ที่จุดผ่านทาง มีที่ขายบัตรด้วย ผู้ที่ซื้อบัตร 30 HKD (ถ้าจำไม่ผิด) จะสามารถเข้าไปด้านในเพื่อกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และไปแลกรับอาหารเจ (หรือมังสวิรัติ) ที่จุดจำหน่ายอาหารในวัดได้ด้วย พวกเราปรึกษาหารือกัน แล้วสรุปว่า ...ไม่ซื้อ... จากนั้นก็พากันค่อยๆ นับก้าว ขึ้นบันไดไปทีละขั้น ทีละขั้น ประมาณเดียวกับเวลาขึ้นดอยสุเทพนั่นแหละ เพียงแต่ต้องระมัดระวังตัวให้ดี เพราะลมแรง และพื้นลื่น เพราะมีตะไคร้จับ
ที่ชานพักแต่ละช่วง จะมีกระถางธูป หรือสิ่งตั้งเครื่องบูชาที่เป็นสัมฤทธิ์ ตั้งไว้ด้วย ...สวยดีนะ ใช้การหยุดถ่ายรูป เป็นการพักขาไปในตัว
เดินขึ้นไปท่ามกลางหมอกและความเย็น หยุดหอบเป็นพักๆ แล้วก็ขึ้นมาถึงองค์พระใหญ่ซะที
แม้ว่าจะมองไม่เห็นพระพักตร์ แต่ที่ได้ชัดคือความใหญ่โตขององค์พระสัมฤทธิ์ ศรัทธาแท้ๆ ที่ทำให้เกิดศิลปะมหัศจรรย์บนยอดเขาสูงเช่นนี้ เข้าไปในอาคารใต้ฐาน ...สำหรับคนที่ไม่ได้ซื้อบัตร ก็เดินวนดูนิทรรศการได้เท่านั้น เข้าไปกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุที่ชั้นในสุดไม่ได้ ....ก็ไม่เป็นไป เราเดินวนชมภาพจิตรกรรมที่เขียนเป็นพุทธประวัติ 4 ตอนคือ ประสูติ ตรัสรู้ แสดงธรรมเทศนา และปรินิพพาน เป็นเรื่องที่รู้ แต่เป็นศิลปะแบบจีน ....อยากถ่ายรูปกลับมา แต่เกรงใจป้ายห้ามถ่ายรูปที่ติดอยู่ ก็เลยได้แต่เดินพิจารณาด้วยใจสงบ ...เห็นนักท่องเที่ยวชาวจีน กดชัตเตอร์ถ่ายรูป โดยไม่มีเจ้าหน้ามาเตือน ร่ำๆ จะยกกล้องขึ้นมาบ้าง ...แต่คิดซะว่า เราเข้าใจความหมายในป้ายห้าม ก็อย่าทำเลย
ออกมาเดินต้านลม ชมความงามด้านนอกกันบ้าง มีเทพธิดาถวายเครื่องสักการะ 6 องค์ ตั้งอยู่ด้านหน้าองค์พระ ซ้าย 3 ขวา 3 มีหมอกตกลงปกคลุมเยอะมาก ลมก็กรรโชกแรง พยายามยืนให้มั่น จับกล้องให้นิ่ง เก็บภาพมาให้ครบ
สองสาวที่ขึ้นไปเดินรอบองค์พระ อีกชั้นนึง ลงมาบอกว่า ลมด้านบนแรงมาก พัดจนเกือบจะปลิวตามลม ถึงจะมีหมอก แต่นักท่องเที่ยวก็ไม่ละความพยายามในการเก็บความประทับใจส่วนตัวกัน แล้วเราก็สะดุดตากับนักท่องเที่ยวสาวชาวจีนคนนึง .....การแต่งกายของเธอ ....แบบนี้เข้าวัดเมืองไทยไม่ได้นะ
แสดงว่า ธรรมเนียมการเข้าวัดพุทธ แต่ละแห่งต่างกัน แต่อย่าคิดว่า แต่งแบบนี้เข้าวัดจีน แล้วจะเข้าวัดไทยได้เชียวนะ กติกามารยาทของสถานที่ กำหนดไว้ ...ก็แต่งตัวให้เหมาะ ให้งามตามที่สถานที่กำหนดเถอะ
เดินลงมาด้านล่าง มุ่งหน้าไปไหว้พระในวัดโป่วหลินกันซะหน่อย .... แต่ดูเหมือนว่าโชคจะไม่เข้าข้างนักท่องเที่ยวน้อยๆ 3 คนนี้เลย วัดปิดปรับปรุงอาคาร ...ห้ามเข้า
ก็เลยแต่ไหว้พระภายนอก พนมมือกราบสักการะและอธิษฐานของพรในใจละกัน ตรงไหนเดินชมได้ ...ก็เดินเล่นกันไปพลางๆ
เดินกันจนมาถึงโรงอาหาร มีทั้งภัตตาคารและร้านขายอาหารเล็กๆ เอาไว้บริการ ณ เวลานี้ก็เลยเที่ยงไปแล้ว พวกเรายืนมองจานอาหารที่นักท่องเที่ยวคนอื่นๆ สั่ง จานใหญ่เกินไปสำหรับท้องเล็กๆ อย่างเรา ก็เลยใช้วิธี สั่งผัดหมี่มาแบ่งกันกิน แล้วเราก็ซื้อขนมผักกาดกับขนมไส้ถั่วแดงด้วย
รองท้องกันเรียบร้อยแล้ว ก็เดินย้อนกลับกันซะที ...มีอะไรสวยๆ งามๆ ก็ถ่ายรูปเก็บกลับมา อย่างอาคารแบบเก่าๆ ที่เราก็ไม่รู้ว่า เป็นสถานที่ใช้ทำอะไรหรอกนะ แต่เรามักมีปฏิกิริยากับอาคารเก่าเป็นพิเศษ ชอบถ่ายรูปเก็บไว้
มีหลักฐานความแรงของลมไต้ฝุ่นคงเหลือให้เห็นอยู่ กระถางต้นไม้ใหญ่ๆ ยังล้มระเนระนาดเลย
ก่อนจะออกจากบริเวณวัด ก็หาเหยื่อช่วยถ่ายรูปหมูให้พวกเราซะหน่อย เราว่า คงมีนักท่องเที่ยวน้อยคนนัก ที่จะมีโอกาสเที่ยวในช่วงไต้ฝุ่น เที่ยวในช่วงหมอกหนา แบบพวกเรา
จากนั้นก็เดินเก็บภาพ เทพารักษ์พิทักษ์ 12 ราศี ...มาแล้วนี่นะ เอาให้ครบ หินสลัก 12 ตัวนี้ มีป้ายบอกไว้ชัดเจนไว้า ตัวไหน อยู่ราศีไหน ...แต่เราขี้เกียจทำภาพอะไร ข้ามไปละกัน ดูแต่รูปก็พอ
พอเก็บภาพได้ครบ ...ฝนก็ลงเม็ดพอดี พร้อมลมกรรโชกแรง กระชากจนร่มเราพัง อาศัยคุ้มหัว กันน้ำฝนไว้เท่านั้น ....ดังนั้น พวกเราก็เลยต้องเดินผ่าน "หมู่บ้านนองปิง"
ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่า หมอกลงขนาดนี้ ด้านในยังเปิดบริการหรือเปล่านะ
มาถึงจุดรอรถเมล์ ...แถวยาวเหยียดตามเคย แต่ก็ต้องรอเพราะไม่มีวิธีอื่นให้พวกเรากลับลงไปด้านล่างแล้ว พอขึ้นรถได้ ฝนก็กระหน่ำลงมาอีก
ที่ตั้งใจว่าว่าจะถ่ายภาพทิวทัศน์ เก็บตกที่พลาดไปเมื่อขาขึ้น ก็ต้องยกเลิก หลับตา พักสักนิดดีกว่า อากาศเย็นกำลังดี หลับเลยละกัน
โปรดติดตามตอนต่อไป
Create Date : 06 ตุลาคม 2556 |
Last Update : 6 ตุลาคม 2556 9:10:35 น. |
|
5 comments
|
Counter : 1479 Pageviews. |
|
|
|
1 like 1 vite for traval blog
สนุกตรงเดินฝ่าหมอกนี่แหละค่ะ
เคยไป..ขาเดินกลับ จากไหว้พระใหญ่
ทัศนวิสัย 1 เมตรเท่านั้น..เดินเป็นคนตาบอดเลย
กว่าจะเดาออกมาด้านหน้าได้..