bloggang.com mainmenu search
ออกกำลังกาย


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          การดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงเป็นเรื่องที่เราทุกคนควรทำ บางคนก็เลยเลือกจะออกกำลังกายตามฟิตเนส ถือโอกาสกระชับทั้งรูปร่าง และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อไปด้วยในตัวซะเลย แต่เอ๊ะ ! ความแข็งแรงของร่างกายจะพิสูจน์ได้จากที่ไหนล่ะ เพราะแค่รูปร่างดี บางทีก็อาจจะมีร่างกายอ่อนแอก็ได้นี่นา ดังนั้นหากสงสัยแบบนี้อยู่ล่ะก็ ทางเว็บไซต์ Reader’s digest เขาก็ออกแบบทดสอบความแข็งแรงของร่างกายมา 10 ข้อ ซึ่งถ้าคุณทำได้ตามนี้ครบเป๊ะ ก็แสดงว่าร่างกายแข็งแรงเว่อร์จริง ๆ นะจ๊ะ


เคล็ดลับสุขภาพ

1. ตื่นตัวได้นานถึง 14 ชั่วโมงต่อวัน

          ถ้าทุกวันนี้คุณรู้สึกตื่นตัวตั้งแต่ตื่นนอนตอน 7 โมงเช้า จนล่วงเลยมาถึง 3 ทุ่มของวันก็ยังรู้สึกคึกคักอยู่ แสดงว่าร่างกายของคุณแข็งแรง และมีพลังเหลือเฟือเลยทีเดียว เพราะโดยปกติแล้วการออกกำลังกายจะทำให้เรารู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า เหมือนเป็นการชาร์จไฟให้ร่างกายจนมีพลังไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้มากมาย แต่ถ้าแค่ช่วงบ่ายคุณก็รู้สึกหมดแรง ง่วงเหงาหาวนอนสุด ๆ แล้วล่ะก็ แสดงว่าร่างกายของคุณต้องการความฟิตปั๋งอย่างเร่งด่วนแล้วล่ะ


แบบทดสอบความฟิต

2. ยกถังหนัก 3.6 กิโลกรัมได้ชิล ๆ

          ข้อพิสูจน์ง่าย ๆ ว่า กล้ามเนื้อช่วงบนตั้งแต่ต้นแขน หัวไหล่ หน้าอก หน้าท้อง ไปจนถึงข้อศอกของคุณแข็งแรงดีหรือเปล่า สามารถทำได้โดยลองยกถังน้ำขนาด 3.6 กิโลกรัมด้วยมือข้างเดียว หากคุณสามารถยกถังน้ำได้โดยไม่รู้สึกเจ็บกล้ามเนื้อ แสดงว่ากล้ามเนื้อของคุณแข็งแรง และยืดหยุ่นดีเว่อร์ แต่หากรู้สึกเจ็บร้าวไปทั้งแขน จนถึงหัวเข่า แบบนี้บอกได้เลยว่าต้องจัดตารางออกกำลังกายแล้วนะจ๊ะ


กระโดด


3. กระโดดขึ้น-ลง 10 ครั้ง โดยที่หัวใจยังทำงานเป็นปกติ

          สำหรับคนที่ร่างกายแข็งแรงมาก ประมาณว่าออกกำลังกายเป็นประจำ แค่กระโดดขึ้น-ลงติดต่อกัน 10 ครั้ง ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจเต้นแรงได้เลยล่ะ แถมยังไม่รู้สึกเหนื่อยหอบอีกด้วยนะ เพราะเคยชินกับการออกแรงเป็นอย่างดี อีกทั้งตลอดระยะเวลาที่ออกกำลังกาย ร่างกายก็จะกระตุ้นการทำงานหัวใจอยู่เสมอ ทำให้มีความอึดมากขึ้น และเหนื่อยน้อยลง ดังนั้นหากคุณอยากรู้ว่าตัวเองแข็งแรงแค่ไหน ก็สามารถทดสอบความแข็งแรงของหัวใจด้วยวิธีนี้ได้เลยค่ะ


ตัดเล็บเท้า


4. โน้มตัวลงมาตัดเล็บเท้าแบบสบาย ๆ

          ท่ายากขนาดนี้หลายคนคงนึกว่า ไม่น่าจะมีใครทำได้แน่ ๆ หรือถ้าทำได้ก็คงเป็นนักกีฬายิมนาสติกแล้วล่ะ แต่ทราบไหมคะว่า หากคุณเป็นคนที่กล้ามเนื้อแข็งแรง มีความยืดหยุ่นสูง ซึ่งหมายความว่า ไม่มีความเสี่ยง หรือแนวโน้มเป็นโรคข้อต่ออักเสบ และโรคกระดูกพรุน คุณจะทำท่านี้ได้อย่างสบาย ๆ เลยทีเดียว แต่ถ้าก้มลงไปนิดเดียวก็รู้สึกเจ็บร้าวไปทั้งตัว โยคะช่วยคุณได้นะจ๊ะ


ออกกำลังกาย

5. ยกขาขึ้นเตะสูงระดับสะโพก

          อีกหนึ่งวิธีทดสอบความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อที่เห็นผลได้ชัดเจน ก็คือ ท่ายกเท้าขึ้นเตะ โดยระดับความสูงของขาจะต้องอยู่บริเวณสะโพก และการทำท่านี้จะต้องไม่รู้สึกเจ็บร้าวไม่ว่าจะบริเวณใด ๆ ซึ่งหากว่าคุณทำท่านี้ไม่ได้ ลองไปฝึกโยคะสักคอร์สสั้น ๆ ก็จะช่วยคุณได้มากเลยจ้า


ยืนเอี้ยวตัว


6. เอี้ยวตัวไปมองข้างหลัง

          บ่อยครั้งที่หลายคนเอี้ยวตัวไปทางด้านหลัง ก็รู้สึกเคล็ดไปหมด ปวดหลังไปเป็นเดือน ๆ บ่งบอกถึงสุขภาพหลัง ไหล่ และกล้ามเนื้อหลังของร่างกายว่ากำลังย่ำแย่ถึงขั้นสุด ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้ คงต้องบริหารหลังไหล่กันหน่อยแล้วเนอะ แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยมาลองทดสอบกล้ามเนื้อหลังกันอีกที ด้วยการยืนขาชิด แล้วเอี้ยวตัวไปมองทางด้านหลัง โดยมีข้อแม้ว่า เท้าทั้งสองข้างต้องไม่ขยับตามร่างกายท่อนบนนะจ๊ะ


แบบทดสอบความฟิต


7. เอื้อมเก็บกระเป๋าเดินทางเหนือศีรษะได้ง่าย ๆ

          คนที่กล้ามเนื้อหลัง ไหล่ และขาแข็งแรง จะสามารถยกกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ขึ้นไปเก็บบนชั้นวางของเหนือศีรษะได้ง่าย ๆ โดยไม่รู้สึกเจ็บปวดตรงไหนเลย แต่หากลักษณะเคลื่อนไหวร่างกายเช่นนี้ ทำให้คุณเจ็บปวดไปทั้งหลัง ไหล่ และต้นขา แบบนี้คงต้องเพิ่มท่าบริหารกล้ามเนื้อทั้ง 3 ส่วนนี้เข้าไปด้วย เพราะถ้าพูดกันตามตรง คนที่ออกกำลังกายส่วนใหญ่มักจะโฟกัสไปที่เรื่องของคาร์ดิโอ มากกว่ากล้ามเนื้อส่วนยิบย่อยเหล่านี้ในร่างกายนั่นเอง


แบบทดสอบความฟิต

8. หิ้วตะกร้าเสื้อผ้าใบใหญ่ขึ้น-ลงบันไดโดยไม่หยุดพัก

          การเดินขึ้นบันไดพร้อม ๆ กับหิ้วตะกร้าใส่เสื้อผ้าใบใหญ่ขึ้นไปด้วย จะช่วยทดสอบความแข็งแรงของหลอดเลือดและหัวใจของคุณได้เป็นอย่างดี โดยหากคุณสามารถเดินขึ้นบันได 2 ชั้นได้อย่างต่อเนื่อง ไม่เหนื่อยจนต้องแวะพักที่ชานบันได แสดงว่าการทำงานของหลอดเลือดและหัวใจ รวมไปถึงกล้ามเนื้อขา และแขนยังมีประสิทธิภาพใช้ได้เลยทีเดียว


ออกกำลังกาย

9. เต้นเพลงจังหวะเร็ว ต่อเนื่องนาน 10 นาที

          มีผลวิจัยชิ้นหนึ่งได้ทำการทดลองแล้วว่า การออกกำลังกายด้วยการเต้นเพลงจังหวะเร็วต่อเนื่องนาน 10-15 นาที จะสามารถเบิร์นแคลอรี่ และกระชับกล้ามเนื้อของคุณได้มากกว่าการวิ่งบนลู่วิ่งนาน 1 ชั่วโมงเลยทีเดียว และหากร่างกายของคุณแข็งแรงเข้าขั้นดีมาก เต้นอย่างเมามันส์แค่ 10 นาที แบบนี้ ก็จะไม่ทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยหอบด้วยนะ


ออกกำลังกาย

10. เดินต่อเนื่องนาน 30 นาที โดยไม่รู้สึกเหนื่อย

          การเดินอย่างต่อเนื่องนานอย่างน้อย 20 นาทีเป็นประจำทุกวัน จะช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกายได้มากขึ้นอีกเยอะ ทำให้คุณไม่รู้สึกเหนื่อยง่าย แถมยังเคยมีการศึกษามาแล้วด้วยว่า การเดินต่อเนื่องนานขนาดนี้สามารถช่วยลดน้ำหนัก ปรับสมดุลอารมณ์ให้คงที่ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิต และยังส่งผลดีต่อสุขภาพได้อีกเพียบเลยล่ะ !


ถ้าอยากรู้สมรรถภาพของร่างกายตัวเองคร่าว ๆ ก็ลองทำตามแบบทดสอบทั้ง 10 ข้อนี้ดูนะคะ หากผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจ ก็รักษาระดับนี้ไว้เรื่อย ๆ แต่หากผลลัพธ์ไม่ค่อยสวยนัก อย่างน้อยคุณก็ได้รู้แล้วว่า ร่างกายต้องการความฟิตด่วน ๆ แล้วล่ะ

//health.kapook.com/view85288.html
Create Date :31 มีนาคม 2557 Last Update :31 มีนาคม 2557 18:47:56 น. Counter : 1493 Pageviews. Comments :0