นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
ตำรวจตามสืบเสาะที่มา มรณบัตรปลอม "แม่โหดจ้างฆ่าสะใภ้" สอบเครียด จนท.ทะเบียน ยืนยันเอกสารมาแจ้งถูกต้อง ทำตามขั้นตอน
จากกรณีอื้อฉาวแจ้งออกใบมรณบัตรปลอมของ นางจุรี จันทร์งาม อายุ 73 ปี ผู้ต้องหาคดีจ้างวานฆ่า นางสาวริ้วแพร อายุ 26 ปี เภสัชกรสาว จ.สงขลา และเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ เมื่อปี 2550 กระทั่งล่าสุดพบว่า นางจุรี ยังไม่ได้เสียชีวิตตามที่กล่าวอ้าง และได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วนั้น
ล่าสุด พ.ต.อ.สมพงษ์ วรรณวงศ์ ผกก.กองปราบปราบ 6 และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ จ.ชุมพร สืบสวนประเด็น การออกมรณบัตรเป็นเท็จให้กับ นางจุรี โดยเข้าสอบปากคำ นายศรีประภา แจ้งเพชร ปลัดอำเภอเจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ อ.ท่าแซะ และ นางสาวอัจฉรา เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทะเบียน อ.ท่าแซะ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการออกใบมรณบัตรครั้งนี้
จากการสอบปากคำทั้ง 2 ให้การตรงกันว่า เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557 นางสาวรัศมี บุตรสาวของนางจุรี ได้มายื่นเอกสารรับรองการเสียชีวิตของมารดา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารต่างๆ ตามขั้นตอน อีกทั้งมีเอกสารรับรองการเสียชีวิตจาก นายสมโภชน์ นวลพรหม ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 ต.นากระตาม และ เจ้าหน้าที่ รพ.สต.นากระตาม ระบุว่า นางจุรี เสียชีวิตเพราะหัวใจวายเฉียบพลัน
เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารทุกอย่างแล้ว เห็นว่าเอกสารนั้นถูกต้องทุกอย่าง จึงได้ดำเนินการจำหน่ายบุคคลที่เสียชีวิคออกจากระบบของสำนักงานทะเบียนราษฎร์ ส่งเรื่องออกจากอำเภอไปยังสำนักงานใหญ่ เป็นขั้นตอนการแจ้งที่เป็นไปตามระเบียบ
ส่วนประเด็นที่ นางจุรี กับ นางสาวรัศมี มีชื่อเพิ่มเข้ามาในบ้านเลขที่ 113 ม.2 ต.นากระตาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียน ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557 ลูกชายของนายไชยวัฒน์ นวลพรหม เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวที่เสียชีวิตไปแล้ว ได้เป็นผู้ย้ายชื่อทั้ง 2 แม่ลูกเข้าไปอยู่ทะเบียบบ้านหลังนี้
แต่ย้ายเข้าเพียงไม่กี่วัน วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557 พบมีการแจ้งการเสียชีวิตของนางจุรี อาจจะดูว่าเป็นเรื่องผิดปกติ แต่ก็เป็นเหตุการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้ ต่อมาในวันที่ 29 พฤษภาคม 2557 มีหมายเรียกจากศาลจังหวัดสงขลา ให้เป็นพยานกรณีออกใบมรณบัตรเท็จให้กับ นางจุรี จึงได้ไปชี้แจงต่อศาลโดยความจริง
ต่อมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียน จึงได้รับมอบหมายจาก นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอท่าแซะ ให้ดำเนินการร้องทุกข์ กล่าวโทษ นางสาวรัศมี ตาม พรบ.การทะเบียนราษฎร์ มาตรา 50 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 และมาตรา 267 ผู้ใดแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
นอกจากนี้ พ.ต.อ.สมพงษ์ ยังได้ลงพื้นที่ไปยัง บ้านเลขที่ 113 โดยมี นายสมโภชน์ ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติงานในตำแหน่งนายทะเบียนรับแจ้งประจำหมู่บ้าน และเป็นผู้ที่มาตรวจสอบการเสียชีวิตของนางจุรี เป็นผู้นำชี้จุดในบ้านที่เกิดเหตุ
นายสมโภชน์ เปิดเผยว่า 2 แม่ลูกได้มาหาที่บ้าน เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ เพื่อขอเช่าบ้านและย้ายชื่อเข้าทะเบียนบ้านหลังดังกล่าว ตนเห็นว่าเคยรู้จักและสนิทกับ นายไชยวัฒน์ ซึ่งเป็นน้าชายที่เสียชีวิตไปแล้ว จึงตอบตกลงและยังไม่ทันได้เก็บค่าเช่าล่วงหน้าใดๆ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ ก็ได้รับแจ้งว่า นางจุรี ไม่สบายอย่างหนัก จึงขอย้ายมาอยู่อาศัยก่อน
กระทั่งช่วงเช้ามืดของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ลูกสาวของนางจุรี มาแจ้งว่า มารดาเสียชีวิตแล้ว ตนที่เพิ่งกลับมาจากงานอาสาสมัครกู้ภัย จึงเข้าตรวจสอบก็พบว่า ร่างของนางจุรีถูกคลุมด้วยผ้าห่ม สภาพมือเย็นเฉียบและผิวซีด จึงเข้าใจว่าเสียชีวิตแล้วจริงๆ
ลูกสาวของนางจุรี ยังบอกว่า แม่สั่งเสียก่อนตายว่าให้เผาศพทันที เพราะไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนแล้ว ตนจึงแนะนำให้ไปทำพิธีที่วัดมณีสพ อ.เมืองชุมพร เพราะมีการจัดพิธีให้ศพไร้ญาติ พร้อมกันนี้ ตนยังเป็นผู้เซ็นรับรองการเสียชีวิต แต่โทรศัพท์แจ้ง รพ.สต.นากระตาม หลังจากได้รับแจ้งว่า นางจุรี เสียชีวิตเเพียงกี่ชั่วโมง เพื่อออกหลักฐานการเสียชีวิตให้
จากนั้นช่วงสายๆ วันเดียวกันนั้น ตนในฐานะเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองในท้องที่ได้นำใบรับรองการตายไปที่ รพ.สต.นากระตาม เพื่อให้เจ้าหน้าที่เซ็นรับรองการเสียชีวิต ซึ่งเป็นระเบียบปกติที่ดำเนินการกันมา และเห็นว่าผู้เสียชีวิตเป็นคนสูงอายุที่ไม่สบาย เสียชีวิตแบบธรรมชาติ
ทั้งนี้ หลังจากการลงพื้นที่สอบสวน พ.ต.อ.สมพงษ์ ได้เปิดเผยว่า เชื่อว่าคดีนี้จะสามารถจะสรุปสำนวนเพื่อเอาผิดกับผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีได้ภายใน 3 วัน ส่วนจะพาดพิงไปถึงใครและมีผู้ร่วมขบวนการหรือไม่นั้น ยังไม่ขอเปิดเผยเพราะเกรงว่าจะเสียรูปคดี แต่ทุกคนมั่นใจได้ว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกคน แต่ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานและการให้การอันเป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่
//news.sanook.com/1904254/