bloggang.com mainmenu search







โจทย์การบ้าน 3F เดือนตุลาคม ได้รับเกียรติจากเพื่อนบี๊ บ่งบ๊ง เชฟกระทะหลุด ซึ่งตอนนี้ชื่อเสียงขจรขจาย ชนิดกู่ไม่กลับ เอ้ย...ฉุดไม่อยู่ซะแล้ว นับเป็นความโชคดีที่ จขบ.และบี๊ได้เป็นเพื่อนกันตั้งแต่อยู่ ป.1


เพื่อนบี๊ฝากโจทย์มาว่า


ในเดือนตุลาคม มีเทศกาลดีงามสำหรับพี่น้องชาวไทย “เทศกาลกินเจ”
จึงอยากให้เพื่อน ๆ ได้พักตับ ถนอมกระเพาะและลำไส้
ดังนั้นโจทย์เดือนนี้จึงขอหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์นะคะโดยชวนกันมาปรุงเมนูเจ หรือ มังสวิรัติ
จะเป็นอาหารคาว หรือขนมหวานทุกชนิดที่ชื่นชอบ
ยกเว้นเครื่องดื่มเช่นเคยค่ะ



" อาหารเจ - มังสวิรัติ "

พอเห็นโจทย์นี้ ก็เลยถามคุณน้องโอแห่งบ้านเนินน้ำว่า เอาบล๊อกเก่ามาเล่าใหม่ได้ป่าว น้องโอตอบว่าได้ค่ะ มาสนุกๆ กัน
เลยเอาบล๊อกเก่ามาปัดฝุ่น โดยจะขอเสนอเมนูนี้ค่ะ

"ตือคาโค" หรือ "ขนมขาหมู" นั่นเอง


วิธีทำ ตือคาโค

สูตร

1 ถ. แป้งสาลี
1 ถ. แป้งข้าวจ้าว
1 ถ. หัวกะทิ
1 ถ. น้ำเปล่า
1 ช.ช. เกลือ
1/2 ถ. เผือกหั่นเป็นเส็นๆ
1/2 ถ. ถั่วดำต้มสุก
น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำ

1. นำแป้งสาลี กับ แป้งข้าวจ้าว และ เกลือ ผสมให้เข้ากัน

2. นำน้ำกะทิ ค่อยๆ เทลงบนแป้ง นวดให้เป็นเนื้อเดียวกัน หรือจะใช้ กะทิกลางๆ 2 ถ. ก็ได้ค่ะ
3. ค่อยๆ เทน้ำเปล่าผสมลงไปในแป้ง ระวังแป้งจะเม็ดนะคะ ค่อยๆ นวด
4. หลังจากนั้น เติมเผือกที่เราหั่นไว้ และ ถั่วดำ
5. พอกะทะร้อน และพิมพ์ร้อน ตักใส่พิมพ์ นำลงทอด
6. พอขอบเหลืองค่อยๆ เอาไม้จิ้มลูกชิ้น แคะออก จากพิมพ์ แล้วทอดต่อจนเหลือง ตักขี้น เสริฟ กับน้ำจิ้ม

สูตรน้ำจิ้ม

1 ถ. น้ำมะขามเปียก หรือ ถ้าเป็นแบบเข้นข้น ใช้ 1 ช.ต. ผสมน้ำเปล่า 1 ถ.

1 ถ. น้ำตาลปี๋ป
1 ช.ต. พริกแดงโขลกหยาบๆ
1 ช.ต. ถั่งลิสงคั่วแล้วโขลก
1 ช.ต. ผักชีฝรั่งหั่นฝอย

วิธีทำ 

- นำน้ำมะขามเปียกกับ น้ำตาลปี๊ป เคี่ยวจนเหนียว แล้วค่อยใส่ พริกแดงลงไป ยกลง
- เติมถั่วลิสงโขลก

เคล็ดไม่ลับ

- ในการทอด ต้องรอให้แป้งสุกเสียก่อน หรือ ขอบเริ่มล่อนจากขอบพิมพ์ ค่อยแกะออก ถ้าแกะเร็วเกินไป แป้งจะแตก ก้นขนมจะติดพิมพ์ ขนมจะไม่ได้รูปทรงคะ
- การทำน้ำจิ้ม สิ่งที่ชวนทานที่สุด คือ การใส่ผักชีฝรั่งหั่นฝอย (เราไม่ได้ใส่ค่ะ อิอิ)
  - การทำน้ำจิ้ม อย่าใส่พริกแดงลงไปเคี่ยวพร้อมน้ำตาลกับ น้ำมะขามเปียก เพราะจะทำให้พริกมีสีคล้ำ ดูไม่น่าทาน ควรใส่พริกโขลก หลังจากเคี่ยวน้ำจิ้มข้นแล้ว ยกลงจากเตา ค่อยเติมพริกแดงลงไปคนให้เข้ากัน แล้วเติม ถั่วลิสงโขลก 


ขอบคุณ คุณผ้าไหมไทย เจ้าของสูตรนี้นะคะ

//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=wistakitchen&month=05-2007&date=18&group=17&gblog=11


ตั้งแต่ได้สูตรมา จำได้ว่าก็ไปหาพิมพ์สำหรับทอดตือคาโค ทั้งตลาด ทั้งห้างก็ไม่เจอ แต่ว่า ใจมันอยากจะทำมากๆ เลย วัตถุดิบต่างๆ ก็มีหมดแล้ว ซื้อแต่เผือกเท่านั้น ก็เลยเอาทัพพี มาทำเป็นพิมพ์ค่ะ...555 ก็มันอยากทำนี่นา (ความอยากมันไม่เข้าใครออกใคร จริงๆ) 






เคยทานตือคาโค ครั้งแรกตอนที่ทำงานที่ จ.ตาก (จขบ.ความหลังเยอะค่ะ อิอิ) มีทำอร่อยอยู่เจ้าหนึ่ง เค้าขายกะบองจ่อ อยากรู้ว่า กะบองจ่อ เป็นอย่างไร ก็อ่านตามข้างล่างนี้นะจ้ะ เจ้านี้เค้าขาย ตือคาโค ด้วย แต่ที่โน่น เค้าเรียกว่า ขาหมู ตอนนั้นยังไม่รู้จัก ตือคาโค รู้จักแต่ กะบองจ่อ พอจะไปซื้อ กะบองจ่อ เพื่อนฝากซื้อ ขาหมูด้วย สิบบาท ไอ้เราก็นึกในใจ ทำไมขาหมูที่นี่ ขายถูกจัง ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง ...


"กะบองจ่อ เป็นอาหารทานเล่นชนิดหนึ่ง ชื่ออาหารมาจากภาษาพม่า คำว่า “กะบอง” หมายถึง ฟักทอง “จ่อ” หมายถึง ทอด โดยจะนำฟักทองมาชุบแป้งแล้วทอด ให้มีสีเหลืองกรอบ เคล็ดลับความกรอบอยู่ที่ส่วนผสมแป้ง เรียกว่า “แปม้ง” ที่มาจากพม่า ทำจากถั่วเหลืองอ่อน ปัจจุบันมิได้มีแต่ฟักทองเพียงอย่างเดียว แต่มีการนำผักชนิดอื่นมาทอดด้วย เช่น มะละกอดิบ น้ำเต้า ถั่วงอก รับประทานกับน้ำจิ้มที่มีส่วนผสมของน้ำมะขามเปียก น้ำอ้อยเคี่ยว เกลือ ถั่วลิสงป่น และกระเทียม มี รสชาติเปรี้ยว หวาน มีจำหน่ายทั่วไปในตลาดอำเภอเมืองตาก และอำเภอแม่สอด" ขอบคุณข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตค่ะ



หน้าตา"กะบองจ่อ" เป็นแบบนี้ค่ะ





ส่วนผสมและวิธีทำบอกไปแล้วข้างบน มาดูกันเลยดีกว่า ว่า ตือคาโค ของเรา หน้าตาเป็นเช่นไร แต่ว่า...คนทำขอหัวเราะก่อนนะ 555555555555 เดี๋ยวก็รู้ว่า สมควรให้ขำกลิ้ง หรือไม่ 5555555 (ต่ออีกหน่อย) 



ส่วนผสมทั้งหมด อยู่ในกะละมังใบนี้ กร๊ากกกกกก...ทำไม เผือกชิ้นใหญ่เยี่ยงนี้...หุหุ เอาน่ะ...ทำครั้งแรก คราวต่อไป สัญญาจ้ะ ว่าจะหั่นให้ชิ้นเล็กกว่านี้... อิอิ








พอตั้งกระทะ (ในที่นี้คือหม้อ) น้ำมันร้อนได้ที่แล้ว ก็ตักส่วนผสมทั้งหมดใส่พิมพ์ (ในที่นี้คือทัพพีจ้า) เอาลงทอด ทอดได้ทีละอัน ถ้าทำขาย สงสัยจะเจ้ง ไม่ทันการ (ใครจะซื้อกิน..ห๊ะ หวังสูงเกินไปแระ)











พอแป้งเริ่มเหลือง ก็เอาไม้จิ้มแคะออกจากพิมพ์ ทอดต่อไปอีกเล็กน้อย พอเหลืองกรอบทั่วๆ ตักขึ้น ใส่จาน นี่ไง...หน้าตา"ตือคาโค" ของเราเป็นเยี่ยงนี้







ลองหั่นดูซิ...ว่าจะเป็นเช่นไร








ทานกับน้ำจิ้ม ...อืม...ก็พอแหลกล่ายยยยยยยยย (คนเดียว) นะ...อิอิ




















เป็งยางงายมั่งฮ้า...ตือคาโค ขนมขาหมู(หรือขา จขบ.ก็ไม่รู้) พอแหลกล่ายม้ายฮ้า รึว่า...พอลูล่าย หรือว่า...แหลกก้อม่ายล่าย ลูก้อม่ายล่ายล้วย..ฮ่า 


เป็นการทำอาหาร ที่จขบ.ขำตัวเองที่ซู๊ดดดดดดดดดดดด 
5555 
ทำไปได้นะคนเรา ความอยากมันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ

หวังว่า การทำตือคาโคครั้งต่อไป คงจะไม่ออกมาแบบนี้นะ และถ้ามีโอกาสได้ทำอีก
ก็จะมารีวิวบล๊อกให้ชมกันค่ะ ...(ทนดูกันหน่อยนะคะเพื่อนๆ ที่น่ารักทุกคน)




Create Date :05 ตุลาคม 2559 Last Update :6 ตุลาคม 2559 8:33:46 น. Counter : 2244 Pageviews. Comments :10