มาเจาะเลือดไว้ตั้งแต่เดือนที่แล้ว ดูในใบตรวจเลือด เห็นตรวจอยู่ ๕ อย่าง ไม่รู้ว่าคืออะไรบ้าง แต่ที่แน่ ๆ คือดูว่าเซลล์ร้ายกลับมาหรือเปล่า จะตรวจดูค่าของตัวนี้ปีละครั้งหลังจากกลืนแร่ และสแกนร่างกาย พบว่าไม่มีเซลล์ร้ายเหลืออยู่ เราก็ต้องเจาะเลือดปีละครั้งเพื่อดูว่ามันกลับมาอีกหรือเปล่า ทุกครั้งที่ผ่านมาค่าทุกอย่างจะปรกติ คราวนี้หมอดูผลแล้วบอกว่า เซลล์ร้ายไม่กลับมา ตรงนี้ถือว่าปลอดภัย แต่ระดับฮอร์โมนไทรอยด์และระดับแคลเซียมมีปัญหา ค่าแคลเซียมต่ำกว่าปรกติแบบฉิวเฉียด แต่ฮอร์โมนไทรอยด์ค่าต่ำกว่าปรกติเยอะเลย หมอแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น มันไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน ก่อนที่หมอจะหาสาเหตุต้นตอ เราก็เลยสารภาพบาปกับหมอว่า อาจเป็นเพราะเรากินฮอร์โมนไทรอยด์และแคลเซียมผิดวิธี ผิดเวลา ฮอร์โมนไทรอยด์ต้องกินก่อนอาหารเช้า ส่วนแคลเซียม+วิตามินดี กินหลังอาหารกลางวันและอาหารเย็น แต่ช่วงที่ผ่านมากระเพาะอาหารมีปัญหา บางครั้งร่างกายมันจะไม่รับยาอะไรเลย ถ้ากินยาเข้าไปแล้วมักจะอาเจียน ด้วยความวิตกกังวลกลัวจะคลื่นไส้ และอาเจียน เราก็เลยเปลี่ยนเอาฮอร์โมนไทรอยด์มากินหลังอาหารเช้า (ซึ่งตอนหลังจากผ่าตัดใหม่ ๆ หมอก็ให้กินหลังอาหารเช้าเหมือนกัน เพิ่งมาเปลี่ยนเป็นก่อนอาหารเช้าไม่กี่ปีนี่เอง คิดแบบมักง่ายว่าไม่น่าจะมีปัญหา)แต่คราวนี้เรากินอาหารเช้าได้แป๊บเดียวก็กินฮอร์โมนไทรอยด์ตามไป และใช้วิธีนี้กับแคลเซียมและวิตามินดีด้วย ระยะห่างของช่วงเวลาระหว่างอาหารกับยามันใกล้กันเกินไป มันเลยทำให้ผลออกมาเป็นเช่นนี้ หมอบอกว่างั้นเริ่มต้นใหม่ หรือจะให้หมอย้ายแคลเซียมมากินกลางวัน แล้วเอาฮอร์โมนไทรอยด์กินก่อนนอน เลยบอกหมอว่ากินขอแบบเดิม แต่จะกินให้ถูกเวลา ถูกวิธี หมอให้เวลาอีกสองเดือน แล้วไปเจาะเลือดดูค่าไทรอยด์กับแคลเซียมอีกครั้ง นี่คือบทเรียนของการกินยาไม่ถูกวิธี และไม่ถูกเวลา จำไว้ ๆ ๆ ๆ